ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ตอนนี้มีคดีขึ้นสู่ศาลไปแล้วครับ คดีสองคดี

คาดว่าน่าจะออกมาเร็วๆนี้

ยุบพรรคการเมือง โดยกฎหมายแท้ ๆ

ยังบอกว่า รู้สึกเฉย ๆ

แสดงว่า ต่อมรับรู้ความรู้สึกอยู่ลึกจริง ๆ

จากนี้ไปก็คงต้องเอาทักษิณและพรรคพวกติดคุก +ยึดทรัพย์สินด้วยกฎหมายปปง.ด้วยสินะครับ

สะใจดี เห็นด้วยครับ  :slime_v:

哈...哈...哈...阿...

ฮะ...ฮะ...ฮะ...ฮ่า...

ยุบพรรคการเมือง โดยกฎหมายแท้ๆ

ยังบอกว่า รู้สึกเฉยๆ

แสดงว่า ต่อมรับความรู้สึกอยู่ลึกจริงๆ

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


เข้ามาร่วมฮา

คตส ไล่ยิงตะกวดจนเหนื่อยแล้ว

ภาษานักเลงเรียกว่า "แพ้หมดรูป"

ส่วนเรื่อง ติดคุกติดตาราง ยังอีกหลายปี คดีความมีอายุ...ใจเย็น ๆ

ไม่ดีใจหน่อย เหรอครับ คุณไทยทรูธ

ดีใจหน่อยน่า อย่าเกีกมาก เด๋วจะหน้าแก่  :slime_bigsmile:

อันไหนที่มันดี เราก็ดีใจไปสิ

อันไหนที่เป็นเต่า เราก็ค่อยด่า ไม่ดีกว่าหรือ :slime_p:

ในคำวินิจฉัยคดีพรรค ปชป. ก็ ประจานความเลว ระบอบทักษิณ ไปชัด ๆ แล้วนี่ครับ

ตุลาการยังบอกว่า "รับฟังได้ว่า...ฟังขึ้น.."

พวกหนา ๆ แบบลิ่วล้อทักษิณ ต้องให้ศาลด่าอีกซักเท่าไหร่ ถึงจะรู้สึก

ชีวิตไม่มีตอนจบเหมือนในหนัง
ต้องรีบดีใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะยังไง ค่อยว่ากันใหม่ :slime_bigsmile:

ผมไม่ชอบหนังบู๊ล้างผลาญเลือดสาดเต็มจอ

ชอบหนังแนวสืบสวนฆาตกรรมอำพราง

เชือดนิ่มๆแล้วตายหยังเขียด :slime_hitted:

 

ผมว่า ไม่มีใครกล้าพูดความจริง

ว่าจริง ๆ ทุกคน ก็ชอบดูหนัง

ที่ "เสร็จ" ไปเป็นตอน ๆ

เหมือนผมนี่แหละว้า

 :slime_cool:

@ ถูกเปลือยจนล่อนจ้อน ไม่ทราบว่าสะท้อนอะไรได้บ้างนะ @
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2007/05/31/entry-5

อือม์
ผมก็ชอบหนัง






^X

ข่าวปล่อยบ้าๆ บอ แบบนี้น่าจะลบออกทันทีนะครับ

เห็นได้ชัดว่าเจตนาเอาเสรีไทยเว็บบอร์ดเป็นที่ปล่อยข่าวลือ
ที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ผมเสนอให้ลบและแจ้งเรื่องนี้
กับทางราชการ พร้อมข้อมูลของคุณน้อยคนโพสด้วยครับ

ลูกหิน ชอบ Clip
^X


มัน ตื้นเต้น สมจริง อิอิ

 :mozilla_cool:[size=คุณน้อยครับ ในเวบนี้ไม่มีคนโง่
...
...โปรดฟังอีกครั้ง...ในเวปนี้ไม่มี"คนโง่" คุณจะเขียนอะไรลงไป
มีคนอ่าน...แต่...ไม่มีใครเชื่อ...เพราะขาด"หลักการ"และ "เหตุผล"
ถ้าคุณได้กรุณาฟัง"คำพิพากษา"อย่างพินิจพิเคราะห์แล้ว
จะรู้ได้ว่าพรรคไทยรักไทย(รวมผู้บริหารทั้งคณะ)
ได้ทำอะไรไว้กับประเทศไทยบ้าง

ตาสว่างได้แล้วครับ :slime_cool: pt][/size]

สิ่งที่ผู้ใช้นามแฝงว่า "น้อย" นำมาโพส
เป็นข้อความใน E-Mail ที่กำลังฟอร์เวอร์ดออกไปอย่างกว้างขวาง


สิ่งหนึ่งที่คุณน้อยอาจไม่รู้ก็คือ
กำลังมีการ Reverse Trap ไปยังต้นทาง
และงานนี้ "มีค่าหัว"



สาวไปถึงใคร แล้วไล่เบี้ยต่อไม่ได้
...จบแค่นั้น

เวปมาสเตอร์หายไปใหน ข่าวใส่ร้ายแบบนี้เอาไว้ระวังเวปจะซวยไปด้วย

ตอนนี้เรื่องกำลังสาวไปถึง "พวกทำงานชิปปิ้ง" แถวคลองเตย - สุวรรณภูมิ

ถ้าใครไม่เกี่ยวข้องอย่าได้ Forward เมล์
หรือ "โดยเฉพาะอย่างยิ่ง" อย่าสร้างเมล์ขึ้นเอง "อย่างเด็ดขาด"
และถ้า "ยังมีความฉลาด" อย่าได้ Print หรือทำเป็น Hard Copy แล้วแจกจ่าย ( เป็นความผิดทางอาญาแบบเต็ม ๆ )

จะบอกว่าเห็นด้วยกับจขกท.
เพราะประเดนคือเรากล่าวหาว่าเขาโกง
ดังนั้นต้องเอาทรัพย์แผ่นดินที่เขาโกงไป
คืนมาด้วย

ยึดทรัพย์เป็นคำตอบสุดท้าย :slime_evil:

อิอิ น้อย น้อย หน่อย... สำนวนดี แต่จิตใจและความคิดเลว

กำลังเช็คต้นทางแล้วล่ะค่ะ ทุกท่าน

สมาชิกช่วยกันดูแลดี ๆ พวกเราไม่พลาดแน่นอน

เอาเป็นว่า สมาชิกแสดงเจตนาชัดแจ้ง ขอให้ลบความเห็นที่ค่อนข้างล่อแหลมต่อความมั่นคง

ใครดูแลอยู่ ช่วยเอาไปเก็บเถอะครับ ส่งข้อมูลส่วนตัวให้ "เจ้าหน้าที่" ก็ดีเหมือนกัน

ทำหน้าที่ "พลเมืองดี" กันหน่อย

มันเป็น fwd mail อะฮะ

ค่อนข้างเก่าแล้วล่ะ

และ ดูเหมือน จะเคยเอามาโพสต์ ในห้องสาธารณะ ไปครั้งแล้ว

แต่ครั้งนี้ กล้ามาก กล้าสมัครสมาชิกเลย

เด๋ว ใจเย็น รอ mod เข้ามา ก็คงจัดการให้นะครับ

*  ตรงตัวหนังสือสีแดง ... เอ้   เห็นด้วยนะ

    เพราะ .. พวกหนังเหนี่ยว  หน้าหนา  ถ้าจะเล่นกะมันก็ต้องเอาให้ราบคาบจริง ๆ

    ถึง  คำตัดสิน ...  ที่ออกมาจะเป็นบทสรุปในบางเรื่องก็เหอะ

    ไม่รู้สิ .... ตอนนี้กลับคิดว่าความเคลื่อนไหวต่อจากนี้จะเป็นไง

    เราฝ่ายที่ยอมรับอาจจะดีใจที่จัดการ  ยุบหนอ  ของพรรคนั้นเสียที

    แต่ .. คนที่หลังชนฝา   คนที่โดนสอย  คนที่ไม่เห็นด้วย  คนที่เหนียวหนึบ + หัวปักหัวปำ

    เขาก็ ยังเคลื่อนไหว กันอยู่นะค่ะ ......  ไม่ใช่เขานิ่งเงียบซะเมื่อไหร่

    ถ้าไม่จัดการ เคลียร์  อย่างที่คุณ ไทยทรูธ .. เขียนไว้ในเนื้อหากระทู้ข้างบน

    จากนี้จะร้อนแรงกว่าเดิมมั๊ย .... มาดูกัน

คนเพิ่งตกงาน ..ก็โวยวาย เรียกร้องหาสวัสดิการจากนายจ้าง

คำสั่งยุบพรรค ไม่ใช่คำสั่งประหาร

นี่แค่เริ่มต้น ลงโทษ หากยังไม่สำนึก ก็ คงจะมีไม้สอง ไม้สาม ตามมา ... ในคดีต่างๆ ที่จะเริ่มทะยอยออกตามมา

โปรดติดตามตอนต่อไป ...

ผมก็เชื่อว่าศาล คมช. รัฐบาล คตส. ปปช. ปปง. สตง. คงไม่มีไม้เด็ดแค่นี้หรอกครับ เดี๋ยวคงได้เห็นอะไรดีๆอีกเยอะหลังจากนี้

โปรดติดตามรอชมอย่ากระพริบตา ผมว่าทรท.ต้องโดนชนิดที่เกิดใหม่ไม่ได้อีกเลยนั่นแหละ  :slime_v:

งานนี้เดิมพันสูงลิบลิ่ว พลาดไม่ได้แพ้ไม่ได้ ที่เหลือจินตนาการกันเอาเอง

ถ้าหากฝ่ายรํฐบาลทำหน่อมแน้มจริงอย่างที่ไม่ทันใจกองเชียร์

ใครที่จะเดือดร้อนที่สุดเป็นอันดับแรก แล้วใครจะยอมเอามือซุกกระเป๋าให้โดนชกอยู่ฝ่ายเดียว

มวยวัด กับมวยอาชีพ เชิงชกไม่เหมือนกันครับ

จับตาดูคดีที่ดินรัชดา

งานนี้ไม่ต้องร้องว่าจะกลับมา

เมื่อถึงเวลาแม้ท่านไม่กลับมา

เราก็จะตามท่านกลับมา

งานนี้ได้เห็นผลก่อนเลือกตั้ง

ปลายปีนี้แน่นอน

จะเป็นการปิดฉากระบอบทักษิณ

อย่างสมบูรณ์แบบ

ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม

 :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship:

...
ไม้หน้าสอง  ไม้หน้าสาม
...
สุดท้ายก็จบลงด้วย
...ไม้จันทน์

ประชาชน เริ่มก่อน

คมช ตามมา

คตส เอาแล้ว

ศาล ตัดสิน

ปปช ตามมาติดๆ

ข้าราชการเริ่มกลับใจ

แต่สุดท้าย รัฐบาล จะเอายังไง น่าระเหี่ยใจจริงๆ


ปล.ถ้ายุบพรรคแล้วเอาผิดเค้าไม่ได้จริงๆ ก็ปล่อยมันครองประเทศไปเถอะครับ ผมอยากรู้ว่าคนที่ถูกศาลตัดสิน มันจะกลับมาครองโลก ผมก็ทำใจกับประเทศนี้ไว้แล้วเหมือนกันหล่ะ เอาไงก็เอา แต่ไม่หนีไปที่ใหนหรอก ให้ตายสิ

BAN ON POLITICAL ACTIVITIES
Loophole could benefit TRT execs

Blanket lifting of ban could restore politicians' electoral rights: judge

The process leading to the lifting of the ban on political-party activities needs to be carefully thought out or it could prejudice the removal of 111 Thai Rak Thai Party executives from the electoral process for five years, a Constitution Tribunal judge warned yesterday.

"We have to wait and see whether the party executives linked to the conviction on electoral fraud will escape punishment," said tribunal judge Nurak Mapraneet.

Nurak was commenting on the government's plan to lift the ban on party activities in the next few weeks. The junta enacted the ban following the September coup and the government would have to sponsor a draft bill to repeal it.

In its verdict on Wednesday, the Constitution Tribunal found Thai Rak Thai guilty of electoral fraud and sentenced its executives, including ousted premier Thaksin Shinawatra, to stay away from politics and banned them from "forming or managing" a new party for five years.

However, Nurak said that if authorities were to make a blanket lifting of the ban on party activities, then the 111 Thai Rak Thai executives' right to participate in the electoral process would be restored.

This is because both the ban on activity and the punishment of electoral offenders are wrapped up in the same junta announcements from last year.

"It is an accepted legal principle that if new legislation is deemed beneficial to offenders, then it must be applied retroactively to those penalised by the cancelled law," he said.

He suggested the authorities exclude the junta's edict on punishment from the draft bill to cancel the ban on party activities.

In regards to Wednesday's decisions on two electoral fraud cases involving the Thai Rak Thai and Democrat parties, Nurak said the individual opinions of the nine tribunal judges would be published in the Royal Gazette on Tuesday.

He said the judges had reached a unanimous decision to convict Thai Rak Thai and acquit the Democrats.

For sentencing, the judges voted six to three to remove the executives of the convicted party from the electoral process.

The ban on political-party activities might be lifted within the next few weeks pending a review by the junta, Prime Minister Surayud Chulanont said yesterday.

"The junta's Announcements No 15 and 27 on banned party activities will be cancelled in order to improve the political atmosphere," Surayud said in reference to anxiety triggered by the dissolution of the Thai Rak Thai Party.

Council for National Security (CNS) chairman General Sonthi Boonyaratglin has asked for a week or two to consult legal advisers before cancelling the ban, he said.

Commenting on the situation following Thai Rak Thai's dissolution, the prime minister said he was concerned about the anti-coup rally organised by PTV executives, seen as staunch supporters of ousted premier Thaksin Shinawatra.

"I believe issues relating to political parties have been sorted out [by the judicial process], although I am still worried about the PTV rallies," he said, referring to a brief confrontation between protesters and policemen on Thursday night.

He called on members of the public to carefully study the verdict on the former ruling party instead of falling prey to ill-intentioned elements.

"The Constitution Tribunal has outlined the cause for party dissolution; what happened is not a thing that could happen without justification," he said.

Surayud added that all sides should focus on advancing the country forward under democratic rule instead of continuing to harbour grudges.

He said former Thai Rak Thai executives could pursue their political activities within the law.

In regard to a plan to petition His Majesty the King for a royal pardon, he said the judicial decision should be respected by all the relevant parties, otherwise the political turmoil will never end.

 Democrat Party spokesman Ong-art Klampaiboon said the CNS and the government should lift the ban as soon as possible in order to bring the country back to normal.

 Chat Thai Party deputy leader Somsak Prissanan-anthakul said his party supported cancellation of the ban on party activities.

http://www.nationmultimedia.com/2007/06/02/national/national_30035805.php


ลางสังหรณ์บอกว่า ประเทศนี้บุญมีแต่กรรมบังตลอด หลังไล่โจรชั่วไป ก็เจอตัวซื่อบื้อมาแทน

ทราบจากข่าวว่า คำว่า "สมานฉันท์" ที่เป็นนโยบายของรัฐบาลเฉพาะกาลชุดนี้นั้น น่าจะเป็นการสานต่อจากคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติที่ริเริ่มโดยท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน โดยส่วนตัวเห็นว่า รัฐดำเนินนโยบายนี้ถูกต้องแล้ว

เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจที่ว่าสมานฉันท์นั้น สมานฉันท์อย่างไร

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q2/article2005may24p1.htm

ถ้าถือเรื่องราวข้างต้นเป็นกรณีศึกษา จะเห็นได้ว่าแนวคิดสมานฉันท์มิใช่การชักชวนผู้คนที่ขัดแย้ง ต่อสู้ใช้ความรุนแรงต่อกันให้มายิ้มแย้มคืนดีกันและหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แต่เป็นความพยายามแก้ปัญหาความรุนแรงโดยมิได้ใช้วิธีการรุนแรงมาแก้ปัญหาความรุนแรง (problem-solving approach and not a violent approach to solve a problem of violence) บนพื้นฐานความเข้าใจว่าความรุนแรงมิได้เพียงเกิดขึ้นจากผู้กระทำ แต่ยังมีสาเหตุอยู่ที่โครงสร้างและวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชังผู้คนที่แตกต่างจากตัวหล่อเลี้ยงให้ความชอบธรรมอยู่ 

......

ในแง่นี้นอกจากจะต้องใส่ใจกับมาตรการรูปธรรมเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ยังควรคิดถึงงานสมานฉันท์ในสังคมไทยในฐานะกระบวนการที่ทำหน้าที่ให้การศึกษาสังคมโดยรวม เช่น ให้ยอมรับความเป็นจริงว่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นพลังสร้างความเข้มแข็งในสังคมไทย กล้าจินตนาการถึงอนาคตของสายสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและชุมชน

ด้วยคุณลักษณ์เช่นนี้กระบวนการสร้างสมานฉันท์เป็นยิ่งกว่าการแก้ปัญหาความรุนแรง ที่กำลังปรากฏแต่เป็นการพยายามสร้างชุมชนทางการเมืองที่พึงประสงค์ ชนิดที่ทุกคนมีศักดิ์ศรี และอยู่ร่วมกันด้วยน้ำมิตรไมตรี

มีทางสายหนึ่งให้เลือกเดิน คือ แพ็กกระเป๋าตามน้องจุ้บไป ...ไม่แน่ใจว่า น้องจุ้บหิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องบินไปเมืองจีนหรือยัง  :slime_smile:

http://forum.serithai.net/index.php?topic=13850.msg183687#msg183687

วิกฤติความปลอดภัยอาหารในจีน
 
1 มิถุนายน พ.ศ. 2550 10:08:00
 
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ๐ กนกนภา เพิ่มบุญพา

ช่วงสัปดาห์นี้ "จีน" ตกเป็นเป้าโจมตี ในประเด็นความปลอดภัยด้านอาหารติดต่อกันหลายครั้ง ซึ่งปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้จำกัดวงเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารจากจีนเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะของเล่นเด็กที่ผลิตจากโรงงานในจีน

ข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหาร ที่ทำให้จีนเสียชื่อไปทั่วโลกคือ การที่สัตว์เลี้ยงจำนวนมากในสหรัฐ เสียชีวิตจากการรับประทานอาหารแมวและสุนัขปนเปื้อนสารเมลามีน ซึ่งเป็นสารเคมีอินทรีย์ ที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยและพลาสติก และพบในโปรตีนจากข้าวสาลีนำเข้าจากจีน เนื่องจากบริษัทจีนผสมสารเมลามีนในอาหารสัตว์ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ดูเหมือนอุดมไปด้วยโปรตีน และสารที่ว่านี่ก็เป็นอันตรายต่อสัตว์ แต่ไม่เป็นภัยต่อมนุษย์

นอกจากนี้ ยังมีข่าวเกี่ยวกับสารพิษและโรคที่พบในสินค้าส่งออกอื่นๆ จากจีน เช่น ยาแก้ไอน้ำเชื่อมและยาอื่นๆ ของจีน ที่มีส่วนผสมของสารพิษ ทั้งยังมีกรณีที่เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐโดมินิกันและปานามา ได้กำจัดยาสีฟันยี่ห้อ “Excel” และ “Mr Cool” นำเข้าจากจีน จากร้านค้าต่างๆ จำนวน 10,000 หลอด หลังตรวจพบสารพิษไดเอทธิลีน ไกลคอล ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนในปานามา

ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลปักกิ่ง นิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ ออกมาประกาศกฎระเบียบใหม่ กำหนดให้บริษัทผลิตอาหารทุกแห่งทั่วประเทศ เรียกคืนผลิตภัณฑ์จากตลาดทันที หลังพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภค และให้มีผลบังคับใช้ภายในปลายปีนี้

ขณะที่ สำนักงานอาหารและยาของจีน ประกาศมาตรการ 7 ข้อ ส่งเสริมความปลอดภัยด้านอาหาร ครอบคลุมการขยายการตรวจสอบ สอดส่องดูแล และการเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของบริษัทต่างๆ พร้อมทั้งขึ้นบัญชีดำผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบ

นอกเหนือจากมาตรการทั้ง 7 แล้ว ทางการจีนยังสร้างแรงจูงใจ แก่บริษัทที่ปฏิบัติงานดีเยี่ยม และลงโทษบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐานในอุตสาหกรรมอาหารด้วย

นอกจากนี้ จีน ยังเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมผลิตภัณฑ์อาหารที่เข้ามายังกรุงปักกิ่ง ในช่วงที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปีหน้า โดยเพิ่มเงินรางวัลให้แก่ผู้ที่เปิดเผยวิธีการผลิตอาหารที่ผิดกฎหมายจาก 10,000 หยวน เป็น 50,000 หยวน นอกเหนือจากการจัดทำระบบกำกับดูแลเพื่อวิเคราะห์สารปรุงแต่งอาหาร และเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการระบบการอนุมัติ ตลอดจนการเก็บประวัติบริษัทผลิตสารปรุงแต่งอาหารทุกประเภท

แต่ใช่ว่า ผลิตภัณฑ์อาหารจากจีน จะถูกจับจ้องจากทั่วโลกในฐานะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ปลอดภัยอย่างเดียวเท่านั้น ล่าสุด หน่วยงานควบคุมคุณภาพ, ตรวจสอบและกักกันสินค้าไม่ได้มาตรฐานของทางการจีน ยังออกรายงานว่า ผลิตภัณฑ์ของเล่นและเสื้อผ้าเด็กอ่อน ที่ผลิตในจีนไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยถึงกว่า 20%

แม้ตัวเลขจะไม่สูงมาก แต่ผู้บริโภคก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะ จีน เป็นประเทศผู้ส่งออกของเล่นรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐเพียงประเทศเดียวในช่วงปี 2548 สูงกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์

ผลศึกษาของหน่วยงานดังกล่าว ระบุด้วยว่า ของเล่นที่ผลิตจากจีนบางประเภท มีส่วนประกอบที่หลุดง่ายและมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ

ถือเป็นการออกมายอมรับโดยหน่วยงานภาครัฐเป็นครั้งแรกว่า ผลิตภัณฑ์ของเล่นเด็กที่ผลิตจากโรงงานท้องถิ่นในจีนไม่ได้มาตรฐาน
 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/01/WW12_1209_news.php?newsid=75829

เมื่อหลายวันก่อน ผู้อำนวยการเอฟดีเอของจีนถูกตัดสินประหารชีวิตไปแล้ว โอ้วววว น่ากลัว  :shock: :shock: :shock:

แต่คงเหมือนที่ผู้ใหญ่เล่าว่า สมัยก่อนโน้น สินค้าจากญี่ปุ่นในช่วงแรกก็ด้อยคุณภาพ หรือไต้หวันก่อนจะได้เป็นหนึ่งในสี่เสือเอเชียก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ไปเมืองจีน ก็ระวังหน่อยนะคะ เมื่อไม่นานมานี้ ได้ยินพนักงานของบริษัทหนึ่งที่ย้ายไปประจำเซี่ยงไฮ้ประมาณสองสามเดือน กลับมาแล้วบ่นอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง เรื่องอากาศ เรื่องพฤติกรรมของผู้คนที่นั่น ฯลฯ สรุปว่า อยู่เมืองไทยเสี่ยมล้อนี่แหละดีกว่าเยอะ ( เอ๊ะ ยังไง :mrgreen: )

หากต้องการหาสังคมในอุดมคติ อย่างที่ถูกใจ ยากที่จะหาได้ในโลกนี้

ยกเว้นสังคมอุดมคติของใครบางคนเกิดถูกจริตกับ วัตถุนิยมแบบไม่ลืมหูลืมตา

"ใครใคร่อยู่ ก็จงอยู่
ใครใคร่ไป ก็จงไปอยู่ในที่ๆชอบเถิด" :slime_worship:

ประเทศนี้มีอิสระเสรีจริงๆ หรือ?

มีใครห้ามไม่ให้ใครเดินทางไปไหนมาไหน

หรือทำธุรกรรมอะไรที่ชอบด้วยกฎหมายเหรอคะ :slime_doubt:

นั่นสิคะ ตอนนี้ท่านนายกฯ ถูกด่าหยาบ ๆ คาย ๆ แค่ท่านแก้ปัญหาไม่ถูกใจใครบางคน ยังด่ากันได้ตามสบาย ไม่มีใครไปจับแล้วเอาพลาสเตอร์ปิดปากซะหน่อย แต่ถ้าเป็นที่เมืองจีน ไปด่าท่านประธานาธิบดีหูจิ่นเทา หรือท่านนายกฯ เวินเจียเป่า ตามเว็บบอร์ดแบบนี้ ไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร :mrgreen: :mozilla_sealed: :mrgreen:

ฟังผู้ใหญ่ให้ข้อคิดไว้ว่า

• จำบ่อซังเถ่าไหล่

• จ๊อนั้งบ่อจับฉ่วงจับมุ่ย
• ไจจ่กเสี่ยลัก
• เจ็กเตี่ยคง
• เจียะเก๊าเหลา เอาะเก๊าเหลา
• เจ็กเหนียมจือชา

 :slime_worship:
บรรดาอากงอาม่าเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้นน กว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ก็ต้องใช้สูตร ขึ่ง โค่ว คัก เขียม ลำบากลำบนเลือดตาแทบกระเด็น แต่ส่วนใหญ่พอธุรกิจตกมาถึงคนรุ่นที่สามก็มักจะไปไม่รอด เพราะบรรดาหลานอากงอาม่า เกิดมาสบาย บางคนยังกะคาบช้อนทองฝังเพชรออกมาจากท้องแม่ ถูกโอ๋ยังกะเสี่ยวหวังก็ไม่ปาน คนเราเกิดมาสบายกับเกิดมาลำบาก ก็ย่อมส่งผลหรือมีอิทธิพลต่อชีวิตต่างกัน

ต้องถามตัวเองว่า ต้องการอะไรค่ะ แต่จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราจะถามกลับว่า เราจะทำอะไรให้สังคมได้บ้าง ? เหมือนใครน้า ท่านจอห์น เอฟ เคนเนดี้มั้ง ที่ว่า โปรดอย่าถามว่าประเทศชาติให้อะไรแก่ท่าน โปรดจงถามว่าท่านมีอะไรจะเสียสละเพื่อประเทศชาติได้บ้าง  

ปล. เคยอ่านเจอว่า สาเหตุที่ตระกูลดังเคนเนดี้ของเมกามีเรื่องเศร้าตลอด หลายคนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีอนาคต ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรนั้น เค้าว่าเป็นเรื่องของบาปกรรม จากข้อสังเกตที่ว่า คนรุ่นปู่ค้าเหล้า โดยเหล้าที่ขายนั้น ขายให้กับชนชั้นแรงงาน พอดื่มเข้าไปแล้ว ก็ทะเลาะวิวาทฆ่ากันตาย บาปกรรมเลยตกทอดมายังลูกหลาน   

การเอาแนวคิดทั่วไปของประเทศหนึ่งมาใช้กับอีกประเทศหนึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างยิ่ง
เพราะในเมื่อตัวแปรตั้งต้นคือประชาชนก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถามว่าแนวความคิดจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรถ้าไม่มีการปรับใช้
อเมริกาให้สิทธิเสรีภาพในการพูดเป็นอันดับหนึ่ง ถามว่าถ้าไทยทำแบบเดียวกัน โดยอ้างว่าอเมริกาก็ทำ จึงประสบความสำเร็จ
ถามว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

การอ้างเหตุและผลก็ควรใช้ตรรกะให้มาก
การพูดบอกว่าอเมริกาหรือประเทศใดๆ ทำเช่นนั้นเช่นนี้จึงประสบความสำเร็จ มีข้อน่าพิจารณาตามหลักตรรกะอยู่หลายข้อ
อย่างแรกคือ แนวความคิดการกระทำใดๆ นั้นเป็นต้นเหตุจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่การคาดเดาทำนองช้างขี้ขี้ตามช้าง
อย่างที่สองคือ ถ้าไม่กระทำตามแนวความคิดนั้นๆ แล้วจะไม่สามารถทำให้ประเทศประสบความสำเร็จได้เลยหรือ
อย่างสุดท้ายคือ ประเทศดังกล่าว ที่ว่าประสบความสำเร็จนั้น ประสบความสำเร็จจริงหรือไม่ เป็นเป้าหมายของเราจริงหรือไม่

ปัญหามี ก็ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไขนั้นถูกต้องแล้ว
คนเจอปัญหามีสามจำพวก ชน หนี และไม่สนใจ
แต่ที่น่ารังเกียจ คือหนีแล้วยังด่าคนที่เขาคิดจะแก้ไขอีก
หวังว่าคงไม่มีใครเป็นแบบนั้นนะครับ

ไม่แปลกที่เมกาจะเห็นเรื่อง สิทธิเสรีภาพ และโอกาส สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเรามองย้อนกลับไปดูการตั้งรกรากของชาวยุโรปที่อพยพมาอเมริกา ที่เรียกกันว่า พวก pilgrims ในระยะแรก นอกจากหนีมาเพราะประเด็นศาสนาแล้ว ตอนนั้นยุโรปเองก็อยู่ใต้อิทธิพลของระบอบศักดินา เมื่อเจ้าที่ดินครอบครองที่ดินสุดลูกหูลูกตา ส่วนเกษตรกรที่แท้จริงกลับไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง

แต่อเมริกาก็มีจุดอ่อนในเรื่องของการไร้ราก ไร้วัฒนธรรม คนเค้าด่าออกบ่อย ๆ ว่า เป็นพวกไม่มีสัมมาคารวะ ไม่รู้จักเด็ก ไม่รู้จักผู้ใหญ่ สมัยก่อนถูกอังกฤษที่ไม่ต่างจากประเทศแม่ดูถูกดูแคลนมิใช่หรือ ถูกมองว่าเป็นพวกจับฉ่าย จับฉ่ายเป็นอาหารที่เริ่มแรกก็นำของเหลือกินมาผสมปนเปกัน เป็นอาหารของคนจน คนมีไม่พอกิน แต่พอนานเข้า ก็ค่อยประยุกต์จนเป็นอาหารอร่อยอีกชนิดหนึ่ง

แม้แต่จีนเองก็เถอะ หลังจากอดีตท่านประธานเหมาฯ พยายามจะทำลายวัฒนธรรมเดิม ต้องการขุดรากถอนโคนเรื่องศาสนา เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ได้ข่าวไม่นานมานี้ว่า ตอนนี้รัฐบาลจีนเริ่มรื้อฟื้นหลักคำสอนของขงจื๊อขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้ว เริ่มผ่อนปรนในเรื่องศาสนามากขึ้น เพราะรัฐบาลเริ่มเห็นว่า คนเรานั้นใช่ว่ากินอิ่มท้องแล้วจบ ยังมีประเด็นเรื่องจิตวิญญาณที่ต้องให้ความสำคัญด้วย

โอ๊ยยย น้องท่านอย่าเพิ่งคิดว่า เสียภาษีให้ประเทศ และออกไปเดินขบวนขับไล่โจรปล้นชาติมาแล้ว จะให้ได้เกิดผลดีอย่างที่คาดหวัง ถ้าคิดเช่นนี้ ก็ผิดหวังแน่นอน เพราะยังต้องต่อสู้กันไปอีกนานนนนค่ะ

อ่านสัมภาษณ์ "นิรามิสา ภิกษุณีแห่งหมู่บ้านพลัม ฝรั่งเศส" ดีกว่า

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01fun01030650&day=2007/06/03&sectionid=0140

จากชีวิตทางโลกที่ประสบความสำเร็จในการเรียนและหน้าที่การงาน วันนี้ สมพร พันธจารุนิธิ คือ ภิกษุณีนิรามิสา ที่ค้นพบว่าความสุขที่แท้จริงของตนคือ...

การมีชีวิตอยู่ใต้ร่มแห่งธรรม

ไปเช็กคำแปลกับท่านแม่มาก่อนค่ะ กลัวแปลผิด :mrgreen: :D :mrgreen:

• จำบ่อซังเถ่าไหล่ = ปลายเข็มไม่คมทั้งสองด้าน ความหมายคือ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

• จ๊อนั้งบ่อจับฉ่วงจับมุ่ย = ชีวิตคนเรา ไม่มีเรื่องที่งามสมบูรณ์พร้อม
• ไจจ่กเสี่ยลัก = ความรู้จักพอเป็นสุขนิรันดร์
• เจ็กเตี่ยคง = สุดท้ายเหลือแต่ความว่างเปล่า
• เจียะเก๊าเหลา เอาะเก๊าเหลา = เมื่อถึงวัยชรา ก็ยังคงต้องเรียนรู้ 
• เจ็กเหนียมจือชา = อารมณ์ชั่ววูบ(ทำให้กระทำผิดพลาดได้)

ปล. ได้ฟังผู้ใหญ่เล่าเหมือนกันกับที่อาป๊าเพื่อนของคุณ 55555 ทำการอบรมด้วยค่ะ  :mrgreen: :D :mrgreen:

ขอบคุณ ที่ช่วยแปลค่ะเม่ย.................

ใครบางคน คงบ่นว่า "เท้าหิ่งซี่" แปลว่า ผะ..ผม ขะ..ขอ..ทะ..ไทรีนอล 1 แผง  อิ อิ :slime_smile2:

ขอบคุณครับ ที่แปลให้........ถือเป็นการเรียน ภาษาจีน วันละ 6 คำ.......

เผื่อเอาไว้ไปโม้กับคนไต้หวันมั่ง

 :slime_v:

ขอบคุณครับ

ปล ก็แค่สงสัยน่ะครับ ไม่มีอะไรพิเศษ :slime_bigsmile: