ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

รายละอียดของข่าวค่ะ

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000076329
----------

    ปฎิบัติการของฝ่ายรัฐ เริ่มเดินหน้าไปเรื่อยๆแล้ว หลังจากต้องอาศัยเวลาปรับระบบต่างๆ ที่พังพินาศไปจากการบริหารงานของพรรคไทยรักไทยโดยนายทักษิณ อีกทั้งนักการเมืองที่เป็นฝ่ายแบ่งแยกดินแดนหรือผู้ก่อการร้าย ไม่ได้เข้ามามีอิทธิพลหรืออำนาจในรัฐบาลหรือสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองไม่ต้องเกรงอำนาจมืด หากจะเข้าจัดการกับพวกมัน ทำให้พวกเศษมนุษย์นี้ไม่กล้าเหิมเกริม และหดหัวฝังตัวเงียบ ไม่กล้าก่อความวุ่นวายออกหน้า

    ในยุคท้ายๆของสงครามคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย ศอ.บต.เป็นหน่วยงานที่ถูกจัดตั้งขึ้น เหมือนเป็นการตกผลึกทางความคิด และประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการพัฒนาหน่วยงานมายาวนาน พัฒนาบุคลากร แต่เมื่อมาถูกทำลายย่อยยับ จากอดีตนายกรัฐมนตรีหน้าโง่หน้าเหลี่ยม ทั้งระบบทั้งบุคลากรต่างก็พังพินาศ โดยเฉพาะหน่วยงานในทางลับ สายข่าวในพื้นที่ ถูกสังหารโหดไปไม่น้อยในการฆ่าตัดตอน อุ้มฆ่า โดยที่อดีตนายรัฐมนตรีหน้าโง่ในสมัยนั้นไม่ได้รู้เลยว่า เป็นการทำลายหน่วยงานที่จะรักษาผืนแผ่นดินไทบเอาไว้ให้ลูกหลาน

   เมื่อรัฐบาลจัuไรถูกโค่นล้มลงไป  มีการฟื้นฟูหน่วยงาน ศอ.บต.กลับขึ้นมา แต่เหตุการณ์ทางภาคใต้ก็ยังวิกฤติ มีเหตุร้ายและผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นทุกวัน เสียงติฉินนินทาว่ารัฐบาลขิงแก่และ คมช.ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา ไหนว่าฟื้นฟู ศอ.บต.แล้วจะดีขึ้น ทำไมเหตุการณ์ยังมีรายวัน ซึ่งก็เป็นข้อกังขาของคนที่ยังไม่เข้าใจการทำงาน หรืออาจจะไม่เคยทำงานประเภทนี้ หรือศึกษาการทำงานประเภทนี้มาก่อน มันคล้ายกับสงครามคอมมิวนิสต์เมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้ ที่ในครั้งเริ่มต้น ดูเหมือนว่าประเทศไทยไม่อาจรับมือกับคอมมิวนิสต์ได้ และถูกคาดหมายว่าจะเป็นโมโนตัวต่อไปที่จะล้ม ตามทฤษฎีโดมิโนของฝรั่งอ่อนประสบการณ์

    ที่จริงแล้ว สงครามมวลชนนั้นต้องอาศัยเวลาในการต่อสู้ ต้องอาศัยความอดทน ประเทศไทยเกือบจะชนะในสงครามชิงมวลชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว จะเห็นได้จากการพัฒนารุกเข้าไปในพื้นที่ มวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรม อัตราการเจริญเติบโตของโรงเรียนในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ  จำนวนชาวมุสลิมที่เข้าร่วมสังคมปกติของประเทศ โดยเฉพาะสตรีที่เข้ามาในระบบการศึกษาและการทำงาน  แต่น่าเสียดายที่มีคนเลวต่ำช้าที่สุดเท่าที่แผ่นดินไทยเคยมีมา มันได้เป็นใหญ่ และด้วยความโง่บ้าเซ่อโลภริยำของมัน มันทำให้ทุกอย่างแทบจะพังพินาศ

    10 เดือนหลังจากกาลีบ้านกาลีเมืองหมดอำนาจไป สถานการณ์ในภาคใต้เริ่มได้รับการแก้ไขอย่างเห็นได้ชัดเจน อันที่จริงนั้นปัญหาได้รับการแก้ไขมาตั้งแต่เริ่มต้นรัฐบาลรักษาการนี้แล้ว แต่ปัญหาขนาดใหญ่เช่นนี้ ต้องใช้เวลาในการจัดตั้งระบบ สรรหาบุคลากร และค่อยเป็นค่อยไป เมื่อการแก้ปัญหาเริ่มเข้ารูปเข้ารอยเช่นนี้ จึงของเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เหนื่อยยาก อดทนต่อความสูญเสีย รวมไปถึงประชาชนที่ต้องอดทนและสูญเสียด้วยเช่นกัน

    ขอประกาศเชิญชวนให้ท่านที่มีทุนทรัพย์พอที่จะบริจาค ช่วยมูลนิธิสายใจไทยด้วยนะคะ ขณะนี้ได้เพิ่มการช่วยเหลือ ได้ครอบคลุมไปถึงครอบครัวของประชาชนผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้แล้ว ไม่ได้ช่วยเฉพาะทหารหรือข้าราชการเท่านั้น ดังนั้นมูลนิธิจึงขาดแคลนทุนทรัพย์ค่ะ ได้รับทราบมาและนำมาฝากกันไว้นะคะ  :slime_worship:

 :slime_agreed:

คนอีสาน คนเหนือ คนภาคกลาง ตะวันตก ตะวันออก และกรุงเทพฯ ช่วยกันครับ

ไทยหรือสยาม ก็คือประเทศที่มีคนไทยที่เห็นคุณค่าของคนไทยด้วยกันอยู่ ที่ไม่เห็นคุณค่าก็มาอาศัยใบบุญคนไทยหากินเท่านั้นเอง..

ระยะหลังช่วง 2-3 สัปดาห์มานี่  ฝ่ายรัฐรุกหนักและรวบแกนนำ แนวร่วมได้หลายร้อยคนแล้วครับ  เป็นนิมิตหมายที่ดี 
ถ้าตามข่าวกันในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว  พล.อ สนธิได้บรรยายถึงลักษณะการจัดองค์กร วิธีการสร้างหน่วยสังหาร (RKK) ที่มีการปลูกฝังโดยอุซตาสบางราย  ในโรงเรียนสอนศาสนามาเป็นระยะเวลานับ 10 ปี  ซึ่งเป็นการละเลยของกระทรวงศึกษาธิการ  จนได้หน่วยปฏิบัติการ 4-5000 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด และดำเนินการในรูปของ cell ปิดลับ  แม้แต่พ่อ-แม่ ก็ไม่ทราบ   ใช้ความเชื่อทางศาสนาที่ผิดๆ มาล้างสมองเยาวชน
 
    นับว่าเป็นช่วงเวลาที่กองทัพไทยรู้ว่ากำลังสู้อยู่กับใคร  หลังจากเป็นตาบอดคลำช้างอยู่ 4-5 ปี  ... โปรดติดตามด้วยใจระทึกพลัน  หุหุ  :slime_fighto:

อ่านกระทู้คุณพรรณชมพู ผนวกกับคอลัมน์สวนทางปืนของบะห์รูนในเนชั่นสุดฯ เล่มใหม่

ผมคิดว่าเราพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว ขั้นตอนต่อไปอยู่ที่รัฐจะแยกคนร้ายออกจากชาวบ้านได้อย่างต่อเนื่องและเข้มข้นแค่ไหน

เอาหัวโจกติดอาวุธออกจากพื้นที่ไปได้ ชาวบ้านก็พร้อมร่วมมือชี้เบาะแส ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่เต็มที่ครับ

เราต้องใช้เวลาค่อย ๆ สร้างมวลชนขึ้นมาใหม่ค่ะ อาจจะต้องใช้เวลา เพราะการสร้างกับการทำลายมันต่างกัน