ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เป็นข่าวที่ถูกสร้างขึ้นมาใช่ไหมครับ  ทำไมไม่มีข่าวเลย หรือข่าวไม่มีมูลครับ

ทราบชื่อว่าเป็นเขาครับ อยู่อำเภอตำบล อะไรครับ..?

ข่าวเริ่มต้นมาจากไหนครับ..สวยมั้ยครับ.. ? :slime_inlove: :slime_cool:

ยังหาบ้านพร้อมสระน้ำที่ว่าไม่เจอเลยครับ

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_slapped:

เข้าใจว่า คุณคงจะหมายถึงกรณีที่ดินของนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ ที่มีอยู่บนเขาลูกนั้น  :slime_doubt:

และนอกจากจะต้องการสื่อถึงจุดหมายแล้ว เนื้อความในกระทู้ยังสื่อถึง ความสงสัย ความคับข้องใจ ความขุ่นเคือง และความคั่งแค้น ไว้ได้ครบครัน  :slime_dizzy:

ไม่น่าเชื่อว่าหัวข้อกระทู้สั้นๆ และเนื้อความกระทู้ที่สั้นๆเช่นกัน จะสะท้อนถึงความทุกข์ระทมของคุณออกมาได้มากมายถึงเพียงนี้  :slime_hitted:

นี่แหละ ระหว่างบรรทัด นั้นมีจริง   :slime_worship:

จะลองสรุปคำถามและตอบให้คุณ อาจจะไม่ได้ช่วยปลอบใจหรือบรรเทาความคั่งแค้นอะไรได้ แต่ก็จะตอบให้  :slime_v:

1. เป็นข่าวที่ถูกสร้างขึ้นมาใช่ไหมครับ

- ใช่ค่ะ เป็นข่าวที่ไทยรักไทยพยายามนำมาแก้เกมส์เพื่อหาความชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรม เรื่องราวการถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยงนั้น มีความเกี่ยวพันกับความวิบัติของไทยรักไทยและตระกูลชินน้อยมาก เพราะความวิบัติของสองสิ่งนั้นเกิดจากกรรมที่คนในพรรคและคนในตระกูลนั้นก่อไว้เอง การสร้างข่าวเขายายเที่ยงขึ้นมา เป็นเพียงความพยายามแบบโง่ๆ ที่จะแก้ไขสถานการณ์แบบงั่งๆ เท่านั้นเอง  :slime_sentimental:

2. ทำไมไม่มีข่าวเลย

- ถ้าจะตอบแบบยันให้หน้าหงาย ก็คงจะต้องตอบว่า ถามข้อหนึ่งแล้วไม่น่าโง่ถามข้อสอง เพราะถ้าไม่มีข่าวจะถามว่าเป็การสร้างข่าวได้อย่างไร แต่ถ้าอ่านระหว่างบรรทัดอีกนั่นแหละ จะเห็นความทุกข์ระทมปวดร้าว ที่พยายามสร้างข่าวแล้วไม่มีใครนำข่าวไปเล่น คำถามนี้จึงอาจหมายความได้ว่า ทำไมไม่มีข่าวต่อเนื่องเลย  :slime_smile2:

อันว่าธรรมชาติของข่าวนั้น ข่าวไร้สาระย่อมตกจากความสนใจในเวลาอันรวดเร็ว และข่าวที่ได้รับการชี้แจงแล้วก็ย่อมคลายความสงสัยไปได้ สำหรับผู้ที่พิจารณาการชี้แจง แต่สำหรับผู้ที่สติปัญญาน้อย ก็ย่อมจะไม่เข้าใจในเหตุผลอันใด ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด ในเมื่อข่าวมันหายไปแล้ว ตกจากความสนใจไปแล้ว ก็แปลว่าความจริงมันถูกชี้แจงแล้ว  :slime_v:

3. หรือข่าวไม่มีมูลครับ

- ใช่ ค่ะ :slime_v: :slime_v:

เข้ามาโอ๋ค่ะ โอ๋ ๆ ๆ ๆ ...ร้องเพลงกล่อมเด็กดีกว่ามั้ง ..อ๋องหน่าอ๋อง อ่องกิมก๋อง กิมก่องตั่ว (ต่อไปจำไม่ได้แระ  :mrgreen:).... :slime_smile2: :slime_bigsmile: :slime_smile2:

เค้าเรียกว่า เจียะป้าบ่อสื่อไม่ชอบ ชอบฉ่วยสื่อ แล้วเป็นไง หอกนั้นคืนสนอง อิ๊ ๆ  :slime_smile2:

เดี๋ยวก็มีคนถาม "แล้วเรื่องสนธิจดทะเบียนซ้อนหล่ะไปถึงไหน" ?

 :slime_v:  :slime_v:

มันไม่มีอะไรให้พูดเลย จะพูดยังไงหละ อ่อ นึกได้คำนึง 'ยังไม่ได้รับรายงานคร้าบ'

คุณ mark3000 มีข้อมูลอะไรอยู่บ้างก็บอกมาสิครับ ตัวคุณเองเชื่อตรงไหนว่ายังไง
หรือสงสัยจุดไหน จะได้นำมาคุยกันต่อได้

เปิดประเด็นลอยๆ แบบนี้ คุยต่อไม่ถูกนะครับ

ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมก็อยากให้จัดการเหมือนกัน ถ้าผิดจริงก็รับโทษกันไป

นั่นจะทำให้คำตัดสินของ ปปช. หรือ คตส. หรือองค์กรอะไรก็ตามที่มีหน้าที่ มีความเที่ยงธรรมอยู่เสมอ

แต่ถ้าไม่จริง ไอ้คนปล่อยข่าวกล่าวหาเค้า ต้องโดนลงโทษอย่างสาสมด้วย

ส่วนกรณีที่พวกทุยรักทุยเปิดประเด็นจดทะเบียนซ้อนของบิ๊กบัง ผมอ่านครั้งแรก ขำอุจจาระแทบเล็ด นี่เล่นกันแบบนี้เลยเหรอ ขำแทบตาย  :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ครั้งล่าสุดที่ได้ยินมาอย่างนี้น๊าตั๊วะ :slime_whistle:



"ปชป.แนะนายกฯคืนสิทธิครอบครองที่ดินเขายายเที่ยง

 
 

เด็ก ปชป. แนะ นายกฯ คืนสิทธิครอบครองที่ดินเขายายเที่ยง และให้ระวังคนในกรมอุทยานฯ-กรมป่าไม้ ลิ่วล้ออำนาจเก่าเล่นงาน





 (30ธค.) นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง และคณะทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาที่ดินเขายายเที่ยงว่า เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติที่มีปัญหานี้ ผู้บุกรุกแผ้วถางและถือครองคือนายเบ้า ซึ่งนายเบ้าผู้บุกรุกถือครองได้รับสิทธิให้ครอบครองและทำกินต่อไปในที่ดินผืนนี้ด้วยมติของคณะกรรมการป่าไม้แห่งชาติเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2541 และมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 เพราะได้บุกรุกถือครองและทำกินมาก่อนอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดทุกประการ


นายนริศ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาว่า นายกรัฐมนตรีเข้ามาครอบครองสิทธิของนายเบ้าโดยสำคัญว่ามี ภทบ.5 และได้เสียภาษีแล้วเป็นการครอบครองโดยชอบ อย่างไรก็ตามหากให้เป็นไปตามกฎหมายนายกฯต้องปฏิบัติดังนี้ 1.นายกฯต้องคืนสิทธิการครอบครองที่มิชอบนี้ให้นายเบ้าเจ้าของสิทธิที่แท้จริงโดยทันที ทั้งที่ดินและบ้าน 2.จากปรากฏการณ์ครั้งนี้และข้อมูลรายละเอียดที่ปรากฏขอให้นายกฯระวังว่าในกรมอุทยานฯและกรมป่าไม้ซึ่งถูกครอบงำจากระบบอำนาจเก่ามาร่วม 5 ปี จนสามารถแปรกำลังที่ใช้ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นของส่วนตัวเพื่อรับใช้การเมืองได้ พร้อมที่จะทำลายอำนาจใหม่ได้ตลอดเวลา


“หากเรื่องก้ำกึ่งอาจวินิจฉัยเพื่อทำลายรัฐบาลได้ทันทีประกอบกับผู้บริหารทั้งกรมและกระทรวงที่ตั้งใหม่อ่อนแอไม่อาจจัดการกับระบบเก่าที่ฝังรากหยั่งลึกเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมาและปกป้องทรัพยากรฯได้” นายนริศ กล่าว "

เคยเห็นในรูปทีมาลงในพันทิป มีบ้านพร้อมสระน้ำ สวยจัง...............นั่นใช่บ้านนายก อะป่าว :slime_doubt:

 :slime_bigsmile:

จะมีเครื่องบิน รถถัง หรือสระว่ายน้ำก็ช่าง....ประเด็นมันอยู่ที่ว่าบ้านที่ก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าวถูกกฎหมายหรือไม่เท่านั้น เรื่องง่ายๆแค่นี้...ผ่านมาแล้วกว่า 6 เดือน คนที่บอกว่าตัวเองมีจริยธรรม มโนธรรม และคุณธรรมสูงส่ง....ทำไมไม่ยอมเคลียร์?!?

