ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

กองปราบฯเชิญมาสอบปากคำ 8 พ.ค.นี้  

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม  พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดี กล่าวโทษนาย สนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ หมิ่นพระบามเดชานุภาพ กล่าวว่า ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนยังสรุปสำนวนคดีไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากคดีนี้มีการสอบปากคำพยานจำนวนมากกว่า 400 ปาก ทำให้พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมพิจารณาสำนวนคดีและสรุปความเห็นส่งให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง แต่คงไม่ใช่ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม ตามที่มีข่าวออกมา  อย่างไรก็ตามจะมีความเห็นส่งอัยการให้พิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า พล.ต.อ.โกวิท จะมีความเห็นอย่างไร

ขณะที่ พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดี กล่าวโทษ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์   5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหา 5 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดที่มิใช่เป็นการกระทำโดยความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนเพื่อ ให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย

2. มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและมีผู้เป็นหัวหน้าสั่งการ

3. ร่วมกันเดินขบวนลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. ร่วมกันวางตั้งหรือแขวนสิ่งใดในลักษณะกีดขวางการจราจร โดยไม่ได้รับอนุญาต

5. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต 

กล่าวว่า ได้เชิญผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คน มาพบพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม ในเวลา 09.00น. วันที่ 8 พฤษภาคม  เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและนัดมาเพื่อจะได้สรุปสำนวน ซึ่งหากไม่มีอะไรคาดเคลื่อนคาดว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนได้ในวันดังกล่าว โดยจะเสนอให้ พล.ต.อ.โกวิท มีความเห็นต่อคดีในวันเดียวกัน และคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งอัยการได้ในวันเดียวกันด้วย

"ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนทำงานกันอยู่ ประชุมอยู่ตลอด เพื่อให้สามารถสรุปสำนวนคดีได้โดยเร็วและรอบคอบที่สุด โดยยังแจ้งข้อหาตามที่ระบุไว้แต่แรกไม่มีการเพิ่มข้อหาแต่อย่างใด"หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนกล่าว

ข่าวมติชน

ข้อหาแรกนับว่าหนักสุด เพราะเท่ากับข้อหา กบฎในราชอาณาจักร

ข้อหาที่ 2 น่าจะเป็น อั้งยี่-ซ่องโจร...

เอวังล่ะครับอย่างงี้ แบบนี้พวกคาราวานปิดล้อมเนชั่นกับพวกพังเวทีที่เชียงใหม่นี่เรียกว่าอะไรดีเนี่ย

ในใจของผมกำลังย้อนอดีตไปถึงประวัติศาสตร์ 14 ตุลา..
วีรชนผู้กล้า ตอนนั้นยังโดนจับขังคุกเลย...
นี่แค่โดนข้อหา..เมื่อไหร่ฉีกหน้าคนขายแผ่นดินได้
เขาก็คือวีรชน...ผมรอวันที่ใกล้จะมาถึง ...ซึ่งเราก็ต้องร่วมมือกัน
....
ก็เช่นเดียวกับการขับไล่ทรราชย์ ของประเทศต่างๆ ทั่วทั้งโลก
การขัดขืนอำนาจรัฐ(ของคนเลว) ก็ถูกข้อหากบถกันทั้งนั้น
..
การมอบตัว แสดงความบริสุทธิ์..เป็นความหาญกล้า..
ขอให้สอบสวนจริงๆ เถอะ..ไม่ใช่พอเข้าใกล้คนขายชาติแล้ว
ก็จำหน่ายคดีไปเสีย งั้นๆๆ  :lol: :lol:

การนองเลือดจะเกิดก้เพราะ ตร.ไทย บ้ายอ แบบนี้นี่แหละ ถ้าจับจริงสงสัยมีการนองเลือดอีกครั้งแน่ๆ

ภ้าโดนจริงก็ตลกมากครับ  การรวมตัวของพันธมิตรเทียบกับ mob nation ,mob udon ,mob changmai คนละเรื่องเลย
ถ้างั้นก็ mob คาราวานคนจน  ก็น่าผิดเช่นกัน

แค่โดนตั้งข้อหาเฉยๆ ยังไม่ตัดสินครับ...

อยากขอลาออกจากการเป็นคนไทยเลย...

ฉีกบัตรเลือกตั้งก็แล้ว

ต่อไปคงต้องฉีกบัตรประชาชน :(

ถ้าพันธมิตรผิด ผมก็ผิดด้วย

เอาก็เอาสิ

ตั้งข้อหาอย่างนั้น ก็ตามใจครับ หากคิดว่าคนที่สงบๆไปเพราะเห็นด้วยกับรัฐบาล

เป็นเพราะเราไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็เลยต้องเล่นกันอย่างนี้หรือ ม็อบข้าวเหนียวเนี่ยทำดีทำถูกทุกอย่างเลยนะ...ฮึ น่าน้อยใจจริงๆ

เชื่อเหอะ ถ้านองเลือดพวก สาวกเหลี่ยมก็โยนบาปมาให้แกนนำอีกนั้นแหละ

เช็กบิล....

เหมือนอย่างที่เขาบอกว่า จะล้มรัฐบาล ต้องล้มให้ชนะ... ล้มได้เป็นวีรชน ล้มไม่ได้เป็นกบฎ....

แม้จะไม่ชอบกลุ่มพันธมิตร แต่รับไม่ค่อยได้กับข้อหาแบบนี้ ขอเป็นกำลังใจให้

ถ้าบ้านเมืองวิบัติฉิบหายจริง คุณไม่มีเวลามานั่งเล่นเนทอยู่แบบนี้หรอก 
:lol: :lol: :lol:

คดีแบบนี้แหละ จะมีประชาชนขอร่วมเป็น "ผู้ต้องหา" อีกนับพันคน

ไม่เชื่อก็คอยดู...รัฐบาลจะมีคุกให้ใส่เหรอ...อิ อิ

ผิดแล้วลุง !! จริงๆ ต้องเป็น หมื่น เป็น แสนคน ตะหาก 5555  :lol:

คอยดูก่อนครับว่า พวกเค้าร้องขอหรือเปล่า

แต่ผมเชื่อว่า จะมีคนเข้ามอบตัวเข้าไปกินข้าวหลวงอีกเยอะ

อยากดูเหมือนกัน จะมีคุกพอขังประชาชนมั๊ย

...แถมนิด ข่าวเมื่อซักครู่...เค้าบอก 5 แกนนำจะเข้าไปรายงานตัวที่กองปราบพร่งนี้

เพื่อให้นำสำนวนส่งให้อัยการสูงสุด...จะว่ไปก็คือการให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา

หนึ่งในแกนนำเชื่อว่า "อัยการสูงสุด" จะสั่ง..."ไม่ฟ้อง" มากกว่า

เว้นแต่คดีเล็ก ๆ อาจโดนปรับหรือรับสารภาพไป...ผมไม่แน่ใจในแนวทางต่อสู้

อ้อ...เห็นบอกจะรวบรวมคดีที่มีคนฟ้องหน้าเหลี่ยม เสนอต่อตำรวจด้วย

เพื่อให้ตำรวจดำเนินการต่อ...จะได้ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ

ไม่งั้นอาจโดน ม. 157 ก็เป็นได้ อิ อิ

ตำรวจแจ้งข้อหาเพื่อสร้างข่าวเท่านั้นต้องส่งเรื่องให้อัยการ
อัยการต้องดูสำนวนอีกจะส่งฟ้องหรือไม่ส่งฟ้องก็ยังไม่รู้
แต่ตำรวจต้องออกข่าวไว้ก่อน
รอดูว่าอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่

ถ้าตำรวจเล่นอย่างนี้ ผู้ต้องหาคงเป็นหมื่นคน เป็นแสนคน
ล้วงเข้ามานี้ คงถูกหลายคน   คนที่ไม่ถูก น่าจะเป็น คุณ Killer
คุณ หมายจับ คุณ อะไรว้า และ คุณ 500 กระมั่ง...

ถึงเวลาผมต้องเลียนแบบเสี่ยทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศบ้างแล้ว...

ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย คงไม่ห้ามผมเข้าประเทศน่ะ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ก็อาจเป็นการปิดคดีไปเลยก็ได้ครับ เรื่องแบบนี้ ดูอีกทีผมว่าเป็นผลดีกับกลุ่มพันธมิตรนะครับ

หากส่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ทุกอย่างก็จะจบลง ไม่มีการกล่าวหาพร่ำเพรื่อ

มองแง่ดี งานนี้น่าจะสรุปบทเรียน คนภายนอกก็จะได้รู้

อะไรผิดกฎหมาย อะไรไม่ผิดกฎหมาย...

การกล่าวหาคงต้องดูองค์ประกอบความผิดให้ชัด

แต่ถึงอัยการฟ้อง แต่ใช่ว่าจะเป็นความผิด เพราะผู้ต้องหายังคงบริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาล ยังไม่ตัดสิน

ตกลงตำรวจกับรัฐเนี่ย เขามีหน้าที่รักษาความสงบ
หรือเร่งเร้าทำลายความสงบ งงนะเนี่ย

ผมไม่เคยชอบ ม๊อบนี้เลยตั้งแต่สุริยใส ไปพูดในรายการถึงลุกถึงคนว่า ถ้าใครตายเพราะไปโรงพยาบาลแถวสยาม ก็เป็นเรื่องสุดวิสัย 

มันแสดงถึงความเห็นแก่ตัวว่า ใครจะตายก็ช่างขอนายกออก น่ะ

ความหมายคือ โรงพยาบาลที่ดี ๆ ย่านนั้นมีเยอะ ไม่ว่า รพ.จุฬา หรือ รพ. รามา

ที่เค้าพูดหมายถึงในรายการหมายถึง รพ.ตำรวจ

จริง ๆ คำถามนั้น ไม่ควรออกจากปากคนทำโพล ด้วยซ้ำไปมันหมายถึงชี้นำไปสู่การตอบที่มีปัญหา

ถ้าจัดงานอื่น ๆ ที่ต้องปิดถนนล่ะ ไม่ลองถาม ๆ คำถามนี้ดู

เช่นนั้น การที่ประชาชน จะไปโรงพยาบาล แถวนั้น แต่ไปเจอม๊อบแล้วต้องอ้อมเพื่อไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง จนเสียชีวิตนั่นเป็นความผิดเหรอครับ

"จริง ๆ คำถามนั้น ไม่ควรออกจากปากคนทำโพล ด้วยซ้ำไปมันหมายถึงชี้นำไปสู่การตอบที่มีปัญหา"

ผมว่าเป็นคำถามที่ควรถามนะครับ เพราะเป็นเืรื่องของความเดือนร้อนของประชาชน คุณสุริยใส จะตอบอย่างอื่นก็ได้ เช่น ถ้ามีเราก็จะเปิดทางหรือเราจะทำชองทางให้รถเดิน แต่กลับตอบว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ทราบว่าจะว่ายังไงครับ

งานอื่น ๆ นะครับ เขาจะมีการเว้นช่องทางสำหรับการเดินรถ เพราะว่าถนนสายนั้นเป็นสายสำคัญ ถ้าถนนนี้ติดก้จะมีปัญหาการเป็นอัมพาทของการจราจรย่ายนั้นเลยทีเดียว ไม่เชื่อก็ลองสังเกตุดูว่างานแต่ละงานจะจัดในเวลาไม่นานเกิน 4 ชั่วโมง เพื่อควมสะดวกในการจราจรครับ

ผมว่าทั้ง 5 คนยอมรับผิดข้อหาตั้งแต่ข้อ 3-5 เถอะครับ
ถ้าผิดจริงก็ปรับคดีละ 10 บาท ไม่รู้ตำรวจตั้งมาได้ไงปัญญาอ่อนจริงๆ

แค่ฟ้อง ยังน้อยไป   

ฟ้องทักษิณด้วยสิ

"ผีที่ไหนจะจงรักภักดี" และ "ให้กระซิบข้างหูแล้วจะลาออกทันที"

จะได้เท่าเทียม

ขอยืนยันว่าไม่มีข้างหูครับ กรุณาแก้ไขด้วย(นี่เป็นตัวอย่างการแต่งเติมสารโดยสื่อครับ)

สองมาตรฐาน...สองชนชั้น...ไม่เท่าเทียม

มาดูเลยม๊อบใหนผิดกฏหมายมากกว่ากันผมว่าม็อบอันฑะพาลคนจนผิดกฏหมายกว่าม๊อบพันธมิตรเยอะ...

ไม่มีผิดมากผิดน้อยครับ ถ้าผิดก็คือผิดครับ แต่จะอยู่ที่ว่าใครจะโดนคดีมากกว่ากันเท่านั้นล่ะ

-ข้อ 2 ไม่ใช่อั้งยี่ ซ่องโจรครับ ลุง แต่เป็นความผิดฐานก่อการให้เกิดชุลมุน  ตามลักษณะ 5 ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชนซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่ไปถึงขั้นนั้น-

 มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิด การวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 ถ้าผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ บรรดาผู้ที่กระทำความ ผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
 ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการ กระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 มาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิด ตาม มาตรา 215 ให้เลิกไป ผู้ใดไม่เลิก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตลกครับ ถ้าตำรวจตีความว่าพันธมิตรเข้าบทกหมายข้อนี้ อ่อนมาก ๆ

-ส่วนตำรวจ ยังครับ ยังไม่สำนึก เล่นอย่างนี้ ระวังจะถูกพันธมิตรฟ้องกลับ ฐานฟ้องเท็จให้ผู้อื่นรับข้อหาหนักขึ้น โดยรู้อยู่ว่าไม่เป็นเช่นนั้น

และ ตาม ม 157 ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทีเด็ดอาจจะอยู่ที่ศาลปกครอง ตามระเบียบ ว่าด้วยความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.. 2539 ถ้าตำรวจกล้ากระทำกับ 5 แกนนำต้องยอมรับผลของการกระทำของตนแ่น่
ๆ


และล่าสุด อนุกรรมการฯ กกต.สรุปผลสอบสวนไทยรักไทยจ้าง "นอมินี" ส่งผู้สมัครลงประกบผู้สมัครไทยรักไทย หนีกฎ 20% ให้ "วาสนา" แล้ว มีมติเอกฉันท์แจ้งข้อหา "ทักษิณ" เรียกมาสอบสวน

 ผลสอบระบุว่าจากการกระทำของ พล.อ.ธรรมรักษ์ และนายพงษ์ศักดิ์ ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน  อันเป็นการฝ่าฝืนบัญญัติมาตรา  66 (1) (3)  แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541  และมีความผิดฐานสนับสนุนผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.  พ.ศ. 2541  รวมทั้งมีความผิดฐานใช้ให้บุคคลอื่นปลอมแปลงเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา

ขณะที่ พล.อ.ไตรรงค์  ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร ส.ส.

อนุกรรมการฯ สรุปว่า  ข้อเท็จจริงที่ได้จากการกระทำของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และนายพงษ์ศักดิ์  รักตพงศ์ไพศาล  ดังวินิจฉัยไว้ข้างต้น   ฟังได้ว่า ได้ร่วมกันสนับสนุนให้มีการตัดต่อข้อมูลการเป็นสมาชิกของพรรคพัฒนาชาติไทยที่เป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน ให้ครบ 90 วัน และร่วมกันให้เงินสนับสนุนแก่พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งผู้สมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขตลงแข่งขันกับผู้สมัครเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย  เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะต้องมีคะแนนเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิในเขตนั้น

สำหรับพรรคพัฒนาชาติไทยมีนายทวี  สุวรรณพัฒน์  คนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์  เป็นตัวแทน ส่วนพรรคแผ่นดินไทยมี พล.อ.ไตรรงค์   อินทรทัต  และ พล.ท.ผดุงศักดิ์  กลั่นเสนาะ  ผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.ธรรมรักษ์เป็นตัวแทน เห็นว่า พล.อ.ธรรมรักษ์มีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ส่วนนายพงษ์ศักดิ์  มีตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  ถือว่าต่างเป็นผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทย  ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นการกระทำในฐานะส่วนตัว  แต่มีหลักฐานควรเชื่อว่าเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนพรรคไทยรักไทย  มีผลผูกพันเสมือนเป็นการกระทำของพรรคไทยรักไทยเอง จากเหตุผลดังได้วินิจฉัยมา คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า  สมควรแจ้งข้อกล่าวหาแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปต่อตามระเบียบ

ทั้งนี้ หากพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความผิดจริง   การดำเนินการขั้นต่อไปคือจะต้องร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย.

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=11/May/2549&news_id=124263&cat_id=501


-และถ้าฟ้าเปลี่ยนสี ตำรวจประเภทนี้จะอยู่ลำบาก สาบาน

อ้าว...เหรอ ผมอ่านข่าวว่า "มั่วสุม" เลยพาลคิดว่าเป็นคดีพวกจิ๊กโก๋ปากซอย คอยและเล็มสาวไปโน่น อิ อิ

ตามข่าววันนี้ เห็นบอกว่า ไม่ต้องประกันตัวแล้ว ให้ไปถอนเงินประกันคืน เพราะผู้ต้องหาไปรายงานตัวเอง

ก็คอยดูว่า คดีจะดำเนินไปอีกนานแค่ใหน

ถ้าให้เดาคือไม่อยากให้เคลื่อนไหวอีก เพราะช่วงนี้ ดักทางกันน่าดู อิ อิ

แล้วลุงแคนตั้งค่ายมวย ดันเด็กไปชก รดน นี่จะเข้าข่ายซ่องสุมรึเปล่าครับ แบ่บกบฏนักมวยประมาณนั้น

เป็นห่วงนะ อิๆ


[/b]

สอนบ้างจิ   :lol: สนามนั้น ไม่ค่อยกล้าโพส กลัวโดนยำ
สติแตกพอดี เลยต้องหลบ มาเล่นที่นี้แทน

ไว้หาข้อมูลเยอะๆก่อน เพราะไม่ได้คิดใส่ใจเรื่องการโพสโต้ตอบมากนัก

ชอบการแอบอ่าน การแสดงความคิดเห็นดีๆเท่านั้น

ที่นั้น คงเป็นตำนานไปแล้ว หาสาระคงไม่ได้

อ้าว โพสผิดกระทู้ ลบให้หน่อยจิ   :lol:

มวยค่าย"หนองแคน" ต่อยหลายแบบ

กระแทกปากหนัก ๆ แล้วติ๊ดชึ่งหนี

ไม่ต้องเข้าไปคลุกอีก...วิธีนี้คู่ต่อสู้จะงง

ครายวะ ไม่รู้จัก มาต่อยตรูทามมาย อะไรประมาณนี้

กลยุทธ์ เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าซ้ำ...จ้องให้ดี ๆ

ตีเข้ากระโดงคาง...ยิ่งมวยดัง ๆ มันการ์ดตก รีบเข้าไปชก ให้จบ ๆ ในไฟท์นั้น...

ที่สำคัญ อย่าไปประกาศตนเป็นเจ้าของเวที ท้าตีท้าต่อย อิ อิ

แบบนั้นจะตกเป็นเป้านิ่ง ให้เค้ารุมเอาง่าย ๆ