ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

โดยทีมข่าว INN News 19 มิถุนายน 2550 13:56:32 น.     
 
   
   

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลสรุปคดีโดย ออกหมายเรียก 'ทักษิณ-พจมาน'รวมทั้ง ผู้บริหารเอสซี ชี้แจง 26-29 มิ.ย.นี้

สุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงสรุปคดี พร้อมออกหมายเรียก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา และบุษบา ดามาพงศ์ และผู้บริหารเอสซีแอสเสท มารับทราบข้อกล่าวหาคดีปกปิด ข้อมูลโครงสร้างหุ้น เอสซีแอทเซส ให้มาพบเจ้าหน้าที่วันที่ 26-29 มิถุนายนนี้ ชี้อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายป.ป.ช. หากไม่มาออกหมายจับ
 
**********
 
 

อืมม สงสัยเหมือนกันจะมาดีมั้ย??  :slime_cool:

พอมีข่าวอกมาแบบนี้

ชายทัก หญิงอ้อ และหนูบุษ เตรียมท้องเสียกันอีกแล้ว

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ดีเอสไอ ชี้ "แม้ว-อ้อ" จงใจปกปิดหุ้นเอสซีฯ ปรับ 1.9 พันล้าน
วันที่ 19 มิ.ย. 2550


ออกหมายเรียก 26 - 29 มิ.ย.นี้



วันนี้ (19 มิ.ย.) นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงสรุปผลการสอบสวนคดี บริษัท เอสซีแอสเซท คอร์ปอเรชั่น โดยพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา กระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ข้อหาปกปิดข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้น ในแบบแสดงรายการข้อมูล การเสนอขายหลักทรัพย์ และรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นตามกฎหมาย ทั้งนี้ การกระทำผิดของทั้งคู่ คือ ยักย้ายถ่ายเทหุ้น โดยไม่เปิดเผยข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูล การเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ยื่นต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2546 นั้น ไม่ถูกต้องตากฎหมาย ซึ่งครอบครัวชินวัตรไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท เอสซี แอสเซท ร้อยละ 60.82 และได้นำบริษัทต่างชาติเข้ามาถือหุ้น โดยรวมทั้งหมดเป็นการถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 79 ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลที่มีนัยสำคัญ ทำให้นักลงทุนเข้าใจว่าครอบครัวชินวัตร สามารถควบคุมได้เฉพาะมติที่ใช้เสียงข้างมาก การกระทำทั้งหมดถือว่าเข้าข่ายความผิดมาตรา 278 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ขณะที่ นางบุษบา ดามาพงษ์ อดีตผู้บริหารที่ร่วมลงนามรับรองความถูกต้องแบบแสดงรายการข้อมูล ได้เข้าข่ายการทำผิดตามมาตรา 301 ประกอบ 278 แห่ง พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน นอกจากนี้ การที่ครอบครัวชินวัตร ให้นิติบุคคลต่างชาติเข้ามาถือหุ้น หรือนิติบุคคลที่อำพรางการถือหุ้น ก็ถือเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา โดยการขายหุ้นให้ตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียก บริษัท เอสซี แอสเซท นางบุษบา ดามาพงษ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา มารับทราบข้อกล่าวหา ในช่วงระหว่างวันที่ 26 - 29 มิ.ย.นี้

นอกจากนี้ ในการสอบสวน นายสุนัย ยังพบว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอื่น ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่มีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สิน โดยอาจเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ส่วนความผิดที่จะได้รับ ตามข้อหาการกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 เท่า ของมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมด ทั้งนี้ จะเสียค่าปรับโดยรวมกว่าไม่ต่ำกว่า 1,900 ล้านบาท

http://www.matichon.co.th/breaking-news/breaking-news.php?nid=20070619-145628
********

คุก  คุก  คุก

DSI เงื้อ ปปช.ฟัน กลต.เก็บศพ
ทำให้ครบวงจรด้วยละ
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

"ตรงนี้ทำให้มีข้อสงสัยว่า Win Mark Limited, Value Investment Mutual Fund ,โอเวอร์ซี โกร์ธฟันด์ และ ออฟชอร์ ไดนามิค ฟันด์ อาจเป็นนิติบุคคลอำพรางการถือหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับครอบครัว"นายสุนัย กล่าว และว่า ก.ล.ต.ยังได้ส่งข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบมาให้ดีเอสไอเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนที่มีพนักงานอัยการ และสำนักงาน ก.ล.ต.เข้าร่วมนั้น ได้สอบสวนข้อสงสัยต่าง ๆ แล้ว พบพยานหลักฐานที่ทำให้น่าเชื่อว่า บริษัทและกองทุนต่างประเทศดังกล่าว เป็นนิติบุคคลที่อำพรางการถือหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา จึงแสดงว่าบุคคลทั้งสองเป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง และเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจดำเนินการเกี่ยวกับหุ้น SC และบริษัทของครอบครัวชินวัตรที่ถือโดยนิติบุคคลอื่นมาโดยตลอด

นายสุนัย กล่าวว่า จากการสอบสวนยังพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายอื่นที่อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.กล่าวคือ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2542 ซึ่งดีเอสไอ จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยัง ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบภายในเดือนนี้

"เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 44 และ ในปี 48 "นายสุนัย กล่าว  


http://www.posttoday.com/topstories.php?id=173327

ถูกกลั่นแกล้งหรือทำตัวเอง หนอ....

  :mozilla_cool:

http://www.dsi.go.th/dsi/index.jsp

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวทั้งหมด


*********
ยังเงี่ยบสี่ ทุกบับเค้าลงกันหมดแล้ว

ใครคุมเว็บว่ะนั่น


เรื่อง ปรส. ยังเคยไปหาข่าวตามเว็บบอร์ดเลย เหอ ๆ  :slime_bigsmile:

ตะแบงไปเรื่อยไม่รู้สำนึก

ประเทศชาติเสียหายเพราะครอบครัวนี้ ไม่ใช่แค่เงิน ยังเป็นจริยธรรม คนเห็นความชั่วเป็นเรื่องเล็ก

น่าจะจับมาประจาน  :slime_worship: