หัวข้อ: นิธิ ค้านบรรจุ พุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: saynotoarmy ที่ 25-04-2007, 09:59 นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกล่าวถึงกรณีที่องค์กรพุทธศาสนาบางส่วนเคลื่อนไหวเรียกร้องให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเรียกร้องนี้ ถ้าหากศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติและมีความหมายจริง อยากถามว่าคนที่เสนอจะทำอะไร และถ้าการเสนอให้ใส่ไว้แต่ไม่ได้มีความหมายจริงจะใส่ไว้ทำไม ถ้าเพื่อความโก้อย่างเดียวก็ไม่ต้องใส่ เพราะส่วนตัวเป็นคนคริสต์ มุสลิม หรือศาสนาอื่นๆ คงจะรู้สึกทันทีว่าความเป็นเจ้าของชาติของตัวเองมีน้อยลง
ทั้งนี้ รัฐโดยเฉพาะรัฐที่มีหลายศาสนาเช่นรัฐไทย ไม่ควรให้เป็นของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง รัฐกับศาสนาควรแยกออกจากกัน คนโบราณก็เขียนไว้ก็ใช้ได้แล้วที่บัญญัติว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพุทธมามกะ ท่านเป็นประมุขประเทศตรงนี้ แปลว่าอะไร หากจะอ้างเรื่องการฟื้นฟูศาสนาก็สามารถฟื้นฟูได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องบัญญัติไว้ ฉะนั้นอย่ามัวแต่เรี่ยไรอย่างเดียว ผมคิดว่าพระที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น ส่วนใหญ่อาจจะตกเป็นเครื่องมือซึ่งไม่ได้หมายถึงการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องปกติที่อยากหาแนวร่วม แต่ที่น่าเศร้าคือ เอาเข้าจริงๆ พระรู้เรื่องพระพุทธศาสนาจริงหรือไม่ เพราะหลังๆ มานี้รู้สึกว่าพระจะเน้นเรื่องการใช้ความรุนแรง เช่นพระภาคใต้ก็บอกว่าให้จัดการกับแนวร่วมภาคใต้ให้เด็ดขาด สงสัยจริงๆ ว่าพระในศาสนาพุทธรู้จักศาสนาพุทธจริงหรือเปล่า ถือเป็นวิกฤติศาสนายิ่งเมื่อรวมกับกระแสจตุคามรามเทพ ก็น่าจะใส่ในรัฐธรรมนูญไปเลยว่าศาสนาประจำชาติเราคือ พุทธคามรามเทพ เพราะคนไทยถือผีไม่ได้ถือพุทธ นายนิธิ กล่าว นายนิธิ เรียกร้องให้องค์กรศาสนาควรออกมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้ ทางออกในเรื่องนี้ถ้าบัญญัติว่า ศาสนธรรม โดยส่วนตัวก็ยอมรับได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่าพระเขายอมด้วย แต่ถ้าพระไม่เข้าใจปัญหาอะไรเลยแม้ซักอย่างเดียวซึ่งเป็นเรื่องหน้าเศร้า ท่านจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยเต็มที่ที่พระออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ว่าก่อนที่จะมายุ่งกับการเมืองช่วยอ่านหนังสือให้มากกว่านี้ได้หรือไม่ นายนิธิ กล่าวว่า ในเรื่องของภาคใต้ คงไม่มีผลกระทบมากขึ้นเพราะขณะนี้มันก็มากอยู่แล้ว แต่เชื่อว่ากลุ่มแนวร่วมจะใช้ประเด็นนี้เป็นเงื่อนไขแน่นอนและจะมีความรู้สึกชาตินิยมมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่รัฐบาลมีความอ่อนแอไร้ประสิทธิภาพเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ในปี 2540 มีทางออกโดยการประนีประนอม แต่ครั้งนี้ไม่แน่ใจหวังว่าจะเป็นแบบนั้น ----------------- ที่มา : สำนักข่าวเนชั่น หัวข้อ: Re: นิธิ ค้านบรรจุ พุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนร่วมชาติ ที่ 25-04-2007, 12:29 จารย์นิธิไปกินอะไรมาครับเนี่ย หรือว่ากลัวคุณประสงค์จะเหงา :slime_smile2:
แต่เรื่องนี้เห็นด้วยกับจารย์ครับ คนไทยจำนวนมากคิดว่าตัวเองนับถือศาสนาพุทธ เป็นพุทธแต่ปาก ดูพฤติกรรมแล้วหาหลักคำสอนพุทธไม่เจอ กินเหล้าก็ระดับหัวแถวของโลก (ทั้งที่ศาสนาพุทธห้ามกินเหล้าไว้เคร่งกว่าศาสนาคริสต์ แต่คริสต์ศาสนิกชนจำนวนมากยังกินเหล้าน้อยกว่าคนไทยอีก) โกหกก็เก่ง (ดูจะนับถือสุทรภู่เป็นศาสดาซะมากกว่า - รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี) ให้ไสยศาสตร์สำคัญกว่าหลักคำสอน (คอลัมน์ดูดวงน่ะอ่านจัง หนังสือธรรมะเอาไว้ให้ฝุ่นจับ) ให้ความโลภนำศาสนา (ไปหาวัด หาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ด้วยความโลภทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่ศาสนาสอนให้ลดละความโลภ) บัญญัติไว้แล้วจะเข้าข่าย "หลอกตัวเอง" รึเปล่าน้อ หัวข้อ: Re: นิธิ’ ค้านบรรจุ ‘พุทธ’ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 25-04-2007, 12:42 งานนี้สงสัย 'จารย์แกกินยาลืมเขย่าขวด :slime_bigsmile:
และจริงๆแล้วผมเห็นด้วยกับความคิดของอาจารย์ท่านนะครับเนี่ย หัวข้อ: Re: นิธิ ค้านบรรจุ พุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 25-04-2007, 15:24 อาจารย์แกทำถูกแล้ว อะไรไม่ดีก็ควรออกมาพูดเสียบ้าง อย่าเหมือนคนบางคนที่ชอบอาศัยเกาะความคิดคนอื่น เห็นพวกเยอะก็เฮตามกันไป ไม่ได้มีเหตุมีผลอะไรกันเสียเลย
พุทธศาสนากับวิธีการพ้นทุกข์ในรัฐธรรมนูญ http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=7792&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai (http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=7792&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai)ดร. บุณยสฤษฎ์ อเนกสุข คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สัมภาษณ์พิเศษ พระกิตติศักดิ์ฯ : บรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติใน รธน.ฤาจะถึงยุคเสื่อมของเถรวาทไทย? http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=7784&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai (http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=7784&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai) สัมภาษณ์โดย องอาจ เดชา ปธ.องค์กรชาวพุทธฯรับ ธรรมกาย ออกเงิน-กำลังคนเต็มที่ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2550 14:03 น. http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000047133 (http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000047133) หัวข้อ: Re: นิธิ ค้านบรรจุ พุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 25-04-2007, 15:59 แล้วนี่ถ้าเกิดบรรจุเข้าไป แล้วคนที่นับถือศาสนาอื่นเค้าจะทำยังไงล่ะ
กฏหมายรัฐธรรมนูญถือเป็นกฏหมายสูงสุด ถ้าบอกศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ศาสนาอื่นก็ผิดกันหมดสิเนี่ย แล้วไหนจะต้องมีกฏหมายลูกออกมารองรับอีก กลายเป็นว่าพระสงฆ์ต้องมาปฏิบัติตามกฏหมายแทนพระธรรมคำสั่งสอน แนะนำว่าถ้าออกกฏหมายลูกให้เขียนไปเลยว่า วัดไหนจัดสาวนุ่งน้อยห่มน้อยเข้าไปในวัด ให้จับเจ้าอาวาสสึก แล้วจับเข้าคุกไปเลย เพราะถือว่าละเมิดศาสนาพุทธ ความคิดเข้าท่ามะ :slime_bigsmile: หลักการปกครองที่ดีคือการปกครองโดยผู้ใต้ปกครองไม่รู้สึกว่าถูกปกครอง หลักศาสนาก็น่าจะเหมือนกันการจะทำให้ศาสนาเจริญรุ่งเรื่องอยู่ที่การทำให้คนเลื่อมใสศรัทธา ไม่ใช่การมาบังคับให้นับถือ ซึ่งความศรัทธาจะเกิดขึ้นได้ ก็อยู่ที่ผู้ปฏิบัติก็คือพระสงฆ์ที่จะประพฤติปฏิบัติอยู่ในศิลในธรรม ต้องมีความรู้และเข้าใจในหลักธรรม ไม่ใช่ว่ามีแต่ความรู้คือ จำได้ว่าหลักธรรมมีอะไรบ้าง จำได้หมด แต่ไม่สามารถอธิบายหรือแนะนำได้ว่าหลักธรรมแต่ละข้อนั้นนำไปใช้ได้อย่างไร เกิดผลดีผลเสียอะไร หลักธรรมเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่ากฏหมายรัฐธรรมนูญ อยู่มายาวนานกว่ารัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญไทยได้มายังไม่ถึงร้อยปี แต่ถูกล้มไปไม่รู้กี่ฉบับ แต่ศาสนาพุทธอยู่มาเป็นพันๆปี ยังไม่เคยถูกล้มไปเลย หากบรรจุเข้าในรัฐธรรมนูญแล้วเกิดรัฐธรรมนูญถูกล้มไป ก็กลายเป็นว่าประเทศไทยไม่มีศาสนาให้นับถือกันเลย ไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรือยังไง :slime_doubt: หัวข้อ: Re: นิธิ’ ค้านบรรจุ ‘พุทธ’ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 25-04-2007, 16:03 ระวังนะครับ ถ้าบรรจุเข้าไปได้แล้วอาจจะยุ่ง
เกิดมีใครมันบ้าขึ้นมาออกกฎหมายลูกว่า ผู้นับถือศาสนพุทธทุกคนต้องปฏิบัติตามศีล 5 อย่างเคร่งครัดแล้วล่ะก็ ดูไม่จืดเลยครับ งานนี้ :slime_hmm: หัวข้อ: Re: นิธิ ค้านบรรจุ พุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 25-04-2007, 17:29 "เยาวชนยุวโฆษก"แฉถูกยัดไส้ลงประชามติหนุน"ศาสนาพุทธ..." ประธานส.ส.ร.ถึงกับผงะ!!
... ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนที่นายนรนิติ จะเดินทางกลับ ได้มีเยาวชนคนหนึ่งได้นำเอกสารแบบฟอร์มการลงประชามติมาให้นายนรนิติ ดูเพื่อสอบถามว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ โดยในเอกสารดังกล่าว ได้ระบุรายละเอียดไว้ว่า แบบฟอร์มแสดงประชามติเพื่อให้บัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า "พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ"โดยมีการระบุให้ลงชื่อ นามสกุล และเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน นับถือศาสนา รวมถึงที่อยู่ด้วย และระบุต่อท้ายเอกสารว่า"มีความประสงค์ให้ท่านายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่(ถาวร) ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตราใดมาตราหนึ่งว่า "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"ด้วย ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าของสถาบันพระพุทธศาสนา ให้คู่กับสถาบันชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดไป และให้ลงชื่อ ลายเซ็นกำกับอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อนายนรนิติ ได้เห็นเอกสารดังกล่าวก็ตกใจ และได้สอบถามว่า นำมาจากไหน ใครเป็นคนนำมาแจก แต่นักศึกษาก็ได้ตอบว่าไม่ทราบ เพราะอาจารย์นำมาให้กรอกและส่งกลับคืน นายนรนิติ จึงได้ชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากเป็นเอกสารการทำประชามติที่ถูกต้องนั้น จะต้องไม่มีการระบุให้ผู้กรอกใส่ชื่อ นามสกุล และเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เพราะทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ ... http://www.naewna.com/news.asp?ID=57425 หัวข้อ: Re: นิธิ ค้านบรรจุ พุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เริ่มหัวข้อโดย: montasavi ที่ 25-04-2007, 18:35 พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend a personal God and avoid dogmas and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising , from the experience of all things, natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description.. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. ศาสนาในอนาคตจะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือ พระเจ้าที่มีตัวตนและควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุม ทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสำนึกทางศาสนาที่เกิดขึ้นจาก ประสบการณ์ตรงต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวม ที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้ .. ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัย ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา Albert Einstein ( อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ) นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฎีสัมพันธภาพ อ้างอิง. Eistien , 1879- 1955, Great personalities on Buddhism, By K. Dhammananda,Thera , Kuala Lumpur, Malaysia : Buddhist Missionary Society, 1965, p.87. ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องศาสนาประจำชาติ ข้าพเจ้าเคยได้ยินหลักสูตรภาษาไทยของพี่น้องมุสลิมในจังหวัดภายได้ เขาเริ่มสอนว่า " กอ ไก่ พระเจ้าสร้างมา" แทนที่จะสอนว่า กอ เอ๋ย กอ ไก่ นั่นแสดงว่าเป็นเรื่องดีที่เขาสนใจปลูกฝังหลักศาสนาให้แก่ลูกหลานตั้งแต่เยาว์วัย โดยที่พ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์เป็นผู้สอนเอง ไม่ต้องรอให้นักการศาสนามาสอน แต่พอหันมาดูพี่น้องชาวพุทธด้วยกัน จะมีสักกี่คนที่เคยสอนศาสนาให้กับลูกหลานด้วยตนเอง เพราะแม้แต่พ่อ-แม่เองก็ทำตัวเหินห่างจากศาสนามาโดยตลอด ขอถามหน่อยนะครับ 1. ท่านคิดว่า พุทธศาสนิกชนทั่วโลก ในปัจจุบันนี้มีมากขึ้นหรือน้อยลงครับ? ลองเข้าไป ที่นี่ดู http://www.newmana.com/yabb/index.php?board=1.0 และ http://www.muslimthai.com/forum/index.php?board=9.0 ก็จะทราบว่าเยาวชนของเราเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ที่กล่าวกันว่า ประเทศไทยมีประชากรนับถือศาสนาพุทธ กว่า 90 % คงไม่เป็นความจริงอีกต่อไปแล้ว 2. เป็นคำถามเชิงเปรียบเทียบนะครับ เด็กเล็กๆที่ป่วย ไม่ยอมรับประทานยาขม แต่เพราะกลัวคำสั่งของพ่อ-แม่จึงยอมทานยา สุดท้ายท่านคิดว่าเขาจะหายป่วยมั๊ยครับ.. การบัญญัติพุทธศาสนาก็เช่นกัน เมื่อบัญญัติแล้ว ก็จะสามารถออกกฎหมายมาบังคับไม่ให้มีการฆ่าสัตว์และดื่มสุราในวันพระ นักเรียนนักศึกษาต้องปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนาภาวนา ปีละ 10 วัน เป็นต้นได้... (...ศาสนาอิสลามห้ามดื่มสุรา และเล่นการพนันโดยเด็ดขาด..) 3. เมื่อก่อนนี้ ข้าพเจ้าไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่กับการให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เนื่องด้วย ขณะนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่ทำตัวห่างเหินจากศาสนาที่พ่อแม่นับถือมากขึ้นทุกวัน พ่อ-แม่ก็ไม่สามารถชักจูงลูกหลานให้เข้าหาศาสนาได้ เพราะตนเองก็เคยถูกคนรุ่นปู่-ย่า ละเลยในเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ อีก ๕๐ ปีข้างหน้าพระพุทธศาสนาจะเป็นเช่นไรละครับ มันน่าจะถึงเวลาแล้วนะครับ ก่อนที่จะปล่อยให้ศาสนิกของศาสนาอื่นมีมากขึ้นกว่านี้ จนแก้ไขอะไรไม่ทัน .. ...ศาสนาอิสลามไม่เหมือนศาสนาอื่นนะครับ อย่าได้หวังว่า เมื่อเขาขึ้นเป็นใหญ่แล้วเราจะขอร้องอะไรเขาได้ ประเทศอินโดเนเซีย มาเลเซีย เคยเป็นประเทศพุทธศาสนา 100 % มาก่อน แต่เดี่ยวนี้ ชาวพุทธจะขอเช่าสถานีวิทยุออกอากาศรายการธรรมสอนชาวพุทธด้วยกันก็ยังไม่ได้เลยครับ.. ประเทศมุสลิมแถบอาหรับจะเอาเทปธรรมเข้าประเทศเขาก็ยังไม่ได้เลยนะครับ... ...จะทำกันประการใด ก็โปรดพิจารณากันให้ถี่ถ้วน ส่วนตัวข้าพเจ้าเองอีกไม่เกิน 50 ปี ก็คงไม่อยู่แล้ว ลูกหลานก็ไม่มี จึงไม่เดือนร้อนในประเด็นนี้เท่าไหร่นัก แต่พวกท่านทั้งหลายยังมีลูกหลานสืบสกุลกันอยู่มิใช่หรือ ... ขอให้เป็นชะตากรรมของสัตว์ก็แล้วกัน ถ้าจะให้อาตมาไปร่วมประท้วงด้วย..คงจะไม่ไป? ประเด็นหลัก ประเด็นที่แท้จริงในเรื่องนี้ ก็คือ สถานการณ์ที่เป็นไปในปัจจุบันนี้ จะต้องมีกฎเกณฑ์ หรือมาตรการข้อบังคับอย่างใดอย่างหนึ่งมาแก้ไขโดยด่วน ได้แก่ 1. จะต้องมีกฎหมายที่แน่นอน ที่จะมาบีบบังคับให้ผู้ที่ประพฤติเสื่อมเสียออกไปเสียจากศาสนาให้เร็วที่สุด และมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ 2. จะต้องมีกฎข้อบังคับให้ชาวพุทธทุกคนต้องปฏิบัติวิปัสสนาอย่างน้อย ๑๐ วัน ในชาตินี้ หลังจากนั้นทุก ๆ อย่างก็จะเข้าสู่ระบบของมันเอง เมื่อถึงตรงนี้ ขอถามว่า จะมีสิ่งใดที่จะช่วยผลักดันให้สองข้อข้างต้นเป็นไปได้จริง ยิ่งไปกว่ากันบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือท่านมีข้อคิดเห็นที่เป็นไปได้ และน่าสนใจยิ่งไปกว่านี้..? ศาสนาพุทธ มีจุดอ่อนตรงที่ให้อิสรเสรีแก่ทุกๆคนที่จะปฏิบัติตาม แต่ในเมื่อพวกเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่รู้แจ้งแก่ใจว่า หากใครปฏิบัติตามคำสอนของพุทธศาสนาจะต้องได้ดีทุกคน แล้วพวกเราจะมัวมาลังเลอะไรกัน กับการช่วยกันออกกฎข้อบังคับ เพื่อบีบบังคับให้ลูกหลานได้ปฏิบัติตาม ขอถามย้ำอีกครั้งว่า ในสถานการณ์ที่สื่อโหมโฆษณาชวนชื่อดึงจิตคนรุ่นใหม่ให้ห่างไกลศาสนาออกไปทุกนาที ทุกชั่วโมง และยั่วยุ-เย้ายวนจิตใจให้พระหนุ่ม เณรน้อยมีพฤติกรรมที่เสื่อมเสีย มากขึ้น ๆๆ อย่างที่เป็นอยู่นี้ จะมีวิธีการใดที่เป็นไปได้จริงมิใช่แค่บ่น ที่จะทำให้พระไม่ดีออกไปจากศาสนา และส่งเสริมให้ชาวพุทธทุกคนได้ลิ้มรสชาติแห่งพระสัทธรรมอย่างน้อย ๑๐ วันในชาตินี้ ได้ดีและเป็นไปได้จริงยิ่งไปกว่าการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายลูกมาบีบบังคับ ถ้าหากมีวิธีการอื่นที่ทำได้ และเป็นไปได้จริงด้วยนะ ก็โปรดนำมาเสนอด้วย .. ที่ว่าประเทศภูฐาน ไม่ได้บัญญัติในรัฐธรรมนูญนั้น ก็เพราะเขายังไม่มีสิ่งยั่วยุมากมายเหมือนบ้านเรา คนในชาติและพระสงฆ์ยังยึดมั่นในศาสนากันดีอยู่ ...ที่ว่า ถึงบัญญัติไว้ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่ที่เกิดขึ้นจริงคืออะไร ปัจจุบันนี้มิได้บัญญัติไว้มิใช่หรือ จึงไม่สามารถออกกฎหมายลูกมาบีบบังคับพระสงฆ์และข้าราชารได้ สิ่งเลวร้ายต่างๆจึงเกิดขึ้นทั้งแก่พระศาสนาและสังคม จนแทบจะหาทางแก้ไม่ได้แล้ว รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจจะเป็นรถด่วนขบวนสุดท้าย ที่จะมาช่วยให้พุทธศาสนาอยู่รอดในสังคมไทยก็ได้นะ..โปรดพิจารณาดู ..สิ่งที่ต้องการจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การออกกฎหมายลูกมาบีบบังคับพระอลัชชีและข้าราชการในเรื่องเกี่ยวกับศาสนาโดยเฉพาะ ..ท่านก็รู้ดีนี่หน่า ว่า..แค่พระธรรมวินัยเอาแทบไม่อยู่แล้ว ปฏิบัติวิปัสสนาปีละ ๑๐ วัน ที่อาตมากล้าพูดเรื่องวิปัสสนา ๑๐ วันนั้น เนื่องจาก เมื่อ ๗ เดือนที่ผ่านมา อาตมาได้ไปปฏิบัติวิปัสสนา ๗ เดือนเต็ม เป็นการปฏิบัติแบบวิปัสสนาล้วน ๆ ซึ่งถูกต้องตามหลักคัมภีร์พระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาทุกประการจึงกล้าที่จะยืนยันว่า หากใครปฏิบัติด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ผ่าน ๑๐ วันแรกของชีวิตไปได้ หลังจากนั้นเขาจะปฏิบัติต่อเองโดยไม่ต้องบังคับ แต่มีเงือนไขว่า ต้องเป็นการปฏิบัติแบบวิปัสสนาล้วน ๆ นะครับ จึงจะได้ผลเช่นนี้ แต่ถ้าปฏิบ้ติแบบปุพพังคมนัย ก็จะได้ผลเช่นกัน แต่ต้องใช้เวลานากว่านี้มาก แค่ ๑๐ วันยังไม่ได้อะไรเลย การปฏิบัติทั้ง ๒ แบบนี้มีข้อแต่ต่างดังนี้ .. วิปัสสนาล้วน(สุทธวิปัสนา) ทำให้กิเลสลดและเข้าใจชีวิตมากขึ้นเท่านั้น แต่สมาธิไม่ดิ่งลึกมาก ..ปุพพังคมนัย(สมถนำหน้า) ช่วงแรกจะฟุ้งซ่านมาก แต่พอผ่านไปสมาธิจะดิ่งลึกมาก สุขสงบมากเกินไป ช่วงแรกๆ ยิ่งปฏิบัติยิ่งยึดติด จนบางคนหลงไปเลยก็มี ...ที่อาตมาสามารถปฏิบัติวิปัสสนาติดต่อกัน ๗ เดือนเต็มได้ ก็เนื่องมาจาก ตอนเรียนปริญญาตรี ถูกมหาวิทยาลัยบังคับให้ปฏิบัติ ปีละ ๑๐ วันนี้แหละ ประเทศมาเลเซีย ประกาศศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ ทั้งที่มีประชากรชาวมุสลิมเพียงแค่ 65 % ชื่อทางการ มาเลเซีย ประมุข สมเด็จพระราชาธิบดี ตนกู ไซด์ ซีราจุดดิน ไซด์ ปุตรา จูมาลูลลาอิล พื้นที่ 329,758 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประชากร 23.8 ล้านคน สกุลเงิน ริงกิต ศาสนา อิสลาม 65% พุทธ 16% เต๋า 10% ฮินดู 6% ภาษา บาฮาสา มาเลเซีย http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%...%B8%B5%E0%B8%A2 http://www.mfa.go.th/web/479.php?id=164 รัฐธรรมนูญของมาเลเซีย (1) Islam is the religion of the Federation; but other religions may be practised in peace and harmony in any part of the Federation. (2) In every State other than States not having a Ruler the position of the Ruler as the Head of the religion of Islam in his State in the manner and to the extent acknowledged and declared by the Constitution, all rights, privileges, prerogatives and powers enjoyed by him as Head of that religion, are unaffected and unimpaired; but in any acts, observance or ceremonies with respect to which the Conference of Rulers has agreed that they should extend to the Federation as a whole each of the other Rulers shall in his capacity of Head of the religion of Islam authorize the Yang di-pertuan Agong to represent him (3) The Constitution of the States of Malacca, Penang, Sabah and Sarawak shall each make provision for conferring on the Yang di-Pertuan Agong shall be Head of the religion of Islam in that State (4) Nothing in this Article derogates from any other provision of this Constitution (5) Notwithstanding anything in this Constitution the Yang di-Pertuan Agong shall be the Head of the religion of Islam in the Federal Territories of Kuala Lumpur and Labuan; and for this purpose Parliament may by law make provisions for regulating Islamic religious affairs and for constituting a Council to advise the Yang di-Pertuan Agong in matters relating to the religion of Islam. http://www.malaysianmonarchy.org.my/portal...ial%20Functions ของอินโดนีเซีย Chapter XI. Religion Article 29 1. The State shall be based upon the belief in the One and Only God 2. The State guarantees all persons the freedom of worship, each according to his/her own religion or belief นำมาให้อ่านครับ... ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย... ในมุมมองมุสลิม(คนหนึ่ง) http://www.oknation.net/blog/unussorn/2007/04/18/entry-1 ทีแรกผมเฉยๆ กับประเด็นนี้ ไม่ได้ติดตามเพราะไม่เห็นว่ามันสำคัญ แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านคอลัมน์หนึ่งในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ดร.ธีรวิทย์ ภิญโญณัฐกานต์ อดีตที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ผู้เขียนคอลัม์นี้ ท่านเห็นด้วยกับการบัญญัติให้ระบุคำว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ลงในรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลที่ว่า ในประเทศมุสลิมหลายประเทศ ยังระบุเลยว่า อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วทำไมพุทธศาสนิกชนถึงไม่กล้าระบุเช่นนั้นบ้าง ท่านยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญของประเทศมุสลิมประเทศหนึ่ง Islam is the Religion of the Federation but other religion may be practiced in peace and harmony in any part of the Federation (อิสลามเป็นศาสนาแห่งสมาพันธรัฐ แต่ศาสนาอื่นได้รับการปฏิบัติโดยสันติและกลมกลืน ในส่วนใดของสมาพันธรัฐก็ได้) และประเทศมุสลิมอื่นๆ อีกหลายประเทศที่ระบุเนื้อหาทำนองนี้ลงในรัฐธรรมนูญของตน อ่านจบแล้วผมก็ เออ... จริงด้วย ประเทศที่มีมุสลิมเป็นประชากรส่วนมากเขายังทำกันเลย แล้วทำไมประเทศไทยที่มีพุทธศาสนิกชนมากถึง 90% จะทำแบบนั้นไม่ได้ ผมเห็นด้วยกับเขาครับ ซึ่งตรงนี้ขอออกตัวก่อนว่าอาจจะเป็นความเห็นที่ต่างจากมุสลิมท่านอื่น แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะผมเห็นข้อดีของการยืดอกประกาศตัวแบบนี้ ความภูมิใจในความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองท่ามกลางความเน่าเฟะของลัทธิบริโภคนิยมถือว่าเป็นเจตนารมณ์ที่น่ายกย่อง หากประเทศไทยของผมหาญกล้าที่จะประกาศให้รู้ว่า บ้านนี้เมืองนี้มีพุทธศาสนิกชนเป็นสมาชิกส่วนมาก เพราะฉะนั้นอบายมุขต่างๆ อย่าได้หวังเข้าครอบงำประเทศนี้ ในศีล 5 ข้อที่เป็นชุดศีลเบื้องต้น ศาสนาพุทธห้ามดื่มสุรา สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี สิกฺขาปะทัง สมาทิยามิ ประเทศที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติจะไม่มีสุราจำหน่ายโดยถูกกฎหมาย ไม่มีผับไม่มีบาร์ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ต่อต้านการพนัน ประเทศนี้จะไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับการพนันในทุกประการ, จะออกกฎหมายปราบปรามการค้าประเวณีอย่างถึงที่สุด ถ้าประเทศไทยของผมมีรัฐธรรมนูญที่บัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นรูปธรรมชัดเจน แล้วนำคุณธรรมทางพุทธศาสนามาแปรรูปเป็นกฎหมายจรรโลงสังคม เหมือนหลายประเทศในตะวันออกกลาง ผมว่าประเทศไทย(ในความเห็นของผม) คงจะน่าอยู่กว่าปัจจุบัน ที่กฎหมายถูกผลิตขึ้นจาก กิเลส ของสังคม ไม่ได้เกิดขึ้นจาก ศีลธรรม อย่างที่ควรจะเป็น แต่ถ้าแนวคิดการระบุศาสนาประจำชาติ เกิดจากการยึดมั่นถือมั่นในสถาบันของตน หรือเกิดขึ้นเพื่อสนองความสะใจตน, เอาชนะคะคานกันและกันโดยที่ไม่มีผลทางการปรับปรุงสังคม ผมถือว่ามันไร้สาระ ไม่ควรค่ากับการเสียเวลาทุ่มเถียง มันเป็นการเชิดชูศาสนาด้วยตัวอักษร หาใช่การเชิดชูศาสนาด้วยแก่นของศาสนาแต่อย่างใด |