ไปตามที่ ปปช. ได้เลย ผมก็อยากรู้เหมือนกัน..........ฮ่า ๆ บอกพี่จิ๋ว หวานเจี๊ยบไปดันต่อดิ

 :slime_smile:

ป.ป.ช.ไม่รับคำร้องกลุ่มวันเสาร์ฯ กรณีที่ดินเขายายเที่ยง
 
21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 16:22:00
 
"กล้านรงค์" ระบุมติที่ประชุมป.ป.ช. ไม่รับพิจารณาคำร้องของกลุ่มวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กล่าวหา"พล.อ.สุรยุทธ์" ครอบครองที่ดินเขายายเที่ยง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า มีมติไม่รับพิจารณาคำร้องของนายสุดชาย บุญไชย อดีตแกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่กล่าวหา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 กับพวก เข้าไปถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมิชอบ

โดยอ้างว่า เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ตั้งแต่ปี 2546 ส่วน พ.อ.หญิงท่าน ผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา ได้พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไปตั้งแต่ปี 2545 แต่นายสุดชาย เพิ่งยื่นคำกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2550 จึงเป็นคำกล่าวหาที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 84 ประกอบมาตรา 85 ที่ระบุว่าการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดฐาน ทุจริตต่อหน้าที่ ผู้กล่าวหาจะต้องยื่นคำกล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกินสองปี

นายกล้านรงค์ กล่าวว่า คำกล่าวหาของนายสุดชายนั้นระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 พ.อ.หญิงท่านผู้หญิง จิตรวดี จุลานนท์ ภริยา และพล.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ได้ถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยง โดยได้ที่ดินดังกล่าวมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือ เจ้าของที่ดินเดิมได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับผู้จัดสรรที่ดินคนหนึ่งในราคา 700,000 บาท ต่อมาผู้จัดสรรที่ดินคนดังกล่าวได้ขายที่ดินให้กับ พล.อ.สุรฤทธิ์ ในราคาเพียง 50,000 บาท และภายหลัง พล.อ.สุรฤทธิ์ ได้ยกที่ดินบนเขายายเที่ยงให้กับ พ.อ.หญิงท่านผู้หญิงจิตรวดี โดยเสน่หา ซึ่งน่าสงสัยว่าการขายที่ดินในราคาถูกดังกล่าว สืบเนื่องมาจากที่ผู้จัดสรรที่ดินคนดังกล่าวได้เคยจัดสรรที่ดินขายให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยในกองทัพภาคที่ 2 แต่เกิดปัญหาไม่สามารถออกโฉนดและโอนที่ดินให้ผู้ซื้อได้ จึงได้ขายที่ดินให้ราคาถูกเป็นค่าวิ่งเต้น 

นายกล้านรงค์ กล่าวว่า สำหรับกรณีของพล.อ.สุรฤทธิ์ นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติที่จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องของนายสุดชาย เนื่องจาก พล.อ.สุรฤทธิ์เพิ่งพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในปี 2549 จึงยังอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.ที่ จะดำเนินการได้ โดยจะมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 31 ข้อ 5 

ด้านนายสุดชาย กล่าวว่า คิดไว้แต่แรกแล้วว่ากรณีการกล่าวหา พล.อ.สุรยุทธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น จะไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ เพราะไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 84 ประกอบ มาตรา 85  ส่วนที่ ป.ป.ช.มีมติให้ไต่สวน พล.อ.สุรฤทธิ์ ที่นำที่ดินไปมอบให้กับพ.อ.หญิงท่านผู้หญิงจิตรวดี โดยเสน่หานั้น ก็ถือว่าคดีนี้มีมูลความผิดแล้ว เพราะมีเหตุน่าสงสัยว่าเหตุใดพ่อค้าที่ดินจึงนำที่ดินที่มีมูลค่า 700,000 บาท มาขายต่อให้ พล.อ.สุรฤทธิ์ เพียง 50,000 บาท และต่อมา พล.อ.สุรฤทธิ์ ก็นำที่ดินไปมอบให้ พ.อ.หญิงท่านผู้หญิงจิตรวดี โดยเสน่หา ซึ่งถือว่าน่าสงสัยว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ที่ดินมาโดยมิชอบจริง แต่ที่รอดตัวมาได้ เพราะพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมาเกิน 2 ปี ดังนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จึงควรพิจารณาตัวเองว่าสมควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ ในฐานะที่เคยประกาศว่าเป็นผู้ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และความโปร่งใสในการทำงานมาโดยตลอด
 

http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/21/WW03_0301_news.php?newsid=80197


ซึ่งถือว่าน่าสงสัยว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ที่ดินมาโดยมิชอบจริง แต่ที่รอดตัวมาได้ เพราะพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมาเกิน 2 ปี ดังนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จึงควรพิจารณาตัวเองว่าสมควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ ในฐานะที่เคยประกาศว่าเป็นผู้ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และความโปร่งใสในการทำงานมาโดยตลอด


ลิ่วล้อเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก พยายามจะ"เข้ม"คุณธรรมและจริยธรรมของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์คนเดียว............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สุนัขหางด้วน...มีความคาดหวังที่อยากจะให้ผู้อื่น ดูไม่ดีเหมือนตน

เพราะตอนนี้ดันถูกตัดหางปล่อยวัด  :slime_smile2: