ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

(http://www.matichon.co.th/newsphoto/matichon/p0139300350p1.jpg)
ศศิกานต์ อภิชาติวรศิลป์ ดารานักร้องค่ายอาร์เอส สลัดผ้าถ่ายนู้ดการกุศล ร่วมกับนางแบบนายแบบชื่อดังเมืองไทย รวม 26 คน 26 ภาพ ขนาด 1x1 เมตร นำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการ "FAME EROTIGA" ให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมชมตั้งแต่วันที่ 5-9 เมษายนนี้ ที่บริเวณหน้าร้านบีทูเอส ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา และเปิดประมูลภาพเพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ และสถาบันบำราศนราดูร โดยทุกคนไม่คิดค่าตัวแม้แต่บาทเดียว
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0139300350&day=2007/03/30&sectionid=0101

มุมมองเรื่อง จริยธรรม ที่รัฐบาลยุคนี้ส่งเสริมได้ใจวัยหื่นจริงๆ

แถ มันเกี่ยวอะไรกับมุมมอง จริยธรรม ที่รัฐบาล ชุดนี้ส่งเสริม เอาแบบไม่แถนะ ตอบได้ไหม

เขาเรียกว่าเจตนาดีแต่วิธีการห่วย เพื่อการกุศลแต่เอาอบายมุขมาล่อ
จริงอยู่ได้เงินมาเอาไปบริจาค คนที่ได้รูปไปเขาได้บุญตอนซื้อแป็บเดียว
แต่ได้บาปตอนดูแล้วก็ได้ไปอีกนานซะด้วย :slime_smile2:

จริงอยู่ที่รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่เน้นจริยธรรม แต่ไปโทษเขาั้ทั้งหมดก็ไม่ได้
เรื่องนี้เขาทำกันเองถ้าออกมาค้านก็โดนหาว่าไม่ช่วยเหลือ ถ้าปล่อยไปก็โดนหาว่าไม่ควบคุม
โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง :slime_surrender:

 :slime_sentimental:

ผมว่าต้องรีบปรามครับ

ไม่งั้นอีกไม่มีปี มีอ้างขายตัวการกุศลแน่ครับ

หนังสือแปลกไม่อยากเอาไปลง เพราะเป็นเรื่องธรรมดามั่กๆ ลูกเด็กเล้กแดงชอบกันทั้งเมือง คนหมู่มากก็ไม่ว่าอะไร คนจัดทำเข้าใจความคิดความต้องการของคนได้ดี ถึงได้จัดแบบนี้มาให้ เรื่องนี้ฉลาดคิดอยู่แล้น

"หารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ และสถาบันบำราศนราดูร"

น่ากันคิดได้นะ ถ้าไม่มีการใช้วิธีนี้คนที่ประมูลภาพจะคิดบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนพวกนั้นหรือเปล่า

ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์

ช่วยพระ :slime_doubt: แถพยายามจะบอกว่าพระเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์รึ

จะตั้งชื่อกระทู้ว่า

จริยธรรม สมัยรัฐบาลนี้ แก้ผ้าถ่ายรูป ช่วยพระเนื่องมาจาก นับแต่วัดนี้ เริ่มเปิดรับผู้ป่วยเอดส์ครั้งแรก เมื่อปี 2535
ต้องเผชิญกับสารพันปัญหา พระอุดมประชาทร หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาส ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างหนัก
กว่าที่สังคมจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้ป่วย แต่ยิ่งวัดนี้จัดระบบให้การดูแลผู้ป่วยดีเพียงไร ดูเหมือนปัญหาเอดส์จาก
ทั่วสารทิศ ยิ่งหลั่งไหลรุมเร้า กลายเป็นภาระหนักอึ้งให้หลวงพ่อ มากขึ้นทุกขณะ
“ทุกวันนี้หลวงพ่อต้องรับผิดชอบดูแลคนในวัด ไม่ต่ำกว่า 1,000 ชีวิต” ผู้จัดการหนุ่มเว้นจังหวะ “ทุกเดือนท่านมีภาระต้อง
หาเงิน ไม่ต่ำกว่า 3,500,000 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 116,000 กว่าบาท มาใช้จ่ายในวัด”
เขาว่า ฟังเหมือนวัดนี้ใช้เงินมือเติบ...แต่ใครไม่รู้ ไม่เคยสัมผัสความเป็นไปใกล้ชิด ยากจะเข้าใจ
“แค่ค่ายา ค่าอาหาร ค่าบริหารจัดการ เงินเดือนเจ้าหน้าที่ และค่าเผาศพ แต่ละเดือนแทบไม่เหลือ ช่วง 4-5 ปีมานี้
ยังมีกลุ่มคนและองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ดาหน้าเข้าไปขอรับ ความอนุเคราะห์จากหลวงพ่อ แทบไม่เว้น”
“มีทั้งขอเงินไปซื้อคอมพิวเตอร์ ซื้อแอร์สำนักงาน ขอให้ท่านช่วยสร้างอาคารสถานที่ให้ และขออะไรต่อมิอะไรอีกมาก
ใครก็รู้ หลวงพ่อเปี่ยมล้นด้วยเมตตา คนที่ขอได้สมหวัง กลับไปดีใจหน้าบาน พวกไม่สมหวังก็เอาท่านไปนินทาว่าร้าย”
เฉลิมพลเล่าว่า ภารกิจอันเกิดจากรายจ่ายของวัด เฉลี่ยเดือนละ 3.5 ล้านบาท บีบคั้นให้แต่ละวัน หลวงพ่ออลงกตต้อง
ออกจากวัดตั้งแต่ ตี 2 ตี 3 เพื่อไปบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง จตุปัจจัยจากประชาชนตามที่ต่างๆ เพื่อนำไปเลี้ยงดูผู้
ป่วยเอดส์ และขับเคลื่อนให้องค์กร สามารถยืดลมหายใจ อยู่รอดไปวันๆ
วัดพระบาทน้ำพุ ได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ดูแลผู้ป่วยเอดส์ ปีละ 9 แสนบาท
“ถ้านี่คือการทำธุรกิจ ป่านนี้วัดพระบาทน้ำพุเจ๊งไปนานแล้ว บางวันมีเงินบริจาคเข้าวัดยังไม่ถึง 3,000 บาท แต่สิ่งที่ทำ
ให้คนในวัดนับพันชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง จากผู้มีจิตศรัทธาที่ใส่บาตรหลวงพ่อ”
เฉลิมพลบอกว่า 12 ปีที่ผ่านมา “หลวงพ่ออลงกต” ทำงานหนักมาตลอด ทำให้หมู่นี้สุขภาพของท่านเริ่มอิดโรย เศรษฐกิจ
ของประชาชนส่วนใหญ่ก็อยู่ในช่วงขาลง พลอยให้สถานการณ์ของวัดพระบาทน้ำพุต้องอยู่ในช่วงขาลงไปด้วย
“12 ปีที่ผ่านมา ยอดคนป่วยมีแต่เพิ่ม โรงพยาบาลของรัฐก็รับไม่ไหว คนเหล่านี้ไม่มีที่จะไปและไม่สามารถกลับไปอยู่กับ
ครอบครัว คนเป็นเอดส์ นอนกันเกลื่อนวัด เด็กเล็กๆรอทั้งข้าว นม และของเล่น รัฐบาลก็ขาดความจริงใจจะดูแล”
“ลำพังหลวงพ่อรูปเดียว ต้องหาเงินมาดูแลให้คนเป็นเอดส์ อยู่ฟรี กินฟรี ตายก็เผาให้ฟรี เดือนละ 3 ล้านกว่าบาท นับเป็น
เรื่องสาหัส”

พอดีเนื้อที่ไม่พอ ได้แค่บรรทัดเดียว คนทั่วไปก็คงอ่านเข้าใจ นอกจากพวกบ้าโง่เซ่อไปคิดว่าพระเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์

อืมมมมม....นับว่าประเพณีการแก้ผ้าทำบุญของไทยเรารุ่งเรืองจริงๆในยุคสมัยนี้ พอเพียงแต่ไม่เพียงพอจริ๊งจริงพระเดชพระคุณท่านที่รักทั้งหลาย

อันนี้จัดเป็นเนื้อหาในกระทู้แล้ว :slime_smile2: โตป่านนี้น่าตั้งหัวเรื่องเป็นแล้วนะ

เพิ่งเห็นแถโพสได้น่าดูก็คราวนี้แหละ  :slime_bigsmile:

ติงเปลื้องผ้าถ่ายรูปเพื่อการกุศลแม้คิดดีแต่ขาดความรับผิดชอบสังคม
...
นางปริศนา พงศ์ทัดศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงกรณีการถ่ายภาพศิลปะการกุศลเพื่อนำรายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์วัดพระบาทน้ำพุ ว่า การมีจิตสาธารณะกุศล ทำเพื่อการกุศลเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีมากถ้ามีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควรจะช่วยกันส่งเสริมการรักษาประเพณีไทย การแต่งกายและการแสดงออกแบบไทย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นบุคคลสาธารณะอยู่ในสายตาของสังคม อยากให้มีความรับผิดชอบและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เยาวชน เพราะเรื่องการกุศลทำได้หลายแบบ และผู้ป่วยเอดส์คงดีใจถ้าได้รับการช่วยเหลือ โดยไม่สร้างปัญหาให้สังคม
...
http://www.komchadluek.net/2007/03/30/a001_103164.php?news_id=103164

ที่ตั้งอยู่ก็ถูกแล้วไง อันนี้เผื่อให้พวกบ้าโง่เซ่ออ่านบรรทัดเดียวไม่รู้เรื่อง

คุณชอบแถครับ
ผมว่าในห้องสภากาแฟ
มีคุณคนเดียว ที่ฉลาดปราดเปรื่อง
ฉลาดกว่าทุกคน คนอื่นโง่หมด
คนอื่นไม่มีความสามารถ นำแพะมาชนแกะได้เหมือนคุณ
คนอื่นไม่มีความสามารถ ในการใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นเหมือนคุณ
คนอื่นไม่มีความสามารถ  ที่จะนำเรื่องเรื่องหนึ่ง มารวมกับเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง
แล้วมาโยนว่าเป็นจริยธรรมรัฐบาลนี้

แล้วคุณชอบแถเคยส่องดูจริยธรรมของตนเองหรือไม่ว่า
คุณมีจริยธรรมในตัวเหลือแค่ไหน
หรือหมดไปพร้อมกับรัฐบาลทักษืณแล้ว

มันเกี่ยวอะไรกับรัฐบาล  รัฐบาลเป็นคนจัดงานนี้งั้นรึ
อะไรๆก็โยงเรื่อยเชียว อีกหน่อยหมาออกลูกตายก็คงควมผิดรัฐบาล
คนพวกนั้นแค่อยากโชว์โดยเอาการกุศลบังหน้าเท่านั้น
ไฮโซกันทั้งนั้น ถ้าคิดจะช่วย ก็บริจาคสักคนละ5ล้าน10ล้านสิ
นี่อยากโชวว่าหุ่นตูเจ๋งให้พวกหัวงูมันกระดี้กระด้ามากกว่า

เฮ้ย! ชอบแถ
มันเป็นมาตั้งแต่สมัยไอ้ทักสินแล้วว่ะ  ไอ้ทักสินสอนให้เอาแต่เงินไม่ใช่หรือไง  ดูเรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาลที่ไอ้ทักสินมันทำสิ น่าชื่นชมมากเลยนะ
มันบอกว่า ห้ามคนอื่นคอรัปชั่น แต่ดูมันทำสิ แดกไปเท่าไหร่

ความรับผิดชอบ สมัยรัฐบาลนี้ ถ่มน้ำลายกลางถนน ไม่งาม

เมื่อเช้านี้เห็นกับตา มอไซค์รับจ้างอ่ะ ในซอยแถวบ้าน น่าเกลียดเจงๆ :slime_mad:

*  คุณแถ  ...........

    เอ้ .. ว่า ทู้ นี้คุณมั่วได้ใจจริงๆ  เนาะ

    ตั้งแต่หัวข้อจนถึง ...  คำสรุปของคุณว่าแก้ผ้าถ่ายรูปช่วยพระ

    วัดพระบาทน้ำพุ   ...   เป็นสถานที่ ๆ ช่วยเหลือคนที่เป็นโรคเอดส์ .. อยู่ที่ลพบุรี

    มีผู้ป่วยที่เป็นเอดส์อยู่ที่นั้น   ....   จนวาระสุดท้ายของชีวิต    มากมาย

    คุณต้องการติงเรื่องใดใน กระทู้  ...  ที่คุณตั้ง  ???

    ทำไมต้องไปโยง กะ รัฐบาล .... เกี่ยวอะไรกันตรงไหน .. 

    ทำไมเอามารวมกันเป็นเรื่องเดียว ???   

    สำหรับ  เอ้ ... นะ

    ใครจะ .......................    ดัดจริต ..   ทนดูรูปพวกนี้ไม่ได้แต่  เอ้ เฉย ๆ

    โอเค  .. รูปนี้มองโดยรวมอาจดูโป๊ ...สำหรับพวกทนดูไม่ด๊ายยยยย ( แหวะ .. จะอ๊วก ! )

    แต่... ภาพศิลป์ กะ  อนาจาร ... แตกต่างกัน  แยกออกมั๊ย !!

    ภาพประเภทนี้จะเน้นแสง + เงา + มุมกล้อง + คอมโพส  ฯลฯ

    มันคนละเคส .. และ  คนละเกรด ...  กะรูปในเวปโป๊ที่พวกคุณดู

    ถ้าจะพูดว่ามันก็ไม่มีเสื้อผ้าเหมือนกัน .. อันนี้ก็แล้วแต่   ทัศนะ   ของแต่ละคนว่าจะแยกออกแค่ไหน

    ส่วนเรื่องความเหมาะสมหรือไม่ที่..   ตากล้อง .. ที่เขาชำนาญในการถ่ายภาพลักษณะนี้

    เอาผลงาน  +  ฝีมือ  นำรูปออกมาประมูล ... ???

    ทำไมไม่มองที่ ..   เจตนา ..  บ้างหล่ะ      นางแบบเขาไม่รับค่าตัวเลยด้วยซ้ำ

     เงินที่ได้ก็เอาไปช่วย .... ผู้ป่วย   ที่ไม่มีคนเหลียวแล

     แล้วไงค่ะ ??  ... มันอุบาทว์      มันรับไม่ได้  ..  กันนักหรือ ???

     อย่า .....    กระแดะ กะ สังคมดัดจริต .....    กันนักเลยพวกที่คอยแหกปาก   ติติง  อย่างเดียว !!

สมัยบาบิโลนเค้ายังมีโสเภณีขายตัวแล้วเอาเงินมาช่วยบำรุงศาสนาแต่เหตุที่เกิดตอนนี้มันค่อนข้างขัด

ต่อวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของคนไทยแต่ถ้าชอบแถมาเปิดประเด็นและโยงเรื่องไปถึงรัฐบาลละก้อ

ผมว่าเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าพอ

แต่ของสวยๆงามๆก็ไม่ปฎิเสธว่าชอบดู :slime_bigsmile:

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000037132

*********
เรื่องทางโลก อย่าเอาไปยุ่งกะทางธรรม มากนักน่ะครับ

ถ้าเกี่ยวจะเกี่ยวตรงไหน???

Emperor Liang invited Bodhidharma to his capital in Nanjing. The emperor was very fond of Buddhism and often wore Buddhist garments and recited Buddhist prayers. He was, however, most proud of his unbending and unqualified support for Buddhism throughout his entire kingdom.

Proud of his knowledge and the contributions towards Buddhism, he asked Bodhidharma, "Since I came to the throne, I have built many temples, published numerous scriptures and supported countless monks and nuns. How great is the merit in all these?"

"No merit whatsoever" was his shocking reply.

http://www.angelfire.com/electronic/bodhidharma/karma_truth.html

ยอดเยี่ยมจริงๆครับ
คงต้องขอแรงท่านอุบาสกอีกแล้วหละครับ
:slime_worship:

เปลือยทะเล จัดเข้าเรทไหน จงใจยั่วยวนหรือปล่อยไปตามลม (ปชช.อะกิว แล้วรัฐจัดสรรจัดการ จะห้ามหรือปล่อย ปล่อยแล้วจะไปทางไหน ห้ามแล้วจะหมดหรือ)
http://www.purenudism.com/index.html

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์
black man naked picture Visitor, black man naked picture - ศุกร์, 16 กุมภาพันธ์ 2007 03:46:14 Cool site. Thank you:-) man military naked ...
kalasin.moph.go.th/kmqa/weblog/index.php?option=com_simpleboard&func=view&catid=34&id=57109 - 15k - หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน

“คุณหญิงไขศรี” ช็อกเจอ “โก้งโค้งการกุศล” - “เจ๊เบียบ” กรี๊ดจี้ วธ.จัดการ
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2550 17:14 น.
 

       รมว.วธ.รับกรณี “นิตยสารเฟม” ที่ได้ถ่ายภาพนู้ดดาราเพื่อการกุศล ช่วยผู้ป่วยเอดส์ที่วัดพระบาทน้ำพุ นั้น ได้ดูภาพในนิตยสารดังกล่าวแล้ว ยอมรับว่า บางภาพก็ดูเป็นศิลปะ แต่ก็มีบางภาพที่น่าตกใจ เช่น ภาพถ่ายโก้งโค้งของนางแบบชื่อดังคนหนึ่ง ด้าน "เจ๊เบียบ"กรี๊ดรับไม่ได้ จี้วธ.ดำเนินการด่วน
       
       คุณหญิง ไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวกรณีนิตยสาร “เฟม” นำเหล่าบรรดานางแบบนู้ดระดับแนวหน้าของเมืองไทย รวมทั้งไฮโซชื่อดัง ร่วมถ่ายภาพนู้ดออกประมูลหารายได้การกุศล ช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ วัดพระบาทน้ำพุ ว่า จากการที่ตนได้ดูภาพนักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียงถ่ายภาพนู้ด เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือการกุศลนั้น บางภาพที่ตนเห็นก็รู้สึกรับได้ว่าเป็นงานศิลปะ แต่ก็มีบางภาพที่ไม่เหมาะสม ส่อไปในทางยั่วยุทางเพศ ซึ่งตนได้รับรายงานว่า ภาพของนางแบบชื่อดังบางคนที่ถ่ายเปลือยกายในท่าทางโก้งโค้งนั้น ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่ผลิตภาพนู้ดออกมาจำหน่าย และสื่อต่างๆ ที่นำเสนอภาพเหล่านี้ต้องมีความระมัดระวัง และไม่ควรนำเสนอภาพที่มีลักษณะยั่วยุทางเพศ ไม่เหมาะสม
       
       “เข้าใจดีว่า ดารานักแสดงมีเจตนาดีที่จะหารายได้เข้าการกุศล แต่ด้วยวิธีการถ่ายภาพนู้ดนั้นไม่เหมาะสม เพราะต้องแยกให้ออกว่าภาพนั้นเป็นศิลปะ หรือยั่วยุทางเพศ ที่ผ่านมาก็มีการถ่ายภาพเปลือยมาเป็นปฏิทินปีใหม่ และได้รับความสนใจมาก จึงเข้าใจว่า ดารากลุ่มนี้เอาอย่างการถ่ายปฏิทินโป๊เปลือย โดยผลิตเป็นภาพชุดออกมาจำหน่าย เพราะหวังจะได้รายได้จำนวนมากมาช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ อย่างไรก็ตาม ดิฉันคิดว่า การที่ดาราทำอะไรคนย่อมให้ความสนใจอยู่แล้ว ก็ควรจะหาวิธีการอื่นเพื่อหารายได้มากกว่าการถ่ายภาพนู้ด”
 
 
       นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวถึงการถ่ายนู้ดการกุศลของดารา ไฮโซว่า ไม่เห็นด้วยกับการถ่ายนู้ดหาเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ แต่ละคนมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของสังคม คยเป็นตัวอย่างให้เยาวชนเดินรอยตามในสิ่ง พอวันดีคืนดีออกมาถ่ายนู้ด เยาวชนเขาจะคิดอย่างไร อันที่จริงมีวิธีอื่นอีกหลายวิธีที่จะหาเงินมาช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ เช่นนำสิ่งของเครื่องใช้มาประมูล หรือจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ การหาเงินด้วยวิธีนี้น่าภาคภูมิใจกว่าเปลื้องผ้าถ่ายนู้ดแล้วมาบอกว่าทำเพื่อสังคม สังคมไทยคงรับไม่ได้
       
       "นางแบบนู้ดกิติมศักดิ์หลายคนคงหลงกลตกเป็นเหยื่อของธุรกิจทางเพศโดยไม่รู้ตัว คนที่มาชวนคงใช้คำว่าการกุศลบังหน้า แต่เบื้องหลังเพื่อให้ธุรกิจของเขาอยู่รอด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผู้หญิง ชาย ก่อนถอดเสื้อผ้าอยากให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมาว่ามันคุ้มรึเปล่า ชื่อเสียง เกียรติยศที่สั่งสมมาทั้งชีวิต เป็นแบบอย่างของเยาวชน และการที่คนมีชื่อเสียงมาถ่ายนู้ด อ้างว่าศิลปะ รู้สึกว่ามันฟังไม่ขึ้น ที่สำคัญไม่อยากให้เยาวชนเอาเป็นแบบอย่าง โดยเห็นว่าดารา ไฮโซ ถ่ายนู้ดได้ โดยไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าพวกเขาและเธอจะถ่ายนู้ดบ้างไม่เห็นเป็นไรเลย หากเป็นเช่นนี้จริงใครจะรับผิดชอบต่อสังคม”
       
       ด้านนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข แถลงข่าวต่อต้านกลุ่มหญิง-ชาย 32 คน ที่เป็นดารา และคนในสังคมชั้นสูง ออกมาเปลื้องผ้าถ่ายนู้ดเพื่อการกุศล จะนำเงินไปช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ ให้แก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ ว่า เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ที่ผ่านมาตนพยายามทำเพื่อสังคม แต่ขณะนี้รู้สึกว่าสู้ไม่ไหวแล้ว คิดว่าสังคมกำลังสับสนว่าทำความดีจะต้องแก้ผ้า
       
       นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า การกระทำเช่นนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง ถ้ามีอีกหลายสมาคมทำ แข่งกันแก้ผ้า มันก็จะแข่งกันทำความเลว มันยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นโรคเสพติดทางเพศกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นว่า นิตยสารที่อ่านกันได้ทุกเพศทุกวัย ขณะนี้มีแต่ภาพนางแบบ ดารา ที่เปลื้องผ้ายั่วยวน รวมถึงพิธีกรบางคนที่มีชื่อเสียง แต่ชาติตระกูลไม่สามารถแบ่งแยกออกมาจากความคิดแบบนี้ได้เลย ไม่มีจิตสำนึกที่เป็นสาธารณะ ตนรู้สึกสู้ไม่ไหว ขอเรียกร้องให้กระทรวงวัฒนธรรมออกมาทำอะไรสักอย่าง ส่งเสริมความคิดที่ดีงามกว่านี้ ขอให้จริงจังกว่านี้ ไหน ๆ จะมาเพื่อปฏิรูป ขอให้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอันจะนำมาซึ่งผลดีที่ไม่กระทบต่อเด็กและเยาวชน อย่านิ่งดูดาย ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือถึงสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ให้พิจารณาการนำเสนอข่าวที่มีภาพข่าวรุนแรงทางเพศ ตลกที่พูดจาหยาบคาย พิธีกรสถานีโทรทัศน์บางช่องที่ส่งเสริมการถ่ายภาพหวือหวาไม่เหมาะสม
       
       “ทำไมไม่ใช้สมองให้มากกว่านี้ ค่ายเพลงที่สนับสนุนก็ไม่มีวิจารณญาณ หลวงพ่อที่จะรับเงินคงกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อย เราห่วงว่าสังคม วัฒนธรรมจะตกต่ำ จะย้อนกลับไปสู่ยุคหินที่ใช้กำลัง ไม่ใช้สมอง ใช้ชีวิตแบบแก้ผ้า วันนี้ดิฉันเหลืออดจริง ๆ ขอร้องให้กระทรวงวัฒนธรรมจริงจังให้มากกว่านี้ แม้ว่าสังคมประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิที่จะแต่งอะไรก็ได้ แต่การนำมาปรากฏต่อสื่อ ควรเป็นแบบอย่างที่สร้างสรรค์ให้ดีกว่านี้” นางระเบียบรัตน์ กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางระเบียบรัตน์ แถลงข่าวพร้อมกับนำหนังสือพิมพ์หลายฉบับที่มีการนำเสนอข่าวดาราถ่ายนู้ดเพื่อการกุศลมาโชว์ต่อสื่อ รวมทั้งนิตยสารผู้หญิงชั้นนำหลายเล่ม ล้วนแต่มีภาพนางแบบใส่ชุดว่ายน้ำ มาแถลงข่าวกับสื่อด้วย.

 
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000037038




คนที่ไม่ใช่ คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ย่อมเข้าใจความคิดเห็นของสังคมและคนของรัฐบาลนี้ได้จากการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


 น่าสังเวช อนาถใจความสิ้นคิด หน้ามืด ของคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปดตก นำเรื่องความคิด พฤติกรรมของคนในวงการหนึ่ง ยัดเยียดเป็น'มาตราฐาน'จริยธรรมและคุณธรรมของรัฐบาลนี้ ที่เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ไม่เคยมีในจิตใจ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ก่อนหน้านี้คุณชอบแถและคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ในเว็บบอร์ดนี้ ถามหาความหมายของ คุณธรรมและจริยธรรมที่ประชาชน คนต่อต้านทักษิณ นักวิชาการ ผู้นำความคิดเห็นของสังคม คณาจารย์และประชาชนหลากหลายอาชีพประนามการเป็นผู้นำฯที่ไร้คุณธรรมและจริยธรรม คืออะไร.....

หลังเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกถูกขับไล่ กีดกัน ไม่ให้กลับบ้าน ถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการหลายชุดเรื่องการทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน ฯลฯ ในระหว่างดำรงตำแหน่ง......
คุณชอบแถ 'พลัน' ถามหาจริยธรรม..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ผมดูแล้วก็สวยดีนี่ครับ

บั้นท้ายศศิกานต์ สวยจริง ๆ

มีอีกมั๊ยครับ ชอบดู อิ อิ

ปรับความเข้าใจ บุญไม่ใช่แค่ทาน
http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=88
http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=89

"ก้าวไปในบุญ" พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

ให้ทานอย่างไรจึงจะได้ทำบุญอย่างสมบูรณ์

   ทีนี้มาดูว่าบุญนั้นแค่ไหน การทำบุญท่านเรียกว่า บุญกิริยา หรือเรียกยาวว่า
บุญกิริยาวัตถุ คือเรื่องของการทำบุญ ญาติโยมที่คุ้นวัดจะนึกออกว่า บุญกิริยาวัตถุมี 3 อย่างคือ

1. ทาน การให้ เผื่อแผ่ แบ่งปัน
2. ศีล การประพฤติสุจริต มีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่เบียดเบียนกัน
3. ภาวนา ฝึกอบรมพัฒนาจิตใจ เจริญปัญญา

   ทานก็เป็นบุญอย่างหนึ่ง ศีลก็เป็นบุญอย่างหนึ่ง ภาวนาก็เป็นบุญอย่างหนึ่งและ
สูงขึ้นไปตามลำดับด้วย ศีลเป็นบุญที่สูงกว่าทาน ภาวนาเป็นบุญที่สูงกว่าศีล แต่เราสามารถทำไป
พร้อมกันทั้ง 3 อย่าง

   เหตุใดจึงเรียกการถวายของแก่พระที่วัดว่าเป็นการทำบุญ แต่การให้ชาวบ้าน
เรียกว่าเป็นทานเฉยๆ เรื่องนี้อาจจะเกิดจากการที่ว่า เวลาเราไปถวายพระที่วัด เราไม่ใช่ถวายทาน
อย่างเดียวเท่านั้น คือในเวลาที่เราไปถวายสิ่งของเครื่องไทยธรรม หรือทำอะไรที่วัดนั้น
นอกจากทานเป็นอย่างที่ 1 แล้ว

   2. ศีลเราก็รักษาไปด้วย คือเราต้องสำรวมกายวาจาอยู่ในระเบียบแบบแผน
วัฒนธรรมประเพณี เรื่องมารยาทอากัปกิริยา และการสำรวมวาจาต่างๆนี้ เป็นศีลทั้งสิ้น
และเวลานั้นเราควรงดเว้นความไม่สุจริตทางกายวาจา ความไม่เรียบร้อย การเบียดเบียนทุกอย่าง
ทางกายวาจา เราละเว้นหมด เราอยู่ในกายวาจาที่ดีงาม ที่ประณีต ที่สำรวม ทีควบคุมนี่คือเป็นศีล

   3. ในด้านจิตใจ จะด้วยบรรยากาศของการทำบุญก็ตาม หรือด้วยจิตใจที่เรามีความเลื่อมใส
ตั้งใจไปด้วยศรัทธาก็ตาม  จิตใจของเราก็ดีงามด้วย เช่น มีความสงบ มีความสดชื่น เบิกบานผ่องใส
มีความอิ่มใจ ตอนนี้เราก็ได้ภาวนาไปด้วย ยิ่งถ้าพระได้อธบายให้เข้าใจในเรื่องการทำทานนั้นว่าทำเพื่ออะไร
มีประโยชน์อย่างไร สัมพัทธ์กับบุญหรือการปฏิบัติธรรมอื่นๆอย่างไร เรามองเห็นคุณค่าประโยชน์นั้น
และมีความรู้ ความเข้าใจธรรม เข้าใจเหตุผลต่างมากขึ้นเราก็ได้ปัญญาด้วย

   ด้วยเหตุที่ว่ามานี้ ก็จึงกลายเป็นว่า เมื่อเราไปที่วัดนั้น แม้จะไปถวายทานอย่างเดียว
แต่เราได้หมดทุกอย่าง ทานเราก็ทำ ศีลเราก็พลอยรักษา ภาวนาเราก็ได้ ทั้งภาวนาด้านจิตใจ
และภาวนาด้านปัญญา
   เพราะฉะนั้นเมื่อเราไปที่วัด ถ้าเราปฏิบัติถูกต้อง เราจึงไม่ได้ถวายทานอย่างเดียว
แต่เราได้มาครบ ตอนแรกเราตั้งใจไปถวายทานอย่างเดียว แต่เมื่อไปแล้วเราได้มาครบทั้ง 3
ทีนี้เราจะบอกว่า เราไปถวายทานมา เราก็พูดไม่ครบ ก็เลยพูดว่าเราไปทำบุญ เพราะว่าเราได้ทั้ง 3 อย่าง
ที่ว่ามานี้ก็เป็นเหตุให้การถวายทานอย่างเดียวกลายเป็นมีความหมายเป็นทำบุญ(ครบทั้ง 3 อย่าง)
   เมื่อโยมเข้าใจอย่างนี้แล้ว ต่อไป เวลาไปถวายทานที่วัด ก็ต้องทำให้ได้บุญ
ครบทั้ง 3 อย่าง คือถวายทานอย่างเดียวแต่ต้องให้ได้ทั้ง ศีลทั้งภาวนาด้วยอย่างนี้จึงจะเรียกว่า
ทำบุญ ที่แท้จริง

เจตนา

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
จิตตสูตรที่ ๒
             [๑๘๐] เทวดาทูลถามว่า
                          โลกอันอะไรย่อมนำไป อันอะไรหนอย่อมเสือกไสไป โลก
                          ทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคืออะไร ฯ
             [๑๘๑] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
                          โลกอันจิตย่อมนำไป อันจิตย่อมเสือกไสไป โลกทั้งหมด
                          เป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือจิต ฯ

"ก้าวไปในบุญ" พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

บุญทานของเราสมบูรณ์ไหม?

   คราวนี้เราก็มาตรวจสอบตัวเองว่า ทานของเราได้ผลสมบูรณ์ไหม เริ่มตั้งแต่
ด้านจิตใจว่าเจตนาของเราดีไหม

เจตนานั้นท่านยังแยกออกไปอีกเป็น 3 คือ
   1. บุพเจตนา เจตนาก่อนให้ คือตั้งแต่ตอนแรก เริ่มต้นก็ตั้งใจดี มีความเลื่อมใส
จิตใจเบิกบาน และตั้งใจจริง แข็งแรงมีศรัทธมาก..
   2. มุญจนเจตนา ขณะถวายก็จริงใจจริงจัง ตั้งใจทำ ด้วยความเบิกบานผ่องใส มีปัญญา รู้เข้าใจ
   3. อปราปรเจตนา ถวายไปแล้ว หลังจากนั้น ระลึกขึ้นเมื่อไรจิตใจก็เอิบอิ่มผ่องใส
ว่าที่เราทำไปนี้ดีแล้ว ทานนั้นเกิดผลเป็นประโยน์ เช่น ได้ถวายบำรุงพระศาสนา พระสงฆ์จะได้มีกำลัง
แล้วท่านก็จะได้ปฏิบัติศาสนกิจ ช่วยให้พระศาสนาเจริญงอกงามมั่นคงเป็นปัจจัยให้สังคมของเราอยู่ร่มเย็น
เป็นสุข นึกขึ้นมาเมื่อไรก็เอิบอิ่มปลื้มใจ ท่านใช้คำว่า "อนุสรณ์ด้วยโสมนัส"

   ถ้าโยมอนุสรณ์ด้วยโสมนัสทุกครั้งหลังจากที่ทำบุญไปแล้ว โยมก็ได้บุญทุกครั้งที่
อนุสรณ์นั่นแหละ คือระลึกขึ้นมาคราวไหนก็ได้บุญเพิ่มคราวนั้น นี่คือเจตนา 3 กาล ซึ่งเป็นเรื่องสำหรับทายก

   สำหรับปฏิคาหก คือผู้รับ ถ้าเป็นผู้มีศีล มีคุณธรรมต่าง ๆ มาก ก็ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลมาก
เพราะจะได้เกิดประโยชน์มาก เช่นพระสงฆ์ เป็นผู้ทรงศีล ทรงไตรสิกขา ท่านก็สามารถทำให้ทานของเราเกิด
ผลงอกเงยออกไปกว้างขวาง เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ช่วยให้ธรรมแผ่ขยายไปในสังคม
ให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข และดำรงพระศาสนาได้จริง

   ส่วนไทยธรรม คือวัตถุที่ถวาย ก็ให้เป็นของบริสุทธิ์ได้มาโดยสุจริต สมควรหรือเหมาะสมแก่ผู้รับ
และใช้ได้เป็นประโยชน์ ....

-------------------------------------

ทำไมเวลานักการเมือง นักสังคมสงเคราะห์บางพวก บริจาคกันเป็นแสนเป็นล้าน
เขาน่าจะได้ผลบุญจากการให้ทานนั้นอย่างมหาศาล
แต่ในความเป็นจริง บางครั้ง ขณะที่/ก่อนที่/หลังที่เขาทำทาน จิตของเขาก็เกิดอกุศล
เช่น หลงผิด(โมหะ) อยากเป็น(ภวตัณหา)ไปด้วย เรียกว่ากุศลและอกุศลเกิดขึ้นพร้อมกัน
บุญจากการทำทานที่ควรจะได้ก็ไม่เต็มที่

สีเลนะ สุคะติง ยันติ - ถึงสุขคติได้ก็ด้วยศีล
สีเลนะ โภคะสัมปะทา - ได้(เสวย)โภคทรัพย์ก็ด้วยศีล
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ - บรรลุนิพพานก็ด้วยศีล

ตรงโภคสัมปทานี้แหล่ะสำคัญนักแล

“กรณีดังกล่าว ตนได้นำเสนอในการประชุมคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่มีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธาน โดยที่ประชุมถึงกับส่ายหน้า และไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้รับปากต่อรองนายกรัฐมนตรีว่า จะไปดูแลความถูกต้องของกรณีนู้ดไฮโซดังกล่าวให้ และยังอาสาเป็นหน่วยขจัดสื่อร้าย เพื่อสร้างสังคมแห่งสื่อดีด้วย” ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังฯ กล่าว

http://www.komchadluek.net/


เจ้าของกระทู้สามารถนำความคิดเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของรัฐบาลนี้ ไปเปรียบเทียบความคิดเห็นของรัฐมนตรีฯ'ไก่ต้ม' ของรัฐบาลกลุ่มอำนาจเก่าของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

แถ แกกำลังดีใจเรื่องเหลี่ยมกะลังรุกกลับมาเป็นใหญ่อีกทีครับ    :slime_smile2:

รูปสวยดี แต่การช่วยเหลือวัดด้วยวิธีนี้หมิ่นเหม่ต่อกระแสสังคมยิ่งนัก

น่าช่วยหาเงินด้วยวิธีอื่นนะ

เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับรัฐบาลหรอกนะครับ

เป็นเรื่องปัญหาสังคมที่มีพัฒนาการมาก่อน
รัฐบาลนี้เข้าดำรงตำแหน่งนานมากแล้ว

ในความเห็นผม เหมือนกับพวกที่มาถ่ายนู้ด
ต้องการพรีเซนต์ตัวเองมากกว่า เพราะด้วย
ฐานะของแต่ละคนสามารถควักกระเป๋าเอง
ได้คนละหลายล้าน หรือเป็นสิบล้าน

..ถ้าจะหาเงินบริจาคช่วยวัดและผู้ป่วยเอดส์
ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่ต้องมาถ่ายนู้ด
แค่นายแบบนางแบบ 30 กว่าคนก็ระดมเงิน
ได้เป็นร้อยล้านแล้ว..

นอกจากนายแบบนางแบบอยากถ่ายเอง  :slime_doubt:

ข่าวล่าสุด ทางวัดออกมาปฏิเสธการรับเงินจากโครงการนี้แล้วค่ะ
(ลองนึกภาพดู เขาจะนิมนต์พระไปรับเงินทีงานซึ่ง.......แวดล้อมไปด้วย
ภาพนู๊ดขนาดเท่าตัวคนจริงที่เห็นชัดทุกรูขุมขน คงเป็นภาพที่ไม่น่าดู
สักเท่าไรนัก กับผ้าเหลืองท่ามกลางนู๊ด)

ซึ่งทางผู้จัดก็ออกมาพูดประชดว่า งั้นต่อไปหากทางวัดเดือดร้อนเรื่องเงิน
ก็ไปให้กระทรวงวัฒนธรรมช่วยก็แล้วกัน
ฟังแล้วอึ้งค่ะ โห........เหมือนผู้จัดเนี่ยมีบุญคุณกับทางวัดมากเลยนะ

เป็นการตั้งชื่อกระทู้ ที่ตลกที่สุดในโลกค่ะ ทะลึ่ง!!!

แถได้แม้กระทั่งชื่อกระทู้ อยากด่าอ่ะ  



เอาเนื้อข่าวมาสมทบกับความเห็นพี่ varada ค่ะ

ขอบอกว่าเห็นใจทางวัดมากๆ เลยค่ะ ทำงานช่วยเหลือมนุษย์หนักอยู่แล้ว

อยู่ๆ ก็ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ไม่เอาเงินบริจาค ก็โดนเหน็บแนม เฮ้อ


...
...
ด้าน นายอมาตย์ นิมิตภาคย์ บรรณาธิการ รับเชิญการถ่ายนู้ดการกุศล ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า
ทางวัดพระบาทน้ำพุไม่ยอมรับเงินบริจาคครั้งนี้ว่าไม่รับก็ไม่เป็นไร เราก็มอบให้มูลนิธิอื่นก็ได้
ในเมื่อมีกระแสด้านลบออกมาอย่างนี้ ทำให้เจตนาของเรากลายเป็นเรื่องไม่ดีก็ตามใจ ไม่ว่ากัน
เราแค่อยากจะให้ ถ้าถามความรู้สึกบอกตรงๆ ว่าเสียใจ
เพราะทุกคนตั้งใจจะช่วยเหลือคนที่กำลังลำบาก โดยใช้อาชีพของเราในการทำ
แต่ในเมื่อไม่เป็นการสมควร เราจะไปทำอะไรได้

“งานก็ต้องดำเนินต่อไป ไม่มีการยกเลิกแน่นอน ภาพที่ถ่ายไม่ได้ออกมาน่าเกลียด ไม่ได้อนาจาร
ไม่เห็นอะไรเลย ภาพออกแนวอาร์ต ไม่ได้ ปลุกใจเสือป่า
ทีหนังสืออื่นแนวซี้ด...อา วางแผงหราทุกเดือน ทำไมกระทรวงไม่ไปว่าเขาบ้าง
มีตั้งหลายเรื่องที่ควรจะไปช่วยเหลือให้สังคมดีขึ้น ไม่น่าจะมาจำกัดแบบนี้
เสียดายเหมือนกันที่เรื่องต้องเป็นแบบนี้ แต่ไม่ว่ากัน เราก็เปลี่ยนไปให้คนที่เขาอยากได้เงินของเรา
แล้วให้ ทางวัดไปให้ทางกระทรวงวัฒนธรรมช่วยแล้วกัน  
เราไม่เสียหาย ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แค่เสียความรู้สึกเท่านั้นเอง” นายอมาตย์ กล่าว


http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5279170/A5279170.html

สงสารพระเหมือนกันครับ ทำถูกต้องแต่ก็โดนประชดโดยคนที่ไม่เข้าใจศาสนา
เหมือนตั้งใจไปทำผิดศีลเพื่อมาทำบุญ พระสงฆ์ที่ทราบถึงความตั้งใจตั้งแต่ต้น ไม่สามารถรับการทำบุญนั้นได้อยู่แล้ว
ตัวอย่างเช่นการตั้งใจฆ่าหมู่ไก่เพื่อมาทำบุญ พระสงฆ์ก็ไม่สามารถฉันได้เช่นกัน

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าควรจะรับไว้เพราะเป็นการทำบุญ แล้วสิ่งที่พวกเขาตั้งใจทำก็ไม่ได้มีเจตนาทำบาปอะไร แม้จะไม่ถูกต้อง แต่ควรจะรับไว้แล้วสั่งสอนไปว่าไม่ควรทำเช่นนั้นอีก

งานนี้ต่างคนต่างจิตใจครับ

ถ้าให้พูดถึงเรื่องรูปอีโรติค ภาพนู้ด ว่าบาปหรือไม่ บาปแน่ ๆ ครับ เพราะทำให้เกิดกิเลศ

อีกมุมนึง สิ่งที่ทำให้เอดส์เป็นปัญหานี่ก็คือกิเลสนี่แหละ...ถ้าอยากทำบุญช่วยผู้ป่วยเอดส์ ช่วยลดกิเลศด้านเพศกันลงบ้างก็คงดีกว่ามาบริจาคเงินทองกันแบบนี้

 :slime_sentimental:

ไม่หักกันซะแต่ตอนนี้

มีขายตัวการกุศลแน่ครับ


ตามพระธรรมบอกไว้แล้วครับ การทำบุญให้เป็นบุญคือ

จิตใจต้องการทำบุญ    ของทำบุญที่บริสุทธิ์     ให้กับผู้ยึดถือบุญ

*  อันนี้ .. ก็คงแล้วแต่    มุมมอง ... แต่ละคนเนาะ

    อย่างคุณ อมาตย์  .. เอ้ ให้  เคริต  เขาด้านฝีมือการถ่ายภาพ
   
    ถึงภาพเซ็ทนี้ .. จะไม่สวยต้องตาต้องใจ .. มากนัก

    ถึงบางคนจะคิดไปถึงขั้นว่า .. ต่อไปจะต้องไปถึงขั้นขายตัว บริจาค

    หรือเป็นโรค เอดส์ ...

    ไม่รู้สิ ....    " ดูถูกคน "     เกินไปไหม ???

    ถ้าจะให้ ตำหนิ  .. ก็จะพูดว่า  = = >   เจตนาดีแต่กาลเทศะไม่เหมาะ

    ส่วนจะมีอยางอื่นแอบแฝง เช่น  โปรโมทหนังสือ ไปในตัวด้วยไหมอันนี้ไม่รู้   !!

    แต่ ... โดยรวมให้ผ่าน

    อาจเป็นเพราะ ..........  เอ้ ไม่คิดว่าภาพเซ็ทนี้ทำให้เกิด     กิเลส..  จนทำให้คนหน้ามืดกระทันหัน
   

    ปล. 1     พี่ดา .. เอ้  คิดว่าสมมุติถ้า พระท่าน .. ยอมรับเงินบริจาค

                 ท่านคงไม่ถึงกะต้องมารับเงินท่ามกลางภาพนู๊ดหรอกค่ะ  .. ว่ามั๊ย ??


     ปล. 2     อย่าหาว่าว่ากระแดะเลยนะคะ .. ที่ออกมา คาน  คนอื่น ๆ

                 เอ้  เฉย ๆ กะภาพเหล่านี้เพราะมอง และ แยก  ออกจากกันว่า

                 อะไร คือ  ศิลป์  หรือ  อนาจาร และ  เจตนา

                 สงสัยสมาชิกหลาย ๆ ท่านมาเรียนคณะที่ เอ้ เรียน

                 คง  เป็นลม  กันถ้วนหน้า .......  เพราะ มีนางแบบปลือย  มาเป็นแบบให้เราเขียนรูปนู๊ดด้วย  เหอะ ๆ  

ผมไม่ได้หัวโบราณ หรือ คิดจะแอนตี้ การถ่ายภาพนู้ด แต่อย่างใด

ภาพนู้ด ถ้าถ่ายออกมาสวย และ ไม่อนาจารโจ๋งครึ่ม ส่อการยั่วยวนทางเพศ จนเกินไป

ก็เป็นงานศิลปะ ที่ สวยดี

แต่ที่น่ารังเกียจ (เขียนตรง ๆ ว่า เลว ก็ได้)

คือ งานนี้ จุดประสงค์หลัก ก็คือ จะโปรโมทหนังสือ โปรโมทสินค้าของตัวเอง

โดยดึง เอา "วัด" หรือ "พระ" ที่ทำให้เกิดความรู้สึก contrast มาเป็นตัวล่อ
ให้คน "ด่า"
เมื่อโดนด่า แล้ว ก็ย่อมเป็น "ข่าวดัง"

เป็นการตลาดแบบน้ำเน่า ไม่ต่างจากพวกดาราภาพหลุด แอบถ่าย วิซีดีลับ ที่มาทำเป็นข่าวดัง ก่อน ขาย กันกระจุย

งานนี้ก็ "ดัง" สมใจอยาก
โดยไม่รู้สึกละอาย ที่ดึงเอาพระเจ้า เอาศาสนา มาเกี่ยวข้อง
ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า เป็นข่าวออกไป พระท่านไม่เล่นด้วยแน่
มันก็ยังทำ
มันเลวตรงนี้แหละครับ

อ่า....
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ
น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ น้องเอ๊ะ

(http://img453.imageshack.us/img453/1373/confusedua6.gif) (http://imageshack.us)

รัฐบาลโดยนายกคนนี้ประกาศจริยธรรมเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่เห็นจะทำอะไร
เป็นชิ้นเป็นอัน รายการทีวีวิทยุหนังสือพิมพ์ก็พร่ำเพ้อมอมเมาซ้ำซากว่าทำอย่างรัฐบาลที่แล้ว
ไม่มีจริยธรรม พวกนี้คงคิดว่าสมัยนั้นไม่มีแก้ผ้าถ่ายโป๊หาเงินช่วยพระเลยต้องทำตรงข้ามแบบ
ที่โดนมอมเมาล้างสมองว่าทักษิณไม่ดีไม่มีจริยธรรมนุ่งแค่ผ้าขาวม้าเดินไปเดินมา ต้องแบบนี้
ไม่ใส่อะไรเลยจริยธรรมกว่า เป็นไงล่ะนางแบบแต่ละคนอายุคราวป้าคนด่าทั้งเมือง อายุขนาด
นี้เห็นแล้วศิลป์ไม่ลงอ่ะ

ขำดีครับ ใครช่วยหาความถูกต้องทางตรรกะในข้อความข้างบนนี้ให้หน่อยเถิด
ว่าความบกพร่องทางจริยธรรมของรัฐบาลชุดก่อน มันมาเกี่ยวข้องกับการถ่ายนู้ดของคนบางกลุ่มได้อย่างไร
จริยธรรมที่ว่า เขาหมายถึงจริยธรรมทางการเมืองของนักการเมืองต่างหาก
ไอ้ประมาณว่าจับมาคำนึงแล้วก็มาขยายความต่อเอาเองนี่ ขอเถอะครับ  :slime_worship:

อ้อ จริยธรรมหมายถึงของนักการเมืองกับข้าราชการนั่นเองที่เป็นวาระแห่งชาติ
ภาคเอกชนคงไม่ต้องแล้วมั้งตามมีตามเกิดไป ตรรกะนี้ก็คงแบบเดียวกับเห็นคลิป
วิดีโอแล้วทหารหรือแม้แต่นายประสารยังบอกว่าเห็นท่อน้ำเลี้ยง

คุณชอบแถแถอีกแล้วครับ พี่น้องคร๊าบ

เอ้.........ลองอ่านคำตอบของคุณDon Camerone'
นั่นแหล่ะคือสาเหตุที่พี่ด่า คนพวกนี้
เอาพระบังหน้า สนองตัญหาตัวเอง

คนที่เขาตั้งใจทำเพื่อบริจาคนี่ประเสริฐแล้วครับ แต่ถ้ามามองว่าเขาบริจาคให้เพื่ออะไร ก็เพราะโรคเอดส์นี่ไง

ปัญหาโรคเอดส์ ไม่ใช่ปัญหาทางเพศครับ เป็นปัญหาสังคม ปัญหาที่แก้ไม่ได้ด้วยเงิน

ขณะที่ผู้ป่วยเอดส์มีจนล้น...การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกลับไม่มี ระดมเงินบริจาคมันคงช่วยอะไรไม่ได้