ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Kittinunn ที่ 09-08-2007, 14:02



หัวข้อ: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 09-08-2007, 14:02
'หมอมิ้งค์'เลือดตุลา19เข้ม!ลั่นลาขาดการเมืองไทยถาวร  

อดีตคนเดือนตุลาฯผู้ใกล้ชิด อดีตนายกฯทักษิณ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ยืนยัน หันหลังให้เส้นทางสายการเมืองอย่างถาวรแล้ว

นายแพทย์ พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ผู้ใกล้ชิด อดีตนายกฯทักษิณ ยืนยันกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่า จะไม่หวนกลับสู่เส้นทางสายการเมืองอีกแม้จะมีใครมาทาบทาบทาม เช่นที่ อดีตนายกฯทักษิณ เคยขอร้องให้มาช่วยงานการเมือง เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดเป็นผลจากการที่ประชาชนได้รับจากการตัดสินใจทางการเมือง เลือก พันตำรวจโท ทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งยังมีความผูกพัน และจะส่งผลต่อการเมืองในอนาคตอันใกล้นี้

อย่างไรก็ตาม ต่อกรณีประวัติศาสตร์ ทางการเมืองเดือนตุลา ทั้งปี 2516 และ 2519  นั้น ไม่สามารถที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานตัดสินใครได้ เนื่องจาก สถานการณ์และโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มุมมองปัจจุบัน จำกัดอยู่เพียงการคัดค้าน หรือ สนับสนุนรัฐประหารเท่านั้น - สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (9 ส.ค.)

หลอกตัวเองหรือเปล่า หึหึ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 09-08-2007, 14:10
 :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 09-08-2007, 14:10
พูดวันนี้พรุ่งตั้งพรรคใหม่ปะเนี่ย ประชดมันเลย เอาขวาจัดมารวมกับคนตุลาได้ได้ไงฟะ  :slime_hitted:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ล้างโคตรทักษิณ ที่ 09-08-2007, 14:23
ก็แค่ เปรตลิ่วล้อออกไป แต่เปรตนายใหญ่หน้าแม้วยังไม่ตาย ต้องล้างโคตร


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 09-08-2007, 14:27
เอาบทความเก่าๆ มาให้อ่าน

หมอมิ้งไม่ใช่คนเดือนตุลาฯ   
     
นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คนสนิทของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย แสร้งทำเป็นออกมาเรียกร้องความสงบสุขให้สังคมพร้อมทั้งแสดงละครประกอบฉากด้วยการทำเป็นน้ำตาคลอหน่วยตาระหว่างการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม

นายพรหมินทร์ ยังแสดงตัวเป็นผู้รักความสงบอย่างสุดชีวิตด้วยการร้องขอให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำใดๆที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม แต่ไม่ยักเห็นนายพรหมินทร์ขอร้องให้สมุนของรัฐบาลยุติการใช้กำลังและความรุนแรงกระทำกับประชาชน

นายพรหมินทร์มักจะแอบอ้างความเป็นคนเดือนตุลาฯเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับตนเองเสมอมา ทั้งที่สังคมรู้ดีว่านายพรหมินทร์นั้นมีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากทาสความคิดของคุณทักษิณ

จริงๆแล้วสังคมไทย โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่มีสติปัญญาควรยุติการยกย่องนายพรหมินทร์ว่าเป็นนายแพทย์ แม้ท่านจะจบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยมหิดลมาก็ตาม แต่เมื่อไม่ได้ประกอบอาชีพแพทย์ สังคมก็ไม่จำเป็นต้องยกย่องให้เป็นคุณหมอ

จริงๆแล้วนายพรหมินทร์นั้นทำงานรับใช้หรืออาจจะเรียกตรงๆว่าเป็นข้าทาสบริวารของคุณทักษิณมานานแล้ว ซึ่งก็คือการรับใช้ทุนนิยมที่อาศัยอำนาจรัฐเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงเพื่อให้ธุรกิจเฟื่องฟูนั่นเอง แต่นายพรหมินทร์ก็ยังไม่ยอมบอกความจริงกับสังคมว่าตัวตนที่แท้จริงของตนคืออะไร แต่ยังพอใจที่จะใช้ความเป็นคนเดือนตุลาฯ มาสร้างเป็นภาพมายาหรือฉากภายนอกฉาบทาบทาทับตัวตนแท้จริง เพี่อให้คนที่ไม่รู้เบื้องลึกของเขายังคงนับถือและยกย่องว่าเขานั้นคือนักต่อสู้แห่งเดือนตุลาฯ

นักสู้ตัวจริงแห่งเดือนตุลาฯหลายคน รวมถึงพ้องเพื่อนในมหิดล บอกตรงกันว่า “มิ้ง (พรหมินทร์) เปลี่ยนไปแล้ว และเขาไม่ใช่คนจริงแห่งเดือนตุลา เขาไม่ยึดมั่นในหลักการณ์เดือนตุลาฯ แต่มิ้งคือผู้ที่อาศัยศพเพื่อนเดือนตุลาฯเป็นฐานให้ตนเองเหยียบขึ้นไปสู่อำนาจและผลประโยชน์”
คนเดือนตุลาฯตัวจริงบอกว่า หากอยากทราบความเปลี่ยนไปของมิ้งหรืออยากเข้าใจภาพจริงของมิ้งคงตัวไปดูที่ตัวภริยาของมิ้งเป็นสิ่งประกอบ แล้วจะรู้ว่ามิ้งตัวจริงคืออะไร”

คนมหิดลรุ่นใกล้กับมิ้งบอกว่า มิ้งคือคนที่อาศัยความไว้วางใจของพ้องเพื่อนเป็นฐานสำหรับเหยียบย่ำแล้วพาตัวเองขึ้นไปสู่ความมั่งคั่ง และสำทับว่ามิ้งยังคงหลอกลวงเพื่อนๆมหิดลว่า ยังเป็นมิ้งคนเดิม แต่เพื่อนมหิดลทราบดีว่า นั่นก็เพียงแค่คำลวงจากมิ้งเท่านั้น

คนเดือนตุลาฯที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์เพื่อมวลชน ร้องขอให้มิ้งเลิกหากินกับศพเพื่อนเดือนตุลาฯเสียที และบอกว่าไม่ถือสาหากมิ้งจะยังหลอกตัวเองว่ายังคงเป็นคนเดือนตุลาฯ แต่สำหรับคนตุลาฯจริงๆและวิญญาณของเพื่อนเดือนตุลาฯ รู้ดีว่ามิ้งกำลังหลอกลวงสังคมและที่สำคัญคือมิ้งกำลังหลอกตัวเอง

คนเดือนตุลาฯ คนหนี่งฝากถามว่า มิ้งเสียใจกับเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มสนับสนุนกับกลุ่มต่อต้านทักษิณจริงหรือ หรือทำเพราะต้องการสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง และกำลังสงสัยว่าในส่วนลึกของใจมิ้งนั้น ต้องการให้เกิดความสงบหรือต้องการให้คนไทยที่รักความถูกต้องตายกันแน่
เราลองไปศึกษาคำกล่าวอ้างของนายพรหมินทร์กันสักหน่อย นายพรหมินทร์อ้างว่า

“วันนี้ถ้าเราเริ่มต้นจากความรัก ไม่ใช่เรียกร้องให้คนเริ่มต้นจากความเกลียดชัง ถ้าเป็นอย่างนี้มันจะบานปลาย ผมขอพูดในฐานะคนเดือนตุลาฯ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯเจ็บปวดมากกับการที่มีคนส่งเสริมให้ใช้ความเกลียดชังมาฆ่าคนไทยด้วยกันเอง เพราะฉะนั้นคนที่เป็นคนเดือนตุลา ที่อยู่ในทุกฝ่ายก็ขอให้หยุดเสียทีกับการส่งเสริม และพาคนไปสร้างความเกลียดชังไปทำลายกัน การแสดงความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งปีนี้ครบ 30 ปี ของเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ก็น่าจะเตือนคนที่อายุ 45-50 กว่าที่ร่วมในเหตุการณ์ และวันนี้มีบทบาทต่างๆ ในสังคมก็น่าจะถึงเวลาที่รำลึกถึงเพื่อนๆ ของตัวเอง ที่เสียสละชีวิต เพราะมีการปลุกเร้าให้คนออกมาและทำลายกัน การที่เขาเสียสละชีวิตไปน่าจะทำให้มีการเสนอความคิดและแสดงออกอย่างมีประชาธิปไตย มีเสรีภาพ ไม่ใช่ว่าผลักดันให้ต่างความคิดแล้วเป็นอีกพวกหนึ่ง ต่างความคิดผิดถึงตายก็มีมาแล้วขอให้หยุดเสียที ”นายพรหมินทร์ กล่าวประโยคข้างบนพร้อมแสดงอารมณ์ประกอบด้วยเสียงอันสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้า 

แต่ขอโทษเถอะ แม้หลายคนอาจจะหลงเชื่อคารมและการแสดงออกของมิ้ง แต่ผู้มีปัญญาและมีเกราะกำบังความมดเท็จของนักการเมืองรู้ดีว่านายพรหมินทร์แสดงอาการเช่นนั้นเพราะอะไร

หากนายพรหมินทร์รักความสงบจริง ทำไมไม่บอกคุณทักษิณให้ทบทวนการกระทำของตัวเอง ทำไมนายพรหมินทร์ซึ่งอ้างว่าตนเองมีสติปัญญาสูง ไม่หันกลับไปทบทวนเหตุการณ์ยุค 6 ตุลาฯ ที่กำลังจะวนมาบรรจบครบ 30 ปีในเร็วๆนี้ ว่ามีเหตุปัจจัยอะไร และเหตุการณ์ภายใต้ยุคเผด็จการทักษิณมีอะไรเหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตบ้าง ทำไมมิ้งไม่พอใจการกระทำของรัฐบาลทรราชย์ถนอม ประภาส ณรงค์ จนถึงกับออกมาต่อต้าน แล้วทำไมมิ้งพอใจกับการกระทำของรัฐบาลทรราชย์ทักษิณ จนถึงกับออกมาปกป้องรัฐบาลทรราชย์ยุคปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะมิ้งได้ประโยชน์และมีอำนาจในรัฐบาลทรราชย์ทักษิณใช่ไหม

หากในยุค 30 ปีก่อน มิ้งมีผลประโยชน์และอำนาจ มิ้งคงไม่ต่อต้านคณาธิปไตย ถนอม ประภาส ณรงค์ ใช่ไหม

คุณพรหมินทร์ อย่าปกปิดความจริงอีกต่อไปเลย ยุติพฤติกรรมมดเท็จเสียเถิด อย่าคิดว่าสุนัขจิ้งจอกที่ขโมยหลังราชสีห์มาห่อหุ้มแล้วจะเป็นสิงโตเจ้าป่าผู้น่าเกรงขามไปได้ เพราะคนไทยเห็นแล้วว่าภายใต้หนังราชสีห์ มีขนสุนัขผสมกับขนมิ้ง และน้ำตาที่อุตส่าห์แกล้งบีบออกมานั้น ไม่สามารถทำให้คนที่มีสมองและสติปัญญาเข้าใจผิดคิดว่า คุณคือมนุษย์ที่มีใจสุดแสนจะอารีย์ เพราะทุกคนเข้าใจดีว่า คุณกับทักษิณ คือเงาของกันและกัน
 
http://www.seree.net/index.php?option=com_content&task=view&id=566


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 09-08-2007, 15:52
แหล่งข่าว "อินไซเดอร์" บอกว่า

หมอมิ้งลาออกเพราะไม่พอใจที่สมัครเข้ามานั่งหน.พรรคพลังประชาชน
แล้วมีบางคนในกลุ่ม "เดือนตุลาซ้ายจัด" กลับเห็นดีงามด้วย แกก็เลยรู้สึกแย่
แล้วก็ขอรีไทร์ในที่สุด

 :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 09-08-2007, 17:22
ผมว่าถ้าได้สมัครเข้าเป็นพัวหน้าพรรคจริงๆ

น่าจะเป็นการ

เร่งกระบวนการ

ปิดฉากทางการเมือง

ของอดีตไทยรักไทย(ทั้งหมด)ได้อย่างสมบูรณ์

 :slime_smile:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 09-08-2007, 17:29
เห็นด้วยกับคุณนนท์จริงๆครับ ในข้อนี้น่ะ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 09-08-2007, 17:33
แหล่งข่าว "อินไซเดอร์" บอกว่า

หมอมิ้งลาออกเพราะไม่พอใจที่สมัครเข้ามานั่งหน.พรรคพลังประชาชน
แล้วมีบางคนในกลุ่ม "เดือนตุลาซ้ายจัด" กลับเห็นดีงามด้วย แกก็เลยรู้สึกแย่
แล้วก็ขอรีไทร์ในที่สุด

 :slime_hmm:

น่าจะเป็นเหตุผลนี้มากกว่านะ


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว ที่ 09-08-2007, 17:45

มิ้งยังความจำดีกว่าเลี้ยบแฮะ  หมอนะ ไม่ใช่หมา   :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 09-08-2007, 17:53
หมอมิ้ง กลายเป็นคนเลวไปในชั่วพลิกฝ่ามือ

แต่มะเปงไร อีกหลาย "หมอ" ยังเป็นคนดีอยู่

เหวงเอย สันต์เอย เลี้ยบเอย................

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 09-08-2007, 18:55
อืม ดีแล้ว สาธุ :slime_worship:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 09-08-2007, 19:08
แหล่งข่าว "อินไซเดอร์" บอกว่า

หมอมิ้งลาออกเพราะไม่พอใจที่สมัครเข้ามานั่งหน.พรรคพลังประชาชน
แล้วมีบางคนในกลุ่ม "เดือนตุลาซ้ายจัด" กลับเห็นดีงามด้วย แกก็เลยรู้สึกแย่
แล้วก็ขอรีไทร์ในที่สุด

 :slime_hmm:

เมื่อวานอ่านที่บล้อกโอเคเนชั่น ของใครสักคนนี่ละ จำไม่ได้แล้ว มีบอกแบบนี้เหมือนกัน ครับ

ว่ารับไม่ได้ ที่จมูกบาน มานั่งเป็นหัวหน้า


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 09-08-2007, 19:10
ก็ดีแล้ว ที่หลุดจากวังวนนี้ไปได้ เพราะเขายังมีความสำนึกในจุดยืนและอุดมการณ์ของตนเองอยู่

แต่คนอื่นๆ ที่เหลือล่ะ คิดยังไงกัน?



หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: aoporadio ที่ 09-08-2007, 20:25
จัดตั้งอย่างเดียวใช่ป๊ะ :slime_smile2: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 09-08-2007, 22:48
ผมว่าถ้าได้สมัครเข้าเป็นพัวหน้าพรรคจริงๆ

น่าจะเป็นการ

เร่งกระบวนการ

ปิดฉากทางการเมือง

ของอดีตไทยรักไทย(ทั้งหมด)ได้อย่างสมบูรณ์

 :slime_smile:

ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าถ้าคุณสมัครแกโดนคดีรถดับเพลิง แล้วพรรคพลังประชาชนจะไปยังไงต่อ
นึกยังไงถึงเอาคนนี้ขึ้นมา จะว่าเอามาดึงเสียงในกรุงเทพฯ ก็ไม่น่าดึงขึ้น (อาจจะดึงลงเอาด้วย)

แล้วนี่ยิ่งไปดื่มน้ำสาบานอะไรกันอีก ก็ดีครับจะได้ตายยกรังล้างวงการ สส. ให้คนใหม่เข้ามามั่ง  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: truly ที่ 09-08-2007, 23:35
ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าถ้าคุณสมัครแกโดนคดีรถดับเพลิง แล้วพรรคพลังประชาชนจะไปยังไงต่อ
นึกยังไงถึงเอาคนนี้ขึ้นมา จะว่าเอามาดึงเสียงในกรุงเทพฯ ก็ไม่น่าดึงขึ้น (อาจจะดึงลงเอาด้วย)

แล้วนี่ยิ่งไปดื่มน้ำสาบานอะไรกันอีก ก็ดีครับจะได้ตายยกรังล้างวงการ สส. ให้คนใหม่เข้ามามั่ง  :slime_smile:

พวกจนตรอกด้วยกัน ย่อมเห็นอกเห็นใจกัน เป็นเรื่องธรรมดา
สิ่งที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เป็นเฮือกสุดท้าย คือ ทุ่มไม่อั้น เท่าไหร่เท่ากัน
ขอให้ชนะเลือกตั้งคราวนี้
เท่านั้น...คดีทั้งหลายก็น่าจะเป็นอันหลุดหมด...
เมื่อถึงเวลานั้น แม้วก็จะรีเทิร์นกลับมาเช็คบิล..
 :slime_cool:



หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: jrr. ที่ 10-08-2007, 02:19
จะไปอยู่ต่อได้ไง...โดนล้อตายเลย !!!

มันจะกลายเป็น....ขำกลิ้ง มิ้งค์..กับ..หมัก !!!


หัวข้อ: Re: "หมอมิ้งค์" เลิกเล่นการเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 10-08-2007, 13:27
หมอคงจำได้ถึงวันที่กระโจนหลบกระสุนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งๆที่มือยังกำหูโทรศัพท์สาธารณะไว้แน่น ใครยิง ประวัติศาสตร์จารึกไว้แล้ว  ใครพูดว่า ในธรรมศาสตร์วันนั้น มีแต่พวกญวนพวกแกวพวกคอมมิวนิสต์ ประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้แล้ว

ถ้าตัดสินใจได้อย่างนั้นจริง ก็นับว่าหลุดจากหลุมเวจไปได้หนึ่งคน หลังจากกระโจนไปจนคูถมูตรอุดเต็มปากเต็มคอ จากที่อ้างตัวได้ว่าเป็รวีรชน จนมีสภาพกลายเป็นสมุนทรราชย์ เลวไม่ได้ต่างไปกว่าไอ้พวกที่ยิงกราดเข้าใส่ตนเองในวันนั้น  เลวต่างกรรมต่างวาระ

ขอให้ไปดี กลับตัวกลับใจ สังคมยังให้อภัย  :slime_worship: