ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

'ธีรยุทธ-จรัล' 14 ตุลา..สงครามเพื่อนพ้องน้องพี่?
 
1 มีนาคม พ.ศ. 2550 15:32:00
 
 
เมื่อหลายปีก่อน มีหนังไทยคุณภาพเรื่อง '14 ตุลา..สงครามประชาชน' ออกฉายทั่วประเทศ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งบวกและลบ ในกลุ่มซ้ายเก่าพอสมควร แต่ในปีนี้ มีทีท่าว่าคนไทยจะได้ชมหนังเรื่อง '14 ตุลา..สงครามเพื่อนพ้องน้องพี่' เสียแล้ว

เขียนโดย : บางนา บางปะกง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :  เมื่อคนเดือนตุลากลุ่มหนึ่ง ถือหาง 'มวลชน' ผู้ชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง ยืนยันจุดยืนเดิม ต้อง 'ล้างระบอบทักษิณ' ให้สิ้นซาก

ดังเช่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว มีคนเดือนตุลาสองคน ได้หลุดเข้ามาสู่สมรภูมิข่าวสาร 'ต่างขั้ว' โดยคนแรก คือ ธีรยุทธ บุญมี อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) ที่มาตามนัด เปิดแถลงข่าวเสนอต่อ คมช.-รัฐบาลสุรยุทธ์ ให้จัดการแก้ปัญหาทักษิณ และก้าวข้ามไปแก้วิกฤติอื่นๆ ของชาติ ว่า.....
" เหตุการณ์ที่นำมาสู่การรัฐประหาร ไม่ควรมองว่าเป็นความสำเร็จของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ควรร่วมกันพิจารณาว่าที่ผ่านมายังทำได้ไม่ดีพอ และตั้งสติร่วมกันหาทิศทางดีที่สุดให้ประเทศ เพราะในแง่ตัวบุคคล มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หมดอนาคตการเมืองแล้ว ต่างประเทศจะเลือกไทยมากกว่าเลือกพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว

"คมช. และรัฐบาล ควรตระหนักว่า ภารกิจลำดับแรกของประเทศ คือการรื้อล้างความชอบธรรมรัฐบาลทักษิณ โดยรัฐบาลควรตั้ง 'คณะกรรมการรื้อล้างความชอบธรรมของรัฐบาลทักษิณ' มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อสั่งงานประสานกับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ เพื่อสอบสวน รวบรวมข้อมูลหลักฐานเส้นทางการเงิน ประวัติบุคคล ในและนอกประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของรัฐบาลทักษิณ.."

 จุดยืนและท่าทีดังกล่าวของธีรยุทธ ล้วนมีมิตรสหายสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ประสาร มฤคพิทักษ์, ชัยวัฒน์ สุรวิชัย, เอนก เหล่าธรรมทัศน์, เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ, สังศิต พิริยะรังสรรค์ ฯลฯ

ขณะที่อีกคนหนึ่ง คือ จรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตสมาชิกกลุ่มสภาหน้าโดม ซึ่งในปัจจุบันเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แม้จะไม่ได้ออกมาแถลงข่าวอย่างคนแรก แต่การให้สัมภาษณ์ผ่านนักข่าวมติชนรายวัน แค่ไม่กี่ประโยค ก็ทำเอาเพื่อนมิตรมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไป

 สืบเนื่องจากที่มีข่าวว่า กลุ่มผู้ดำเนินการโทรทัศน์ดาวเทียม 'พีทีวี' จะแถลงข่าวเปิดตัวที่ 'อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16' สี่แยกคอกวัว ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ศกนี้

ต่อมาทางคณะกรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา ได้ประชุมกันแล้วมีมติว่า การดำเนินการของสถานีโทรทัศน์พีทีวี เป็นการดำเนินการขององค์กรทางธุรกิจ กิจกรรมการแถลงข่าว ก็เป็นการดำเนินการทางธุรกิจ จึงต้องยกเลิกการอนุญาตให้ใช้สถานที่ เพราะที่ผ่านมาทางมูลนิธิจะอนุญาตให้จัดกิจกรรมสาธารณะเท่านั้น

จากกรณีนี้ ทำเอา จรัล ดิษฐาอภิชัย ควันออกหู และรู้สึกไม่พอใจ น.พ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานมูลนิธิฯ ที่สั่งให้ยกเลิกการให้ใช้อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ เปิดตัวพีทีวี ของพลพรรค 'คนรักทักษิณ'

โดยจรัล ยืนยันว่า อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ตั้งขึ้นมาโดยเจตนารมณ์ 3 ประการ คือ ต่อต้านเผด็จการ ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการส่งเสริมประชาธิปไตย การจัดตั้งสถานีโทรทัศน์เป็นสิทธิเสรีภาพที่สามารถทำได้ และใครก็รู้ว่า สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวี ไม่ใช่ธุรกิจ แต่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านเผด็จการ

ด้วยเหตุนี้เอง จรัลจึงประกาศไม่สังฆกรรมกับคณะกรรมการมูลนิธิฯ ชุดปัจจุบัน

"การไม่ให้ใช้สถานที่โดยอ้างบอกว่าเป็นเรื่องธุรกิจ ผมว่าเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ผมไม่เชื่อว่า คมช. จะเป็นคนสั่งห้าม แต่คณะกรรมการมูลนิธิฯ อาจลืมเจตนารมณ์ของวีรชน 14 ตุลาไปแล้ว ผมผิดหวังมาก ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้ก็รู้จักกัน เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น และขอประกาศว่าจะไม่ไปร่วมงานครบรอบ 14 ตุลา หากคณะกรรมการมูลนิธิฯ ชุดนี้ยังอยู่ ผมจะไม่สังฆกรรมด้วยจนกว่าพวกเขาจะกลับมาสู่วิถีประชาธิปไตย"  

มิตรสหายหลายคนได้อ่านข่าว ก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่คิดว่าคนอย่างจรัล จะไร้เดียงสาจนแยกแยะไม่ออกว่า พีทีวี เป็นทีวีของประชาชน หรือของกลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจ?

จริงๆ แล้ว จรัลเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นกรรมการมูลนิธิ 14 ตุลาฯ ในคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งจะเข้ามาแทนที่คณะกรรมการชุดปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระลงไป

จริงๆ แล้ว พีทีวีมีเจตนาบิดบังอำพราง โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เล่าว่า ในวันเวลาดังกล่าว ได้มีบุคคลคนหนึ่งชื่อ 'อู๊ด' โทรศัพท์ไปขอใช้สถานที่ โดยอ้างว่ารู้จักกับเครือข่ายสลัม 4 ภาค ขอจองห้องประชุม และพร้อมที่จะจ่ายเงินค่าใช้จ่ายล่วงหน้าทันที โดยไม่บอกว่าจะทำกิจกรรมอะไร ครั้นคณะกรรมการมูลนิธิฯ มาทราบภายหลัง จึงปฏิเสธที่จะให้ใช้สถานที่ดังกล่าว

 จริงๆ แล้ว พีทีวีมีทุนรอนตั้ง 50 ล้านบาท จึงมีศักยภาพพอที่จะไปเช่าโรงแรมหรูๆ แถลงข่าวเปิดตัว แต่เหตุที่ต้องการใช้อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ก็เพียงต้องการชิงภาพ ชิงสัญลักษณ์การต่อสู้อำนาจเผด็จการ โดยเข้าใจว่า พี่ๆ อดีตเสนาบดี 'ตุลาชิน' คงวางเกมให้น้อง 'ตู่ ศรัทธาธรรม' เลือกใช้สถานที่ดังกล่าว

ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ตรงชื่อของบริษัท ผู้ปั้นแบรนด์พีทีวีนั้น ชื่อ บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด ซึ่งไปตรงกับชื่อกลุ่มอดีตปัญญาชนฝ่ายซ้าย ที่ผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลา, 6 ตุลา และเคยเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอาวุธในเขตป่ามาแล้ว

เมื่อพวกเขาเหล่านั้นกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็นัดพบปะสังสรรค์กันเป็นครั้งคราว จึงใช้ชื่อว่า กลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่ ซึ่งในปี 2533 ได้มีการก่อตั้ง 'กองทุนเพื่อนพ้องน้องพี่' ขึ้นมาช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในหมู่มวลมิตรสหาย ผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน

โดยกรรมการกองทุนฯ ประกอบด้วย ธีรยุทธ บุญมี, ประสาร มฤคพิทักษ์, สมาน เลือดวงหัด(นามสกุลใหม่ 'เลิศวงศ์รัฐ'), ชัยวัฒน์ สุรวิชัย, จรัล ดิษฐาอภิชัย และ คมสัน พงษ์สุธรรม (เสียชีวิตแล้ว)

 จากสถานการณ์ในชั่วโมงนี้ จะเห็นได้ว่า 'ธีรยุทธ-ประสาร-ชัยวัฒน์' ยืนอยู่ปีกเดียวกัน คือ ไม่เอาระบอบทักษิณ!

ส่วนอดีตประธานสภานักศึกษา มธ. ปี 2516 สมาน เลิศวงศ์รัฐ ยังเป็นนายทะเบียนพรรคไทยรักไทย และหวังที่จะสานฝัน ปั้น จาตุรนต์ ฉายแสง เป็น 'วีรบุรุษประชาธิปไตย' ร่วมกับ สุธรรม แสงประทุม และอดิศร เพียงเกษ

เช่นเดียวกับจรัล ที่ประกาศไม่เอาเผด็จการทหาร และเห็นว่า ระบอบทักษิณเป็นแค่วาทกรรม ที่ปัญญาชนกลุ่มใหญ่ใส่ร้ายทำลายความชอบธรรมของผู้นำรัฐบาลประชาธิปไตย อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

จรัล กับ เกรียงกมล เลาหไพโรจน์ จึงประกาศ 'ปฏิญญาสุนทรี' ณ ร้านสุนทรี ประชาชื่น ไม่สมคบคิดกับปัญญาชนฝ่ายซ้าย ที่ต่อต้านระบอบทักษิณ เพราะคนพวกนี้ไม่ใช่ 'นักประชาธิปไตย'

 ส่วน ภูมิธรรม เวชยชัย ผู้เจ็บปวดจาก 'ปฏิญญาฟินแลนด์' ด้วยฝีมือน้องรัก อิทธิ สิทธิประชา ผู้แปรพักตร์ไปอยู่กับเสี่ยสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ปักหลักประกาศ 'ปฏิญญารสสะเบียง' ณ ร้านรสสะเบียง ริมคลองประปา ด้วยการส่ง ก่อแก้ว พิกุลทอง ลูกน้องคนสนิท ไปร่วมงานกับพีทีวี ที่มีนายหัววีระ มุสิกพงศ์ เป็นผู้อำนวยการสถานี

'14 ตุลา..สงครามเพื่อนพ้องน้องพี่' ยังไม่จบ เพราะมันเป็นหนังเรื่องยาว หักเหลี่ยมเฉือนคม ซับซ้อนซ่อนปมยิ่งกว่า 'เดอะ ดีพาร์ทเต็ด'
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/01/WW12_1208_news.php?newsid=56983


วันนี้จรัล ดิษฐาอภิชัย  ประกาศไม่เอาเผด็จการทหาร ได้เข้าร่วม"ม๊อบไข่แม้ว"อีกคนหนึ่ง ตาม'หมอเหวง'......

เขาเห็นว่า ระบอบทักษิณเป็นแค่วาทกรรม ที่ปัญญาชนกลุ่มใหญ่ใส่ร้ายทำลายความชอบธรรมของผู้นำรัฐบาลประชาธิปไตย อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เงินไหลเข้า อุดมการณ์ไหลออก อีกแล้วจ้า

เป็นธรรมดาเพื่อปากเพื่อท้อง จึงจำเป็นต้องเก็บอุดมการณ์ เข้าลิ้นชักไว้ก่อน

ถ้ารักประชาธิปไตยจริง คงต้องเอากลืนกระดาที่เขียนคำว่าคำว่า "เป็นลิ่วล้อทักษิณ ดีกว่าเป็น สมุนเผด็จการ" ลงท้องเสียก่อน

ถ้ารักประชาธิไตยจริง มันต้องไม่เลือกอะไรเลย เพราะประชาธิไตยคือตัวเรา สิทธิ์เรา เราไม่ได้อยู่รับใช้อะไร แค่นี้ก็บ่งบอกว่า คนๆๆนี้ไม่มีประชาธิปไตยในตัวแล้ว มันก็น่าแปลใจที่ คนๆๆนึง เคยเดินทางไปเอาความคิด คอมมิวนิตย์มาล้มล้างระบอบการปกครองประเทศแม่ตัวเอง แล้ววันนี้จะมาบอกว่าจะสู้เพื่อระบอบที่ตัวเองเคยคิดล้มล้าง

ก่อนที่คุณ จรัญ จะพูดอะไรให้ดูดี ผมว่าลาออกจากการเป็นกรรมการสิทธิ มนุญษยชนก่อนเถอะครับ เพราะตอนนี้ คุณเป็นกรรมการเพราะ คมช.ให้การรับรองให้ดำรงอยู่ต่อหลังการรัฐประหารแล้ว

คนเดือนตุลานั้นเห็นจะแยกได้เป็นสองพวก นับตั้งแต่เข้าป่าไปร่วมกิจกรรมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การแบ่งแยกนั้นแบ่งกันตรงที่จุดแตกหักเมื่อคอมมิวนิสต์จีน เลิกสนับสนุนคอมมิวนิสต์ไทย และคอมมิวนิสต์ไทยก็แตกออกเป็นสองพวก พวกหนึ่งต่อสู้ไปตามกำลังที่ตนมี อีกพวกหนึ่งอิงเข้ากับฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามและลาว และสนับสนุนในการยกกองทัพเวียดนามและลาวเข้ามาช่วยการปฎิวัติในประเทศไทย

คนเดือนตุลาเองนั้นแตกแยกทางความคิดตรงนี้

กลุ่มหนึ่งเห็นว่า การนำกองทัพต่างชาติเข้ามาบุกแผ่นดินไทย ถึงจะเป็นกองทัพคอมมิวนิสต์ด้วยกัน มันก็ไม่ต่างอะไรกับการขายชาติ พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย แต่ไม่ได้ต้องการให้ต่างชาติเข้ามาครอบครอง เมื่อถึงจุดที่กองทัพต่างชาติจะบุกเข้ามา เขาก็จะกลับปากกระบอกปืน ไปรบกับกองทัพต่างชาตินั้น รักษาชาติไว้ก่อน ไม่ว่าขณะนั้นจะแตกต่างทางความคิดกันมากมายเพียงไร กลุ่มนี้สุดท้ายแล้ว ก็พิสูจน์ตนเองว่า เป็นคนไทย รักชาติไทย ถึงจะไม่พอใจกับการปกครอง แต่ก็ไม่ยอมขายชาติ ไม่ยอมให้กองทัพต่างชาติเหยียบย่ำแผ่นดินไทย ขอสรรเสริญพวกท่านไว้ ณ.ที่นี้ด้วย

แต่อีกกลุ่มหนึ่ง มีความคิดว่า ไม่ว่าจะอาศัยอะไร จะให้กองทัพต่างชาติย่ำยีแผ่นดินแม่จนแหลกยับ จะให้ชาวต่างชาติมาฆ่าเพื่อนร่วมชาติด้วยกัน อะไรก็ได้ ขอให้ชนะ ขอให้ได้มาเป้นใหญ่ ได้ทำความฝันของตนให้สำเร็จ คล้ายๆกับแนวทางที่ว่า ทุนนิยมสามานย์ดีกว่าศักดินาล้าหลัง นั่นคือยอมรับอะไรก็ได้ที่จะมาล้างสิ่งที่ตนต่อต้าน แม้สิ่งที่มาล้างนั้นจะชั่วช้าอย่างไรก็ตาม

กลุ่มแรกวันนี้ ต่อสู้ทางความคิด ไม่เอาเผด็จการ อยากให้ประชาธิปไตยคลี่คลายไปในทางที่ดี รู้แล้วว่าการต่อสู้นั้นต้องใช้เวลา และไม่จำเป็นต้องเสียเลือดเนื้อ

กลุ่มหลังวันนี้ ยังนิยมความรุนแรง ยังอยากเห็นการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง อยากเห็นเลือดทาแผ่นดิน อยากพลิกแผ่นดิน และใช้ทุกอย่าง แม้แต่จะยอมรับใช้ทรราช เพื่อโค่นล้มสิ่งที่ตนไม่ชอบ

และยังมีคนเดือนตุลากลุ่มที่สาม กลุ่มที่เข้าถึงสัจธรรมแล้ว อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ยุ่งกับใคร เหมือนหายไปกับสังคม และนั่งมองเพื่อนอีกสองกลุ่มด้วยความสมเพช  :slime_v:

กลุ่มที่3นี่คงเยอะนะครับ

ต้องยอมรับความคิดเห็น "พรรณชมพู" วิเคราะห์ได้อย่างเฉียบคม ตรงไป ตรงมา

ถูกต้องคนเดือนตุลาในอดีต ปัจจุบันแตกตัวออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ทุกกลุ่มถ้าจะว่าไปความเป็น "มิตรสหาย" ยังคงอยู่ ไม่ถึงกับขั้นที่เรียกกันว่า "แตกแยก"

ขอแก้นิดหนึ่งแล้วกันนะ "คนเดือนตุลาเองนั้นแตกแยกทางความคิดตรงนี้" เป็น "คนเดือนตุลาเองนั้นแปลกแยกทางความคิดตรงนี้"

นอกนั้นยึดถือตามต้นฉบับของ "พรรณชมพู" น่ะชอบแล้ว