หัวข้อ: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: NoomNakrak01 ที่ 03-05-2006, 13:14 ในฐานะที่เคยเป็นครูมานานหลายปี...อยากจะช่วย
อธิบายแต่ไม่รู้ว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่า คติเดิมคำว่า "Child Center" หรือที่แปลว่า "ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง" ต่อมาใช้คำว่า "ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ"....ความหมายทางศัพท์บัญญัติ ทางการศึกษาจริงๆ....กินความไม่มากอย่างที่ใครๆกำลังเถียงกันอยู่ เท่าไหร่หรอกครับ....นักการศึกษา..หรือครูบาอาจารย์ที่เรียนจบมา ทางสายครู..หรือสายศึกษาศาสตร์ (สายสังคมศาสตร์)โดยตรงมักรู้กันดี แต่บางคนไม่รู้จักการอธิบายให้คนทั่วๆไปได้เข้าใจ...ทำให้หลง "Concept" เถียงจนจะ "ฆ่ากันตาย" กว่าจะรู้เรื่อง....ขอยกตัวอย่าง "Child Center" ให้เห็นง่ายๆก็คือ....เวลาครูยืนสอนอยู่หน้าชั้นเรียน...ครูต้องพูดให้เด็ก ที่นั่งอยู่หลังห้องได้ยินเสียงครู..ชัดเจนด้วย....เขียนตัวหนังสืออะไรบน กระดานดำ...(เดี๋ยวนี้มักจะใช้ White Board กันแล้ว)ก็ต้องให้เด็กที่อยู่ ทั้งห้องอ่านออกชัดเจนตรงกันด้วย...หรือต้องให้เด็กทั้งชั้นเข้าใจทุกเรื่อง ที่ครูสอนด้วย...ต้องย้ำว่า.."ทั้งชั้น" หรือ "ทุกคน" นั่นเอง...เว้นไม่ได้แม้แต่ คนเดียว..นี่คือ Basic ต้องเข้าใจตามนี้ก่อน....มันเป็นอุดมคติ...แต่จะทำ อย่างไร..มีวิธีการอย่างไร...ทำได้จริงหรือไม่...ก็อีกเรื่องหนึ่ง...(ยังมีต่อนะครับ) ถ้าจะช่วยเค้าเถียงก็ไปที่ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4333580/P4333580.html แต่ถ้าจะเถียงกันในเนี้ย..ก็สุภาพๆหน่อยก็แล้วกันนะครับ.. ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: 500 ที่ 03-05-2006, 13:45 ......ทู้คุณคำตัดอ่ะเหรอ......ม่ายน่อ......... "Child Center" บทความนี้น่าจะพออธิบายได้ในด้านทฤษฎี http://web1.dara.ac.th/dara/cornerteacher/page/childcentered.html (http://web1.dara.ac.th/dara/cornerteacher/page/childcentered.html) ส่วนการปฎิบัติมันขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ส่วนหนึ่งก็คงต้องเป็นครูที่ต้องเปลี่ยนจากบทบาทผู้สอนไปเป็น facilitator หรือเป็นผู้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ ข้อสำคัญคือครูก็ยังไม่เข้าใจบทบาทนี้ การจัดการเรียนการสอนแบบนี้ แม้กระทั่งระดับอุดมศึกษาก็ตาม ปัจจัยอื่นก็คือ จำนวนครูกับนักเรียน ถ้านักเรียนมากเกินไปก็อาจทำให้การดำเนินการลำบาก นโยบายก็เป็นส่วนหนึ่ง ถ้าสักแต่สั่งว่าจะเอาแบบนี้ แต่ไม่เอื้อทรัพยากรทั้งหลายก็ไม่ต้องคาดหวังผลดีเลิศ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ อีกมากมาย ดังนั้นก็เป็นดังเช่นทฤษฎีระบบ input-----------> process-------------------> output ถ้ามีแต่ขยะเข้า มันก็จะออกมาเป็นขยะออก....เช่นนี้แล.......... หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: NoomNakrak01 ที่ 03-05-2006, 14:12 เพราะจะว่ากันไป....เทคนิคการสอน..ของครูแต่ละคน..แม้จะได้เล่าเรียน
มาก่อนจะเป็นครู...ซึ่งถือว่าเป็น "วิชาชีพครู".....ใช้เวลาเรียนให้ครบหลักสูตร จริงๆก็อย่างน้อย 4 ปี....สำหรับปริญญาตรี ภาคปรกติ....แล้วก็ต้องมีการ ฝึกสอน....หรือทดลองสอนในห้องเรียนจริงๆมาบ้าง....ไม่มากก็น้อย...... จึงจะได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู..หรือปริญญาบัตรวิชาชีพครู....ซึ่งถ้าจะ ถามว่าเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้คนๆหนึ่งที่ออกมาเป็นครูสอนในโรงเรียน จะเป็นผู้ที่ถึงพร้อม..สมบูรณ์สูงสุด..คือ "สอนเก่ง"....ฯลฯ แล้วก็มีความรู้ ความสามารถในการเป็นครูครบในทุกๆด้าน.....ซึ่งผมขอสรุปเอาตามที่ เคยรู้มาว่า หัวใจของความเป็นครูที่ดีมีอยู่ประมาณ 9 ประการด้วยกัน คือ.....อา..สุข..สอน..รู้....รัก..วุฒิ...ประพฤติ..เศรษฐกิจ...ยุติธรรม 1. อา....คือ..."อารมณ์".....ครูที่ดี...ควรจะเป็นคนที่มีอารมณ์ดี.งแจ่มใส ฯลฯ 2. สุข คือ..."สุขภาพ".....ครูที่ดี....ควรเป็นคนที่มีสุภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ 3. สอน คือ..."สอนเก่ง"....ครูที่ดี...ควรจะเป็นคนที่มีความสามารถในการสอนดี 4. รู้......คือ "มีความรู้ดี"....ครูที่ดี...ควรจะมีความรู้ในวิชาที่สอนเป็นอย่างดี..(ยิ่งถ้า รู้ทุกด้านก็จะเยี่ยมเลย) 5. รัก...คือ.."รักเด็ก...รักวิชาชีพครู" ครูที่ดีควรรักเด็ก...รักลูกศิษย์(ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะ ขอบอก....อีกทั้งควรรักในอาชีพครูด้วย..แม้ว่าเงินเดือนจะยังน้อยๆ...ไม่จูงใจก็ตาม สงสัยวันๆกินแต่แกลบ..ฮิฮิฮิ) 6. วุฒิ..คือ "วุฒิภาวะ"...ครูที่ดีควรมีวุฒิภาวะ (maturity) หมายถึงเป็นผู้ใหญ่พอ (ยังมีต่อครับ)... ควบคุมอารมณ์ได้ดี..มี E-Q ดีว่างั้นเถอะ 7. ประพฤติ...คือ "ประพฤติดีประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ" ครูก็ควรจะมีคุณ สมบัตินี้นะครับ 8. เศรษฐกิจ คือ ครูที่ดีควรมีเศรษฐกิจดี ไม่มีหนี้สิน (จริงๆแล้วคงหนีไม่พ้นกัน สักคน..ฮิฮิฮิ) 9. ยุติธรรม คือ ครูที่ดีควรมีความยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ..อคติ...อัตตา....ฉีกบัตร... ลงคะแนน เอ...อย่างหลังเกี่ยวมั้ยครับเนี่ยยยยย....(หาเรื่องโดนด่าแล้วสิเรา...ฮิฮิฮิ) (ยังมีต่อนะครับ) หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: NoomNakrak01 ที่ 03-05-2006, 14:33 ก่อน...จะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนต่อไป....ก็ขอชื่นชมคุณ "500" ที่อุตส่าห์หาสิ่งดีๆมาช่วยเสริมให้กระทู้ที่ผมตั้งขึ้นมา..มีสีสันมากขึ้น....ผมก็ต้องพิจารณาตัวเองเหมือนกันว่า...กลายเป็นครูรุ่นเก่าไปแล้วจริงๆ....ที่มัวมองแต่...
แก่นหรือ Basic......เท่านั้น...ทั้งๆที่เดี๋ยวนี้เค้าไปถึงไหนๆกันแล้ว....รบกวนคุณ "500 "...นำไป Link ในกระทู้ที่ผม อ้างถึงด้วยนะครับ...เพราะผมโดนแบนไปแล้ว....(แหะๆๆๆๆๆ..สารภาพ) หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: NoomNakrak01 ที่ 03-05-2006, 15:13 ดังนั้น...การที่จะนำ Child Center มาใช้....ครูก็ควรมีคุณสมบัติเบื้องต้นทั้ง 9 ข้อ (เป็นอย่างน้อย)ก่อน.....น่าจะดีนะครับ...ว่ามั้ย...โดยเฉพาะข้อสุดท้ายที่ผมออก นอกกรอบไปบ้าง..ก็ขออภัยด้วยละกัน..เนื่องจากอยากให้เทียบเคียงกับเหตุการณ์ ปัจจุบันไปด้วย.....เพราะเดี๋ยวนี้เราคงต้องมาทบทวนดูอีกสักทีมั้ยครับว่า..บทบาท หน้าที่ของครู(ที่ดีๆ)....ในสังคม...ควรจะเป็นเช่นไรกันแน่....ควรจะเป็น "ผู้ชี้แนะ" หรือ "ผู้ชี้นำ" ดี.....หรือสองอย่างนี้มันแยกไม่ออก....ว่าอย่างไหนเรียกว่า "แนะ" อย่างไหนเรียกว่า "นำ"......เพราะถ้าไม่รอบคอบ.....ครูบาอาจารย์ ก็อาจจะ "หน้าแตก" กลายเป็นคนที่ "ลำเอียง".......ไม่มีเหตุผล.....ใจแคบ.....ฯลฯ..ของสังคมไป เพราะ..การสอนที่ดี...เค้าเคยมีหลักให้ครูมีไว้ยึดเหนี่ยวบ้างเช่น หัวใจของการสอนที่ดี...."ศูนย์ ....สนอง......พร้อม....ประสพการณ์...ต่าง....จริง" 1. ศูนย์ คือ....ศูนย์กลาง คือ..การสอนที่ดี...ควรยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง...(สำคัญ) หลักการนี้มีมานานแล้ว..ตั้งแต่แนวคิดของ จอห์น ดิวอี้(John Dewey).อย่างที่คุณ "500" ได้กรุณา..อ้างถึง...และทำ Link ให้สมาชิกได้เข้าไปอ่านในบทความของ ดร.วีระเดช เชื้อนาม...และอ้างบทความของ ดร.ทิศนา แขมมณี...นั่นและครับ 2. สนอง คือ ....การสอนที่ดี..ควรเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้เรียน.. ซึ่งในที่นี้..มิได้หมายถึงแต่เพียงความต้องการภายนอก...ของตัวนักเรียนเองเท่านั้น ที่ต้องการอยากจะเข้าเรียนสาย แพทย์ วิศวะ....ฯลฯ....แต่เราจำเป็นต้องมองถึง สภาพ...ที่แท้จริงของตัวผู้เรียนว่าจะสามารถเรียนในสายวิชาต่างๆ...ได้จริงหรือ มิฉะนั้น...การต้องลาออกกลางคันของนักศึกษาที่เรียนไม่สำเร็จในระบบเก่า คงไม่เกิดขึ้น...จนถึงต้องนำเอา A-net, O-net มาใช้ดังในปัจจุบันนี้ กล่าวคือ การจะดูว่าใครควรจะเรียนสาขาไหน...ก็ต้องดูผลการเรียนทั้ง 4 ระดับ (ป.1-3,.....ป.4-6....ม.1-3.....ม.4-6) ดูคะแนนเฉลี่ย (GPA (Grade Point Average) ด้วย..เพื่อให้เด็ก..อยู่กับการเรียนมากขึ้น...แทนที่จะไปถูก...มอมเมา...จากอบายมุข ต่างๆ....แล้วไปกวดวิชา...สุกเอาเผากิน...ทุจริตในการสอบ....เพื่อจะ เอนทรานส์เข้า มหาวิทยาลัย..เหมือนกาลก่อน.... (ยังมีต่อนะครับ) ถ้าจะช่วยเค้าเถียงก็ไปที่ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4333580/P4333580.html แต่ถ้าจะเถียงกันในเนี้ย..ก็สุภาพๆหน่อยก็แล้วกันนะครับ.. ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 03-05-2006, 15:35 เออ...
กระทู้มันพังแล้วครับพี่ หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 03-05-2006, 17:32 เน่าสนิดแล้วครับ กระทู้นั้น
หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: โลกสวยงาม ที่ 03-05-2006, 20:35 อ้าว!กระทู้พังและเน่าแล้วเหรอ ว่าจะเข้าไปดูเชียว ม่ายทันซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 04-05-2006, 00:56 อ่านแล้วเหนื่อยจริงๆ แล้วก็สงสารครูรุ่นเก่าด้วยนะครับ
พวกครูสอนลูกศิษย์มาเป็นสิบๆ รุ่น โดยใช้วิชาชีพที่ได้เล่าเรียนมา ลูกศิษย์ของพวกครูรุ่นก่อนได้ดิบได้ดีกันไปนับไม่ถ้วน อยู่ดีๆ ก็มีคนมาบอกว่า ไอ้ที่พวกครูทำน่ะมันจะทำให้ประเทศฉิบหาย มันจะทำให้เด็กโง่ ช่วยตัวเองไม่ได้ ฯลฯ ทำไมเขาไม่ลองคิดบ้าง ว่าประเทศไทยอยู่ได้จนถึงวันนี้เพราะอะไร ถ้าการศึกษายุคเก่ามันนำพาเยาวชนไปสู่ความล่มจม ทำไมที่ผ่านมาประเทศไทยจึงยังอยู่มาได้ ผมเกลียดคนที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ อาชีพครูเป็นอาชีพที่เหนื่อยแต่เงินน้อย แต่คนบางคนกลับไม่รู้จักคิด ไปด่าครูบาอาจารย์ที่เขาไม่มีความผิด บอกมาได้ว่าอาจารย์เป็นพวกไดโนเสาร์ไม่รู้จักปรับปรุงตัว ถามจริงถ้าคุณสอนมาแบบเดิม 30 ปี คุณจะปรับตัวได้ภายในเดือนสองเดือนหรือ สุดท้ายผมเกลียดพวกที่พยายามยัดเยียด "หลักการที่ดีกว่า" เพื่อใช้กับคนหมู่มาก พวกนี้คิดอะไรดีๆ ได้ ก็พยายามจะยัดเยียดให้กับกลุ่มคน พอเขาบอกว่ามันทำยาก ก็ด่าเขา เหมือนกรณีนี้ ก็ยัดเยียดกันเข้าไป ไอ้ child center อะไรนั่น มองความเป็นจริงบ้างไหมว่ามันจะเอาไปประยุกต์ใช้ตามโรงเรียนได้จริงหรือ ถ้าทำได้แล้วจะทำได้ในกี่ปี เร่งด่วนแค่ไหน ถูกต้องหรือไม่ที่จะเปลี่ยน คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่ทำงาน คือไม่ใช่ครู แต่เป็นพวกนักทฤษฎี ชอบเปลี่ยนแปลงคนอื่น แต่ตัวเองนั้นไม่มีทางประนีประนอมเด็ดขาด กรูบอกว่า child center ดีก็คือดีที่สุด ใครไม่เห็นด้วย ไม่ว่ามากหรือน้อย มันผู้นั้นคือไดโนเสาร์ แบบนี้ละเกลียดจริงๆ หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: (-O-)Koka ที่ 04-05-2006, 02:31 ผมว่าอาจารย์เหลี่ยมเป็นพวกฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด เห็นหลายเรื่องแล้ว อวดรู้ไม่เห็นหัวคนในวิชาชีพเลย
อาจารย์เหลี่ยมออกมาบอกว่าให้เลิกท่องจำ แบบนี้ก็โง่ตาย ฝรั่งอย่างแอนดรูว์บิ้กยังทนไม่ไหว บอกว่าเมืองนอกเรียนเค้าก็ยังมีการท่องจำกันอยู่ เพราะบางอย่างเป็นทักษะ ต้องอาศัยฝึกฝน ทำซ้ำๆ จำให้ได้ เห็นแสลนไปสอนเด็กปล่อยมุขก็ฝืด ให้ไปเป็นอาจารย์จริงๆเด็กหลับหมดแหงๆ หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 04-05-2006, 06:38 ไม่ไปจ้ะ จะสร้างเว็ปนี้ให้แข็งแรง
หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: NoomNakrak01 ที่ 04-05-2006, 09:44 ขออนุญาตอภิปราย....กับทุกๆความเห็นก่อนที่จะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนต่อไปนะครับ
จากการที่เคยเป็นครูมาหลายปีดีดัก....ก็เห็นด้วยกับหลายๆคนที่ว่า....มันมีปัญหามากกับ การเปลี่ยนอะไรใหม่ๆเสมอแหละครับ...ยิ่งถ้าเกี่ยวข้องกับ "การศึกษา".....ครูบาอาจารย์ หรือคนที่มีอำนาจหน้าที่..ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ....ก็พวกครูบาอาจารย์.... ด้วยกันทั้งน้านนนนน...แหละครับ....แล้วแต่ละคน..ขอบอก...ก็เรียนจบ "ด๊อกเตอร์" ทางวิชาครูหรือทาง "การศึกษา" แทบทั้งนั้นแหละครับ.....ดังนั้นถ้าเราไปคิดว่าเค้า "ดูถูก" ครูบาอาจารย์เก่าๆ....ดังที่บางท่านว่า....ผมก็คิดว่าเราจะมอง "แง่ร้าย" มากไปหรือเปล่า เพราะผมกำลังจะบอกว่า......ในโลกเบี้ยวๆ....ในนี้ไม่มีอะไรที่เป็น "สูตรสำเร็จ" ที่ดีที่สุด หรอกนะครับ...... ดังนั้นผมกลับมองว่า....ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในแวดวงการศึกษาของไทยเรา...มีมากมาย หลายอย่างที่ล้วนรอการแก้ไข.....เป็นต้นว่า....... 1. การตกงานของบัณฑิต.....จำนวนมากมายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน 2. จำนวนนักเรียนในห้องหนึ่งๆ...มีถึง 40-60 คน 3. ปัญหาการออกกลางคันของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เพราะเรียนไม่ตรงกับศักยภาพ หรือความรู้ความสามารถที่แท้จริง....คงเพราะสอบเอนทรานส์เข้ามาเพราะการเรียนกวดวิชา หรือตามค่านิยม....ในบางวิชาชีพ....หรือการคาดหวังของผู้ปกครอง ฯลฯ 4. ฯลฯ ปัญหาต่างๆ....เกิดขึ้นมาจากอะไร....ถ้ามองให้ดีๆ...เราอาจจะคิดได้ว่า...เป็น "ปัญหาลูกโซ่" คงต้องอภิปรายอีกแยะ....ขอทิ้งท้ายช่วงนี้ไว้ด้วยเนื้อหาที่จะนำเสนอที่เหลือหน่อยครับ (ต่อจากคราวที่แล้วครับ) ...."หัวใจของการสอนที่ดี" 3. พร้อม คือ การสอนที่ดีครูควรคำนึงถึงความพร้อมของผู้เรียน.....ความพร้อมของครู ความพร้อมของห้องเรียน...โรงเรียน....ผู้ปกครอง สภาพแวดล้อมของตัวเด็กเอง...ฯลฯ (อภิปราย)......แล้วอย่างงี้....ก็ไม่ต้องทำอะไรเลยสิ....ถ้าขืนรอให้อะไรๆๆมันพร้อมไปซะ ทุกอย่างจริงมั้ยครับ....เด็กมานั่งหน้าสลอนรอการสอนของครู....ของโรงเรียน...อยู่ทุกวี่วัน จะมัวมารอให้พร้อม....ก็ชาติหน้าตอนบ่ายๆ...ละมั้งครับ.....เพราะการเปลี่ยนเทคนิคการสอน ใหม่ๆ....ก็ต้องพยายามทำอยู่เสมอๆ...พร้อมกันไปด้วย.....อย่ามาเหมาเอาว่า...เป็น "หนูลองยา" เพราะการศึกษา....รอให้พร้อมไม่ได้....เด็กรอไม่ได้....สังคมรอไม่ได้....ไม่เหมือนกิจการอย่างอื่น.. เด็กที่เข้ามาเรียนในโรงเรียน....ยังไม่พร้อมที่จะเรียน....ครูก็ต้องใช้สติปัญญาปรับปรุงเทคนิค การสอนทั้งแบบเก่า...แบบใหม่ไปพร้อมๆกัน...อยู่ดี....ถ้าเห็นเจตนาดี....สร้างสรรค์...เหมือนคำ กล่าวที่ว่า....."กล้วยไม้ออกดอกช้า ฉันใด...การศึกษาย่อมเป็นไป....เช่นนั้น....เมื่อออกดอกแล้ว สดชื่นงดงาม"....(อะไรทำนองเนี้ย...ถ้าผมจำผิดก็ขออภัยด้วยละกัน..เพราะมันชักจะเลือนๆไป หมดแล้วหละครับ...อาจารย์แม่เคยพูดบ่อยๆ..เหมือนกัน..ประโยคเนี้ย....ฮิฮิฮิ)..A-net , O-net Admission ฯลฯ ก็คงหนีไม่พ้น.ในประเด็นที่ผมอ้างถึงหรอกนะ.....ครับ (เอาไว้ต่อคราวหน้าดีกว่าครับ...กลัวคนอ่านจะตาลายซะก่อน) หัวข้อ: Re: Child Center เรื่องที่เถียงกันใหญ่ในราชดำเนิน....ใครเป็นครูไปช่วยเค้าเถียงหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: (-O-)Koka ที่ 04-05-2006, 10:09 ตายลายสงสัยเพราะ....เยอะไปมั้งครับ แฮ่ะๆๆ
|