ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

บิ๊ก‘ไอเอ็มเอฟ’ ยาหอมศก.ไทย

โพสต์ทูเดย์ — บิ๊กไอเอ็มเอฟฟังธงเศรษฐกิจไทยมีอนาคต หลังการเมืองชัดและจัดเลือกตั้งในปีนี้

นายโรดริโก เดอ ราโต ผู้อำนวย การกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในโอกาสเดินทาง มาร่วมสัมมนาผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น หากมีความชัดเจนทางการเมือง และมีการเลือกตั้งภายในปีนี้ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา

ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อต่ำ เป็นจังหวะที่ดีในการตัดสินใจลงทุน เพราะเป็นตัวสะท้อนต้นทุนในการลงทุนที่ลดลง รวมถึงการช่วยให้การนำเข้าน้ำมัน เครื่องจักรอุปกรณ์ และวัตถุดิบถูกลง กระตุ้นเศรษฐกิจเติบโตต่อไปในระยะยาว

“การจะลงทุนหรือไม่ นักลงทุนจะพิจารณาดูนโยบายการเงิน ภาวะเศรษฐ กิจ การเมือง และข้อกฎหมายต่างๆ ควบคู่ไปด้วย ซึ่งไทยมีปัจจัยที่เอื้อมากหากการเมืองชัดเจน” นายราโต กล่าว

นายราโต กล่าวว่า เศรษฐกิจของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีโอกาสจะกลับมาเกิด วิกฤตเหมือนในปี 2540 ได้ เนื่องจากมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

สำหรับปัญหาเงินทุนไหลเข้านั้น นายราโต กล่าวว่า การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ รัฐบาลไม่ควรใช้มาตรการใดมาตร การหนึ่งอย่างเดียว แต่ควรทำควบคู่ไปในหลายมาตรการ

ทั้งนี้ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัดสินใจใช้นโยบายการเงินมุ่งดูแลอัตราเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว แต่การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็งจะต้องทำควบคู่ทั้งนโยบายการเงิน และการคลัง

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เปิดบ้านพิษณุโลก” ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2550 ไม่ได้ลดลง จากการคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ทั้งของ ธปท. ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และสถาบันอื่นทั่วๆ ไป ก็มองว่าเศรษฐกิจของเราจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้าด้วยซ้ำไป จากที่เราเคยบอกว่าจะเติบโตประมาณ 3.8-4% กว่าๆ ขณะนี้เพิ่มเป็น 4% ถึง 4.5%

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า จะเห็นชัดเจนว่าโดยภาพรวมแล้ว การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้ลดลง อาจจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการในบางภาคบางส่วน ซึ่งรัฐบาลก็หาทางที่จะปรับแก้กันอยู่ในขณะนี้ ด้วยการตั้งกองทุน ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท