ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สโมสรริมน้ำ => ข้อความที่เริ่มโดย: เลิศภพจบพสุธา ที่ 01-05-2006, 11:51



หัวข้อ: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: เลิศภพจบพสุธา ที่ 01-05-2006, 11:51
ผมอ่านผ่านใจมาหลายหน เห็นเป็นแง่คิดที่ดีพอจะนำมาฝากกันครับ


**************


ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดี
จำเป็นต้องรอเวลาถึง3 ชั่วโมง
ในการเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง
เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่ม และคุ๊กกี้ 1 ห่อ
และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกิน ฆ่าเวลาไปพลาง ๆ

เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง
เมื่อนั่งลงก็เตรียมหนังสือและคุ๊กกี้
เพื่ออ่านและกินไปพลาง ๆ เธอสังเกตเห็นว่าข้าง ๆ เธอมีชายหนุ่ม
ซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา

สักครู่หนึ่ง ขณะที่เธออ่านหนังสือ
ชายหนุ่มก็หยิบขนมคุ๊กกี้ออกจากถุง
ซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง แล้วกินมันอย่างละชิ้น
เธอมองด้วยความโกรธ
แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ
เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ามองนาฬิกา

ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย กำลังกินมันให้หมดสิ้นไป
เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า "ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็....
ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย"

ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น
ทั้งสองส่งสายตามองกัน เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย
เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร
ชายหนุ่มค่อย ๆ หยิบคุ๊กกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น 2 ชิ้น
ส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น

เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า
"เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุดๆ
ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ"
เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง
ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม

ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่อย่างสบายแล้ว
เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ เธอตกใจมาก
ถ้าคุ๊กกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า.....
คุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกิน

เธอลุกขึ้นทันที แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม
แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า
มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง
เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท
เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง

มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นการเข้าใจผิด
มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น
และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง
ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย

นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนตัดสินผู้อื่น
หลาย ๆ สิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ควรมองผู้อื่นในแง่ดี
แล้วคอยสังสัยตัวเองว่า

"เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?
เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่"


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: สเลเต ที่ 01-05-2006, 12:38
อ่านมาหลายครั้งแล้ว
อ่านกี่ครั้งก็ยังชอบค่ะ


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: นายท้ายเรือ ที่ 01-05-2006, 13:05
เรื่องนี้ผมเพิ่งได้อ่านเป็นครั้งแรก ครับ
รู้สึกกินใจมากครับ
ขอบคุณที่นำเอามาให้อ่านครับ
 :) :)


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: เสลา ที่ 01-05-2006, 14:54

ชอบมากค่ะคุณเลิศภพ


(http://www.animationattic.com/Noah_ark.gif)


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: โขงหลง ที่ 02-05-2006, 20:23
 :D


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 04-05-2006, 07:07
 :D

ประกายดาว ว่า

การมองโลก ของตัว เอง เปลี่ยนไป ตามวัย...มองรอบคอบขึ้น
ในแง่มุมที่กว้างขึ้น ...และ ...เพราะว่า ตัวเอง ประกาศแล้วว่า
เป็นพวกสุขนิยม ......หนูเลือกมองโลกอย่าง ที่ ทำให้ตัวเอง
มีความสุขค่ะ ..


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: R O S #41 ที่ 04-05-2006, 07:58
เป็นข้อความที่ดีมกคะ เรื่องประมาณนี้ เคยเกิดขึ้นกับดิฉัน คะ แต่ดิฉันได้มีการไปขอโทษผู้ที่ดิฉันเข้าใจผิดได้ ยังดีที่ดิฉันยังมีโอกาส ที่เอ่ยคำขอโทษกับบุคคลที่ดิฉันกล่าวคำไม่ดีไป และต่อจากนั้นดิฉันจะไม่ด่วนในการพิพากษาใครเลยคะ  เพราะบทเรียนที่ผ่านมา ดิฉันได้รับการยกโทษจากบุคคลผู้นั้น แต่ เหตุการณ์บางอย่างไม่อาจคืนมาได้ด้วยดีคะ
ดังนั้น เรื่องทำนองนี้เกิดกับใครแล้วมันจะฝังใจเราตลอด เดี๋ยวนี้ดิฉันจะตัดสินใคร แล้วจะทำไม่ดีไปดิฉํน จะ บอกตัวเองให้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น แล้วจะเย็นลง จนบางที่ งง กับตัวเอง เพราะว่าเหตุการณ์ใหม่มันไม่น่าให้อภัย แต่ดิฉันจะพูดไม่เป็นไรๆ จนบางคนงง ดิฉัน ว่าทำไมมันจบลงง่ายจริงๆ


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกเข็มขาว ที่ 04-05-2006, 08:12
เป็นเรื่องที่ดีคะ อ่านแล้วทำให้ได้มองอะไรได้หลายๆแง่มุม


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: นายท้ายเรือ ที่ 04-05-2006, 08:45
 :x
พี่ชายของผมคนหนึ่งติดเหล้า ( เหล้าขาว )
เย็นๆ หลังทำไร่ ก็ต้องไปก้งเหล้า กับ ขาประจำ ในหมู่บ้าน
กินกันทุกวัน หาหมอ มาแล้ว หลายครั้ง ..หมอสั่งหยุด
ก็หยุดได้ไม่กี่วัน....
ผมเคยถามว่า " ทำไม " พี่ก็บอกว่า " เพื่อสังคม "
ก็เพราะคนอื่นๆ เขาก็กินกัน ซึ่งจริงๆ ก็เพียงกลุ่มเล็กๆ 4-5 คน
...
ย้อนกลับมา สังคมของเขา ทั้งสังคมจริงและโลกเน็ต
มีหลายสิ่งที่มันไม่ดี หลายคนก็พูดว่า " ก็มันเป็นเช่นนั้นเอง "
......
ในเมื่อเราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราสามารถที่จะช่วยกันทำให้
มันดีขึ้นได้ โดยเฉพาะหากได้ร่วมกันคนละไม้คนละมือ
หากหลายคนมองว่า ก็มันเป็นเช่นนั้นเอง ..ก็เท่ากับการยอมรับ
หลงไปตามกระแสที่ไม่ดีทั้งหลาย....แล้วเราก็ได้เพียงแค่บ่นว่า
"สังคมมันไม่ดี".................


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 04-05-2006, 08:48
แล้วถ้าคุณเจออย่างผมล่ะ คุณจะทำอย่างไร
ผมเดินออกมาจากซุ๊ปเปอร์มาเก็ต
เพื่อจะเดินทางกลับ้าน
พอไขกุญแจรถ จะเข้าไปนั่ง
ยังไม่ทันเสียบกุญแจรถ
ก็มีฝรั่งคนหนึ่ง ครึ่งวิ่ง
ครึงเดินตรงมาที่รถ และก็บอกผมว่า
 "คุณ มาทำอะไรในรถของผม"
ผมก็ตกใจ รีบลุกออกมาจากรถ
ตั้งใจต้องไปตรวจสอบ
หมายเลขทะเบียนรถ
ดูจนแน่ใจ อย่างไรๆมันก็รถผมแน่นอน
พอหันตัวกลับ ผมก็เห็นฝรั่งคนนั้น
กำลังก้าวขาขึ้นรถผม
แบบว่าเข้าไปได้แล้วครึ่งตัว
ประมาณนั้น
   ตอนนั้นผมหูอื้อ ตาลาย
ก็รีบกระโดดถีบประตูรถโครมเบ้อเร่อ
ฝรั่งคนนั้นโดนประตูรถหนีบจนตัวแอ่น
แล้วมันก็รีบจ้ำอ้าว ขากระเผลกๆ
หนีออกไปจากที่นั่น
   ถือว่าเป็นวิวัฒนาการใหม่ของพวกขโมย
ถ้าคุณผู้หญิงเจอแบบนี้เข้า
คุณจะแก้สถานการณ์ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้


หัวข้อ: Re: เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง ?
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 04-05-2006, 12:04
ผมชอบมากเลย แต่คิดว่า เป็นอะไรที่หน้าแตกมากเลยนะ = ="  อับอายจริงๆ


ทำให้นึกถึง โจ๊กขำขัน เรื่องหนึ่งที่ว่า

มีชายคนหนึ่ง นัดเพื่อนที่ทำงานกลุ่ม ไปฉลองกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเค้าก็มาสายเป็นคนสุดท้าย แต่ด้วยความหิวจัด พอมาถึงก็ก้มหน้าก้มตากิน พอกินอิ่มแล้ว ถึงจะรู้ตัวว่า ตัวเองนั่งผิด โต๊ะ นั่นเอง .....