ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

“กอร์ปศักดิ์” แฉเหลี่ยม! “แม้ว” จ้างล็อบบี้ยิสต์รุมถล่มรัฐ-คมช.
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2550 14:46 น.
 
 
  “ปชป.” เปิดแผล “แม้ว” ไม่หยุดป่วน จ้างองค์กร-บริษัทล็อบบี้ยิสต์ ในต่างแดน อ้างเรื่องสิทธิบัตร ย้อนถล่มรัฐบาล-คมช.จี้ กระทรวงต่างประเทศตอบโต้ด่วน เพราะถือเป็นขบวนการจ้องทำลายประเทศ
       
       วันนี้ (29 เม.ย.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้ในต่างประเทศมีขบวนการเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลไทย และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.บ.อีเดอร์แมน ซึ่งเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ว่าจ้างเมื่อเดือนมกราคม 2550 ให้ทำงานและสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะคนธรรมดาที่ต้องการกลับประเทศไทย โดยใช้สำนักงานที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และฮ่องกง เป็นสำนักงานหลัก 2.นายเคน เอเดอร์แมน ซึ่งเป็นกรรมการบริหารของบริษัท อีเดอร์แมน และยังเป็นเอ็นจีโอขององค์กร ยูเอสเอ อินโนเวชั่น นอกจากนี้ นายเอเดอร์แมน ยังทำงานให้กับรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาด้วย และ 3.องค์กรยูเอสเอ อินโนเวชัน ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยทั้ง 3 ส่วนมีความเคลื่อนไหว ที่สอดคล้องกัน
       
       โดยเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2550 นายเคนได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ โจมตีรัฐบาลไทย โดยเนื้อหาแม้จะเป็นการพูดถึงเรื่องสิทธิเหนือสิทธิบัตรยารักษาโรคเอดส์ ที่รัฐบาลไทยมีปัญหากับบริษัท แอ็บบอต ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารักษาโรคเอดส์ แต่ที่น่าสนใจ คือ นายเคนได้ใช้คำพูดหลายอย่าง จึงทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรไปเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะนายเคนทำงาน 2 หน้าที่ ทั้งเป็นลูกจ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ และทำงานให้กับองค์กรที่ต่อสู้เพื่อประชาชน คือเอ็นจีโอ ซึ่งทั้งสองอย่างมีความใกล้เคียงกัน เมื่ออ่านจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โดยนายเคนเขียนไว้ว่า เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.2006 ว่า “Thailand democratically goverment” ซึ่งเป็นการย้ำว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกปฏิวัติ และที่น่าสนใจคือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ซึ่งใช้คำว่า “was depost” ซึ่งถือเป็นคำเดียวที่ใช้บริษัทล็อบบี้ยิสต์ใช้ในการแถลงต่อสภาสหรัฐฯ
       
       “ผมไม่มั่นใจว่าสิ่งที่นายเคนกำลังทำ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาคมโลก หรือในฐานะลูกจ้างของคนชื่อทักษิณแล้วมาโจมตีรัฐบาลไทย เหตุผลที่น่าสงสัย คือ บทความนี้ไม่ได้พูดเฉพาะสิทธิบัตรยาเท่านั้น แต่ก้าวไปถึงเรื่องตั้งแต่เรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศมาตราการการกันสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทระยะสั้น เรื่องการใช้เงินงบประมาณของ คมช.และคนอีกกลุ่มหนึ่ง คือ องค์กรยูเอสเอ อินโนเวชัน ออกมาเล่นงานกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลไทย แต่ไปพูดเหมือนกับที่นายเคนพูด แม้กระทั่งเรื่องภาคใต้ ก็เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าน่ารังเกียจที่สุด” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
       
       นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ตนนำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพราะอยากฝากไปยังว่า รัฐบาล คมช. และกระทรวงต่างประเทศ ต้องตอบโต้ทันที สิ่งที่กังวัลตั้งแต่ บริษัทล็อบบี้ยิสต์ และนี่ก็คืองานของบริษัทล็อบบี้ยิสต์ และในตอนท้ายบทความของ นายเคนได้ยื่นเรื่องไปที่สภาสหรัฐฯ และทำเนียบขาวเพราะตรงนั้นมีล็อบบี้ยิสต์ อีกกลุ่มช่วยทำงานอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ กระทรวงต่างประเทศของไทย และสถานทูตสหรัฐฯในไทย ต้องเคลียร์ให้ชัดว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ถ้าทางบริษัท แอ็บบอต มีปัญหากับกระทรวงสาธารณสุข
       
       ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการเจรจา แต่ไม่เข้าใจว่าบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร ถึงกับขั้นมีการลงโฆษณาบทความในหนังสือพิมพ์เอเชี่ยนวอลล์สตรีท เจอร์นัล ซึ่งไม่ได้ลงเฉพาะเรื่องของสิทธิบัตรยา แต่พูดถึงเรื่องอื่น เช่น บอกว่า ประเทศไทยเป็นเหมือนกับรัฐบาลพม่า และบอกว่ารัฐบาลไทยขณะนี้รัฐบาลโดยฝ่ายทหารของไทยเพิ่มงบประมาณเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการทหารถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการใช้เงินในเรื่องดังกล่าวถึง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
       
       นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า บทความดังกล่าวก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสิทธิบัตรยาแต่ประการใด สรุปแล้วเป็นเพียงกระบวนการจ้องทำลายประเทศไทย รัฐบาล และ คมช.ดังนั้น ขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยเร็วที่สุด เพราะวันนี้ได้มีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง เข้ามาโจมตีรัฐบาล และจะมีการเสนอต่อรัฐบาลสหรัฐฯขึ้นชื่อประเทศไทย ให้ติดอยู่ในรายชื่อของประเทศที่ล่วงล้ำในเรื่องสิทธิบัตร

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000048748



คณะ คมช.และรัฐบาลนี้ โชคดีที่มีคนคอยให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ให้ข้อมูลต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มรัฐประหาร จนจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ.....

วันนี้นักวิชาการ ผู้นำทางความคิด นักการเมือง และกลุ่มเคลื่อนไหวที่เคยให้ความเข้าใจ ให้การสนับสนุน เริ่มท้อแท้และถอยห่าง เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลนี้มี"อะไร"กับกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่......

รัฐบาลนี้ทำตัวเหมือนโฆษณาโทรทัศน์....เราทนด๊ายยยยย...............
 
 
 
 
 

เหลี่ยมคิดว่าคนในเมืองไทยโง่ 100%
หารู้ไม่ว่า             ยังมีบางส่วนรู้ทัน
วันนี้ไม่มีแผ่นดินอยู่  ถ้ายังเล่นไม่เลิก
อาจไม่มีที่ฝัง

มาเพิ่มข้อมูลให้คุณกอร์ปศักดิ์ หวังว่าจะเข้ามาอ่าน

ความจริงแล้ว USA for Innovation สามารถโยงถึงสิทธิบัตรยาได้ไม่ยากเย็นนัก

USA for Innovation มี กรรมการบริหารชื่อ นายเคน และนายเคนเป็นที่ปรึกษาอีเดลแมน

นายเคน นามสกุล อีเดลแมน และอีเดลแมนมีลูกค้า ชื่อ แอ็บบอต ลาบอเรทารีส์ หรือ แอ็บบอต

เจ้าของลิขสิทธิ์ยาต้านไวรัสเอชไอวี แอ็บบอตสูญเสียประโยชน์จากการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร

ทำให้ประเทศไทยสามารถนำเข้ายาชนิดเดียวกัน และคุณสมบัติใกล้เคียงกันจากอินเดีย ซึ่งราคาถูกกว่าหลายเท่า

USA for Innovation ออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าไทยขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

แต่แอ็บบอตลืมตระหนักว่า กำไร ควรมาพร้อมกับมนุษยธรรม และนี่คือโลกแห่งทุนนิยมที่พวกบริษัทอย่างแอ็บบอตมักอ้างถึง

ทุนนิยม ยกย่องดีมานด์ และ ซัพพลาย มิใช่รึ ฉะนั้น ที่ใดราคาต่ำกว่า ย่อมซื้อจากที่นั่น

นี่เป็นกรณีศึกษาทางเศรษฐศาสตร์และจริยธรรม อันเด่นชัดที่สุดในศตวรรษนี้

แม้ว่านายเคนจะอ้าง USA for Innovation บังหน้าในการกล่าวหาไทย โดยอ้างว่า USA for Innovation เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร

แต่อีเดลแมน มีนายเคนเป็นที่ปรึกษา และอีเดอร์แมนก็รับจ้าง 0[__]0 ดำเนินการหลายอย่าง

ใช้ข้ออ้างองค์กรไม่แสวงหากำไรบังหน้า

พี่น้องไม่ต้องกังวล เพราะ "องค์กรไม่แสวงกำไร" หลายองค์กร เคลื่อนไหวประณามแอ็บบอตมาซักระยะแล้ว

จนกระทั่งผู้ถือหุ้นประมาณ 30% ของแอ็บบอตส่งสัญญาณทักท้วงไปที่ผู้บริหารแล้ว

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการประท้วงหน้า สนง.แอ็บบอต กระจายตามประเทศต่างๆ พร้อมกันทั่วโลก

เช่น บราซิล เกาหลีใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น USA ฯลฯ USA for Innovation จึงกล่าวหาว่าไทยเป็นหัวหอกนำขบวน

และนี่เป็นมาตรการกดดันให้ผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือทบทวนปรัชญาการหากำไรของบริษัท

ปล. USA for Innovation ไม่แสวงหากำไร แต่อีเดลแมน แสวงหากำไร ส่วนหนึ่งจากค่าจ้างของ 0[__]0

หนำซ้ำนายเคน ยังลงทุนเขียนบทความลงใน The Woshington Times เมื่อวันศุกร์ โจมตีไทยอีกด้วย

http://washtimes.com/commentary/20070426-082753-6067r.htm

ช่างทำงานได้สมกับค่าจ้างเจงเจง แฟ้มบุคคลขอปรบเม้าส์ให้ แปะ แปะ แปะ  

ผมล่ะสงสารพวกรากหญ้าจัง

ใจมันทำด้วยอะไรว่ะ  :slime_evil:

ไม่ใช่แค่ยาต้านไวรัสเอชไอวีนะคุณ soco ยังมียาสลายลิ่มเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจด้วย

ไม่ต้องกังวล งานนี้คุณหมอหัวใจแกร่งหยั่งหมอมงคลสู้ไม่ถอย

ไว้ปลายเดือน คุณหมอจะเดินทางไปชี้แจงกับรัฐสภาสหรัฐ และจะแถลงข่าวพร้อมกับตัวแทนประเทศต่างๆ ทั่วโลก

พร้อมกับบิล คลินตัน จ้า................. :slime_worship: ขอบคุณคุณหมอมงคล มา ณ ที่นี้

นพดล จะบอกว่าแค่รู้จักกันเฉยๆรึเปล่า  :slime_bigsmile:

* ตอนแรก ไม่เห็นกระทู้นี้ซะงั้น ...

กอปศักดิ์ก็มั่ว หนังสือพิมพ์ที่ลงบทความของ เคน เอเดลแมน คือ วอชิงตัน ไทม์ ไม่ใช่ วอชิงตัน โพสท์ ระดับความนิยม ของ สอง
ฉบับนี้ ก็คนละเรื่อง

เอเดอแมน ก็ทับศัพท์มาผิด เวรกำ ทำให้ผมควานหาอยู่ตั้งนาน Aderman กับ Adelman มันอ่านเหมือนกันที่ไหน

30 เมษายน 2550    กองบรรณาธิการ

"กอร์ปศักดิ์" แฉ "ทักษิณ" อยู่เบื้องหลังบงการล็อบบี้ยิสต์ฝรั่งในคราบเอ็นจีโอ ออกบทความโจมตีไทย จี้รัฐบาล-คมช.เร่งตอบโต้ก่อนที่จะเพลี่ยงพล้ำมากกว่านี้ "สนธิ"


มั่นใจพฤษภาไม่ทมิฬ พร้อมใช้กฎหมายควบคุมสถานการณ์  ตอกย้ำท่อน้ำเลี้ยงปลุกบริวารอำนาจเก่า ไม่เช่นนั้นจะอยู่กันได้อย่างไร แม่ทัพ 1  ชี้ "หมอประเวศ" ไม่ควรพูดใกล้กลียุค ยันทหารไม่คิดใช้ความรุนแรง  อดีต ส.ส.เชียงรายอ้างไม่เจอเจ๊เล็กนานแล้ว ปัดค่าหัว 3 ล้าน "สุดารัตน์" สั่งก๊วน กทม.งดจัดงานอวยพรวันเกิด หวั่น คมช.เขม่น

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่คุกรุ่นเป็นลำดับ  นายกอร์ปศักดิ์  สภาวสุ  กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์  ก็เปิดแถลงเมื่อวันที่  29 เมษายนนี้ ว่าขณะนี้ในต่างประเทศมีขบวนการเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลไทย   และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ  (คมช.)  แบ่งเป็น  3 กลุ่ม  คือ  1.บริษัท อีเดอร์แมน  ซึ่งเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ที่  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจ้างเมื่อเดือนมกราคม  2550  ให้ทำงานและสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะคนธรรมดาที่ต้องการกลับประเทศไทย โดยใช้สำนักงานที่กรุงวอชิงตัน  ดี.ซี.  และฮ่องกง  เป็นสำนักงานหลัก  2.นายเคน เอเดอร์แมน กรรมการบริหารของบริษัท  อีเดอร์แมน  และยังเป็นเอ็นจีโอขององค์กร  ยูเอสเอ  อินโนเวชั่น นอกจากนี้ นายเอเดอร์แมนยังทำงานให้แก่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้วย และ 3.องค์กรยูเอสเอ อินโนเวชั่น

นายกอร์ปศักดิ์ตั้งข้อสังเกตว่า  ทั้ง 3 ส่วนมีความเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน โดยเมื่อวันที่ 27 เม.ย.50  นายเคนได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ โจมตีรัฐบาลไทย โดยเนื้อหาแม้จะเป็นการพูดถึงเรื่องสิทธิเหนือสิทธิบัตรยารักษาโรคเอดส์  ที่รัฐบาลไทยมีปัญหากับบริษัท แอ๊บบอต  ผู้ผลิตยารักษาโรคเอดส์  แต่ที่น่าสนใจคือนายเคนได้ใช้คำพูดหลายอย่างทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า  สิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรไปเกี่ยวกับ  พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะนายเคนทำงาน 2 หน้าที่ ทั้งเป็นลูกจ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ และทำงานให้แก่องค์กรที่ต่อสู้เพื่อประชาชน คือ เอ็นจีโอ

"เมื่ออ่านจากหนังสือพิมพ์วอชิงตัน  โพสต์  นายเคนเขียนไว้ว่าเมื่อเดือนกันยายน  ค.ศ.2006 Thailand  democratically  government  ซึ่งเป็นการย้ำว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกปฏิวัติ และที่น่าสนใจคือ  ขณะที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ  ทักษิณ ชินวัตร มีการใช้คำว่า  was  depost ซึ่งถือเป็นคำเดียวที่บริษัทล็อบบี้  ยิสต์  ใช้ในการแถลงต่อสภาสหรัฐ ผมไม่มั่นใจว่าสิ่งที่นายเคนกำลังทำ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาคมโลก  หรือในฐานะลูกจ้างของคนชื่อทักษิณ แล้วมาโจมตีรัฐบาลไทย เหตุผลที่น่าสงสัยคือ บทความนี้ไม่ได้พูดเฉพาะสิทธิบัตรยาเท่านั้น แต่ก้าวไปถึงเรื่องตั้งแต่เรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศมาตรการการกันสำรอง  30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทระยะสั้น เรื่องการใช้เงินงบประมาณของ  คมช.  และคนอีกกลุ่มหนึ่งคือ  องค์กรยูเอสเอ  อินโนเวชั่น ออกมาเล่นงานกระทรวงสาธารณสุข  และรัฐบาลไทย  แต่ไปพูดเหมือนกับที่นายเคนพูด แม้กระทั่งเรื่องภาคใต้ ก็เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าน่ารังเกียจที่สุด" นายกอร์ปศักดิ์กล่าว

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ที่ตนนำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพราะอยากฝากไปว่า รัฐบาล คมช. และกระทรวงการต่างประเทศ  ต้องตอบโต้ทันที บทความดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสิทธิบัตรยาแต่อย่างใด สรุปแล้วเป็นเพียงกระบวนการจ้องทำลายประเทศไทย รัฐบาล และ คมช. ดังนั้นขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยเร็วที่สุด เพราะวันนี้ได้มีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้ามาโจมตีรัฐบาล และจะมีการเสนอต่อรัฐบาลสหรัฐ ขึ้นชื่อประเทศไทยให้ติดอยู่ในรายชื่อประเทศที่ล่วงล้ำในเรื่องสิทธิบัตร

"ไม่เข้าใจว่าบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร  ถึงขั้นมีการลงโฆษณาบทความในหนังสือพิมพ์เอเชี่ยนวอสตรีท  เจอร์นัล ซึ่งไม่ได้ลงเฉพาะเรื่องของสิทธิบัตรยา แต่พูดถึงเรื่องอื่น เช่น บอกว่าประเทศไทยเป็นเหมือนกับรัฐบาลพม่า  และบอกว่ารัฐบาลไทยขณะนี้รัฐบาลโดยฝ่ายทหารของไทยเพิ่มงบประมาณเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการทหารถึง  9 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการใช้เงินในเรื่องดังกล่าวถึง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ"
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=30/Apr/2550&news_id=141544&cat_id=501



ตกลงวัตถุประสงค์ ของ บทความคืออะไรแน่.........เรื่องสิทธิบัตรยาหรือปล่าว....ถ้าเป็นสมัยก่อน สาวกท่านเทพทักษิณ คงเล่นกันสนุกมือ โดยไม่ได้รู้วัตุถุประสงค์อันแท้จริง

 :slime_smile:

เข้าใจว่าอาจเกิดจากความผิดพลาดของคนเขียนข่าว .......ลองดูไทยรัฐ

ปชป.แฉ3กลุ่มต่างชาติจ้องโจมตีไทย



นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 29 เมษายนว่า ขณะนี้มีขบวนการในต่างประเทศที่น่าเชื่อว่า พยายามโจมตีประเทศไทย รัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คือ 1.บริษัทประชาสัมพันธ์ ที่ชื่อบริษัทอีเดลแมน ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ออกมายอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จ้างให้ทำการประชาสัมพันธ์ 2.นายเคน เอเดลแมน  กรรมการบริหารของบริษัทอีเดลแมน และ 3.องค์กรพัฒนาเอกชน USA Innovation ซึ่งมีนายเคน เป็นกรรมการ

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมานายเคน เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตันไทม์ส โจมตีรัฐบาลไทยเรื่องสิทธิเหนือสิทธิบัตรยารักษาโรคเอดส์ ซึ่งไม่แน่ใจว่า นายเคนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาคมโลก หรือในฐานะลูกจ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ

"บทความของนายเคน ยังพูดถึงเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศมาตรการควบคุมเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศ 30% และการใช้งบประมาณของ คมช. ขณะเดียวกันองค์กรพัฒนาเอกชน USA innovation ก็ออกมาโจมตีกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลไทย และพูดเรื่องเดียวกับที่นายเคนพูด" นายกอร์ปศักดิ์กล่าว

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ท้ายสุดของบทความได้โยนเรื่องไปที่สภาสหรัฐ และที่ทำเนียบขาวเพราะตรงนั้นมีล็อบบี้ยิสต์อีกกลุ่มหนึ่งช่วยทำงานอยู่แล้ว รัฐบาลสหรัฐ รัฐบาลไทย และสถานทูตสหรัฐในไทย ต้องทำให้เรื่องนี้กระจ่าง

มันอาจจะไม่ใช่สาระอะครับ แต่มันทำให้ผมไปค้นบทความผิดที่ แล้วมันหาไม่เจอ ก็ต้องฉุนสิครับ

ไม่ได้พูดถึงผลงานรัฐบาลของเรานะครับ   ผมกำลังพูดถึงผลงานของลูกน้องพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร    และไม่ใช่ลิ่วล้อทั้งหลายที่อยู่ในประเทศด้วย   ผมหมายถึงบริษัทที่รับงานประชาสัมพันธ์เป็นลูกจ้างของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร  ชื่อบริษัท อีเด็ลแมน  ( Edelman ) จากประเทศสหรัฐอเมริกาครับ

Edelman Helps Thaksin
The public relations company, Edelman, confirmed in January 2007 that its Washington and Hong Kong offices are handling media relations for Thaksin. "We are supporting him as a private citizen in his efforts to return back to his home country," said Alan VanderMolen from Edelman Asia-Pacific.

 จาก SourceWatch.org
 

นายเอแลนแถลงข่าวไว้เมื่อต้นปีนี้ครับ   บอกสั้นๆแต่เพียงว่าช่วยทักษิณเพื่อให้กลับบ้านเกิดได้   ไม่ได้บอกว่าจะช่วยโดยวิธีไหน  ถ้าจะให้เดากันก็ต้องเดาว่าเมื่อเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องช่วยในเรื่องของสื่อเป็นหลัก

ช่วงที่นิตยสารไทม์ลงหน้าปกรูปพ.ต.ท. ทักษิณพร้อมคำสัมภาษณ์   หรือที่ซี เอ็น เอ็น  ออกอากาศสัมภาษณ์พ.ต.ท. ทักษิณ      หลายคนเชื่อว่านี่แหละผลงานของอีเด็ลแมน   แต่ก็เป็นเพียงเรื่องของการคาดคะเน   ไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกและชี้ชัดลงไปว่าเป็นฝีมือของบริษัทประชาสัมพันธ์กลุ่มนี้

สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

ท่านผู้อ่านที่สนใจงานของกระทรวงสาธารณสุข    หรือท่านที่ได้ติดตามหรือมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการรักษาโรคเอดส์ทราบดีว่ารัฐบาลไทยโดยกระทรวงสาธรณสุขกำลังพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย  ค่ายา  ที่ต้องใช้ในการรักษาคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคเอดส์

แน่นอนครับ  ผู้ผลิตยาคือผู้ที่เราต้องพูดคุยด้วยเพื่อหาแนวทางที่ไม่ให้ผู้ผลิตต้องเกิดความเสียหายสามารถดำเนินธุรกิจต่อได้     ขณะเดียวกัน  คงไม่มีรัฐบาลไหนปล่อยให้ชีวิตของพลเมืองของตนโดยเฉพาะคนยากไร้ที่ป่วยด้วยโรคเอดส์  ผูกไว้กับเรื่องของเงิน  เรื่องของยาราคาแพงแต่เพียงอย่างเดียว

รัฐบาลไทยได้มีหนังสือถึงผู้ผลิตบริษัทแอบบ้อทท แลบ ( Abbott Laboratories )  เมื่อต้นปีนี้ครับ     ผมไม่ได้เห็นข้อความทั้งหมดแต่จากรายงานข่าวระบุว่า ไทยจะใช้สิทธิที่มีตามข้อตกลงที่มีไว้กับ ดับบลิว ที โอ    อนุญาตให้มีการนำเข้าหรือผลิตยาที่ไม่มีสิทธิบัตรได้  เพราะราคาจะถูกกว่ามาก   (  ยาตัวนี้ชื่อ   Kaletra )  ทำให้บริษัทแอบบ้อทท แลบ ตอบโต้โดยขู่ว่าจะไม่นำเข้าตัวยาใหม่ในประเทศไทย     ต่อมาเสียงอ่อยลงและยินยอมที่จะลดราคา     ผมไม่ทราบในรายละเอียดครับ   ถือเป็นเรื่องปกติ   เมื่อมีข้อขัดแย้งกัน   ก็เจรจากันไป

ประเด็นของผมไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาของความขัดแย้ง    แต่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่า  มีความไม่ปกติ   เหมือนกับมีขบวนการที่มีการวางแผนเพื่อใส่ร้าย     ทำความเสียหายให้กับรัฐบาลไทย และ คมช.  มีขบวนการแปลว่ามีหลายตัวละคร  จำเป็นที่ต้องปูพื้นตัวละครในเรื่องนี้กันก่อน    ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วท่านผู้อ่านจะสับสน   

ผมเริ่มต้นไว้ที่บริษัท  อีเด็ลแมน  ( Eldeman ) ว่าเป็นลูกจ้างของคนชื่อทักษิณ  ชิณวัตร    อีเด็ลแมนนับเป็นตัวละครตัวแรกก็แล้วกัน

ตัวละครตัวที่สองที่มีบทบาทอย่างมากในขณะนี้คือ  ยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น ( USA for Innovation )

ยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น ( USA for Innovation ) เป็นองค์กรที่เรียกว่า  เอ็น จี โอ   มีผู้บริหาร
 ( Executive director ) ชื่อนายเคน เอเด็ลแมน   ผมนับเป็นตัวละครตัวที่สาม  สำคัญที่สุด   เป็นหัวหน้าทีม 

เมื่อเรียกเป็นหัวหน้าทีมแล้วก็ต้องแนะนำตัวกันเสียหน่อย      นายคนนี้มีประวัติย่ออย่างนี้ครับ

Ken Adelman, also known as Kenneth L. Adelman, served as Assistant to U.S. Secretary of Defense Donald Rumsfeld from 1975 to 1977. Adelman was U.S. Ambassador to the United Nations during the Ronald Reagan administration as well as serving as Reagan's director of arms control. He is a frequent media commentator including with Fox News, CNN, NPR.

He is the Executive Director of USA for Innovation. A biographical note states that he has been the national editor of Washingtonian magazine "for 15 years and is a senior counselor at Edelman Public Relations Worldwide

จาก  SourceWatch.org

สมกับเป็นหัวหน้าทีม   ไหมครับ    ใหญ่โตไม่เบา    เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม  เคยเป็นถึงทูตสหรัฐประจำยูเอ็น    ปัจจุบันเป็นผู้บริหารให้กับตัวละครที่สอง  ยูเอสเอ ฟอร์อินโนเวชั่น   และเป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับอีเด็ลแมน   สรุปตัวละครสามตัว เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งสิ้นและเป็นกลุ่มที่พ.ต.ท. ทักษิณ ว่าจ้างให้ทำงานประชาสัมพันธ์ให้ครับ

เดิมผมก็ไม่ได้คิดว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับพ.ต.ท. ทักษิณ   เปลี่ยนใจเมื่อเช้านี้เอง  ( 29 เมษายน ) ครับ    เพราะได้อ่านบทความที่นายเคนได้เขียนลงหนังสือพิมพ์วอชิงตันไทมส์ ( Washington Times) แล้วจึงถึงบางอ้อครับ    เรื่องสิทธิบัตรยาเป็นเพียงข้ออ้าง   เป้าหมายที่แท้จริงคือเล่นงานรัฐบาลไทยที่มาจากการปฎิวัติ  พร้อมกับใส่ร้ายคณะทหาร   และแน่นอน บทความย้ำให้เห็นว่า  พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เจ้านายของบริษัทอีเด็ลแมน  เป็นนายกที่มาจากการเลือกตั่ง  และถูกขับไล่ ( disposed )  จากตำแหน่ง     ใช้ภาษาเดิมๆ   ไม่ต่างกับสำนวนที่ทีมงานลอบบี้ยิ๊สต์   เบเกอร์  บอททส์ ( ลูกน้องพ.ต.ท. ทักษิณ อีกเช่นกัน ) ใช้ในการรายงานรัฐสภาสหรัฐ 

ผมนำบางส่วนของบทความมาให้อ่านกันครับ
 

Troubles from Thailand

By Ken Adelman
April 27, 2007

“...............    In September 2006, Thailand's democratically elected government was toppled in a military coup, while Prime Minister Thaksin Shinawatra was deposed while addressing the U.N. General Assembly……………...   Shortly after taking power, the coup leaders hastily and shortsightedly announced new foreign capital controls………….This political and economic recklessness is already taking a punishing toll. Foreign direct investment is understandably being scared off. Several estimates project Thai growth at less than 4 percent this year, far below the 7.3 percent that the World Bank forecasts for the economies of East Asia. …….


    Most recently, the government brazenly announced it was breaking patents on drugs produced by Western corporations. And while this action is in line with the rampant theft of U.S. innovation in Thailand, it is also glaringly self-serving. An official Thai spokesman admitted busting patents "will be good for local pharmaceutical companies to improve their capacity." Perhaps unsurprising, one local pharmaceutical supplier happens to be owned by the Thai government, the Government Pharmaceutical Organization.


    Surely Thai officials in D.C. will offer some lame excuses. When making the rounds this week, its health minister will claim that his government must break U.S. patents since it cannot afford to pay for patented pharmaceuticals and other medicines.


    This doesn't fly. For his government somehow could afford a pay raise for the regime's military buddies of $9 million, and to boost its overall military budget by a whopping $1 billion.       ( อ่านบทความทั้งหมดที่  Troubles from Thailand )

 

          ไม่ใช่แค่บทความเท่านั้น  นายเคนยังได้ให้ ยูเอสเอ ฟอร์อินโนเวชั่น ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ วอลสตรีท เจอร์นัล  เปิดแนวรบกับรัฐบาลไทยพร้อมกันด้วย    และแน่นอนครับ   ตัวที่เกิดความขัดแย้ง  คือปัญหาของราคายา  ปัญหาเรื่องสิทธิบัตร  มีการกล่าวถึงน้อยมาก   นี่ครับที่เขาจะลงโฆษณา

http://www.korbsak.com/

แนะนำว่าไปอ่านต้นฉบับจะฉูดฉาดมากกว่านี้ครับ  :slime_bigsmile:

เมื่อวันที่  27 เมษายน 2550 USA For Innovation ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ส่งโทรสารถึงสื่อมวลชน เรื่องจัดแคมเปญเผยแพร่การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐ โดยไทย จดหมายกว่า 35,000 ฉบับ ถูกจัดส่งถึงประธานาธิบดีบุชและคณะผู้บริหารระดับสูงของประเทศ โดยมีความยาวประมาณหนึ่งหน้าครึ่ง

เนื้อหา โทรสารระบุว่า ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. USA  For Innovation (www.usaforinnovation.org) ได้เผยแพร่ผลกระทบจากมาตรการรัฐบาลทหารของประเทศไทย และประเด็นข้อกังวลเรื่องการละเว้นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ในสหรัฐ โดยได้มีการลงโฆษณาเผยแพร่วอลล์สตรีท เจอร์นัล เต็มหน้า ระบุมาตรการล่าสุดของคณะรัฐบาลทหารของไทยที่เข้ายึดอำนาจเมื่อเดือนกันยายน กรณีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญหาด้านการแพทย์ของสหรัฐ

สำหรับ ข้อความที่ลงโฆษณาระบุว่า รัฐบาลปฏิวัติไทยถอยหลังตามอย่างพม่า ประชาธิปไตยล้มเหลว ประชาธิปไตยล้มภายหลังรัฐบาลทหารเข้าปฏิวัติยึดอำนาจ รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขับเคลื่อนภายใต้นโยบายของไทยที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศพม่า เริ่มจากเพิ่มค่าตอบแทนให้กลุ่มทหารเป็นจำนวนเงิน 9 ล้านเหรียญฯ และเพิ่มงบประมาณทางทหารใหม่เป็นจำนวนเงิน 1,100  ล้านเหรียญฯ   ตามมาด้วยการควบคุมฝ่ายต่อต้านอย่างจริงจัง โดยกลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์ได้ออกรายงานเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า มีกรณี  "บุคคลหาย" เกิดขึ้น 22 คดี ซึ่งคาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ต่อมากระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศขู่ว่าจะลักพาตัวนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน  โดยตัวแทนฝ่ายทหาร ดร.สุวิทย์ วิบูลย์ผลประเสริฐ ได้มีการยื่นข้อเสนอแก่องค์กรอนามัยโลกเมื่อเดือนมกราคม กรณีการกักตัวนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกเพื่อต่อรองขอรับวัคซีนโรคไข้หวัด

หลัง จากนั้นไม่นานผู้นำคณะปฏิวัติได้มีการเร่งรัดให้มีการกำหนดมาตรการที่เข้ม งวดกับบริษัทของคนต่างชาติ เช่น การตรวจสอบเงินทุนจากต่างประเทศ การจำกัดการโฆษณาและการตรวจสอบการทำงานของชาวอเมริกันในประเทศไทย ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ กรณีที่รัฐบาลกำลังละเมิดทรัพย์สินทางปัญหาของสหรัฐเพื่อผลประโยชน์ทางการ ทหาร

นายมงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการออกมาตรการที่เป็นการละเมิดสิทธิบัตรด้านเวชกรรมของสหรัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ด้านการผลิตให้กับองค์กรเวชกรรมของไทยที่อยู่ภายใต้การ ควบคุมของคณะทหาร

เว็บไซต์สิทธิบัตรและ เครื่องหมายการค้าสหรัฐกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการสหรัฐ เป็นมูลค่าถึง 250,000 ล้านเหรียญฯ และส่งผลกระทบต่อแรงงานถึง 750,000 อัตราต่อปี ภายใต้ระบบเศรษฐกิจในโลก นวัตกรรมสร้างสรรค์ถือเป็นผลประโยชน์ที่มีมูลค่ามหาศาลสำหรับสหรัฐ จากการศึกษาของ USA  For Innovation พบว่าปัจจุบันทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐมีมูลค่าระหว่าง 5 ล้านเหรียญฯ ซึ่งถือเป็นมูลค่า 45% ของจีดีพีรวมในสหรัฐ และสูงกว่าตัวเลขจีดีพีของทุกประเทศในโลก

" ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความกังวลและขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีบุชและสมาชิกสภาคองเกร สร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐและประชาชนไทยทุกคน" เนื้อหาที่ลงโฆษณาระบุ

โทรสารยังระบุอีกว่า ผู้ให้การสนับสนุน USA For Innovation พร้อมใจกันส่งจดหมายกว่า 35,000 ฉบับถึงประธานาธิบดีบุช เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและบรรดาผู้นำในสภาคองเกรสเพื่อตอกย้ำให้สหรัฐมี มาตรการที่จริงจังในการตอบโต้การละเมิดลิขสิทธิ์ของไทยผ่านมาตรการทางการ ค้าหรือบทลงโทษทางเศรษฐกิจ หรือโดยการถอนความช่วยเหลือด้านการทหาร

สำหรับ USA For Innovation นั้น เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร มีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรมใหม่ๆ ทั่วโลก โดยเป็นหน่วยงานที่ให้ข้อมูลแก่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ทั้งสื่อและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา


http://hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=29245
เก็บมาจาก ไฮ ทะสิน เว็บตลกครับ

ของอยู่บนบ้าน ดันบอกว่าอยู่ในส้วม แล้วผมจะหาเจอไหมล่ะครับ


มีของมาแถม

http://thestar.com.my/news/story.asp?file=/2007/4/26/apworld/20070426074556&sec=apworld

http://juliusbio.wordpress.com/2007/04/29/abbott-thailand-and-more/

http://www.reuters.com/article/health-SP/idUSHKG9894520070425

http://www.reuters.com/article/idUSN2320120320070423

http://www.reuters.com/article/idUSBKK31040520070423

ไปเยี่ยมโฮมเพจของ NGO ที่ว่า เห็นแต่เรื่องโจมตีไทยเต็มหน้าเลย
ขยันมักๆ
www.usaforinnovation.org

อันนี้เป็นเอกสาร PR อันนึงของเค้า ฉบับแปลไทย

(http://img82.imageshack.us/img82/5528/wsjadlz1.jpg)

เล่นกันเต็มที่เลย โฆษณาที่ลงใน Wall Street Journal
นายกรัฐมนตรีเรา มันเรียก Military Dictator

ไม่ปกติอย่างที่กอรปศักดิ์ว่าแน่นอน

จะคอยดูว่าระหว่างอาวุธกับเงินนี่สู้กันใครจะชนะ

เมื่อคนขี้โกงจนรวยโดนยึดอำนาจ

+ เมื่อคนยึดอำนาจไม่ยึดทรัพย์  :slime_bigsmile:

 :slime_whistle:

 

 :slime_doubt: