ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

............รู้น่า  ว่าการ "ตัด + ปะ" มันเป็นพฤติกรรมไม่เข้าท่า.............

"โรคซ้ายไร้เดียงสา"กำเริบ!
27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 00:00:00

๐ ประชา บูรพาวิถี

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เหตุการณ์จลาจลหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ไม่น่าจะอยู่เหนือความคาดหมาย หากมีใครได้ฟังคำประกาศของ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำม็อบคนรักทักษิณ กลางท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนพลเพียงวันเดียว

"ประชาชนต้องการการแตกหัก ไม่อยากรอคอยความตายที่สนามหลวง และประชาธิปไตยไม่ได้มาจากการร้องขอเท่านั้น.."

นักยุทธวิธีที่ปากอ้างว่า "สันติวิธี" ก็คิดกันแบบนี้ทั้งนั้นในยามจนตรอก เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว "ม็อบ" ก็รอวันแห้งตาย มันเป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

จึงไม่น่าประหลาดใจที่บรรลุเป้าหมายแล้ว แกนนำก็สั่งม็อบถอนกำลังกลับไปที่ตั้งอย่างฉับพลันทันที

ภาพของ วีระ มุสิกพงศ์ น.พ.เหวง โตจิราการ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย พิมพา จันทร์ประสงค์ พากันฟ้อนรำราวกับ "หางเครื่องวัยทอง" ให้อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ร้องเพลงบนเวที ดูจะเป็นภาพการเฉลิมฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน

ภาพนี้หาไม่ได้ในประวัติศาสตร์ "ม็อบการเมือง" ประเทศไทย แต่ "วีระ" กับ "เหวง" ทำให้ดูเป็นครั้งแรก!

จริงๆ แล้ว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตกเป็นเป้าการโจมตีของ "กลุ่มคนรักทักษิณ" กับ "กลุ่มต้านรัฐประหาร" มาตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมต่อต้านเผด็จการที่ท้องสนามหลวง เมื่อปลายปีที่แล้ว

มีการจัดทำเอกสารเล่มเล็กชื่อ "เปิดหน้ากากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ความจริงวิกฤติการเมือง" เขียนโดย วินัย ใจภักดี และ นำชัย ประสานชัย ว่ากันว่าเป็นนามแฝงของคนเดือนตุลาที่ใกล้ชิดคนสนิท "นายใหญ่"

มีการจัดทำหนังสือปกม่วง "เปรมไม่ใช่ฟ้า ป๋าก็แค่คน" เผยแพร่อย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ที่รักทักษิณ

นอกเหนือการเปิดโปง พล.อ.เปรม เป็นผู้เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยา เนื้อหาในเอกสารใต้ดินชุดดังกล่าว ยังวิพากษ์ "ตุลาการภิวัตน์" ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่ "อำมาตยาธิปไตยภิวัตน์"

พูดง่ายๆ แบบไม่ต้องใช้ภาษาวิชาการก็คือ ป๋าเปรม, ตุลาการภิวัตน์ และอำมาตยาธิปไตย คือสัญลักษณ์ของ "ระบอบเก่า" ที่จะทำให้ประเทศไทยถอยหลังลงคลอง ทำให้ประเทศไทยจมปลักอยู่กับความล้าหลังของเผด็จการในคราบ "อำมาตยาธิปไตย"

พูดชัดๆ ระบอบเก่าในความหมายของกลุ่มที่จัดทำเอกสารใต้ดินก็คือ "สถาบันเบื้องสูง"!

ฉะนั้นการปักธง "โค่น เปรม คือโค่น คมช." ของแนวร่วมต้านรัฐประหารนั้น ในยุทธศาสตร์ของบางกลุ่มบางองค์กรนั้น "มันสูงกว่า คมช. และ พล.อ.เปรม"

ดั่งปรากฏในเอกสารลับใต้ดินอีกชิ้นหนึ่งชื่อ 'สังคมไทยกับสถานการณ์รัฐประหาร พ.ศ.2549' ซึ่งมีการแจกจ่ายไปในกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน และภาคใต้บางส่วน

เนื้อหาหลักของเอกสารชิ้นนี้คือการอธิบายว่า พรรคไทยรักไทย เป็นตัวแทนกลุ่มทุนยุคใหม่ มีโอกาสผูกขาดอำนาจทางการเมืองการปกครองประเทศไทย

ดังนั้นกลุ่มทุนที่สูญเสียประโยชน์ ผนวก "พลังอนุรักษ์จารีตนิยม" ทำการรัฐประหารเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ

จึงมีการเรียกร้องให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณาของพลังอนุรักษนิยม เพราะกลุ่มทุนไทยรักไทย มิใช่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในการโค่นล้มของพลังประชาชน

ผู้อาวุโสในยุทธจักรนักเคลื่อนไหว สรุปว่านี่คือการกลับมาของ "ซ้ายไร้เดียงสา"

กระแสความคิดซ้ายไร้เดียงสานี่แหละ ที่พัดพาขบวนการนักศึกษาหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ไปสู่การปฏิวัติวัฒนธรรมแบบไทยๆ เช่นมีการประกาศเผาวรรณคดีศักดินา การจัดนิทรรศการจีนแดง ฯลฯ

ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา ยังชำระไม่เสร็จมิใช่หรือ..ไยจึงจะทำตัวเป็น "สายล่อฟ้า" กันอีกเล่า?


http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/27/WW01_0104_news.php?newsid=86350 (http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/27/WW01_0104_news.php?newsid=86350)

ซ้ายไร้เดียงสา ( ทาง "ภูิมิสังคม" ) หากว่า ่ดันทุรัง + อัตตาสูง ยิ่ง
ยิ่งเมื่อได้ "น้ำเลี้ยงชั่ว" อย่างแก๊ง ทรท. จึงออกอาการ "กิ๊วก๊าว"
อันที่จริงแล้ว "กลุ่มซ้ายเก่า" ทั้งหมดก็มิได้เห็นสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน
เห็นจะมีก็เพียง "ซ้ายจิตเภท" บ้า ๆ บอ ๆ ไม่กี่ตัวเหล่านี้ ที่ยังคง "จมปลักอยู่กับอุดมการณ์เพ้อเจ้อ"
แยกไม่ออกระหว่างโลกความจริง - โลกสมมติ - โลกจินตนาการ   
สันสนซะจนไม่เหลืออุดมการณ์ "ซ้าย" อะไรหรอก  นอกจากรู้ว่า "แค้นพวกทหารโว้ย...กูจะล้างแค้นให้เพื่อนกู"
ไ่ม่รู้ไม่สนว่าทุกวันนี้ "ยืนอยู่บนแผ่นดินไหน" โดย "ใคร" ปล่อยให้มีชีวิต มีงาน มีศักดิ์ศรี มาจนถึงทุกวันนี้

ก็ดี
...เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า "พรบ.การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์" นั้น "ยังใช้ได้" เสมอ
เพราะการเป็น "คอมมิวนิสต์" นั้นก็คือ การเป็น "อาชญากร" นั่นเอง ?!?

ความจริงแล้ว ซ้ายนั้นมีหลายแบบ

ซ้ายไร้เดียงสา

ซ้ายตกบันไดพลอยโจน

ซ้ายแท้รักฝังใจ

ซ้ายเพราะแค้นฝังหุ่น

ซ้ายไร้เดียงสานั้น ก็พวกหมอที่ยังหาจุดสลบของตัวเองไม่พบ อยากนำมวลชนมาตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์ มาวันนี้จวนจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่แพทย์อยู่แล้ว พึ่งได้นำมวลชนถ่oยๆเข้ากระจุกหนึ่ง

ซ้ายตกบันไดพลอยโจน ก็พวกที่หนีเข้าป่าไป เพราะเพื่อนเข้าไปก็ตามไปด้วย โดนเพื่อนหลอกว่าหากยังอยู่ในเมือง อาจถูกลากไปเผาแบบเหตุการณ์ที่สนามหลวงปี 19 หนีเข้าป่าไปกับเขา ไปแล้วทำอะไรไม่เป็น ด้วยเล่นดนตรีเป็นอย่างเดียว เลยไปนั่งเล่นกีต้าร์ในป่า เมื่อเขาออกมามอบตัวกัน ก็รีบกลับออกมากับเขาด้วย แอบซ่อนพรางตัวกลัวถูกจับ แล้วตัดอกตัดใจไปมอบตัว ตำรวจมองหน้าแล้วเหวอ มาทำไม รายงานตัวว่าพึ่งออกจากป่ามา ตำรวจก็บอก งั้นก็กลับบ้านไปสิ ฮากันตรึม (เรื่องนี้ไปถามพงษ์เทพ เขารู้ดี  :slime_smile2:)

ซ้ายแท้รักฝังใจ อย่างนี้น่ากลัวหน่อย อันนี้มีอุคมการณ์จริง คิดพลิกฟ้าคว่ำดิน หลอกไอ้พวกซ้ายสองแบบข้างบน เข้าไปกินข้าวลิงในป่ามาแล้ว พอป่าแตก ก็กลืนเลือดออกมาแฝงตัวในเมืองต่อ พอดีมีโจรทุนนิยมโง่มันหลงผ่านมา เลยเชิดมันบังหน้าเพื่ออุดมการณ์ ทำปฎิญญาแถบขั้วโลกเหนือขึ้นมาจนโด่งดัง อย่างนี้รักฝังใจ คิดโค้นล้มฟ้าให้ได้

ซ้ายเพราะแค้นฝังหุ่น ไอ้นี่อุดมการณ์ไม่มี แต่บ้างก็ไปติดคุกมาเพราะหมิ่น บ้างพ่อก็ไม่มีแผ่นดินจะอยู่เพราะอะไรลูกมันยังไม่รู้ แต่แค้นเปิดเวบล้มฟ้าอยู่ทุกวันนี้แหละ ยังมีอีกหลายราย แค้นไปต่างๆนาๆ โทษฟ้าโทษดิน แต่ลืมมองตัวองว่า ตัวเองนั่นแหละที่ทำตัวเองจนพัง คนอื่นเขาไม่ได้ทำ

ซ้ายทั้งหมดที่ว่ามา ไอ้พวกตกบันได้พลอยโจน เป็นพวกเดียว ที่เลิกแล้ว ไม่กำเริบแล้ว  :slime_smile2:

อ่า...อ่านกระทู้นี้แล้ว ไม่ค่อยสบายอุรานัก

จะด่า คนเลว คนด้อยคุณภาพ ก็ด่าไปเถอะครับ

แต่ด่าว่า "ซ้าย" เลว ผมสะอึก

เพราะผมคิดว่า ยังไง ๆ วิธีคิดแบบ "ซ้าย" ย่อมดีกว่า "ขวา"

อุดมคติแบบมาร์กซิสต์ ย่อม(น่าจะ)ดีกว่า ฟาสต์ซิสต์ นะ

ซ้ายโง่ ๆ ก็คือคนโง่ทั่ว ๆ ไปนะแหละครับ - ไม่มีอะไรพิสดาร

ซ้ายไม่ผิด คนต่างหากที่ผิด

ปล.ผมชอบลัทธิมาร์กซ์ ยังคงอ่านเพื่อศึกษา พัฒนาจิตใจ อยู่เรื่อย ๆ
แต่เห็นว่าลัทธินี้ เป็นปรัชญา มากกว่าจะเหมาะนำมาใช้ในการปกครอง การเมือง การทหาร

ไม่น่าจะใช่  โรคซ้ายไร้เดียงสานะคะ  คุณ

โรคลองของ  กำเริบมากกว่า  ถูกสั่งมาว่า

ให้ลองของให้มาก  เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวข้อมูล

ไว้ประจานให้ชาวโลกดู

แต่หารู้ไม่  เค้าเตรียมแก้ลำไว้หมดแล้ว

แนวคิดไม่ผิด แต่คนเอาแนวคิดมาใช้ในทางผิด ต่างหากที่น่ากลัว เหมือน3จว.ใต้บ้านผม หลกสอนสอนไว้ดี แต่คนแปลงหลักคำสอนออกมาแล้วเพี้ยนแล้วสอนไปอย่างเพี้ยนๆ มันก็น่ากลัวนะครับ

"ซ้ายไร้เดียงสา"

เข้าใจหาคำแฮะ  :slime_agreed:

ปัญหาของช่วงหลัง 14 ตุลาเป็นต้นมาคือ ความไม่สามารถเข้ากันได้ระหว่าง ชาวนา กรรมกร นายทุนน้อย นายทุนชาติ  นั่นคือเหล่านายทุนน้อยมีไม่มีความเข้าใจในทฤษฎีเพียงพอ ไม่ได้เข้าใจว่าพลังปฏิวัตินั้นมาจากพลังของชนชั้นชาวนาและกรรมกร ดังนั้นการประกาศชัยชนะวันที่ 14 ตุลาคม 2516 จนถึงการชุมนุมในท้องสนามหลวงช่วงเดือนพฤศจิกายน 2549 ถึงกรกฎาคม 2550 นั้นมีรูปแบบเดียวกันคือเป็นการขับเคลื่อนของประชาชนโดยไม่มีแนวทางการจัดตั้งที่แท้จริงตามทฤษฎีปฏิวัติ

เหล่าลัทธิแก้อุบาทว์ที่เคยเป็นเสี้ยนหนามในปี 2516 (ความพยายามประนีประนอมระหว่างสังคมมาร์กซิสกับทุนนิยม) ก็ยังปรากฏชัดเจนในปีพศ.2546-2550 แต่ในปี 2550 เหล่านายทุนน้อยที่ออกจากป่าซึ่งแม้เป็นนายทุนน้อยแต่อายุอานามรวมๆกันก็น่าจะเป็นหมื่นปี ก็ยังสมคบกับนายทุนชาติชักนำชนชั้นชาวนาและชนชั้นกรรมกรโดยการมอมเมาความคิดแบบทุนนิยมตลอดมา เช่น "เศรษฐกิจเจ๊ง คิดถึงทักษิณ" "มีทักษิณ ได้กินกองทุนหมู่บ้าน" ควบคู่กะยเรื่องประชาชนเป็นใหญ่และโค่นชนชั้นศักดินาอย่างโจ๋งครึ่ม

เหล่าลัทธิแก้เช่นนี้จึงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิวัติไปสู่สังคมอุดมคติ เนื่องเพราะผู้นำมวลชนเอวไม่ได้ตระหนักว่าขณะนี้ชนชั้นชาวนาและชนชั้นกรรมกรได้ถูกมอมเมาด้วยทุนนิยมมานานไม่ต่ำกว่า 5 ปีเรียบร้อยแล้ว

การต่อสู้เพื่อปฏิวัติชนชั้นจึงเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของเหล่าลัทธิแก้ที่มีจุดประสงค์อื่น สุดท้ายจึงเป็นเพียงโฉมหน้าจอมปลอมของนายทุนใหม่ที่พยายามแทนที่นายทุนเก่าเท่านั้น

โดย
เลือดเข้ม เค็มจัด (ชื่อจัดตั้งตอนเข้าป่านิวซีแลนด์)

ผมเองก็ไม่ค่อยสบายใจนักกับการปลุกกระแสด่าฝ่ายซ้ายตอนนี้

ในฐานะที่ผมเคยมีครูผู้หนึ่งสมัยเรียนมัธยมที่ผมให้ความเคารพ (และจนถึงบัดนี้ก็ยังเคารพอยู่) ท่านแสดงตัวว่าเป็นฝ่ายซ้าย นิยมมาร์กซิสม์ แต่ท่านมีท่าทีสุภาพและสนับสนุนให้นักเรียนใช้ภูมิปัญญาและสันติวิธีในการแก้ไขปัญหามาเสมอ

ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าซ้ายมาร์กซิสม์ผู้มีอุดมการณ์เพื่อสังคม ยังน่าคบและน่านับถือใจเขามากกว่าทุนนิยมสามานย์หลอกแ_ก อย่างเทียบกันไม่ได้

แนวคิดหรือปรัชญาซ้ายแบบอ่อนๆ ก็มีถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลายๆ ที่ของโลกทุกวันนี้ เช่นที่เรียกว่ารัฐสวัสดิการทั้งหลาย และประเทศเหล่านั้นก็ดูสบายๆ สงบๆ กันดีตามอัตภาพ

แต่ระบอบและขบวนการจัดตั้งเพื่อ "ปฏิวัติสังคม" ซึ่งเป็นซ้ายแบบสุดโต่งนี่แหละปัญหา เพราะก่อเกิดมาและถูกขับเคลื่อนโดยความโกรธแค้น ความเกลียดชัง จนมุ่งไปในทางคับแคบ บีบคั้น มืดบอด ฯลฯ ซึ่งในที่สุดแล้วก็จะนำไปสู่การทำลายล้างทั้งตนเองและสิ่งที่อยู่ในขอบเขตหรือใกล้ๆ อำนาจของตนให้พังกันไปเป็นแถบๆ ด้วย

"พูดชัดๆ ระบอบเก่าในความหมายของกลุ่มที่จัดทำเอกสารใต้ดินก็คือ "สถาบันเบื้องสูง"!"

 คิดเองเออเอง โยงเปรมให้เกี่ยวข้องด้วย เปรมก็แค่คน อย่างนี้ถึงจะเรียก "จาบจ้วง"

เอกสารใต้ดินที่คุณว่า ใครเป็นคนทำ และถ้าหมายถึงเบื้องสูงจริง
คนทำเอกสารใต้ดินฉบับนั้นเอาสิทธิ เอาหลักฐานอะไรมากล่าวหาจาบจ้วง และจาบจ้วงไปเพื่ออะไร

ถ้าป๋าเป็นคนธรรมดาๆคนนึง แล้วคุณคิดว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
ทำไมป๋าที่เป็นคนธรรมดาๆถึงสั่งทหารได้ละ

ถ้าป๋าไม่ได้เป็นคนธรรมดา ป๋าเป็นคนไม่ธรรมดาถึงระดับไหนเพราะอะไรถึงไม่ธรรมดา
แล้วเหตุใดคนไม่ธรรมดาคนนั้นถึงต้องไปสั่งทหารให้ไปล้มทักษิณด้วย

อย่าตอบว่าอิจฉาหรือเถียงข้างๆคูๆแถไปแถมานะครับ มันทุเรส

นี่คุณเมาหรือผมงงเนี่ย

ผมพูดถึงคนเขียนบทความ

ที่โยงเรื่องการกล่าวหาเปรมไปเกี่ยวกับการหมิ่นเบื้องสูง ว่าคิดเองเออเอง

เปรมก็แค่คนๆหนึ่ง มันไปเปรียบกันไม่ได้

และเหตุใดๆๆๆของคุณหนะ

ขึ้เกียจตอบ มันตอบกันมาเยอะแล้ว หลายคน หลายที่

สุดท้ายมันก็ไอ้ยอมรับไม่ได้อยู่ดี ความคิดกูถูกคนเดียว ไม่มีประโยชน์หรอก :slime_surrender:

อืม...ว่าจะได้คุยเปิดประเด็นซักถามกันแล้วนะ
เอาเถอะ ไม่ตอบหรือตอบไม่ได้ก็แล้วแต่คุณ
คุณก็คงเป็นพวก "สุดท้ายมันก็ไอ้ยอมรับไม่ได้อยู่ดี ความคิดกูถูกคนเดียว ไม่มีประโยชน์หรอก"
อย่างที่คุณว่านั่นแหละ

โอเค ผมตอบไม่ได้

ผมยอมรับไม่ได้

สบายใจมั้ยครับ

 :slime_surrender:

เฮ้อ..นิสัยเด็กขี้แพ้ชวนตีอีกแล้ว
ใครเขาจะมาคาดคั้นเอาอะไรกับคุณ รู้ไม่รู้ จะคุยกัน ก็เสนอกันออกมาก็เท่านั้น
แต่คุณกลับไม่ฟังใคร พอคนอื่นมาว่าหรือแย้งเห็นไม่ตรงกับคุณคุณก็ไม่พอใจ มัวแต่ประชด
แล้วคนอื่นเขาจะรู้ข้อมูล รู้ความคิดที่คุณต้องการสื่อให้คนอื่นรู้เหรอ
จะให้คนอื่นเชื่อตามคุณ ก็เอาข้อมูลเอาเหตุผลมาคุยกันดีๆซิครับ
ด่ากันเฉยๆได้แค่ความสะใจ มันไม่ทำให้ใครเห็นด้วยกับคุณหรอก

ผมไม่ชวนตีครับ

ไม่อยากให้ใครเชื่อ และไม่มีข้อมูลครับ

ผมไม่ได้ด่าใครครับ ไม่ต้องเห็นด้วยกับผมหรอก

ผมแค่เขียนถึงสิ่งที่ผมคิด ไม่ได้ต้องการให้ใครมาคิดเหมือนผม

 :slime_surrender:

เขียนสิ่งที่คิด แต่ไม่มีข้อมูลไม่มีเหตุผล ไม่สามารถบอกคนอื่นได้
สิ่งที่่เขียนสิ่งที่คิดก็เลื่อนลอย แล้วสิ่งที่คุณตอบมามันคืออะไรหรือครับ
คำพูดเล่นๆที่หลุดออกมาจากปากโดยไม่ผ่านระบบประสาทอย่างนั้นเหรอ

ลองดูใหม่นะ

เขียนสิ่งที่คิด - อ่านแล้ว คิดแล้วจึงเขียน

แต่ไม่มีข้อมูลไม่มีเหตุผล  - ก็ที่อ่านนั่นแหละ ข้อมูลและเหตุผล

ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ - ก็บอกอยู่นี่ไง

คำพูดเล่นๆที่หลุดออกมาจากปากโดยไม่ผ่านระบบประสาทอย่างนั้นเหรอ - คิดยังไงไม่ผ่านระบบประสาท งง?

อย่าทำเป็นคนเข้าใจยากสิ เจ้าหนูจำมัย :slime_bigsmile:

คุยอยู่กับคนบ้า ไม่อยู่กับร่องกับรอยนี่เอง  :slime_smile2:

ถ้าคิดอย่างนั้นแล้วคุณดูสูงส่งขึ้น

ก็ตามใจคุณเถอะครับ
 :slime_surrender:

เขียนอย่างที่คิดจริงๆครับ เข้าใจๆ :slime_smile2:

 :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

เข้าใจด้วย :slime_agreed:

แหม...เข้าใจแล้วเหรอ นึกว่าจะป่วนบอร์ดต่อซะอีก
งั้นวันหลังมาป่วนใหม่นะ จะช่วยป่วนช่วยพลัดกระทู้ให้ยาวๆ
ก็เป็น...แบบนี้นี่น๊า เข้าใจๆ  :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

เข้าใจอีก

แสนรู้จริงๆ :slime_smile2:

เรียกเปรมเฉยๆ แบบนี้ อายุคุณยาธาตุน้ำแดง คนเกินเลขหกหลักแล้วม้าง

คนไทยให้เกียรติกัน ตามหลักอาวุโสบ้างก้อได้นะ

เข้าใจครับ

แต่ต้องขอเป็นเหตุผลส่วนตัวก็แล้วกัน

เรียกแค่ชื่อ คงไม่จาบจ้วง

หรือหมิ่นเบื้องสูงกระมัง

ขอ[/color]


ขอบคุณที่ชี้แจง  กรรมย่อมส่อเจตนา

ใครอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยน แกว่งปากหา.......เชิญตามสบาย แค่ตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย

ไปแระ...... บาย

ทำไมครับ ผมเรียกเปรม ผิดตรงไหน

มันแกว่งเท้าตรงไหน แกว่งปากตรงไหน

ผมไปด่าเค้าเหรอ ก็ปล่าว

คุณจะเรียกอะไรก็เรื่องของคุณสิ สิทธิส่วนบุคคล

เดี๋ยวนี้สิทธิแม้แต่จะเรียกชื่อ ก็โดนริดรอนแล้วเหรอ ประเทศไทย

ขี้ทูตกุดถังวาจา มุสา วาทา เวระมณี สิขาปะทัง สะมา ทิยามิ

ขอสุขจงบังเกิด แก่ผู้ประพฤติธรรมที่ไม่ฝักใฝ่ในอาจม สาธุ :slime_worship:

ขอปัญญาจงบังเกิด แก่ผู้ประพฤติธรรมที่ไม่ฝักใฝ่ในรถถัง  สาธุ(แจมด้วย) :slime_worship:

ฮั๋นแน่ เห็นลิ้นไก่ตะเองแร๊วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

ปุจฉา วิสัชนา เวระมณี พาที มรนัง สุขัง

"พูดก่อนคิด จะตามติดจนชีพวาย"

เห็นแค่ลิ้นไก่เองเหรอ

"คิดแต่ไม่พูด จะตามตูดจู้ดๆตาย" นะจ๊ะ :slime_smile2:

ดันทุรัง กัมมัง ญาติโญ โหนตุ


คนที่ดื้อรั้น ประพฤติ ปฏิบัติ มิชอบ ก็เห็นเป็น เช่นนี้แล :slime_bigsmile:

สันดานคล้ายๆกับขี้ข้าตัวนึงเลยครับ ตั้งใจป่วนกระทู้เพื่อที่จะเบี่ยงเบนประเด็นออกไป
ถามอย่างตอบอย่าง เฉไฉไปเรื่อยๆ คุยอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง ทะลึ่ง ลามปามไปทั่ว
พอโดนไล่มากๆก็แอบหายหัวไปซักพัก แล้วก็กลับมาบ้าต่อ
แต่ขี้ข้าตัวนั้นยังดีที่ชอบฟลัดกระทู้ตัวเองมากกว่ากระทู้คนอื่น
นับว่าเป็นขี้ข้าที่พัฒนาให้เลวลงกว่าขี้ข้าพวกก่อน
หวังว่าคงคงได้ตาม 9หน่อไปนอนในคุกเร็วๆนะครับ

 :slime_bigsmile:

มันกำเริบมาตั้งแต่ นายยุ่งเรื่อง สังฆราช

กับเรื่อง คตส แล้วหละครับ


 :slime_sentimental:

ขอเสริมการแบ่งจำพวก "ซ้าย" หน่อยครับ
ยังมีซ้ายอีกพวกนึงครับ คนแถว ๆ สถานสุรา โอวด์เล้ง ให้คำจำกัดความว่า "ซ้ายตีหม้อ"

เดี๋ยวนี้ใช้คำว่าซ้ายกับบางคนไม่ได้ ต้องเรียกว่า เกรียน ครับ ถึงจะถูก  เกรียนจริงๆนะเอ้อ  :slime_bigsmile:

ใครซ้าย ใครขวา
คิดเอง เออเอง
ระบบกล่าวหา
เปลี่ยนได้แล้ว :slime_p:

คนเป็นซ้ายผมก็ว่าดี ขวาก็ว่าดี
แต่อย่าสุดโต่ง ถ้าขวาแบบไอ้หมักก็เลิกคุย
ผมคิดว่าซ้ายดีกว่านะ (ความคิดตนเอง)

อ่อหรอ เพิ่งจะรู้นะเนี่ย ว่าระบบกล่าวหาเค้าไม่ใช่กันแล้ว

คิดเอง เออเอง  คำพวกนี้มันสงวนลิขสิทธิ์ใช้ได้เฉพาะคนบางกลุ่มหรือไง

ถามจริง ในชีวิต ทำอะไรไปแล้วจำไรได้บ้างเนี่ย .. :slime_doubt: