หัวข้อ: มี เรื่อง ดีดี ให้อ่านครับ ได้มาจาก Fw mail ของคนอื่นอะครับ ลอง อ่านดู เริ่มหัวข้อโดย: Trech2499 ที่ 11-04-2007, 20:10 เรื่องเล่าจากในวัง - อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ มีเรื่อง
ที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดที่จังหวัด ตาก เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆและได้ทรงเสด็จไปเยี่ยม ประชาชนในตลาดสดและถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาดแต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"แม่ค้าตอบว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40บาทและที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80บาทจ๊ะ" เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7โมงเช้านางสนองพระโอษฐ์ ของฟ้าหญิงองค์เล็กได้รับ โทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิงทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่า ใครจะพูดสายด้วยก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์นางสนองพระโอฐก็ งง...งงว่าคน ที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่าแต่ พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์ แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่งที่ คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ ได้อย่างน่าฉงนเมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้จึงมีคำ กราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าโต้โผลิเกเก่าบัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวน พระพุทธเจ้า.."มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือนก็ทรงตรัส ถามว่า "เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.."พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า " มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไปทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยัง เล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลยและทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว" เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ ในหลวง เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายา ลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับ เจ้าหน้าที่ว่า "ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์" เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวงดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้ง แผ่นดินและไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระ บาทถวายรายงานครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคม ทูลรายงานว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้า พระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"เมื่อสิ้น คำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า "เออ ดี เราชื่อเดียวกัน..." ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัยเพราะผู้ รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญา บัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรง โปรดสูบมวนพระโอสถแต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้ พร้อมทูลว่า "ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า"ในหลวงทรงชะงักก่อนจะแย้มสรวล น้อยๆ กับอธิการบดีว่า "เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก"เคยมี เรื่องเล่าให้ฟังว่าในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรอยู่ ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้วแต่ราษฎรผู้หนึ่ง กราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า "ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์" ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว " วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัดก็มี ชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมายพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาทที่แถว หน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ ของในหลวง แล้วก็พูดว่า "ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง"แล้วก็ พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัส รับสั่งตอบว่ากระไรแต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบ ว่ากับหญิงชราคนนั้นทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัส ว่า "เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะต้องเรียก น้าซิถึงจะถูก" ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้วพระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระ อาการคัน มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษาคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ"พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง"แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่าหมอคง จะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า "เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะเป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการ กันเป็นภาษาอังกฤษไป มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรอธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิต แล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการทำให้อ่านขาดตอนก็ต้องรีบหาว่าอ่านราย ชื่อไปถึงไหนแล้วปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า "เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....)เค้ารับไปแล้ว"และมีอีกปีนึงขณะที่พระราช ทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญ ในการถ่ายรูปพอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะให้พระบรม ราโชวาทท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้งเพื่อจะได้ มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานถ้ารักท่านก็ส่งไปเรื่อยๆนะ หัวข้อ: Re: มี เรื่อง ดีดี ให้อ่านครับ ได้มาจาก Fw mail ของคนอื่นอะครับ ลอง อ่านดู เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 11-04-2007, 20:23 ขอบพระคุณที่นำมาไว้ที่นี่ค่ะ เคยอ่านแล้วหลายรอบ แต่ไม่ว่าจะอ่านอีกกี่รอบ ก็ยังซาบซึ้งอยู่เสมอ (http://cgi.educities.edu.tw/funstory/apus/icon/cry.gif) |