ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

        ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า กลุ่มคนที่ลงเรี่ยวลงแรงขับไล่รื้อล้างระบอบทักษิณ คึกคักเป็นพิเศษมีชีวิตชีวามากขึ้น
       
        หลังจากเหี่ยวเฉามานาน
       
        หลายคนที่ผ่านมา บ่นกับเพื่อนฝูงแบบคนสิ้นไร้ไม้ตอก
       
        ไม่เห็นอนาคต ไม่มีความหวัง
       
        หมดเรี่ยวหมดแรง ท้อแท้เบื่อหน่าย
       
        บางคนถึงขั้นประกาศกับหมู่มิตร
       
        “ไม่เอาแล้วกับการที่ต้องเป็นคนที่เสียสละ ต่อสู้เพื่อบ้านเพื่อเมือง ขอเป็นคนธรรมดาสามัญ เอาตัวรอดไปวันๆ ดีกว่า”
       
        บ้านเมืองจะเป็นไปอย่างไร ก็ปล่อยไปตามยถากรรม
       
        เสมือนต้นไม้ที่ผลัดใบในช่วงฤดูแล้ง
       
        เริ่มผลิดอกออกใบ เมื่อยามได้รับสายฝนอันชุ่มฉ่ำ และแสงทองของดวงตะวันในต้นฤดูฝน
       
        หลังจากคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ให้ยุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค 111 คน
       
        เปรียบเหมือนฝนแรกที่หลั่งลงมาพร้อมสายฟ้าอัสนีบาต ที่ผ่าแทรกลงมายังใจกลางขั้วหัวใจของบรรดานักเลือกตั้ง ที่ยังไม่สำนึกชั่วดี เห็นแก่ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการขุนเลี้ยงของปีศาจการเมืองในคราบนักประชาธิปไตย
       
        อาการทุรนทุรายปางตายของคนเหล่านั้นเห็นจากการป่าวร้องแรกแหกกระเชอ ว่าพรรคโดนกลั่นแกล้ง โดนทำลาย ด้วยมายาคติ จากผู้ทำการรัฐประหาร
       
        โดยที่พวกเขาละเลยจากข้อเท็จจริง ที่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้หยิบยกมาอธิบายเป็นฉากๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน
       
        คนทั่วไปแม้นไม่รู้กฎหมายต่างเข้าใจ และเห็นชอบกับคำวินิจฉัย เมื่อได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง หรือได้หยิบยกมาอ่านอย่างถี่ถ้วน
       
        จะมีแต่คนบางประเภทที่โง่หรือแกล้งโง่ เพราะเสพสมอาจมจนติดเป็นสันดาน พยายามไม่เข้าใจ และหาช่องโหว่โจมตี โดยเอาสีข้างเข้าถูอย่างจงใจ
       
        อาการและเหตุผลที่ยกมากล่าวอ้าง จึงน่าขัน และน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
       
        ผ่านฝนแรกไปไม่นาน ฝนระลอกใหม่ตั้งเค้า และรุนแรงยิ่งนัก
       
        เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน คตส. ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน ได้ลงคำสั่งลงนาม หนังสือคำสั่งอายัดทรัพย์ โดยได้อาศัยอำนาจตามความใน ประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ข้อ 5 และข้อ 8 คณะกรรมการตรวจสอบออกคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารและสถาบันการเงินของคุณทักษิณ และคุณหญิงพจมาน พร้อมพรรคพวก มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
       
        สายฝนรอบนี้หนักหน่วงรุนแรง ประหนึ่งหอบเอาพายุลมแรง บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง ที่ดูมั่นคงแข็งแรง ก็ไม่อาจต้านทานได้
       
        คนที่ยึดติดกับระบอบทักษิณ ไม่มีใครคาดคิด ว่าความแข็งแกร่งของพระเจ้าเงินตรา จะมีใครทำลายได้
       
        แต่สัจจะของความเป็นจริง ก็พิสูจน์แล้ว
       
        การล่มสลายทั้งปวง ล้วนแล้วแต่เกิดจากการกระทำของคุณทักษิณเองทั้งสิ้น
       
        ไม่มีใครกลั่นแกล้ง
       
        ไม่มีใครกล่าวร้าย
       
        ไม่มีใครยัดเหยียดข้อกล่าวหา
       
        ถึงแม้นว่าการเมืองช่วงนี้จะอยู่ในยุคที่มีการรัฐประหาร แต่คณะกรรมการชุดต่างๆ ล้วนแต่ทำงานด้วยความรอบคอบ สุขุมเยือกเย็น และยึดหลักข้อกฎหมายที่โปร่งใสตรวจสอบได้
       
        ที่สำคัญบางคนกล่าวว่า เป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีกว่าในยุคที่เรียกว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเสียอีก
       
        คำแก้ตัว คำโวยวาย จากคุณทักษิณ จึงไร้ความหมาย และปลุกปลอบคนไม่ขึ้น
       
        เมื่อเข้าฤดูฝน ความสกปรกโสมมที่สั่งสมมานาน ก็เริ่มได้รับการชะล้างความเลว ความยำยำ ความชั่ว ที่ทำไว้กับแผ่นดิน ก็ปรากฏ เศษซากที่รอการเก็บกวาด และนำไปกำจัด เป็นเถ้าถ่านที่ทับถมเป็นอนุสรณ์สถานแห่งซาตาน เพื่อให้บทเรียนกับนักการเมืองที่ประพฤติชั่ว
       
        ล่าสุดคดีที่ฮือฮา
       
        อันส่งผลต่อการปิดฉากชีวิตทางการเมืองของคุณทักษิณ
       
        เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดย นายสุนัย มโนมัยอุดม แถลงสรุปคดี พร้อมออกหมายเรียก คุณทักษิณ พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน และบุษบา ดามาพงศ์ และผู้บริหารเอสซีแอทเซส มารับทราบข้อกล่าวหาคดีปกปิดข้อมูลโครงสร้างหุ้นเอสซีแอทเซส ให้มาพบเจ้าหน้าที่วันที่ 26-29 มิถุนายนนี้
       
        หากยังดื้อดึง ถ่วงรั้ง
       
        การเป็นผู้ร้ายที่หนีคดี ก็จะติดตัวไปชั่วชีวิต
       
        ผู้ร้ายข้ามแดน จึงเป็นข้อหาที่คุณทักษิณ เลือกเอง
       
        ผู้สันทัดทางการเมืองหลายคน วิเคราะห์ตรงกันว่า
       
        วันนี้ คุณทักษิณได้ปิดโอกาสการเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองไปแล้ว เพราะข้อเท็จจริง ข้อกล่าวหา ล้วนแล้วแต่จับต้องได้
       
        คงไม่มีประเทศใดในโลก จะกล้ารับรองสถานะของผู้ลี้ภัยอย่างแน่นอน
       
        สถานะเดียวที่คุณทักษิณ หากไม่กลับประเทศในฐานะผู้ต้องหา
       
        ก็คือ อาชญากรทางการเมืองที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในต่างแดน
       
        ปิดฉากความเป็นมหาเศรษฐี ผู้ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
       
        ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร?
       
        สงสารแต่ลูกๆ ของคุณทักษิณ ที่ต้องได้รับผลจากการกระทำซึ่งเต็มไปด้วยความโลภ ความไม่รู้จักพอ ของคุณพ่อและคุณแม่
       
        ถึงวันนี้หากคุณทักษิณ ยังพอมีสติสัมปชัญญะ
       
        เลิกฟังคำแนะนำของบ่าวไพร่ ที่เขาไม่ได้รักคุณจริงหรอก
       
        บ่าวบางคนต้องการเอาคุณทักษิณเป็นเครื่องมือ เพื่อเป้าหมายทางอุดมคติลมๆ แล้งๆ ของซ้ายทารก
       
        บ่าวบางคนเป็นทาสที่ไม่ยอมปลดปล่อยตนเองจากคุณทักษิณ เพราะไปที่ไหนไม่ได้ ไม่มีใครต้อนรับและสมาคมด้วย เป็นบ่าวที่อยู่ที่ไหน เจ้านายเจ็งที่นั้น
       
        บ่าวบางคนเป็นพวกผีดิบ ขอสูบเสพเลือดจากคุณทักษิณ วันที่เลือดคุณหมด คุณก็จะไม่เห็นคนเหล่านั้น แถมอาจถีบส่งซากศพของคุณอีก
       
        ถึงเวลาหรือยัง
       
        ที่คุณจะกล้าเผชิญโลกของความจริง
       
        เดินหน้ากลับประเทศเถอะ
       
        ยืนหยัดกับข้อเท็จจริง
       
        ผิดกล้ารับ พลาดกล้าขออภัย
       
        ยอมรับชะตากรรม สละสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน
       
        ในสังคมไทย ชีวิตใหม่ยังเลือกได้
       
        ขอเพียงกล้าตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นลูกผู้ชาย แค่ชั่วลมหายใจเข้าออก ก็สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณได้
       
        ไม่อยากเห็นคุณกลับมาแบบผู้ร้ายข้ามแดน หรือนอนมาแบบสิ้นลมหายใจ
---------------------------------------------------
http://www.manager.co.th/lite/ViewNews.aspx?NewsID=9500000072150

ชอบบทความนี้จัง  :slime_bigsmile:

คดีที่ดินรัชดา จะเป็นคดีแรกที่ทำการตัดสิน ถึงจำเลยจะไม่มาปรากฎตัวต่อศาล คดีก็ดำเนินต่อไปได้ ดังนั้น เมื่อคดีถึงที่สุดในเวลาอีกไม่นาน

นช. ทักษิณ คงจะถูกหมายจับกลับมารับโทษ หากไม่ยอมมา ก็ต้องหนีหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน ไปยังประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย ซึ่งไม่ใช่อังกฤษ คงได้ไปเชียร์ทีมแมนซิตี้ แถวๆอเมริกาใต้โน่นน่ะค่ะ  :slime_v:

“หญิงอ้อ” จ่อคุก! หาก คตส.ไม่เลื่อนสอบซื้อขายหุ้นชินฯ
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2550 08:53 น.
 
 
 
คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 
 
 
       “คตส.” ชี้ชัด “พจมาน” จ่อนอนคุก หากที่ประชุมมีมติไม่ให้มีการเลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นชินฯ ตามที่ “หญิงอ้อ” ร้องขอ แย้มเตรียมลงดาบ “บิ๊กสรรพากร” ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่-ไม่เก็บภาษี
       
       วานนี้ (26 มิ.ย.) แหล่งข่าวจาก คตส. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการพิจารณาคำร้องของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ไปเป็นวันที่ 19 ก.ค.นี้ว่า หากที่ประชุมมีมติว่าจะไม่ให้มีการเลื่อนอีกก็จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 118 ฐานไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลตามมาตรา 25(1) แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       แหล่งข่าว คตส.กล่าวอีกว่า สำหรับผู้บริหารกรมสรรพากรที่อยู่ในข่ายการพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 และ 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของอนุกรรมการตรวจสอบฯ ประกอบด้วย 1.นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร 2.นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ที่ตอบข้อหารือเรื่องการไม่ต้องเสียภาษีการขายหุ้นของบริษัท แอมเพิลริช แก่นางสาวปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน 3.นางสาวโมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และ 4.นายกริช วิปุลานุสาสน์ นิติกร 9
       
       “โดยบุคคลที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วินิจฉัยความผิด และกระทรวงการคลังให้ออกจากราชการมาก่อนหน้านี้จากการละเว้นไม่เก็บภาษีบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมูนิวเคชั่น จำกัด จำนวน 546 ล้านบาทก่อนหน้านี้ แต่อยู่ในการพิจารณา และอาจจะถูก คตส.ชี้มูลความผิดอีกก็คือ นายศิโรตม์ และนางสาวโมรีรัตน์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ป.ป.ช.จะได้มีการชี้มูลความผิดกับผู้บริหารกรมสรรพากรบางรายไปแล้วก็ตาม แต่ คตส.สามารถที่จะพิจารณาดำเนินความผิดกับผู้บริหารคนดังกล่าวได้ เนื่องจากทั้งสองกรณีเป็นพฤติกรรมที่ต่างกรรมต่างวาระกัน” แหล่งข่าวจาก คตส.กล่าว
       
       ด้าน นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ในฐานะคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป กล่าวว่า วันที่ 27 มิ.ย.นี้ คณะอนุกรรมการฯ จะหารือว่าจะอนุญาตให้คุณหญิงพจมาน เลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปไปเป็นวันที่ 19 ก.ค.ตามคำขอหรือไม่ หลังจากที่นายสมพร พงษ์สุวรรณ ทนายความส่วนตัวได้นำใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลในประเทศสิงคโปร์มาแสดงต่อคณะอนุกรรมการฯ ว่าคุณหญิงพจมานมีอาการป่วยจริง
       
       “สำหรับการพิจารณาโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตอบข้อหารือสำหรับครอบครัวชินวัตร และดามาพงศ์ว่า ในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปไม่จำเป็นต้องเสียภาษีนั้น คาดว่าภายในสองสัปดาห์จะสรุปผลได้ โดยในวันที่ 27 มิ.ย.นี้จะมีการพิจารณาเฉพาะเรื่องคำร้องของคุณหญิงพจมานเท่านั้น” นายสัก กล่าว

 
 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000074579
 


หลังจากใช้วิธีการ ขั้นตอนตามกฏหมายที่เปิดช่องให้ทำให้ พวกฉ้อราษฎร์บังหลวง สามารถ"ผัดผ่อน"ไม่ต้องไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ คตส. คณะกรรมการ ปปช. คณะ DSI และ ศาลยุติธรรม จนหมดลู่ทาง และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการต่าง ๆ ไม่ยอมให้เลื่อนอีก แม้ว่าจะเป็นโรคแปลกประหลาดก็ตาม...

"ทนายหน้าหอ" ได้แถลงว่า"นายผู้ชาย" "นายผู้หญิง" และลูก ๆ จะไม่เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อให้ปากคำกับศาลยุติธรรมไทยอย่างแน่นอนแล้ว ด้วยข้ออ้างว่าประเทศไทยไม่"ปลอดภัย"สำหรับ"นายผู้ชาย"และครอบครัวของเขา....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แมนซิมีเจ้าของเป็นโจรซะแล้ว

ดีครับ ท่านเหลี่ยมไม่ต้องมาหรอก ตำรวจเค้าจะได้ออกหมายจับเลย ทันใจดี แล้วก็ออกปุ๊บก็ทำหนังสือไปขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนปั๊บ โดน  ครับ โดนน   :slime_v: :slime_v:

มาแนวไอ้โจรแขกเลยสินะ ไอ้โจรเหลี่ยม
แต่สมัยนั้นมันรัฐบาลใครหว่า โจรแขกถึงอ้าง "หากถูกนำกลับมาไทยเขาจะถูกสังหาร" กับศาลแคนาดาได้
ปะชาธิิปตัยหรือผะเด็ดกาน กันแน่จ๊ะ

:slime_evil:

มันดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรมไทย
เพราะมันไม่เคยเชื่อหลักนิติรัฐ

มันเชื่อหลักการรัฐตำรวจและรัฐนายทุน

อุ้มฆ่า+ฆ่าตัดตอน+ยัดเงิน
ลูกเดียว :slime_mad:


ประเภทเดียวกับไอ้โจรแขก

ประธานาธิบดีเกาหลีใต    ้ติดคุกมาแล้ว
ต่อไป   นายกไทย  ติดคุกบ้างจะเป็นแบบอย่าง
ให้เอา   นักการเมือง  ตัวใหญ่ๆชั่วๆ เข้าคุก
พวกนี้จะได้ลดอหังการ เหยียบยํ่ากฎหมาย
เหยียบยํ่าหัวชาวบ้านชาวเมือง  คนดีจะได้เข้ามา
ในวงการเมืองบ้าง
 เป็นกำลังใจให้ คตส.  ปปช.  ศาล.