หัวข้อ: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-06-2007, 15:50 คณะกรรมการสโมสรฟุตบอลที่เจ้าของ"ม๊อบใข่แม้ว" คุยว่าจะซื้อนั้น
ไม่สนใจที่มาที่ไปของเงินที่จะซื้อทีมฟุตบอลของตนเองเหรอ....... ไม่สนใจว่าเงินจำนวนนั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ถูก'อายัด'จากคณะกรรมการ คตส.แล้ว ไม่สนใจว่าถึงคำชี้แจง รายละเอียดของคำสั่งของคณะกรรมการ คตส.อายัดเงินในบัญชีต่าง ๆ ที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง การฉ้อราษฎร์บังหลวง การใช้ผลประโยชน์ทับซ้อน การใช้"ทุจริตทางนโยบาย" ระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรี 5-6 ปี.... ไม่สนใจว่าการซื้อทีมฟุตบอลคราวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการ"ฟอกเงิน" สกปรกให้สะอาด...... หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 13-06-2007, 15:56 ตอนนี้เขาให้ทักษิณชี้แจงอย่างเป็นทางการ สงสัยประธานสโมสร จะหนาวไปด้วย..รอวันสองวันก็จบ.. :slime_smile: :slime_cool: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 13-06-2007, 15:58 คณะกรรมการสโมสรฟุตบอลที่เจ้าของ"ม๊อบใข่แม้ว" คุยว่าจะซื้อนั้น ไม่สนใจที่มาที่ไปของเงินที่จะซื้อทีมฟุตบอลของตนเองเหรอ....... ไม่สนใจว่าเงินจำนวนนั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ถูก'อายัด'จากคณะกรรมการ คตส.แล้ว ไม่สนใจว่าถึงคำชี้แจง รายละเอียดของคำสั่งของคณะกรรมการ คตส.อายัดเงินในบัญชีต่าง ๆ ที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง การฉ้อราษฎร์บังหลวง การใช้ผลประโยชน์ทับซ้อน การใช้"ทุจริตทางนโยบาย" ระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรี 5-6 ปี.... ไม่สนใจว่าการซื้อทีมฟุตบอลคราวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการ"ฟอกเงิน" สกปรกให้สะอาด...... เพราะรัฐบาลทั่วโลกเค้าทราบดีว่า การที่โจรปล้นอำนาจปชช.ของตัวเอง การโยนความผิดให้คนอื่นโดยไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ และการดูแคลนปชช.ของตัวเองนั้นไม่สมควรที่จะไปให้เครดิตโจร คุณปุฯคงไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของชาวโลกเพราะเห็นเผด็จการเป็นญาติผู้ใหญ่ไปซะแล้ว :slime_smile2: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-06-2007, 16:15 คุณปุฯคงไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของชาวโลก เพราะเห็นเผด็จการเป็นญาติผู้ใหญ่ไปซะแล้ว
คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกเทิดทูนเผด็จการจากการเลือกตั้ง,เหลี่ยมเป็นญาติผู้ใหญ่ ก็จะอยากให้คนอื่น ๆกระทำบ้าง.................. คิดอย่าง หมาหางด้วน โดยแท้.............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 22-06-2007, 10:34 แม้วฮุบ"เรือใบ"จ่าย5.3พ้นล้าน นายกฯไฟเขียวถ้าเงินบริสุทธิ์
22 มิถุนายน 2550 07:19 น. "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ประกาศยอมรับข้อเสนอของ "ทักษิณ" วงเงิน 81.6 ล้านปอนด์แล้ว รอ "พรีเมียร์ลีก" ไฟเขียวทำสัญญา ระบุงานแรกทุ่ม 2 ล้านปอนด์ดึง สเวน โกรัน อีริคส์สันนั่งผู้จัดการทีม "สุรยุทธ์" ไม่ขัดหากเงินบริสุทธิ์ รายงานจากอังกฤษ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ระบุว่า การเจรจาขอซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ "เรือใบสีฟ้า" ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขยับใกล้ความเป็นจริงแล้ว เมื่อบอร์ดบริหารของทีมแมนฯ ซิตี้ ออกแถลงการณ์ยอมรับข้อเสนอขอซื้อทีมเป็นจำนวนเงิน 81.6 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 5,334 ล้านบาท ของอดีตนายกฯไทยเรียบร้อยแล้ว ข้อเสนอนี้ถูกยื่นผ่านบริษัท ยูเค สปอร์ต อินเวสเมนต์ ซึ่งรายงานระบุว่านายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือหุ้นอยู่ ได้ขอซื้อหุ้นในราคาหุ้นละ 40 เพนซ์ เป็นเงิน 21.6 ล้านปอนด์ ส่วนอีก 60 ล้านปอนด์ จะเป็นส่วนของหนี้สินของทีม นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่าการเข้ามาซื้อกิจการของทีมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารสโมสร โดยประธานสโมสรยังคงเป็น จอห์น วอร์เดิล และประธานบริหารก็ยังคงเป็น อลิสเทียร์ แม็คอินทอช เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษระบุว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกอายัดทรัพย์จากคดีทุจริตต่างๆ ในไทย ทำให้จะต้องเจรจาในรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ รวมทั้งต้องถูกตรวจสอบตามข้อกำหนดของพรีเมียร์ลีกด้วยว่ามีความเหมาะสมในเรื่องส่วนตัว และมีคุณสมบัติเหมาะสมในเรื่องของบุคคลที่สมควรจะได้เป็นเจ้าของทีมฟุตบอลในเมืองผู้ดีหรือไม่ ซึ่งหากการตกลงเรื่องรายละเอียดบรรลุผล พ.ต.ท.ทักษิณก็จะเข้าถือหุ้นในสโมสรแมนฯ ซิตี้ 55.9 เปอร์เซ็นต์ จากการที่ได้รับการโอนหุ้นจากบอร์ดบริหารเดิม และ ฟรานซิส ลี อดีตประธานสโมสร ทักษิณลั่นนำทีมยิ่งใหญ่ "ผมยินดีที่บอร์ดบริหารตอบรับข้อเสนอของผมในการซื้อหุ้นสโมสร ผมกำลังรอคอยการทำงานกับ จอห์น วอร์เดิล และทีมของเขา ผมมีความหวังที่จะนำสโมสรกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ทั้งในระดับพรีเมียร์ลีก และฟุตบอลยุโรป ผมไม่ลังเลเลยที่จะนำแมนฯ ซิตี้ แฟนบอล นักเตะ และทีมงานทุกคนเป็นสโมสรยิ่งใหญ่ในอนาคต" พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าว ทั้งนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณสามารถซื้อหุ้นและเป็นเจ้าของแมนฯ ซิตี้ สโมสรนี้ก็จะเป็นสโมสรที่ 8 ในพรีเมียร์ชิพที่มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติต่อจาก แอสตัน วิลล่า เชลซี ฟูแล่ม ลิเวอร์พูล แมนฯ ยูไนเต็ด ปอร์ทสมัธ และ เวสต์แฮม สโมสรแมนฯ ซิตี้ ก่อตั้งเมื่อปี 1894 และอยู่ในพรีเมียร์ชิพอังกฤษมาตลอดในช่วง 4 ปีหลังสุด เคยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมาแล้ว 2 สมัย คือปี 1937 กับ 1968 ครองแชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย โดยครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1969 ลีก คัพ 2 ครั้ง คือปี 1970 และ 1976 รวมทั้งเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1970 ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลเดียวในระดับนานาชาติ ปัจจุบันใช้สนาม ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เป็นสนามเหย้า โดยสนามแห่งนี้เคยใช้ในการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพในปี 2002 พรีเมียร์จับตาคดีทุจริต แดน จอห์นสัน โฆษกของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้เปิดเผยทางสถานีวิทยุบีบีซีของอังกฤษถึงเรื่องการตรวจสอบความเหมาะสมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะสามารถเข้ามาเป็นเจ้าของทีมสโมสรในอังกฤษได้หรือไม่นั้น จะมีการตรวจสอบทั้งในอังกฤษและในต่างแดน รวมทั้งจะดูรายงานจากกระทรวงการค้า และอุตสาหกรรม รัฐบาล ว่าจะตอบตกลงให้ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถซื้อบริษัทในสหราชอาณาจักรได้หรือไม่ ที่สำคัญก็คือ พรีเมียร์ลีกยังคงจับตาคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกฟ้องเรื่องคดีทุจริตอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการพิจารณาเช่นเดียวกัน "วอร์เดิล"เชื่อแม้วพาโลด ด้าน จอห์น วอร์เดิล ประธานสโมสรแมนฯ ซิตี้ พูดถึงเรื่องการดำเนินการในครั้งนี้ถือว่าเป็นข้อเสนอที่สร้างความตื่นเต้นให้สโมสรเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งเชื่อว่าจะเป็นก้าวที่นำสโมสรขึ้นสู่ความสำเร็จได้ในไม่ช้า อีกทั้งยินดีที่ยังคงได้เป็นบอร์ดบริหารของสโมสร รวมทั้งได้ร่วมงานกับ อลิสเทียร์ แม็คอินทอช ต่อไป "ผมยินดีที่ได้อยู่ในบอร์ดของสโมสรต่อไป พร้อมกับ อลิสเทียร์ แม็คอินทอช ที่ผมทำงานกันร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นของแมนฯ ซิตี้ ในการพัฒนาทีมขึ้นมาให้ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม" ประธานเรือใบสีฟ้า กล่าว แฟนบอลเชื่อเห็นทางสว่าง อลัน กัลลีย์ ประธานแฟนบอลของแมนฯ ซิตี้ ให้ความเห็นว่า เชื่อว่าการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นเหมือนการชี้นำให้สโมสรได้เห็นถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ พร้อมทั้งเชื่อว่าการที่บอร์ดบริหารขายหุ้นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะผ่านการตรวจสอบมาเป็นอย่างดีแล้ว "สโมสรดำเนินการเรื่องนี้มานาน ทีมจึงยังไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งเรื่องแผนการช่วงปรีซีซั่น นักเตะบางคนก็ย้ายออกไป และยังไม่มีใครเข้ามา ตอนนี้เราจึงสามารถมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้แล้ว เขาอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่นิยมของแฟนบอล แต่มันอาจจะเป็นการที่เขาเข้ามาในช่วงที่ถูกเวลาพอดี" ประธานแฟนบอลของแมนฯ ซิตี้ กล่าว "ผมไม่สันทัดเรื่องการเมืองนัก แต่แน่นอนว่าเราเชื่อในสิ่งที่เราอ่าน มีเครื่องหมายคำถามอยู่มากกับการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ส่วนเขาจะเป็นคนที่เหมาะสมหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่แน่ใจว่าพวกเขาคงจะไม่ดำเนินการโดยไร้การตรวจสอบ" อลัน กล่าว http://www.komchadluek.net/2007/06/22/a001_123893.php?news_id=123893 ฐานะทางการเงินของทีมฟุตบอลนี้อยู่ในสภาพวิกฤติหรือ จึงไม่สนใจ"ที่มาที่ไป"ของเงินว่าสกปรกหรือสะอาด ที่จะซื้อทีมฟุตบอลของตนเอง........ :?: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: banana_dot ที่ 22-06-2007, 11:37 แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นสโมสรที่อยู่ร่วมเมืองกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ซึ่งโดนเศรษฐีชาวมะกันเทคโอเวอร์เมื่อปีที่แล้ว และแมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็เป็นทีมที่อยู่ในสถานะที่ไม่ดี มาหลายปีแล้ว เพราะไม่เคยเฉียดเข้า ใกล้ความสำเร็จทุกๆรายการ และเป็นไปได้ว่าสถานะการเช่นนี้ ถ้าสโมสร ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆในการปรับปรุงทีม ฤดูการหน้ามีสิทธิ์ตกชั้น ส่วนเรื่องเอฟเอไม่น่าเสี่ยงนั้นผมว่าเขาทำมาตั่งแต่รายของเจ้าของเชลซีที่ชื่อ โรมัน อับบราฮิมโมวิส(เขียนถูกป่าวไม่รู้นะครับ)มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่มีปัญหา กับสัมปทานน้ำมันของรัสเซีย เอฟเอก็ไม่เห็นมีการขัดขวางนักธุรกิจต่างชาติซักราย หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: best ที่ 22-06-2007, 12:15 แล้วไงล่ะ
ไม่งั้นจะตามไปด่าในเว็บของแมนฯซิตี้หรือไง หรือจะให้คตส.ตามไปยึดสโมสรมาเป็นของไทย :slime_smile2: :slime_v: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-06-2007, 12:22 แล้วไงล่ะ ไม่งั้นจะตามไปด่าในเว็บของแมนฯซิตี้หรือไง หรือจะให้คตส.ตามไปยึดสโมสรมาเป็นของไทย :slime_smile2: :slime_v: :slime_bigsmile: ถ้าเป็นเงินของคนไทย ไงๆมันก็เป็นของคนไทย ไม่ต้องห่วง อาจมีการขอสัญชาติหนีคดีก็ได้ แต่ไม่ใช่ที่อังกฤษ หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: monty ที่ 22-06-2007, 12:30 สูตรสำเร็จสร้างความยิ่งใหญ่ทางการเมืองด้วยการใช้เงินนิดหน่อยดูด สส เข้าพรรค ไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะจูงใจได้ด้วยผลประโยชน์มหาศาลที่รออยู่ข้างหน้าหากได้อยู่ฟากรัฐบาล แต่จะสร้างทีมฟุตบอลให้ยิ่งใหญ่ได้ ไม่ใช่ว่า วางแผนการตลาดเก่งอย่างเดียว ผลงานการแข่งขันต้องดีด้วย นั้นหมายถึงต้องมีผู้จัดการทีมที่มีความสามารถ และนักเตะเก่งๆ ค่าตัวแพงซึ่งแน่นอนต้องใช้เงินมหาศาลซื้อตัวเข้ามา ผมว่า สุดท้ายทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้จะถูกเหลี่ยมหลอกดูดเอาเงินไปซะมากกว่า ฟันธง เหลี่ยมจะเป็นเจ้าของไม่นานหรอก :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: aoporadio ที่ 22-06-2007, 15:34 แล้วไงล่ะ ไม่งั้นจะตามไปด่าในเว็บของแมนฯซิตี้หรือไง หรือจะให้คตส.ตามไปยึดสโมสรมาเป็นของไทย :slime_smile2: :slime_v: :slime_bigsmile: อืม....ฮ่า ฮ่า ฮ่า :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2: ไม่รู้อะไรซะแล้ว คตส ถูมือ (เลียปาก :slime_bigsmile:)ถูไม้ รออยู่ :slime_bigsmile: ทรัพย์ ซิน ของ ท๊อกซิน อีกคืบก็ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว :slime_v: แมนซิตี้ ก็ด้วย เอ้า คิดว่าล้อเล่นไหมเล่า :slime_p: :slime_p: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 22-06-2007, 15:57 อีตาจอห์น วอดเดิ้ล หนุนทักษิณเพราะทักษิณอนุญาติให้เขาอยู่บริหารสโมสรต่อ ที่เหลือก็รอการพิจารณาจากพรีเมียร์ลีกครับ ถ้ามีเงินซะอย่างเขาไม่น่าขัดครับ
หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 22-06-2007, 16:33 อืม....ฮ่า ฮ่า ฮ่า :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2: ไม่รู้อะไรซะแล้ว คตส ถูมือ (เลียปาก :slime_bigsmile:)ถูไม้ รออยู่ :slime_bigsmile: ทรัพย์ ซิน ของ ท๊อกซิน อีกคืบก็ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว :slime_v: แมนซิตี้ ก็ด้วย เอ้า คิดว่าล้อเล่นไหมเล่า :slime_p: :slime_p: ใช้วิธีตั้งบริษัทขึ้นมาซื้อโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการโดนยึดทรัพย์(ทำให้ยุ่งเข้าไว้) ไม่รู้ว่ากฎหมายการยึดทรัพย์ จะตามไปได้ถึงแค่ไหน คอยดูกันต่อไปครับ หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 22-06-2007, 17:59 เพราะรัฐบาลทั่วโลกเค้าทราบดีว่า การที่โจรปล้นอำนาจปชช.ของตัวเอง การโยนความผิดให้คนอื่นโดยไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ และการดูแคลนปชช.ของตัวเองนั้นไม่สมควรที่จะไปให้เครดิตโจร คุณปุฯคงไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของชาวโลกเพราะเห็นเผด็จการเป็นญาติผู้ใหญ่ไปซะแล้ว :slime_smile2: มอง แค่เนี้ย คิดได้แค่เนี้ย อะไรที่เป้ฯทหาร ผิดหมดในสายตา ทักษิณมันดีหมดแหละ ทำอะไรก็ดี ต่อให้เลือกตั้งเสร็จ ออกมาไม่ใช่พวกมันเป็นใหญ่ มาเอาผิมันกก็ด่าอีกแหละ หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 22-06-2007, 18:14 ลืมตอบ จขกท ไปเลย
ถ้าสันนิฐานจากสภาพที่ แมนซี เป้นอยู่นั้นก็จะเห็นแล้วว่า สโมสร กำลังจะแย่มีตัวเลขแดงอยู่เกือบ40ล้านปอนด์ แม้นจะ ได้รับผลตอบแทนจาก ค่าต่างๆๆต่อปีเกือบ30ล้านปอนด์แต่ก็พยุงได้แค่รอดไปวันๆๆพร้อมกับนักเตะตัวหลักหลายๆๆตัวอาจจะย้ายทีมโดยเฉพาะ โจอี้ บาร์ตัน ที่ถือว่าเป้นนักเตะที่ดีมากคนนึงของ สโมสรแห่งนี้ แล้วคิดว่า วอลเดิ้ลนั้นอยากเก็บสโมสรแห่งนี้ให้เหนื่อยไหมครับ ถามว่า วอลเลิ้ลไม่รู้เรื่องที่เกิดในไทยเหรอ ผมคิดว่ารู้ แต่แล้วยังไงละครับ เค้าก็ขายเพราะเค้าไม่ต้องการ แม้วจะได้สิทธิ์การถือครองไหม เค้าไม่เกี่ยว fa ตัดสินเอง ถ้าได้ขาย เค้าก็นั่งนับเงินยิ้มไป หลังจากนี้ปัญหาของแมนซีเป็นเรื่องของเอ็งอั้วไม่เกี่ยว ถ้าไม่ได้ขายเค้าก็คงบริหารต่อหรือไม่ก้ให้คนอื่นเข้ามาซื้อ ลองคิดดูนะครับมีคนที่จ้องจะซื้ออยู่สองสามรายแต่ทำไมไม่ซื้อ เพราะแมนซี ฟดูกาลหน้าหนีตกชั้นเหมือนเดิมตามคาด ผมคิดจากที่ผมชอบดูฟุตบอลแล้วตามดูวงการฟุตบอลมาตลอด (ผมแฟนแมนยูเสียด้วยจิ) แล้วถ้าได้ขายแล้วเกิดเรื่องทีหลังว่า แม้วโดนฟ้องหละ มันก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าถ้าแมนซี ต้องกระเด็ดห้ามลงแข่งขันในทุกรายการ ตราบที่เจ้าของมีคดีต่างๆๆที่ถูกฟ้องร้องแล้วนั้น แฟนบอลอาจจะมีการรวมตัวหามือปืนยิงแม้วทิ้งก็เป็นได้ แต่ที่ผมเดาการซื้อขายครั้งนี้มีการหวังผลทางการเมืองอยู่ไม่มากก็น้อย ถ้าซื้อได้ แม้วก็จะได้อ้างต่อลูกๆๆที่มีเขาในสนามหลวงได้ว่า ผมซื้อได้เพราะผมบริสุทธิ์ เพราะfa ยอมรับการซื้อสโมสร(ก้ไม่รู้มันเกี่ยวกันยังไงfa ไม่ใช่ศาล แต่ได้อ้างแน่ๆๆ) ถ้าไม่ได้ก็มาโบ๊ยว่าทำเพื่อพี่น้องขาวไทย แล้ว อยากใหฟ้วงการบอลพัฒนา แต่คตส.มาแลกล้ง คมช.แกล้ง ซึ่งก็คงมีแค่ควายๆๆๆ ไม่กี่ทั่นเชื่อเข้าไป เชื่อไม่เกรงใจผีสางนางไม้ เลย เชื่อได้แม้มมันบอกว่ามันเป็นเทวดา แต่การจะสานงานให้แมนซี มีกำไรในปีต่อไปผมมองว่าเป้นเรื่องที่ยาก แม้วคงคิดว่า การสร้างทีมให้ยิ่งใหญ่เช่นแมนยู นั้น ทำได้ แต่คิดว่ากี่ปีครับ แล้วสโมสรฟุตบอลไม่ใช่ธุรกิจผูกขาดนะครับ จะให้นโยบายของรัฐ หรือหาช่องทางให้กำไรนั้นไม่มี ต้องมาจากผลงานของสโมสรล้วนๆ แล้วจะได้รู้กันว่า เงินที่ขนไปจะฟอกแม้วได้หรือไม่ หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 22-06-2007, 20:40 ผมว่าก่อนจะเข้ามาเทค คงหยั่งเชิงแล้วว่าไม่ขาดทุน คน ๆ นี้จะทำอะไร ไม่ยอมเสียอยู่แล้ว (ยกเว้นตอนตัดสินใจงัดข้อกับป๋า)
ถ้าผ่านการพิจารณาจากพรีเมียร์ลีกได้ แมนซิตี้น่าจะมีอนาคต ยิ่งถ้าสเวนตอบตกลง จากประวัติผู้จัดการทีมคนนี้ แมนซิตี้ อาจได้ไปยุโรปด้วยซ้ำ แล้วสปอนเซอร์อย่างช้างก็คงสนใจลงทุนกับเหลี่ยมอยู่บ้าง รวมทั้งคนในจีนหลาย ๆ คนคงรู้จักแมนซิตี้ดี นักลงทุนจากจีนอาจจะเอาด้วย ถ้าไปได้สวย แมนซิตี้คงเข้าตลาดหุ้นอีกรอบเพื่อทำกำไร หลังจากนั้นค่อยมาคิดว่า แมนซิตี้ จะโดนขายทิ้งให้เทมาเส็กอีกหรือเปล่า หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 22-06-2007, 22:13 ยากครับ สแวน แกพวกชอบใช้นักเตะประเภท playmaker สร้างเกมส์ สมัย ลาซิโอพี่แกได้ เวรอนกับแนดเวดมาปั้นเกมสืจนได้แชมป์ มาคุมอังกฤษ ก็พยายามทำแบคแฮมให้เป็นตัวสร้างเกมสืโยกพี่มาเล่นเป้นตัวกลางจ่ายบอล แล้วเน้น3-52 อยู่สักพัก แล้วก้จบกันไป นักเตะอังกฤษ แทบอ๊วกเล่น 3-5-2 ไม่ได้
บอลแบบ พี่สแวน ประสบความสำเร็จในอังกฤษยากแต่ถ้าได้ไปเล่นในยุโรป ก้ไม่แน่ แต่ แมนซีจะได้ไปเล่นเหรอ น่าหนักใจอยู่ หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 23-06-2007, 19:47 ผมว่าก่อนจะเข้ามาเทค คงหยั่งเชิงแล้วว่าไม่ขาดทุน คน ๆ นี้จะทำอะไร ไม่ยอมเสียอยู่แล้ว (ยกเว้นตอนตัดสินใจงัดข้อกับป๋า) ช้างนี่มันพวกป๋าไม่ใช่รึ หรือว่าผมจำผิดไปหว่าถ้าผ่านการพิจารณาจากพรีเมียร์ลีกได้ แมนซิตี้น่าจะมีอนาคต ยิ่งถ้าสเวนตอบตกลง จากประวัติผู้จัดการทีมคนนี้ แมนซิตี้ อาจได้ไปยุโรปด้วยซ้ำ แล้วสปอนเซอร์อย่างช้างก็คงสนใจลงทุนกับเหลี่ยมอยู่บ้าง รวมทั้งคนในจีนหลาย ๆ คนคงรู้จักแมนซิตี้ดี นักลงทุนจากจีนอาจจะเอาด้วย ถ้าไปได้สวย แมนซิตี้คงเข้าตลาดหุ้นอีกรอบเพื่อทำกำไร หลังจากนั้นค่อยมาคิดว่า แมนซิตี้ จะโดนขายทิ้งให้เทมาเส็กอีกหรือเปล่า หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 23-06-2007, 21:26 ซื้อครั้งนี้เพื่ออวดว่าข้าไม่เดือดร้อน ไม่ยอมเสียหน้าต่อชาวโลกในฐานะที่เคยเป็นคนมีเงินมากติดอันดับโลก (แม้ว่าเงินเหล่านั้นมาจากไหน โกงชาติมา ข้าก็ไม่สน ขออวด)
เสียหน้าเสียตาไม่ด้าย เรียกว่าพวกแพ้ไม่ได้... ก็เป็นแค่นิสัยคนมีปัญหา แบบหนึ่ง ...ก็แค่นั้น !! หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 25-06-2007, 11:32 เป็นถึงนายกสมาคม Golf แห่งประเทศไทย
ตอนนี้มี แมนยูซิตี้อยู่ในมือ ...ปล่อยให้แกติ่งต้องไปเถอะครับ คดีงวดเข้าเรื่อยๆ คงได้เห็น ชีวิตจริงของแม้ว.... :slime_cool: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 25-06-2007, 12:25 ถ้าผ่านการพิจารณาจากพรีเมียร์ลีกได้ แมนซิตี้น่าจะมีอนาคต ยิ่งถ้าสเวนตอบตกลง จากประวัติผู้จัดการทีมคนนี้ แมนซิตี้ อาจได้ไปยุโรปด้วยซ้ำ แล้วสปอนเซอร์อย่างช้างก็คงสนใจลงทุนกับเหลี่ยมอยู่บ้าง รวมทั้งคนในจีนหลาย ๆ คนคงรู้จักแมนซิตี้ดี นักลงทุนจากจีนอาจจะเอาด้วย ถ้าไปได้สวย แมนซิตี้คงเข้าตลาดหุ้นอีกรอบเพื่อทำกำไร
ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรก งานนี้ ซิเนตร้า อาจสร้างประวัติศาสตร์ เป็นเจ้าของทีมแม้วซิตี้จากพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ได้ลงแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ปี2007-2008 เป็นทีมแรกในประวัติของพรีเมียร์ลีกก็เป็นได้ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 25-06-2007, 12:29 เราอาจจะได้ดูการบริหารสโมสรฟุตบอลจากในคุก
หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 26-06-2007, 12:05 เทพชัย หย่อง
เวทีสำหรับทุกความคิดและทุกความเห็น Permalink : http://www.oknation.net/blog/yong วันอังคาร ที่ 26 มิถุนายน 2550 เป็นประธาน แมนฯ ซิตี้ ยากกว่าเป็นนายกฯ Posted by เทพชัย , ผู้อ่าน : 96 , 09:45:57 น. พิมพ์หน้านี้ ทำไปทำมา การจะเป็นผู้บริหารสโมสรฟุตบอลอังกฤษดูท่าจะยากกว่าการเป็นผู้นำประเทศ โดยเฉพาะประเทศโลกที่สามอย่างเมืองไทย เพราะเพียงขอแค่มีเงินเยอะๆ และเอาอกเอาใจชาวบ้านเก่งๆ ก็มีสิทธินั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้แล้ว ส่วนภูมิหลังจะเป็นอย่างไร เงินเป็นพันล้านหมื่นล้านที่ฝากไว้ในบัญชีธนาคารทั้งในประเทศและนอกประเทศจะมีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ต้องสน ไม่ต้องมีการตรวจสอบ อำนาจการเมืองและความร่ำรวยทำให้ดำกลายเป็นขาวได้ ทำให้ผลประโยชน์ทับซ้อนและการเอาเปรียบบ้านเมืองกลายเป็นเรื่องที่ชาวบ้านยอมมองข้ามได้ เราไม่เคยเห็นกฎเกณฑ์หรือแม้แต่เสียงเรียกร้องที่ว่า นักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศต้องเป็นคนที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่ได้ร่ำรวยเพราะทำมาหากินแบบไม่ชอบมาพากล และที่สำคัญไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง แต่ด่านแรกที่ทักษิณ ชินวัตรต้องเจอะก่อนที่จะขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ คือการต้องถูกตรวจสอบก่อนว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมพอที่จะมาบริหารทีมฟุตบอลระดับ พรีเมียร์ลีก ของเมืองผู้ดีหรือไม่ ทักษิณอาจจะยังงงๆ เพราะคงไม่มีใครเตือนล่วงหน้าว่าจะต้องเจอะเงื่อนไขแบบนี้ การตรวจสอบแบบนี้ ภาษาที่เป็นทางการในวงการฟุตบอลอังกฤษเขาเรียกกันว่า fit and proper test ซึ่งความหมายก็คือต้องมีการตรวจสอบคนที่จะมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรฟุตบอลว่ามีประวัติที่น่ารังเกียจหรือเปล่า เคยไปทำอะไรมิดีมิร้ายไว้ และจะเข้าไปบริหารทีมฟุตบอลอย่างมืออาชีพโดยยึดผลประโยชน์ของบรรดาแฟนๆ ทีมฟุตบอลและสมาชิกสโมสรเป็นที่ตั้งหรือมีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง นึกๆ ไปแล้วก็ไม่จืดเหมือนกันนะครับ เพราะก่อนหน้าทักษิณเป็นใคร คนในอังกฤษก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไร แต่ตอนนี้ทักษิณมาในฐานะคนที่จะมาซื้อสโมสรฟุตบอลชื่อดัง จากนี้ไปทั้งสื่อมวลชนและแฟนๆ ของทีม เรือใบสีฟ้า ก็คงจะสนใจติดตามทักษิณทุกฝีก้าว คดีทุจริตทั้งหลายที่ทักษิณและคนในครอบครัวตกเป็นจำเลย ไม่ว่าจะเป็นคดีทุจริตในหน้าที่และคดีซุกหุ้นรอบสอง และคดีอื่นๆ ที่กำลังตามมา จะไม่ใช่เป็นข่าวเฉพาะในเมืองไทยประเทศเดียวแล้ว รับรองได้เลยว่า จากนี้ไปทักษิณมีสิทธิขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อังกฤษโดยไม่ต้องควักกระเป๋าซื้อหน้ากระดาษแน่ เพราะทั้งพรีเมียร์ลีกและสื่อมวลชนอังกฤษคงกระหายที่จะรู้ว่าอดีตผู้นำของไทยที่ถูกข้อกล่าวเรื่องการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อนมากมายจะประสบชะตากรรมในคดีทั้งหลายอย่างไร อยากรู้เหมือนกันว่าแฟนๆ และผู้บริหารปัจจุบันของทีมเรือใบสีฟ้าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าว่าที่ประธานสโมสร แมน ซิตี้ ถูกจับได้ว่าที่ร่ำรวยถึงขนาดขนเงินกว่า 81 ล้านปอนด์มาซื้อทีมฟุตอลถึงเมืองผู้ดีได้ก็เพราะพฤติกรรมการบริหารประเทศแบบบิดๆ เบี้ยวๆ อย่าว่าแต่ไม่เข้าข่ายเป็น fit and proper person พอที่จะบริหารทีมฟุตบอลเลยครับ ไม่ fit and proper พอที่จะเป็นผู้นำประเทศตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ (จากคอลัมน์ "คิดนอกกรอบ" ของ "คม ชัด ลึก") http://www.oknation.net/blog/yong/2007/06/26/entry-1 เส้นทางสู่เจ้าของ"เรือใบสีฟ้า" รู้สึกว่าจะไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบแดงเสียแล้ว.... การตรวจสอบแบบนี้ ภาษาที่เป็นทางการในวงการฟุตบอลอังกฤษเขาเรียกกันว่า fit and proper test ซึ่งความหมายก็คือต้องมีการตรวจสอบคนที่จะมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรฟุตบอลว่ามีประวัติที่น่ารังเกียจหรือเปล่า เคยไปทำอะไรมิดีมิร้ายไว้ และจะเข้าไปบริหารทีมฟุตบอลอย่างมืออาชีพโดยยึดผลประโยชน์ของบรรดาแฟนๆ ทีมฟุตบอลและสมาชิกสโมสรเป็นที่ตั้งหรือมีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง............ พวกเราจะตามไปดูว่า fit and proper test ชาวอังกฤษ ยังมีคุณค่า และ มาตราฐานเดิมหรือไม่......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 26-06-2007, 14:34 ^
^ ^ ^ ^ ^ ^ ไม่ว่าที่ไหน ทุกมุมโลก ผมเชื่อว่า เงินเป็นตัวกำหนดทั้งนั้นล่ะครับ... ที่อังกฤษถึงจะเจริญแต่เงินก็ซื้อคนได้เหมือนกัน ...ดูอย่างอีริคสัน กอบโกยจากทีมชาติอังกฤษไปเท่าไหร่ มีคนเสนองานให้ตั้งกี่ครั้ง ก็ปฏิเสธ ถ้าเสนอเงินให้ไม่ถึงที่เค้าต้องการจริง ๆ ดูชื่อของ keith harris ออกมาเย้ว ๆ แทน ก็เห็นแล้วว่าเหลี่ยมเอาจริง เพราะคงจ้างมาแพงเหมือนกัน หัวข้อ: Re: คณะกรรมการสโมสรฯ ไม่สนใจว่าการซื้อฟุตบอลคราวนี้ เป็นการ"ฟอกเงิน" เหรอ.... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 27-06-2007, 11:18 เทกโอเวอร์แมนฯซิตี้บานปลาย-ส.ส.ผู้ดีตราหน้า'แม้ว'บุคคลน่ารังเกียจ'
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2550 07:14 น. สกอตต์แมน - ประเด็นการเข้าครอบครองสโมสรฟุตบอลอังกฤษของมหาเศรษฐีต่างชาติ กลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในรัฐสภาผู้ดี โดย ส.ส.รายหนึ่ง ถึงกับระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยซึ่งกำลังเทกโอเวอร์แมนฯซิตี้ เป็น 'บุคคลที่น่ารังเกียจ' เดวิด เทย์เลอร์ ส.ส.พรรคแรงงาน จากเลสเตอร์เชียร์ เสนอต่อ ริชาร์ด คาบอร์น รัฐมนตรีกีฬา ถึงประเด็นการเข้าเทกโอเวอร์สโมสรของชาวต่างชาตินั้น จำเป็นต้องมีพิจารณาอย่างรอบคอบ เทย์เลอร์ ได้พาดพิงถึง ทักษิณ มหาเศรษฐีชาวไทย คือหนึ่งใน "พวกนายทุนต่างชาติที่ไม่น่าไว้วางใจ" ด้านรัฐมนตรีกีฬาชี้แจงว่าเขามีเจตนาที่ให้มีการประชุมกันระหว่างพรีเมียร์ลีก สมาคมฟุตบอลอังกฤษและฟุตบอลลีกในวันนี้(26) แต่ข้อเสนอดังกล่าวต้องพับไป หลังจากองค์กรเหล่านั้นบอกว่ายังไม่พร้อมเนื่องจากไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เทย์เลอร์ กล่าวกับรัฐสภาว่า "มีการไต่สวนปัญหาคอร์รัปชั่นในประเด็นโยกย้ายทีมลดน้อยลงเหลือแค่ 17 ราย ขณะที่มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการเข้าเทกโอเวอร์สโมสรของนักลงทุนและนักการเมืองต่างชาติ" "คุณจะมีวิธีป้องกันอย่างไร ยกตัวอย่างกรณีที่กองเชียร์ของแมนฯซิตี้ ต่อต้านการเข้ามาของบุคคลน่ารังเกียจ ทักษิณ ชินวัตรหรือจะปล่อยให้ชะตากรรมของแฟนฟุตบอลถูกคดโกงด้วยน้ำมือของนักลงทุนต่างชาติผู้ไม่น่าไว้ใจ" ทักษิณ ถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชั่นและโดนอายัดทรัพย์ที่อยู่ในไทย ทั้งนี้อดีตนายกรัฐมนตรีอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ทำรัฐประหารเขา รัฐมนตรีกีฬาย้ำว่าไม่ต้องการให้สโมสรฟุตบอลเป็นของเล่นของบรรดามหาเศรษฐีและได้มีการเชิญตัวแทนองค์กรฟุตบอลที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ อย่างไรก็ตามประธานพรีเมียร์ลีก ประธานของสมาคมฟุตบอลและฟุตบอลลีก ไม่สามารถตอบรับได้เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิดเกินไป รัฐมนตรีกีฬารายนี้ยังต้องการให้มีการหารือถึงขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้จะมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันดำเนินการโดยลีกและสมาคมฟุตบอลอังกฤษอีกด้วย http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000074589 ถึงแม้ผู้บริหาร"เรือใบสีฟ้า" นายธนาคารอังกฤษที่เป็น"นายหน้า" จะไม่อับอายที่ให้"นายผู้ชาย"ของพวก"ม๊อบไข่แม้ว" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นผู้บริหารทีมฟุตบอลอังกฤษของพวกตน เพราะสถานะการเงินและผลประโยชน์ที่ได้รับก็ตาม...... แต่สส.อังกฤษคนหนึ่งได้แสดงความรังเกียจ แถลงในรัฐสภาให้ชาวอังกฤษได้รับรู้แล้ว ก็อยู่ที่"พรีเมียร์ลีก" จะมีความเห็นอย่างไร "เงิน" หรือ "ชื่อเสียง"..... |