ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

" แก้วสรร"สวดยับแอร์พอร์ตลิงค์โครงการ"โคตรหน้าด้าน"
แนะอดใจรอผลสอบพ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต ชี้เป็นระเบิดลูกใหญ่ "ประเสริฐ" ตอกกลับ ทรท.ถ้าไม่ลาก "อภิรักษ์" เป็นจำเลยคดีจัดซื้อดับเพลิง ไม่สบายใจใช่มั้ย แฉภาคผนวกสัญญาเปิดช่องผลิตรถ-เรือในไทย เย้ย "สมัคร" เซ็นสัญญาให้เขาฉีกอกได้อย่างไร  "นาม" เชื่อ ทรท.ดิ้นดิสเครดิต คตส.เหตุนายใหญ่โดนชี้มูลเกือบทุกคดี

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนคดีการทุจริตโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ หรือทางรถไฟเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ ระบุว่า ผลการสอบสวนของอนุกรรมการในขณะนี้ถือว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเดิมตั้งใจว่าจะสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าแนวทางการสอบสวนต้องการหลักฐานและพยานบุคคลที่สำคัญอีกเล็กน้อยจึงจะสรุปผลได้ ซึ่งคณะอนุกรรมการสอบสวนกำลังนัดพยานคนดังกล่าวมาให้ปากคำ รวมถึงการไปไล่พยานเอกสารบางชิ้น เพื่อโยงให้เห็นถึงโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งเมื่อแสดงผลออกมาแล้ว บอกได้ว่าเป็นโครงการที่ "โคตรหน้าด้าน" เลยทีเดียว

 ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนการออกมติคณะรัฐมนตรีในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อออก พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิตนั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า ขอให้อดใจรออีกเล็กน้อย เพราะเรื่องนี้จะเป็นระเบิดลูกใหญ่ทันที

 ทั้งนี้ นายแก้วสรร ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ยังระบุด้วยว่า การสอบสวนเดิมคณะอนุกรรมการต้องการสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ โดยคณะอนุกรรมการมีการร่างสำนวนชี้มูลไว้แล้ว และกำลังรอการแก้ไขอยู่ แต่เนื่องจากยังเหลือพยานปากเอกคนสำคัญ ที่เดิมคณะอนุกรรมการจะไม่เรียกมาสอบปากคำ แต่เนื่องจากเกรงว่าจะถูกวิจารณ์ว่า ทำไมไม่เรียกมาชี้แจงก่อนสรุปผลการสอบสวน ทำให้ล่าสุดคณะอนุกรรมการเตรียมทำหนังสือเรียกพยานคนดังกล่าวมาให้ปากคำต่อคณัอนุกรรมการสอบสวนแล้ว หลังจากนั้นจะสรุปผลการสอบสวนทันที

 รายงานข่าวจาก คตส.ระบุว่า พยานคนสำคัญของคณะอนุกรรมการสอบสวนโครงการทุจริตบ้านเอื้ออาทรที่เป็นพยานปากสุดท้ายนั้น ปรากฏว่าเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบโครงการบ้านเอื้ออาทรมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งโครงการเกิดปัญหามากมาย และในช่วงที่พยานคนดังกล่าวรับผิดชอบโครงการบ้านเอื้ออาทร ได้ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนมาตลอดถึงปัญหาเรื่องบ้านเอื้ออาทร ทั้งเรื่องคุณภาพของโครงการที่ไม่ได้มาตรฐาน การส่งมอบงานรับเหมาก่อสร้างที่ไม่ตรงตามสัญญา การเปลี่ยนระบบการประมูลรับเหมาก่อสร้างโครงการจากเดิมที่ให้บริษัทเอกชนรับผิดชอบการก่อสร้าง เป็นช่วงงาน แต่ต่อมาอดีตผู้บริหารการเคหะแห่งชาติคนดังกล่าวไปเปลี่ยนระบบการก่อสร้างเป็นระบบเทิร์นคีย์ ที่ให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างรับเหมาทั้งโครงการ ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย รวมทั้งที่สำคัญคือกรณีเรื่องการจัดซื้อที่ดิน เพื่อนำมาก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการพบว่าเป็นขั้นตอนที่มีการทุจริตมากที่สุด เพราะมีการปั่นราคาที่ดินแพงเกินความจริงหลายเท่า เพื่อนำมาขายให้บริษัทรับเหมาก่อสร้าง จนทำให้ราคาของบ้านเอื้ออาทรแพงกว่าความเป็นจริง

 http://www.komchadluek.net/2007/03/11/a001_97717.php?news_id=97717
 


ถ้าไม่มีการหน่วงเหนี่ยว โยกโย้ของผู้ถูกเรียกสอบสวนของคดีต่าง ๆ
คณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ของ คณะกรรมการ คตส. คงจะมีผลงานให้คนไทยที่ไม่ได้เป็น
คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก โล่งใจ สบายใจที่เอาคนโฉด ฉ้อราษฎร์บังหลวง ส่งฟ้องศาลฯ ได้.....

รวยแล้วไม่โกง  :slime_bigsmile:

เรื่องวิสัยทัศน์เลยนะนั่น คิดดูคนไม่ต้องขับรถไปส่งที่สุวรรณภูมิอยู่กลางเมืองก็ไปสนามบินได้
รถที่ไปส่งสนามบินส่วนมากมักจะไปเที่ยวเดียว โรงแรมที่พักนักท่องเที่ยวก็อยู่ในเมืองซะเยอะ
ยังไงไปมักกะสันก็ใกล้กว่า ไม่ต้องขับรถไกลๆ ให้เกะกะถนนที่ไม่ค่อยจะพอให้รถวิ่งอยู่ด้วย
พวกโง่ๆ คิดอะไรไม่ออก ดักยิงตะกวดทุกวันยังยิงไม่โดน ทำงานไม่เป็นดีแต่เห่าหอนไปวันๆ
ก็งี้แหละ ขืนได้เป็นใหญ่ประเทศคงย่อยยับกว่านี้

ไอ้ทุจริตแบบ โคตรหน้าด้าน มันเป็นยังไงกัน ไม่เห็นมีรายละเอียด แค่ค้ำประกันเงินกู้เองเหรอ

แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบการทุจริตในโครงการสร้างทางโดยสารเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิ้งค์)ของ คตส. นั้น จะมีข้าราชการของกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอีกส่วนหนึ่งเนื่องจากระทรวงการคลังเป็นผู้ออกหนังสือสัญญา(Letter of credit)ให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้าบี.กริม อินเตอร์เนชั่นแนล ที่สามารถนำไปใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ได้ ซึ่งถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน ที่กำลังประสบปัญหาการขาดสะภาพคล่องทางการเงิน และไม่มีเครดิตเพียงพอที่จะหาแหล่งเงินกู้ได้

ทั้งนี้ ต้นเรื่องจะเป็นของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) ที่มีนางพรรณี สถาวโรดม เป็นผู้อำนวยการในขณะนั้น แต่ภายหลังกลับมีการเดินเรื่องไปให้กับสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ที่มีนางพันธุ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ เป็นผู้อำนวยการ และส่งเรื่องต่อมายังนางลีนา เจริญศรี รองปลัดกระทรวงการคลังที่รับผิดชอบ เพื่อส่งมอบให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะส่งเรื่องกลับมาให้ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง รับทราบในชั้นสุดท้าย โดยในส่วนขั้นตอนของนายศุภรัตน์ มีการเซ็นต์เพียงว่า "รับทราบตามที่รัฐมนตรีเห็นชอบ"

"ในเรื่องนี้ ตอนแรกเป็นเรื่องของ สบน. แต่นางพรรณีไม่ยอมทำให้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่คลังจะไปช่วยค้ำประกันเงินกู้ให้เอกชน ต่อมาเรื่องก็ไปโผล่ที่ สคร. แล้วก็มีการให้ความเห็นชอบเสนอต่อๆกันมาถึง นางลีนา และนายสมคิด ส่วนนายศุภรัตน์นั้น ไม่เกี่ยวด้วย เพราะถือเป็นเพียงการรับเรื่องที่รัฐมนตรีเห็นชอบแล้วเท่านั้น" แหล่งข่าว กล่าว

ดังนั้น ข้าราชการของกระทรวงการคลังที่อาจจะเข้าข่ายรับผิดในกรณีนี้จึงประกอบด้วย นางพันธุ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ นางลีนา เจริญศรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพราะการออกหนังสือดังกล่าวให้กับบริษัทเอกชน เท่ากับว่า กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้ในกรณีที่เกิดการผิดพลาดขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ผิดหลักการปฏิบัติทั่วไป แม้ว่าในทางกฎหมายแล้ว การออกหนังสือสัญญาดังกล่าว จะไม่ถือเป็นการค้ำประกันเงินกู้ให้ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว แบงก์พาณิชย์ทั่วไปก็จะให้เครดิตที่ดีขึ้น และสามารถปล่อยกู้ให้ได้
http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T0221782

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนคดีการทุจริตโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ หรือทางรถไฟเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ ระบุว่า...
ผลการสอบสวนของอนุกรรมการในขณะนี้ถือว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเดิมตั้งใจว่าจะสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าแนวทางการสอบสวนต้องการหลักฐานและพยานบุคคลที่สำคัญอีกเล็กน้อยจึงจะสรุปผลได้ ซึ่งคณะอนุกรรมการสอบสวนกำลังนัดพยานคนดังกล่าวมาให้ปากคำ รวมถึงการไปไล่พยานเอกสารบางชิ้น เพื่อโยงให้เห็นถึงโครงการแอร์พอร์ตลิงค์.....
 
ซึ่งเมื่อแสดงผลออกมาแล้ว บอกได้ว่าเป็นโครงการที่ "โคตรหน้าด้าน" เลยทีเดียว


'โครตหน้าด้าน' เป็นความคิดเห็นของคุณแก้วสรรที่ชิงชังการฉ้อราษฎร์บังหลวง การเอารัดเอาเปรียบ และ การช่วงชิงผลประโยชน์ต่าง ๆ.....
แต่คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก อาจจะคิดว่า  แค่"โกงแต่ทำงาน" ก็ได้กระมั่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า