หัวข้อ: วิเคราะห์ สถานการณ์การเมือง ณ ๑๙ มิถุนายน ๕๐ เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 24-06-2007, 14:53 ณ วันนี้มีบางท่านที่ห่างเหตุการณ์ อาจจะวิตกว่าประชาชนจะแพ้ คมช. เพราะคนที่สนามหลวงมีจำนวนยัง ไม่พอเพียง ที่จะโค่น คมช.ได้ ผมจึงขออาสา วิเคราะห์ สถานการณ์การเมือง ให้ได้รู้ ตามความรู้ที่พอมี โดยตั้งเป็น คำถาม-คำตอบ ดังต่อไปนี้......... ๑. ทำไมคนมาร่วมกับการไล่ คมช. ยังไม่พอเพียง? ตอบ.... เป็นเพราะเวที เป็นเวทีเชียร์ทักษิณ ก็ต้องมีแต่พวกทักษิณเท่านั้นที่มา เป็นเรื่องธรรมดา พวกอื่นๆ ที่ไม่เอา คมช. แต่ไม่เชียร์ทักษิณ ไม่เข้าร่วม. ๒. พวกเชียร์ทักษิณที่เป็นแกนนำจะรู้หรือไม่ว่าการเชียร์ทักษิณอย่างเอิกเกริก เป็นการปิดกั้น กลุ่มอื่นๆที่ไม่เอา คมช. ที่มีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องทักษิณ? ตอบ..... รู้. ๓. เมื่อรู้แล้วทำไมไม่ทำตามแนวทางที่จะให้มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก? คือการเปิดเวทีให้เป็นของ ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่มีแอบแฝง ตอบ.... เป็นเพราะคนที่ให้ทุน ต้องการแบบนี้ ถ้าไม่ทำตามก็ไม่ให้ทุน. ๔. ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็แปลว่าคนให้ทุน ไม่ต้องการชนะ แล้วคนให้ทุนต้องการอะไร? ตอบ..... คนให้ทุนต้องการตั้งม๊อบขึ้นมาเพื่อต่อรองกับ คมช. แลกกับความต้องการของนายทุน. ๕. คนที่เป็นแกนนำ จะรู้ทุกคนหรือไม่ว่าจัดม๊อบ เพื่อต่อรองให้กับนายทุน? ตอบ.... เฉพาะเรื่องวาระซ้อนเร้นคือเรื่องต่อรองนี้ คิดว่าคงมีบางคนเท่านั้นที่รู้ ส่วนใหญ่จะไม่รู้. ๖. เรื่องการต่อรองของนายทุน จึงเป็นสาเหตุให้กลุ่มประชาธิปไตยอื่นไม่เข้าร่วมใช่หรือไม่? ตอบ.... ใช่ เพราะการต่อรองกันนั้นไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยของประเทศและประชาชน. กลุ่มประชาธิปไตยอื่นไม่ต้องการเข้าร่วม เพราะจะตกเป็นเหยื่อให้กับนายทุนของเวที เพราะถ้าประชาชนมาชุมนุมกันมาก จะทำให้ คมช. กลัว และจะยอมเจรจากับนายทุน เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน โดยอีกฝ่ายจะต้องหยุดดำเนินคดีและอีกฝ่ายก็จะหยุดประท้วง เมื่อนายทุนกับ คมช.ตกลงกันได้ ทุกอย่างก็จบประชาชนไม่ได้อะไร ๗. ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่เอา คมช. ควรจะทำอย่างไร? ตอบ.... ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่เอา คมช. คงต้องรอให้เวทีเป็นเวทีของประชาชนที่รักประชาธิปไตยจริงๆ เสียก่อน. ๘. จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ประชาชนจะมีเวทีเป็นของประชาชนเอง? เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในแต่ละวันเป็นค่าจ้างเวที ประชาชนธรรมดาส่วนมากมีแต่กำลังใจและกำลังกาย บางคนยอมสละได้แม้ชีวิตเพื่อประเทศชาติและประชาธิปไตย แต่ไม่ค่อยมีเงิน. ตอบ...... มีอยู่ ๓ แนวทาง ที่จะผันแปล มาเป็นเวทีของประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่เอา คมช.จริงๆได้ คือ.... ก. เมื่อนายทุนมีความฉลาดขึ้น และไม่เห็นแก่ตัวอย่างเดียว โดยเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้เพื่อบุคคลซึ่งไม่มีทางชนะ มาเป็นการต่อสู้เพื่อประเทศซึ่งมีโอกาสชนะ และจ่ายเงินทุนเป็นก้อนใหญ่ให้คนที่ไว้ใจได้ดูแลและห้ามพูดถึงทักษิณแบบที่ทำกัน ณ ปัจจุบัน เพื่อให้ได้กลุ่มคนอื่นๆ มาเป็นจำนวนมากและเพื่อให้ได้ชัยชนะ โดยมีการตกลงกันภายในว่าถ้าชนะแล้วต้องช่วยนายทุนด้วย และยกเวทีให้เป็นเวทีของประชาชน ถ้าเป็นแนวทางนี้จะดีที่สุด ข. เมื่อประชาชนมาร่วมน้อย คมช. คงจะต้องจับกุมแกนนำ แกนนำที่เชียร์ทักษิณถูกควบคุมตัว เมื่อนั้นแกนนำจะเปลี่ยนเป็นพวกอื่น ที่ยังไม่ได้ออกมา เวทีก็จะเปลี่ยน ค. ถ้าบังเอิญการชุมนุมสามารถทำให้มีจำนวนคนมาก จนกระทั่ง คมช. และไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังเกิดความกลัวและยอมตกลงผลประโยชน์ร่วมกันได้กับนายทุน ทำให้ คมช. และนายทุนจูบปากเป็นพวกเดียวกันได้ และประกาศยุติการชุมนุม เมื่อนั้นจะเป็นโอกาสให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยได้เห็นธาตุแท้ ของนายทุนที่ไม่จริงใจกับประเทศชาติ, กับประชาธิปไตยและกับประชาชน ดังนั้นประชาชนที่รักประชาธิปไตยที่แท้จริงจะออกมาตั้งเวทีไล่ ทั้งนายทุนและ คมช. ๙. โดยสรุปประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่นิยมทักษิณ คงจะต้องคอยดูเหตุการณ์ไปก่อนจนกว่าจะมีการผันแปลใช่หรือไม่? หรือมีแนวทางอื่น? ตอบ..... ใช่ และไม่น่าจะมีแนวทางอื่นที่จะดีกว่านี้ เพราะทุกอย่างได้เดินมาตามแนวทางที่ดีต่อประชาชนที่รักประชาธิปไตยแล้ว. ประจิณ ฐานังกรณ์ ประธานกลุ่มธรรมาธิปไตย ถือหลักธรรมเป็นหลักการ ๐๘๑-๓๓๓-๙๒๑๖ http://www.sameskybooks.org/webboard/show.php?Category=sameskybooks&No=14943 หัวข้อ: Re: วิเคราะห์ สถานการณ์การเมือง ณ ๑๙ มิถุนายน ๕๐ เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 24-06-2007, 14:54 เป็นบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจครับ เลยลากมาแปะ
หัวข้อ: Re: วิเคราะห์ สถานการณ์การเมือง ณ ๑๙ มิถุนายน ๕๐ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 24-06-2007, 15:28 ก็เป็นอีกมุมมองนึงครับ ที่อาจเป็นไปได้
ตอนนี้ม๊อบยังหาจุดร่วมกันไม่เจอ สรุปยังไม่ได้ว่าจะเอาประชาธิปไตยหรือจะเอาทักษิณ การพูดกับการกระทำมันแย้งกันอยู่ เลยไม่สามารถดึงมวลชนเข้าร่วมได้ สิ่งที่ผมกลัวไม่ใช่ม๊อบหรอกครับ แต่จะเป็นฝ่าย คมช. กับ รัฐบาลมากกว่า กลัวจะตกม้าตายเสียเอง อยากให้ทำงานกันอย่างมีสติ การพูดการจาอะไรก็อยากให้คิดกันให้ดี อย่าคิดว่าถือไพ่เหนือกว่า จะทำจะพูดอะไรก็ได้ ยังไงก็ควรยืดกฏหมายเป็นแนวทางเอาไว้ อะไรทำได้หรือไม่ได้ หรือไม่ควรทำ หัวข้อ: Re: วิเคราะห์ สถานการณ์การเมือง ณ ๑๙ มิถุนายน ๕๐ เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 24-06-2007, 18:15 ช่วยตอบมั่ง
๑. ทำไมคนมาร่วมกับการไล่ คมช. ยังไม่พอเพียง? ตอบ.... เพราะเวทีนั้นไม่ใช่เวทีไล่ คมช. และไม่มีเหตุผลใดที่จะไปไล่ คมช. วันที่ คมช.จะไป ก็ใกล้มาแล้ว ไม่รู้จะไล่ไปทำไม ๒. พวกเชียร์ทักษิณที่เป็นแกนนำจะรู้หรือไม่ว่าการเชียร์ทักษิณอย่างเอิกเกริก เป็นการปิดกั้น กลุ่มอื่นๆที่ไม่เอา คมช. ที่มีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องทักษิณ? ตอบ..... จะรู้หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น กลุ่มที่ไม่เอา คมช.นั้น มีอยู่จริง แต่เป็นจำนวนที่เรียกได้ว่า สวะ อย่างเช่น เหวง สันต์ ประทีป พวกนี้เป็นเพียงกลุ่มกวนเมือง ที่พยายามสร้าราคาให้ตนเอง ไม่มีมวลชนเป็นของตนเอง อาศัยสถานะการณ์สร้างตัวเองให้ดังเท่านั้น ดังนั้นกลุ่มเชียร์ทักษิณที่ว่า เขาจะจัดชุมนุมโดยคำนวนจำนวนคนตามเงินที่จะลงไปเท่านั้น ไม่ได้หวังว่าจะมีประชาชนจริงๆเข้าร่วม หวังเพียงไทยมุงนิดหน่อย ๓. เมื่อรู้แล้วทำไมไม่ทำตามแนวทางที่จะให้มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก? คือการเปิดเวทีให้เป็นของ ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่มีแอบแฝง ตอบ.... อย่างที่ตอบไป มันไม่ใช่ประเด็น การชุมนุมนั้นทำไปตามระบบทุน ไม่ใช่อุดมการณ์ จำนวนผู้ชุมนุม ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน ๔. ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็แปลว่าคนให้ทุน ไม่ต้องการชนะ แล้วคนให้ทุนต้องการอะไร? ตอบ..... ปัญหาข้อนี้ต้องตอบเป็นสองส่วน ส่วนแรกการให้ทุนนั้นคาดว่าจะได้ผลทางการเมืองตอบแทนกลับมา นั่นคือจุดไฟติด และก่อความวุ่นวายจนถึงเสียเลือดเนื้อ จากนั้นจะฉวยโอกาศเอาเหตุวุ่นวายไปต่อรองทางการเมือง แต่เมื่อล้มเหลว ก็ยังมีการให้ทุนต่อ ส่วนที่สองนี้เกิดจากความเสียดายในการสร้างม๊อบ ยังไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ถ้าล้มม๊อบทิ้ง แล้วจะจัดตั้งกันใหม่ มันยุ่งยาก สู้เลี้ยงรักษาไว้ก่อน เผื่อมีหนทางใช้งาน หลังจากนี้ถ้าไม่มีหนทางใช้จริงๆ ก็ค่อยเลิก ๕. คนที่เป็นแกนนำ จะรู้ทุกคนหรือไม่ว่าจัดม๊อบ เพื่อต่อรองให้กับนายทุน? ตอบ.... รู้ทุกตัว แต่ได้ไม่เท่ากันทุกตัว เพราะบางตัวหิวมาก บางตัวหิวน้อย ๖. เรื่องการต่อรองของนายทุน จึงเป็นสาเหตุให้กลุ่มประชาธิปไตยอื่นไม่เข้าร่วมใช่หรือไม่? ตอบ.... ไม่ใช่ ที่ไม่เข้าร่วมเนื่องจากจุดยืนที่แตกต่าง และการเป็นกลุ่มประชาธิปไตย ก็ไม่ได้แปลว่าต้องไล่ คมช. เพราะประชาธิปไตยไม่ได้แปลว่าไล่ คมช.แต่ประชาธิปไตยแปลว่าการปกครองที่ประชาชนมีส่วนร่วม และประชาชนออกความเห็นว่า คมช.ใกล้จะหมดวาระแล้ว ต่อไปก็จะเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญฏ้ยังไม่เสร็จ ไล่ คมช.ไป ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา รอให้เลือกตั้งแล้ว คมช.ก็ไปเอง เหตุผลง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อน ๗. ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่เอา คมช. ควรจะทำอย่างไร? ตอบ.... ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่เอา คมช. ก็รอไปเลือกตั้งปลายปี คมช.ก็จบแล้ว ไม่ต้องทำอะไร เพียงใช้สมองตรองดูก็รู้แล้ว ๘. จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ประชาชนจะมีเวทีเป็นของประชาชนเอง? เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในแต่ละวันเป็นค่าจ้างเวที ประชาชนธรรมดาส่วนมากมีแต่กำลังใจและกำลังกาย บางคนยอมสละได้แม้ชีวิตเพื่อประเทศชาติและประชาธิปไตย แต่ไม่ค่อยมีเงิน. ตอบ...... มันอยู่ที่มองเวทีแบบไหน ประชาชนเพียงเอาลังสบู่มารองเท้า แล้วขึ้นพูดแสดงความคิดเห็นของตน แบบไฮปาร์ก ก็เป็นเวทีของประชาชนแล้ว การจัดตั้งเวทีใหญ่โต ใช้เครื่องเสียงให้มันดังจนแก้วหูแทบแตก เพื่อยัดเยียดความเห็นของตน กรอกหูคนที่ไม่อยากจะฟังนั้น ไม่ได้เรียกว่าเวทีของประชาชน แต่เป็นเวทีของไอ้พวกบ้าน้ำลาย หากพูดแล้วคนชอบ คนเห็นด้วยมากๆ คนอยากฟัง เวทีพร้อมเครื่องเสียงมันจะมาเอง ของอย่างนี้ คนที่เคยเห็นจะทราบ เหมือนทำขนมครกได้อร่อย ไม่ต้องโฆษณาให้ครึกโครม คนมารอเข้าคิวซื้อเอง มันเป็นสัจธรรม หากมองเรื่องอย่างนี้ไม่ออก อย่าริมานำมวลชน ๙. โดยสรุปประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่นิยมทักษิณ คงจะต้องคอยดูเหตุการณ์ไปก่อนจนกว่าจะมีการผันแปลใช่หรือไม่? หรือมีแนวทางอื่น? ตอบ.... ถ้าจะสรุป ก็สรุปได้ทั้งสองทางนั่นแหละ พวกร้อนวิชา อยากออกมาพล่าน ก็พล่านไป พวกอดทนรอดูได้ก็รอดูไป พวกใจเย็นก็รอดูเช่นกัน และพวกที่บรรลุสัจธรรมแล้ว เขาบอกว่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และมีเกิดต้องมีดับ ทักษิณไม่อยู่ค้ำฟ้า คมช.ก็เช่นกัน ต้มมาม่ากินดีกว่า อย่าฟุ้งซ่าน พรรณชมพู ประธานกลุ่มทำมาก็ทำไป ถือหลักทำเป็นหลักการ และถือธรรมเป็นแนวทาง 222 - ถ้า 2 เจ็บ :slime_v: |