หัวข้อ: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-07-2007, 18:07 ผ่านไปอีกเปลาะ พิษค่าเงินบาทที่แข็งค่า เงินหายไปหลายบาท
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ทำไมคนสั่งสินค้าถึงงดออร์เดอร์ ไป 40 % ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่เคลียร์ครับ รัฐบาลขิงแก่ เกาะติดสถานการณ์ได้ดี แก้ปัญหาให้พ้นไปเปลาะหนึ่ง แม้ช่วยเจรจาให้แบ็งค์ปล่อยเงินกู้ต่อ แต่ยังไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ควรตามติดโรงงานต่าง ๆ ให้ใกล้ชิดกว่านี้ ผมว่า...น่าจะเปิดใจ คุยกับเจ้าของโรงงานทั้งหลาย หาหนทางป้องกันปัญหาแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ตกอกตกใจจนเกิดวิกฤติ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 12-07-2007, 18:23 ท่านCanCan
โรงงานถูกตัดออร์เดอร์ไป70%ครับ ปัญหาของสิ่งทอคือ ทุกแบงค์งดปล่อยสินเชื่อครับ ธุรกิจสิ่งทอขึ้นแท่น อันดับ1 งดปล่อยสินเชื่อเด็ดขาด ถ้าทางรัฐบาล สามารถเจรจาให้ธนาคาร ปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจสิ่งทอ กลับมาเป็นปกติ วงการสิ่งทอก็ยังจะพอสู้ต่อครับ ตอนนี้ธุรกิจสิ่งทอ ถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง จากทุกธนาคาร รอเวลาทยอยเลิกกิจการครับ หวังว่ารัฐบาล จะต่อท่อน้ำเลี้ยง ให้โดยด่วยครับ :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-07-2007, 18:41 วิกฤตินี้ เกี่ยวเนื่องกับการถูกตัด GSP หรือเปล่าครับ
ผมว่าให้คุณจี มาสรุปให้ฟังก็ดีนะครับ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 12-07-2007, 18:45 ฟังแล้วนึกถึงชาวนาไทย
เริ่มด้วยการกู้เงินเขามาซื้อเมล็ดพันธ์ กู้เงินมาซื้อปุ๋ย กู้เงินมาจ้างแรงงานช่วยทำนา กู้เงินมาซื้อน้ำมันเติมรถไถเติมเครื่องสูบน้ำ กู้เงินมาจ้างเกี่ยวข้าว แล้วข้าวขายไม่ได้ราคา ไม่มีคนรับซื้อ ต้องเดินขบวนให้รัฐบาลประกันราคาพืชผล ซึ่งก็แปลว่าบังคับให้รัฐบาลซื้อข้าวนั้นในราคาที่ชาวนาบอกว่าอยู่ได้ เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้เงินกู้ แล้วก็จะตามไปกู้มาทำเช่นนี้ในปีต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป :slime_doubt: มาวันนี้ถึงคิวของโรงงานอุตสาหกรรม กู้เงินมาดำเนินกิจการ หากประสบปัญหา ก็เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ กู้เงินไม่ได้ ก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ บาทแข็งก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ บาทอ่อนก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ บาทอยู๋เฉยๆนิ่งๆ ก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ คิดอะไรไม่ออก ทำอะไรแล้วกลัวเข้าเนื้อ ปิดโรงงานหนีไปก่อน ล้มบนฟูก ไม่เจ็บตัวดี อ่อนแอ ไร้เดียงสา ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หน่อมแน้ม คิกขุอาโนเนะ เขาทำการค้า ทำอุตสาหกรรมกันอย่างนี้นี่เอง รู้งี้ไปทำมั่งนานแล้ว ขาดทุนก็ปิดโรงงานแล้วยุคนงานมานั่งขวางถนน รัฐมันจะได้รีบๆช่วย ง่ายจังเลย :slime_smile2: เดี๋ยวโดนด่าแน่ๆตู :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 12-07-2007, 19:12 เข้ามาเชียร์พี่พรรณชมพู :slime_v: :slime_v:
เห็นด้วยค่ะ ถ้าอยู่ๆเพราะเงินบาทแข็ง แล้วมาเจ้งทันที มันเป็นไปได้เหรอค่ะ :slime_doubt: :slime_doubt: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 12-07-2007, 19:22 ไนกี้อาดิดาสไม่สั่งของก็ทำแบรนด์ขายเองเลย
คุณภาพเดียวกัน :slime_fighto: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 12-07-2007, 19:31 ยินกับพนักงานด้วยละกันครับ
ยังไงก็ต้องช่วยๆ กัน ลูกจ้างช่วยนายจ้าง นายจ้างช่วยลูกจ้าง ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม อิอิ ดีนะเนี่ยแม่ผมเป็นแค่แม่ค้าขายข้าวแกง เงินจะอ่อนหรือจะแข็ง ก็ไม่เห็นแกมานั่งบ่นสักคำ แถมไม่พอใจยังด่าลูกค้าซะอีกน่ะ ชอบซื้อก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-07-2007, 19:44 ผ่านไปอีกเปลาะ พิษค่าเงินบาทที่แข็งค่า เงินหายไปหลายบาท แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ทำไมคนสั่งสินค้าถึงงดออร์เดอร์ ไป 40 % ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่เคลียร์ครับ รัฐบาลขิงแก่ เกาะติดสถานการณ์ได้ดี แก้ปัญหาให้พ้นไปเปลาะหนึ่ง แม้ช่วยเจรจาให้แบ็งค์ปล่อยเงินกู้ต่อ แต่ยังไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ควรตามติดโรงงานต่าง ๆ ให้ใกล้ชิดกว่านี้ ผมว่า...น่าจะเปิดใจ คุยกับเจ้าของโรงงานทั้งหลาย หาหนทางป้องกันปัญหาแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ตกอกตกใจจนเกิดวิกฤติ ปัญหาของโรงงานนี้ คงมีหลายเรื่อง แต่จะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง ที่สำคัญมาก คือ..... โรงงานรับจ้างผลิต รับจ้างทำของนั้น อนาคตของโรงงานขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างฯ ถ้าผู้ว่าจ้างเลิกจ้างแล้ว โรงงานอาจจะอยู่ต่อไม่ได้ โดยเฉพาะโรงงานที่รับจ้างผลิต มีผู้ว่าจ้างรายเดียว หรือ รายใหญ่ ยกเลิกการว่าจ้าง.... ทั้งนี้เพราะ โรงงานอาจจะไม่มีความรู้ เทคโนฯในการผลิตสินค้าอื่น ๆ หรือ ยี่ห้ออื่น ๆ เลย จึงต้องเริ่มต้นศึกษาใหม่ ลงทุนใหม่ ในภาวะที่ขาด"สินเชื่อ"หล่อเลี้ยง จะไปเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไร.. :?: โรงงานรับจ้างผลิต รับจ้างทำของนั้น ต้องอาศัย" จมูก"คนอื่น ๆ หายใจตลอดไป ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นนี้.... ผลกำไรที่ได้รับมาอาจจะไม่มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรการผลิตใหม่ หรือ เทคโนฯ สมัยใหม่ตามประสงค์ผู้ว่าจ้างฯ.... ผู้ว่าจ้างสามารถเปลี่ยนแปลง ยกเลิกสัญญากับผู้รับจ้างเสมอตามที่ตกลงกันไว้ อาจจะเปลี่ยนไปประเทศอื่น ๆ ที่ค่าแรงถูกกว่า ได้ด้วย.... ธุรกิจนี้เป็น'ตลาด'ของผู้ว่าจ้างฯ ที่ต้องการเลิกจ้างสามารถกล่าวหรือแสดงอะไรทั้งสิ้น แม้แต่การอ้างจ้างแรงงานเด็ก กดราคา มลภาวะ ฯลฯ..... พูดอย่างกำปั้นทุบดิน คือต้องมี"แบรนด์" ของตนเอง และทำตลาดเอง... แต่ต้องมีความสามารถ พัฒนาการคุณภาพสินค้า รูปแบบสินค้า และเข้าใจการตลาด การติดต่อการระหว่างประเทศ ฯลฯด้วย หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 12-07-2007, 19:46 บางครั้งการพัฒนาศักยภาพให้ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง คงต้องใช้เวลา ก็ขอภาวนาให้ธุรกิจเป็นไปอย่างปกติด้วย
รัฐบาลควรดูธุรกิจตัวอื่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักด้วย หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-07-2007, 19:48 เข้ามาเชียร์พี่พรรณชมพู :slime_v: :slime_v: เห็นด้วยค่ะ ถ้าอยู่ๆเพราะเงินบาทแข็ง แล้วมาเจ้งทันที มันเป็นไปได้เหรอค่ะ :slime_doubt: :slime_doubt: อยากให้คุณพรรณชมพูและคุณใบไม้ทะเล มองอีกด้านหนึ่ง..... ถ้าเจ้าของโรงงานมีความสุจริตใจ อาจจะแก้ไขปัญหานานาชนิดมาแล้ว..... จนถึงวันหนึ่ง การถูกตัด'ออเดอร์' คือจุดจบ หมดแรงต่อสู้ครับ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 12-07-2007, 19:57 ตายยยย.. แบบนี้... พวกมัน... ก็หาเรื่องโยงไปด่ารัฐบาลนี้ม่ะได้แล้วซิตัวเอง... :slime_smile2: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 12-07-2007, 19:59 อยากให้คุณพรรณชมพูและคุณใบไม้ทะเล มองอีกด้านหนึ่ง..... ถ้าเจ้าของโรงงานมีความสุจริตใจ อาจจะแก้ไขปัญหานานาชนิดมาแล้ว..... จนถึงวันหนึ่ง การถูกตัด'ออเดอร์' คือจุดจบ หมดแรงต่อสู้ครับ ไม่ได้ต้องการต่อว่าเจ้าของโรงงานหรอกค่ะ ในเรื่องประกอบการเจ๊ง แต่สำหรับความรับผิดชอบต่อคนงานนั้น ยังไงก็ต้องตำหนิค่ะ ทำงานมาด้วยกัน วันดีคืนดีปิดโรงงานเฉยๆไม่บอกกล่าว คนงานตกใจแทบสิ้นสติ ไม่ใช่คนเดียว แต่ทั้งโรงงาน เหมือนฟ้าผ่าลงมา ดูตัวอย่างคนหนึ่ง (จริงเท็จไม่ทราบ เขาเล่ามา) คือคนที่ขายแซนด์วิชไงคะ บริษัทเขาเจ๊งเหมือนกัน เขาประชุมเลิกกิจการ แต่หาทางออกให้ตนเองด้วยการขายแซนด์วิช ลูกน้องก็เข้าร่วมทำงานกับเจ้านาย ไม่ทอดทิ้งกัน ช่วยกันขายแซนด์วิช กอดคอกันให้รอดไปด้วยกัน ตัวอย่างคนขายแซนด์วิชนี้ คือคนที่รับผิดชอบต่อสังคม แต่การปิดโดรงงานแล้วไปล้มบนฟูก เอาตัวรอดนั้น เป็นธณรมดาของนายทุนทุกหนทุกแห่ง ทุนสามานย์ไงคะ และเราจะได้เจอพวกนี้อีกมากเลย โรงงานในประเทศไทย จะมีกี่พันกี่หมื่นโรงก็ไม่มีตัวเลขค่ะ แต่ทำนายไว้ได้เลยว่า น่าจะมีสักโรงหนึ่ง ที่เจ๊งแล้วไม่ทอดทิ้งคนงาน นอกนั้น ทิ้งทั้งหมดค่ะ เอาตัวรอดไปแต่เจ้าของเท่านั้น มันเหมือนการจับตัวประกัน หากรัฐอุ้มชู ก็จะรับคนงานไว้ทำต่อไป หากรัฐไม่ช่วย ก็จะทิ้งให้มันตายกันไป การที่รัฐเข้าไปช่วยเหลือทุนสามานย์พวกนี้ คือการทำร้ายประเทศชาติอย่างแท้จริง วันนี้ ช่อง 3 ก็ไปสัมภาษณ์คนงานคนหนึ่ง ที่ทิ้งไร้นาเข้ามาเป็นกรรมกรในโรงงานนี้ เพราะคิดว่าจะให้ชืวิตที่ดีกว่า แล้วก็ถูกลอยแพ จะกลับไปทำนาก็ต่อไม่ติดเสียแล้ว นี่แหละค่ะ ผลร้ายของทุนสามานย์ กดขี่ค่าแรงงาน ขโมยเวลาในชีวิต ปล่อยมลพิษ ทำลายสิ่งแวดล้อม รวยคนเดียว ไม่ได้ว่าคุณปถุชนนะคะ อย่าเข้าใจผิด :slime_worship: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 12-07-2007, 20:33 วิกฤตินี้ เกี่ยวเนื่องกับการถูกตัด GSP หรือเปล่าครับ
ไม่เกี่ยวกันเลยครับ มาวันนี้ถึงคิวของโรงงานอุตสาหกรรม กู้เงินมาดำเนินกิจการ หากประสบปัญหา ก็เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ กู้เงินไม่ได้ ก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ บาทแข็งก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ บาทอ่อนก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ บาทอยู๋เฉยๆนิ่งๆ ก็ร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ คิดอะไรไม่ออก ทำอะไรแล้วกลัวเข้าเนื้อ ปิดโรงงานหนีไปก่อน ล้มบนฟูก ไม่เจ็บตัวดี อ่อนแอ ไร้เดียงสา ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หน่อมแน้ม คิกขุอาโนเนะ เขาทำการค้า ทำอุตสาหกรรมกันอย่างนี้นี่เอง รู้งี้ไปทำมั่งนานแล้ว ขาดทุนก็ปิดโรงงานแล้วยุคนงานมานั่งขวางถนน รัฐมันจะได้รีบๆช่วย ง่ายจังเลย คนทำธุรกิจสิ่งทอเมืองไทยนี่ พูดได้เลยว่าเก่งมากๆ ไม่แพ้ใครในโลกใบนี้ แต่เขาเหล่านั้นไม่เคยได้รับการช่วยเหลืออะไรจากทางรัฐบาลเลยทุกรัฐบาล ขาดการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม ธุรกิจสิ่งทอไทยยังสามารถต่อสู้มาถึงจุดนี้ คุณพรรณชมพู ไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจสิ่งทอไทยให้มากกว่านี้นะครับ ไนกี้อาดิดาสไม่สั่งของก็ทำแบรนด์ขายเองเลย ทำได้ครับแต่ใครจะมาซื้อล่ะ คุณลืมหรือยัง ภูมิใจใช้ของไทย ใช้ธานินทร์ แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ทำไมคนสั่งสินค้าถึงงดออร์เดอร์ ไป 40 % ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่เคลียร์ครับ ท่านCanCan ตั้งข้อสังเกตุได้ถูกต้องครับ ผมจะอธิบายให้ฟัง โรงงานที่รับงานจากพวกฝรั่งพวกนี้นะ ก่อนที่จะเอางานมาลง เขาต้องมาตรวจสอบที่เรียกว่าออดิตโรงงานก่อน ในการตรวจสอบเขาก็มีมาตราการของแต่ละบริษัทคอยควบคุมโรงงาน เมื่อโรงงานผ่านการตรวจสอบแล้ว เขาถึงจะลงออร์เดอร์ มาตราการที่เขามาตรวจสอบมันมีหลายข้อมาก จะยกตัวอย่างที่ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจง่ายๆ เช่น โรงงานต้องไม่ใช้แรงงานเด็ก โรงงานต้องจ่ายค่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนด โรงงานต้องจ่ายค่าOT.ตามกฎหมาย ต้องมีสวัสดิการณ์อะไรต่างๆก็ว่ากันไปรวมทั้งมาตราการความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมันมีมากมายครอบคลุมยิ่งกว่า ข้อบังคับการทำงานของกฎหมายไทยเสียอีก การตรวจโรงงานนี่เขาจะตรวจ2ปีครั้ง หรืออาจจะมากปีกว่านี้ ก็แล้วแต่ แต่ละบริษัท แล้วถ้าโรงงานไหนไม่ผ่านการออร์ดิต ลูกค้าก็จะไม่ลงออร์เดอร์ให้ หรือที่เคยลงอยู่แล้ว ก็จะตัดออร์เดอร์การสั่งซื้อลง ก็ขออธิบายพอให้เข้าใจครับ ท่านนายกสุรยุทธ์ครับ ธุรกิจสิ่งทอ รอให้ท่านมี มาตราการให้ธนาคาร ต่อท่อน้ำเลี้ยง ให้ผู้ประกอบการด่วนครับ ก่อนจะล้มหายตายจาก ไปทีละราย ทีละราย :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 12-07-2007, 20:48 ท่าน ปุถุชน
แสดงความคิดเห็นได้ตรงประเด็นครับถูกต้องครับ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 12-07-2007, 21:18 อ้างถึง คนทำธุรกิจสิ่งทอเมืองไทยนี่ พูดได้เลยว่าเก่งมากๆ ไม่แพ้ใครในโลกใบนี้ แต่เขาเหล่านั้นไม่เคยได้รับการช่วยเหลืออะไรจากทางรัฐบาลเลยทุกรัฐบาล ขาดการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม ธุรกิจสิ่งทอไทยยังสามารถต่อสู้มาถึงจุดนี้ คุณพรรณชมพู ไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจสิ่งทอไทยให้มากกว่านี้นะครับ รับทราบค่ะ แต่ที่ทราบมา การได้สิทธิพิเศษทางศุลกากรจากสหรัฐอเมริกา มันแลกกับการให้สิทธิ์อย่างอื่นกับอเมริกา และสิทธิพิเศษทางศุลกากรด้านสิ่งทอนั้น ก็คือสิ่งที่รัฐบาลจะสมัยไหนก็ตาม ช่วยเหลือกิจการสิ่งทอ โรงงานสิ่งทอใหญ่ๆหัวสนามบินดอนเมือง ของนักการเมืองใหญ่ที่เคยเป็นรัฐบาล เป็นตัวอย่างของการได้รับความช่วยเหลือค่ะ ทุกอุตสาหกรรมในประเทศไทย ต่างก็มีตัวแทนเข้าไปในวงการเมือง และต่อรองกับรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย ความช่วยเหลือนั้นอาจจะมองไม่เห็นเป็นตัวเงิน หรือการปฎิบัติที่เห็นชัดเหมือนธุรกิจการเงิน แต่มีการช่วยเหลือแน่นอนค่ะ ไม่ได้เป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารักหรอกค่ะ :slime_v: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-07-2007, 22:02 น่าจะลองหาข้อมูลจากทาง กรุงเทพธุรกิจ หรือ ประชาชาติธุรกิจ
หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-07-2007, 22:23 ลูกจ้างไทยศิลป์ฯ เฮ เจ้าของยอมเปิดโรงงานเดินเครื่องต่อ
12 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 14:54:00 พนักงานโรงงานไทยศิลป์ร่วม 6 พันคนที่ตกงานกะทันหัน ได้เฮ หลังแกนนำผู้ชมนุมเจรจากับเจ้าของโรงงาน ระบุจะเปิดกิจการต่อ ไม่ลอยแพพนักงาน กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ความคืบหน้ากรณี บ.ไทยศิลป์อาคเนย์ อิมพอร์ตเอ็กซ์พอร์ต จำกัด ชุมนุมประท้วงปิดถนนกิ่งแก้ว หน้าโรงแรมแกรนด์อินคำ จ.สมุทรปราการ ล่าสุดทางแกนนำของผู้ชุมนุมได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่าโรงงานจะเปิดดำเนินกิจการต่อ แต่ทั้งหมดนั้นให้รอนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ และนางเยาวลักษณ์ บุญโอภาส ประธานบ.ไทยศิลป์อาคเนย์ อิมพอร์ตเอ็กซ์พอร์ต จำกัด มาบอกข่าวดีดังกล่าวด้วยตัวเอง ทำให้ผู้ชุมนุมต่างไชโยด้วยความดีใจ หลังตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความหวัง ทั้งนี้ ในการหารือนั้น นายพิพรรษ อุนโอภาส เจ้าของบริษัทไทยศิลป์ฯ พร้อมจะเปิดกิจการต่อ แต่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง เมื่อทางกระทรวงแรงงานได้เจรจากับสมาพันธ์สิ่งทอ เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ เรื่องสภาพคล่อง บริษัทไทยศิลป์ฯ ก็พร้อมจะดำเนินการต่อ โดยบริษัทจะจ่ายเงิน ให้กับลูกจ้างกรณีปิดกิจการ 2 วัน ส่วนค่าจ้างอาจจะมีการจ่ายช้าไปบ้าง http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/12/WW10_WW10_news.php?newsid=83758 หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-07-2007, 22:40 บางครั้งการพัฒนาศักยภาพให้ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง คงต้องใช้เวลา ก็ขอภาวนาให้ธุรกิจเป็นไปอย่างปกติด้วย รัฐบาลควรดูธุรกิจตัวอื่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักด้วย ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการส่งออกสินค้า อยากจะมีแบรนด์ของตนเอง เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ แต่ในโลกความเป็นจริง ทำไม่ได้ทุกเรื่อง ทุกอย่าง อย่างง่ายดายตามอุดมคติ.... รัฐบาลก็อยากให้สินค้าส่งออกไปต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้"สิทธิพิเศษ" ที่ประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรป หรือ ญี่ปุ่น เป็นต้น ยกให้.... เพราะรัฐบาลนั้น ต้องสูญเสีย"อธิปไตย" สูญเสีย"ความคิดเห็น"ในเวทีการเมืองโลก เพื่อให้สินค้าของประเทศได้ส่งออกด้วยสิทธิพิเศษนั้น.... ในขณะเดียวกันรัฐบาล"หัวแข็ง" ต้องผจญ ต้องประสบมาตราการสำหรับรัฐบาล"หัวแข็ง" ไม่ว่ามาตราการกีดกัน มาตราการสังคม มาตราการสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่ง พูดอีก ก็ถูกอิฐ..... :!: ประเทศ หรือ รัฐบาลที่ใช้นโยบายเศรษฐกิจ"พอเพียง" ไม่เป็นที่ต้องการของมหาอำนาจเศรษฐกิจ"ทุนสามานย์" อย่างแน่นอน..... เพราะประเทศที่ใช้นโยบายเศรษฐกิจ"พอเพียง"นั้น ไม่ต้องพึ่งพา"ทุนสามานย์" ไม่กระตุ้นคนในประเทศให้"บริโภคทุนนิยม" ฟุ่มเฟือย เป็นหนี้สินอย่างประเทศที่ถูกรัฐบาลกระตุ้น"บริโภคนิยม"..... หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 13-07-2007, 09:09 หนูไม่ค่อยมีความรู้หรอกค่ะ แต่คิดไปตามเหตุการณ์ที่มันน่าจะเป็นเท่านั้น
มีแค่ธุรกิจสิ่งทออย่างเดียวเหรอ ที่รัฐบาลไม่ช่วยสนับสนุน หนุว่าน่าจะมีอีกเยอะ แต่ทำไมพวกเขายังอยู่ได้...... แล้วการเข้ามาอุ้มชู ของ รบ. จะเป็นแบบอย่างให้พวกโรงงานอื่นที่ใกล้เจ้ง เอาแบบอย่างไหม ? ที่ลุงปุ พูดมาก็ถูกค่ะ ให้มุมมองที่อนาไม่รุ้มาก่อน แต่ก็ยังติดใจว่า ทำไม ความรับผิดชอบต่อกิจการ มันต้องเป็นแบบนี้เหรอ ถ้าแก้ปัญหานี้มาแต่เนินๆ จะถึงขนาดปิดทิ้งทันทีเหรอ มันน่าจะซอพมากกว่านั้น ??????? หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 13-07-2007, 09:56 ในอดีตสิ่งทอไทยที่พอจะส่งออกได้โดยไม่มีปัญหา
เพราะมันมีโควต้าครับ ทางการจีนไม่สามารถทุ่มตลาดเพราะติดโควต้า ผู้ประกอบการของไทยก็ส่งออกได้ แต่ปัจจุบันจีนไม่ได้ติดโควต้า ก็สามารถทุ่มตลาดได้ เพราะสินค้าเสื้อผ้าจากจีนราคาถูกกว่าของไทยมากๆ ปัญหาธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าของไทย เริ่มขึ้นเมื่อเปิดฟรีเทรด โดยที่สินค้าจากจีนสามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปและอเมริกาโดยไม่ติดโควต้า ลูกค้าที่สั่งสินค้าจากไทย ก็ทยอยค่อยๆหันไปสั่งสินค้าจากทางจีนซึ่งราคาถูกกว่าของไทยมาก ประกอบกับทางธนาคารเริ่มงดการให้สินเชื่อกับธุรกิจส่งออกเสื้อผ้า ปัญหาก็ค่อยๆทยอยสะสมมาเรื่อยๆ ปัจจุบันธุรกิจส่งออกเสื้อผ้า เครดิตที่ได้รับจากธนาคารเกือบจะเป็นศูนย์แล้วครับ ทางผู้ประกอบการส่งออกเขาขอให้รัฐช่วยแค่ ขอให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้แก่เขาเป็นปกติก็พอแล้วครับ ทางผู้ประกอนการเองเขาก็ปรับตัวครับ เขาปรับตัวโดยการย้ายฐานการผลิตกลับไปที่จีนและบางส่วนก็ไปเวียตนาม ธุรกิจสิ่งทอเป็นของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และฮ่องกง ที่อยู่ในไทยมีเป็นจำนวนมาก ในอดีตที่เขาเข้ามาทำในไทยก็เพราะว่า เขาจะได้ใช้โควต้าของประเทศไทยเพื่อการส่งออกครับ ส่วนกรณีโรงงานที่เป็นข่าวสาเหตุที่ปิดก็เพราะไม่มีออร์เดอร์ครับเป็นสาเหตุใหญ่ สาเหตุรองคือธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อ(ขาดสภาพคล่อง) ค่าเงินบาทก็มีส่วน แต่ไม่ใช่สาเหตุใหญ่ ตอนนี้เปิดโรงงานแล้ว เพราะทางสมาพันธ์สิ่งทอ จะจัดหาออร์เดอร์มาลงให้ครับ ส่วนสาเหตุที่โดนตัดออร์เดอร์ของโรงงานที่เป็นข่าวตามที่ท่านCanCanตั้งข้อสัง้กตุไว้ ผมจะหลังไมล์แจ้งให้ทราบครับ หนูไม่ค่อยมีความรู้หรอกค่ะ แต่คิดไปตามเหตุการณ์ที่มันน่าจะเป็นเท่านั้น มีแค่ธุรกิจสิ่งทออย่างเดียวเหรอ ที่รัฐบาลไม่ช่วยสนับสนุน หนุว่าน่าจะมีอีกเยอะ แต่ทำไมพวกเขายังอยู่ได้...... ตั้งแต่เปิดฟรีเทรดมันกระทบไปทุกธุรกิจครับ แต่สิ่งทอได้รับผลหนักหนาสาหัสที่สุด รับทราบค่ะ แต่ที่ทราบมา การได้สิทธิพิเศษทางศุลกากรจากสหรัฐอเมริกา มันแลกกับการให้สิทธิ์อย่างอื่นกับอเมริกา และสิทธิพิเศษทางศุลกากรด้านสิ่งทอนั้น ก็คือสิ่งที่รัฐบาลจะสมัยไหนก็ตาม ช่วยเหลือกิจการสิ่งทอ ไม่เกี่ยวครับ สิ่งทอได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมาจากเรื่องฟรีเทรดดังที่กล่าว ส่วนเรื่องสิทธิทางศุลกากร ผู้ที่รับเต็มๆน่าจะธุรกิจส่งออกอาหาร(ผมไม่แน่ใจครับ) ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 13-07-2007, 11:20 GSP ยังไม่ได้ถูกตัดครับ
แค่เลื่อนจาก Watch List ไปอยู่ใน Priority Watch List ที่หลายคนคิดว่าเกิดจากปัญหา Compulsory Licensing ซึ่งจริง ๆ ว่าไปแล้วไม่ใช่เหตุผลหลัก ผมมองว่า เรื่อง CL เป็นม่านบังตาที่เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาที่พอเหมาะ แล้วรัฐบาลสหรัฐฯ ฉวยโอกาสนำมาใช้ขยับไทยขึ้นเป็น PWL แล้วก็เดินเกมส์กดดันไทยในเรื่องที่เป็นเหตุผลหลักคือ จับดีวีดีผี ซีดีผี ซอฟแวร์ผี แล้วแผ่นที่จับได้เอาไปทำลายหรือว่าสี่วันต่อมาย้อนกลับไปขายใหม่ ปัญหานี้คือเรื่องหลัก ปิดร้านซอฟแวร์ผีทั้งหมด เรื่องการค้าจะเจรจาง่ายขึ้น แต่ปัญหามันก็คือ เราต้องซื้อซอฟแวร์แพง ในเวทีการค้าโลก หยิกเล็บเจ็บไปถึงเท้าได้เลยครับ ปราบสินค้าเถื่อนพวกนี้ได้ มันก็คงดี แต่ผลเสียมันก็มี เราเสียเงินซื้อของแพงขึ้น และจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นน่าจะหลายหมื่นคนทั่วประเทศ เราสู้อะไรใครไม่ได้มากนักหรอกครับ ตราบที่เรายังต้องพึ่งตลาดต่างประเทศ อุตสาหกรรมในประเทศ มากกว่าร้อยละ 70 อิงอยู่กับเทคโนโลยี 10 กว่าปีก่อน หรือมากกว่า ผมว่าเราคงต้องทำ 2 อย่างไปพร้อม ๆ กันให้ได้ คือ พยายามผลักดันหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้บังเกิดผล ขณะเดียวกันก็พยายามพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยตัวเองให้มากที่สุด ไม่ต้องดูไกล ทำไมเรา หรือแม้แต่มาเลเซียถึงผลิตรถยนต์ใช้เองไม่ได้ ฝีมือ ความรู้ ความเชี่ยวชาญของเราน่ะมี แต่ที่เราขาดคือ เทคโนโลยี โรงถลุงเหล็กของเรายังสามารถผลิตเหล็กที่นำมาใช้เหล็กที่จะนำมาใช้ทำเป็นเสื้อสูบ ฝาสูบ และลูกสูบได้ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเทคโนโลยีที่ว่าไปแล้วมันล้าสมัยมาก ๆ สิ่งที่รัฐบาลสมัยต่อ ๆ ไปจะต้องทำควบคู่ไปก็คือ 2 อย่างที่ผมว่ามาครับ เศรษฐกิตพอเพียง เน้นการบริโภคในประเทศ ปลูกฝังให้ประชาชนรู้จักใช้จ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากถึงยากที่สุด เพราะเราตกไปอยู่ภายใต้ภาวะของการอัดฉีด จูงใจให้บริโภคติดต่อกันมานานหลายปี พูดแล้วเหนื่อยใจครับ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-07-2007, 23:48 หนูไม่ค่อยมีความรู้หรอกค่ะ แต่คิดไปตามเหตุการณ์ที่มันน่าจะเป็นเท่านั้น มีแค่ธุรกิจสิ่งทออย่างเดียวเหรอ ที่รัฐบาลไม่ช่วยสนับสนุน หนุว่าน่าจะมีอีกเยอะ แต่ทำไมพวกเขายังอยู่ได้...... แล้วการเข้ามาอุ้มชู ของ รบ. จะเป็นแบบอย่างให้พวกโรงงานอื่นที่ใกล้เจ้ง เอาแบบอย่างไหม ? ที่ลุงปุ พูดมาก็ถูกค่ะ ให้มุมมองที่อนาไม่รุ้มาก่อน แต่ก็ยังติดใจว่า ทำไม ความรับผิดชอบต่อกิจการ มันต้องเป็นแบบนี้เหรอ ถ้าแก้ปัญหานี้มาแต่เนินๆ จะถึงขนาดปิดทิ้งทันทีเหรอ มันน่าจะซอพมากกว่านั้น ??????? อยากให้คุณพรรณชมพูและคุณใบไม้ทะเล มองอีกด้านหนึ่ง..... ถ้าเจ้าของโรงงานมีความสุจริตใจ อาจจะแก้ไขปัญหานานาชนิดมาแล้ว..... จนถึงวันหนึ่ง การถูกตัด'ออเดอร์' คือจุดจบ หมดแรงต่อสู้ครับ ผมไม่ทราบเบื้องหลังการปิดโรงงานฯ ทันทีอย่างนั้น.... แต่อยากจะให้มองในแง่ดีว่าเจ้าของโรงงานหรือผู้บริหารได้ฟันฝ่าอุปสรรค แก้ไขปัญหานานาประการมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำพาธุรกิจไปได้..... เมื่อประสบ"ค่าเงินบาท"แข็งต่อเนื่อง และ "สภาพคล่อง" ก็หมดกำลังใจสู้ และอาจจะประชด ประท้วงด้วย... เห็นด้วยว่า....ถึงอย่างไรเจ้าของกิจการ/ผู้บริหารต้องแสดงความรับผิดชอบ"ลูกจ้าง"ด้วย... ผมไม่เคยสนับสนุนผู้ประกอบการรับจ้าง"ผลิตสินค้า"ในแบรนด์ของคนอื่นๆ เพราะฝากอนาคต และ ชตากรรมกับผู้ว่าจ้างฯ ที่ดี...... และยื่น"เชือกแขวนคอ"ตนเองให้กับผู้ว่าจ้างฯ ที่เลว..... หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-07-2007, 23:52 ถ้ามองในแง่ร้าย....
ก็เคยมีกิจการใหญ่กว่านี้ เคย"ล้มรวย" คือ"เบี้ยว"ค่าชดเชยค่าจ้าง หนี้ธนาคาร และเจ้าหนี้อื่น ๆด้วย.. หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 14-07-2007, 19:43 ค่าบาท...ฤๅเจตนาลอยแพ "ฉันทนา"
13 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 00:01:00 เฉลา กาญจนา....... Chalao@nationgroup.com กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ไทยศิลป์ อาคเนย์ อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด บริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้าส่งออกให้กับแบรนด์ "ไนกี้-อาดิดาส" ประกาศปิดกิจการกะทันหัน พร้อมกับลอยแพ "ฉันทนา" ร่วม 6,000 คน อ้างเหตุผลแบกรับภาระต้นทุนความผันผวนของค่าเงินบาทไม่ได้ ดูเหมือนเป็นข้ออ้างที่ช่างสมเหตุ สมผลเสียเหลือเกินสำหรับ "นายจ้าง" เลวร้ายไปกว่านั้นชีวิต "ฉันทนา" ร่วม 6,000 คน ต้องเผชิญชะตากรรม เมื่อพบบริษัทติดป้าย "เลิกจ้าง" เอาประมาณตอน 02.00 น.ของวันที่ 11 ก.ค. 2550 ทำเอาพนักงานที่ตื่นแต่เช้าเร่งรีบไปทำงานพอถึงบริษัท "เอ๋อ" กันเป็นทิวแถว เมื่อเห็นป้ายตัว "เบ้อเร่อบอกว่าเลิกจ้าง" เป็นอย่างนี้เป็นใครก็ต้องประท้วง ปัญหาที่เกิดขึ้นใคร คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ชีวิต "ฉันทนา" และครอบครัวพวกเขาจะทำอย่างไร สำหรับ "นายจ้าง" แล้วย่ำแย่อย่างที่คิดจริงหรือ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความผันผวนของค่าเงินจริงหรือ จริงๆ บริษัทผู้รับจ้างผลิตเสื้อผ้าส่งออกยิ่งรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ดังๆ น้อยรายที่กิจการเข้าขั้น "ล้มละลาย" เพราะบริษัทเหล่านี้ มีความแน่นอนของออเดอร์ผลิตสินค้า มีตลาดรองรับ รับรู้รายรับ รายจ่ายล่วงหน้า ที่สำคัญ การรับออเดอร์ต้องมีคำสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ต่างจากบริษัทที่ผลิตเสื้อผ้าแบบผลิตไป ขายไป ซึ่งไม่รู้ทิศทางตลาดที่แน่นอน แต่การทำธุรกิจอย่างนี้น้อยรายที่จะมีให้เห็น แม้แต่กลุ่มประเภทตัดเย็บเสื้อผ้า "ห้องแถว" ยังมีออเดอร์สินค้าเลย ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น "นายจ้าง" ย่อมรู้ดีว่า สาเหตุที่ต้องปิดบริษัท ถึงขั้นล้มละลายไม่ได้มาจากปัจจัยค่าเงินบาทแน่นอน ค่าเงินเพิ่มแข็งค่าขึ้นมาช่วงไม่กี่เดือน เช่นเดียวกับผู้ผลิตที่เป็นคู่แข่งค่าเงินก็แข็งเหมือน "ข้ออ้างค่าเงินผันผวนฟังไม่ขึ้น ไม่เป็นเหตุ เป็นผล ทำให้ต้องปิดบริษัท" ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปคงมีอีกหลายบริษัทที่อ้าง "ค่าเงิน" ปิดบริษัทหนี (ลงทุนที่อื่น) ทิ้งไว้แต่เพียง "ฉันทนา" อย่างนั้นหรือ หากมองย้อนกลับไปดูฐานะทางการเงินของบริษัท ออกไปทางมั่งคั่ง และมั่นคงกว่าอีกหลายๆ บริษัทเสียด้วยซ้ำ เมื่อพบว่าบริษัทที่มีรายได้เมื่อปี 2548 มีรายได้รวม 1,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้ 1,300 ล้านบาท ตัวเลขรายได้ที่ปรากฏพอจะบอกได้ว่าบริษัทนี้มีฐานะ แจ้งบันทึกงบการเงินผลกำไรมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทรายนี้ยังอยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกชั้นนำ 1 ใน 30 ของบริษัทส่งออก ย่อมรู้สัญญาณล่วงหน้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความผันผวนของค่าเงิน ถ้า "นายจ้าง" ไม่คิดเป็นอย่างอื่น "หยิบชิ้นปลามันตี ฉกฉวยความชำนาญงานฝีมือ" หนี้จากประเทศไทยไปประเทศอื่น อย่างนี้ภาครัฐสมควรเข้ามารับภาระแทน "นายจ้าง" หรือไม่ ต่อไปจะมีสักกี่ธุรกิจถ้า "นายจ้าง" ในแต่ละธุรกิจมองเห็นอนาคต ความเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้ง หอบหิ้วเอาประสบการณ์ ย้ายฐานหนีไปสร้างความร่ำรวยที่ประเทศอื่น ทิ้งไว้แต่ปัญหาสังคม ปัญหาแรงงาน ให้กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ต้องรับภาระ พวก "นายจ้าง" ทั้งหลายเสแสร้ง ทำตัวเองล้มละลาย หนีไปเปลี่ยนโฉมร่ำรวยประเทศอื่น เมื่อถึงตอนนั้น "ฉันทนา" ทั้งหลายแหล่ รวมไปถึง "พนักงานบริษัท" ต้องตกงานไปสักเท่าไร สภาพทางสังคมบ้านเราจะเป็นอย่างไร ถึงแม้ผลการเจรจาระหว่างหน่วยงานรัฐกับ "นายจ้าง" ช่วงบ่ายๆ เมื่อวานนี้ จะลงเอยด้วยดี ถอยคนละก้าวยอมรับ "ฉันทนา" เข้าทำงานอีกรอบ แต่นี่ไม่ใช่สัญญาณที่บ่งบอกว่า "มั่นคง" จะพา "ฉันทนา" ร่วม 6,000 ชีวิตให้อยู่ดีมีสุขได้เสมอไป........... http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/13/WW12_1209_news.php?newsid=83881 หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 14-07-2007, 20:13 แม้บริษัทจะก่อตั้งมานาน ตั้งแต่ 2523 สร้างเงินสร้างงานให้กับ "ฉันทนา"
แต่หากมองในสภาพความจริง "นายทุน" ต่างขยายงาน สร้างตัวขึ้น จนถึงระดับค้าขาย ร้อยล้าน พันล้าน แต่ฉันทนา ยังคงสภาพ "ค่าจ้างรายวัน" เมื่อถึงจุดที่ต้องหยุดกิจการ ผมก็ยังเชื่อว่า เจ้าของยังคงเหลืออีก หลายร้อยล้าน ขณะที่ "ฉันทนา" เก็บเงินได้เล็กน้อย และต้องกลับไปสู่พื้นฐานเดิม ๆ คือหันหน้าสู่ ภาคเกษตรกรรม สิ่งที่ต้องทำก็คือ การให้ความรู้อย่างจริงจัง เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อรองรับปัญหาเหล่านี้...การออม...ต้นทุนทางปัญญา...ที่ดิน...การตลาด..ฯลฯ... ที่จริงจากสาวโรงงานที่พอมีหัวทางการค้า เก็บเงินได้แล้ว ออกมาทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตนเองก็มีมาก การพึ่งพาตนเอง เป็นผู้ประกอบการเล็ก ๆ ของตนเอง ยังพอมีหวังครับ แม้จะเคยอยู่โรงงานใหญ่ แต่ "กองทัพมด" ในรูปแบบที่โบ๊เบ๊ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งในหนทางที่จะช่วยเหลือกันได้ เช่นการรวมกลุ่มตัดเย็บ มานั่งทำงานอยู่บ้าน วิธีการทำธุรกิจบนแรงงานของตนเองและเพื่อนพ้อง หากมีการให้ความรู้ หาแหล่งงานแหล่งเงินเสริมจากทางราชการ ยังพอมีหวัง ดีกว่ามานั่งรอความเอ็นดูจากนายทุนโรงงานใหญ่ "ฉันทนา" ต้องรู้จักรวมกลุ่มของตนเอง สืบค้นข้อมูล แล้วลองทำมันด้วยตนเอง พอมีความเข้มแข็งแล้วก้ถอนตัวออกจากสภาพ "ลูกจ้างรายวัน" มารับงาน "ลูกจ้างรายชิ้น" จะได้พัฒนาฝีมือตนเองและสร้างความมันคงให้กับตนเองและครอบครัวได้ ผมไม่ทราบว่ามี "NGO" กลุ่มใหน เข้าไปทำงานแลกเปลี่ยน เรียนรู้ตรงนี้บ้าง ผมอยากเห็น "สหกรณ์สาวโรงงาน" ในโลกอุตสาหกรรมสิ่งทอ เกิดขึ้นจริง ๆ หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 14-07-2007, 23:39 ผมเคยมีความคิดว่า......
กิจการใดได้รับการส่งเสริมจาก"BOI" ควรจะมีอัตราขั้นต่ำ สูงกว่าที่กำหนดโดยกระทรวงแรงงาน 10%-20%..... สำรองไว้ เผื่อว่ากระทรวงแรงงานจะใช้เป็นการช่วยเหลือ"ลูกจ้าง" ได้ทันท่วงที.. 1. กิจการฯ ได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆมากกว่ากิจการอื่น ๆ อยู่แล้ว 2. บางกิจการฯ ที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีใด ๆ เพียงต้องการ"ค่าแรงถูก" และ "โควต้า"ส่งออก เมื่อใด"ค่าแรง"ไม่ถูกกว่าประเทศอื่น ๆ หรือ ไม่มี"โควต้า" อีกแล้ว..... กิจการเหล่านี้ จะย้ายไปประเทศอื่น ๆ หรือ "ปิดกิจการ".... 3. บางกิจการ เทคโนโลยีในการผลิต ล้าสมัย ผลิตภัณฑ์ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก กิจการฯนั้น จะปิดกิจการทันที....เช่น บริษัทอาซาฮิ เป็นต้น รวมทั้ง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องคอมพิวเตอร์... 4. กิจการฯ ต่างชาติที่แปรโรงงาน ศูนย์ผลิตมาประเทศไทย ในขณะที่ได้เปรียบ ค่าแรง ภาษี โควต้า ฯลฯ พร้อมจะปิดกิจการ โยกย้ายไปประเทศอื่น ๆ ต่อไป... กระทรวงแรงงาน จะได้"เงินก้อนหนึ่ง"สำหรับช่วยแรงงานในโรงงานฯ เหล่านี้ได้.... ปล. ประเทศจีน มีกฏหมายให้กิจการต่างชาติต้องจ่ายค่าจ้าง"แรงงาน"บางประเทศ เช่น วิศวกร เป็นต้น 2 เท่าของโรงงานสัญชาติจีน หนึ่งเท่านั้น จ่ายให้รัฐบาลจีน... ประเทศจีนให้เหตุผลว่า รัฐบาลจีนได้อุปถัมภ์ สร้าง"แรงงาน" เหล่านี้จากเด็กอนุบาล จนสำเร็จปริญญาตรี ด้วยภาษีของประชาชน... หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 15-07-2007, 16:13 ผมอยากเห็น "สหกรณ์สาวโรงงาน" ในโลกอุตสาหกรรมสิ่งทอ เกิดขึ้นจริง ๆ
ท่านCanCan ให้เขากลับบ้านทำนาดีแล้วครับ ถามบรรดาคนงานดูซิ เวลาที่เขาทำงาน เขาใช้จิตสำนึกในการทำงานแบบไหน เขาได้รับการอบรมมาเช่นไรในยามที่เขาต้องมาสู้ชีวิตในโรงงาน ขออนุญาติคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ ผู้ใช้แรงงานทั้งหลายในการจากบ้านเกิดมาสู้ชีวิตในเมืองกรุง สิ่งที่เขาได้นำติดตัวมาด้วยคือ "ถ้ามันลำบากก็กลับมาบ้านเด้อ ยังไงบ้านเราก็มีข้าวให้กิน" แค่เริ่มต้นก็แพ้แล้วครับ เมื่อก้าวขาเข้าสู่โรงงาน สิ่งที่เขาได้รับจากการเผยแพร่ของทางการคือ "โรงงานอยู่ได้เพราะคนงาน" อันนี้เป็นยาพิษที่ทำให้เขาไม่ได้ทำงานด้วยจิตวิญญาณของนายจ้าง แต่เขาทำด้วยจิตวิญญาณของลูกจ้าง จากการสั่งสมและปลูกจิตสำนึกให้เขาว่า ถ้ามันลำบากก็กลับมาบ้านเถอาะ ยังไงบ้านเราก็มีข้าวให้กิน" ส่งผลให้เขาขาดความอดทน จากความคิดที่ว่า "โรงงานอยู่ได้เพราะคนงาน" ส่งผลให้เขามีทัศนะคติ มุมมองและการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นเวลาเขาเหล่านี้ออกมาประกอบกิจการส่วนตัวถึงไปไม่รอด แต่ถ้าเขามีจิตสำนึกใหม่ "ลูกต้องอดทนนะลูก ทำงานมันต้องลำบาก แต่ถึงลำบากอย่างไรลูกก็ต้องอดทน จำไว้น่ะลูกต้องอดทน" หรือว่า "พวกเราต้องอย่าลืมว่า ถ้าไม่มีโรงงานพวกเราจะเอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย พวกเรามีเงินใช้จ่ายไม่ใช่เพราะโรงงานหรือ" ถ้าบรรดาคนงานมีจิตสำนึกเช่นนี้ มันน่าจะส่งผลให้เขา ทำงานด้วยความขยันอดทนมากกว่านี้ มีจิตสำนึกในการทำงานที่จะสร้างความเจริญให้แก่โรงงาน และเมื่อยามที่เขามาทำกิจการส่วนตัวเขาก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า เพราะเขาได้บ่มเอาคุณสมบัติของผู้ที่พร้อมจะมาดำเนินกิจการไว้เต็มเปี่ยม ยังไม่เคยมีใครทำการศึกษากรณีที่ผมว่ามานี้เลย ว่ามันจะมีผลดั่งที่ผมว่าหรือไม่ :slime_doubt: :slime_doubt: :slime_doubt: :slime_doubt: :slime_doubt: หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 15-07-2007, 16:39 ผมไม่ได้ลงศึกษาในระดับลึก ๆ นะครับว่ามี NGO เข้าไปทำงานกับ "ฉันทนา" มาน้อยแค่ใหน
ประเด็น การเตรียมความพร้อมรอไว้ที่บ้านนอก ถือว่าเป็น "ทุน" อย่างหนึ่งของพวกเค้า เป็นความมั่นใจว่า ไม่อดตาย แต่ที่ผมพูดถึงการจัดตั้งกลุ่ม ศึกษาลู่ทางพัฒนาตนเองให้เป็น "นายตัวเอง" มากกว่า ผมไม่แน่ใจว่า ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ มีแรงงานกี่ประเภท ต้องไปดูในรายละเอียดตรงนั้น บางแผนก เป็นงานประจำ ชนิดที่ เดินออกจากโรงงาน ก็เก่งแต่กับ "เครื่องจักร์" ตามสายพานการผลิต คนงานประเภทนี้ จึงไม่มีทางเลือก หากถูกออกจากโรงงานที่ตนทำอยู่ ส่วนคนงานอีกประเภท เช่นพวกทำงานเชื่อม -อ๊อก หรืองานฝีมืออื่น ๆ ค่อนข้างได้เปรียบ การได้เข้าทำงานในโรงงานประเภทนี้ มีประโยชน์ในเรื่องการได้รู้ได้พัฒนาฝีมือแรงงานของตนเอง บางคนกลับบ้าน ไปทำงานรับจ้างงานเหล็กที่มีอยู่มากมายในต่างจังหวัด สามารถปรับตัวเองเป็น เถ้าแก่น้อย ๆ มากมาย หัวข้อ: Re: เป็นกำลังใจให้เจ้าของโรงงานครับ...เมื่อรัฐบาลยื่นมือช่วยเหลือ ฉันทนา ยิ้มออก เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 15-07-2007, 17:24 ท่านCanCan
สิ่งทอมันก็แค่ตัดเสื้อผ้าสำเร็จรูปธรรมดานี่แหละ งานมันต่างกันกับงานช่างที่ท่านว่า และในตลาดแรงงาน ปริมาณคนก็ต่างกันมาก สาวโรงงานเขาตัดเย็บเป็นแน่นอน แต่เขากลับบ้านเขาจะทำขายใครครับ ที่พอเห็นก็มีรับจ้างเปลี่ยนซิบ แก้ทรง ทำนองนี้ยังมีอยู่ บางแห่งเขารวมตัวกันแล้วซื้อผ้ามาตัดเสื้อและกางเกงราคาถูกขาย ส่วนใหญ่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันที่มีจำนวนมากก็คือการรับช่วงงานมาทำที่บ้านครับ ใช้ความคุ้นเคยกับทางโรงงาน สมัยทำงานให้กับโรงงานในกทม. ขอเขาเอาเครื่องจักรไปลงให้ แล้วส่งงานไปให้ทำถึงบ้านในต่างจังหวัด แต่นั่นแหละครับมันก็ยังต้องพึ่งพาเขาอยู่ โรงงานที่ทำอยู่นี้ต้องพึ่งออร์เดอร์ต่างประเทศทั้งนั้น ถ้าไม่มีออร์เดอร์ต่างประเทศต้องปิดกิจการแน่นอน แล้วถ้าคนงานเหล่านี้ จะพัฒนาให้เป็นนายตัวเอง ทางด้านนี้ผมว่ามันยากครับ ก็อย่างที่บอก เขาจะตัดเย็บไปขายใคร ช่างเชื่อม ที่ท่านพูดถึง ในหมู่บ้านหนึ่งจะมีคนเชื่อมเป็นกี่คน แต่คนเย็บผ้า บางหมู่บ้านมีคนเย็บผ้าเป็นอย่างน้อยบ้านละคนทุกบ้าน ผมถึงว่าต้องปลูกจิตสำนึก ปลูกจิตความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ปลูกจิตสำนึกในความอดทน สร้างค่านิยมให้เขาใหม่ แล้วเขาจะไปได้ในทุกๆอาชีพครับ |