หัวข้อ: ดัชนีความสุขดิ่งเหว ในยุค จริยธรรม คุณธรรม สุภาพบุรุษ วีรบุรุษ เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 11-03-2007, 21:17 โพลชี้คนไทยความสุขยังลดต่อเนื่อง
เอแบคโพลล์สำรวจความสุขคนไทยลดลงต่อเนื่อง เดือนกุมภาพันธ์ เหลือ 5.66 จากที่เคยสูงสุดเมื่อกันยายน 2549 ที่ 6.30 ขณะที่ชาวต่างชาติความสุขลดลงเช่นกัน มีสาเหตุหลักในทิศทางเดียวกัน คือความขัดแย้งและความไม่ชัดเจนทางการเมือง แต่พบว่าประชาชนหันมาใช้ชีวิตพอเพียงเพิ่มขึ้น เผยมีความสุขมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ความพอเพียงถึง 4 เท่า นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง รายงานดัชนีความสุขมวลรวม (Gross Domestic Happiness Index, GDHI) ของประชาชนภายในประเทศประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2550 : กรณีศึกษาประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติใน 20 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 4,229 คน ดำเนินการสำรวจเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 10 มีนาคม 2550 พบว่าความสุขคนไทยลดลงเล็กน้อยจาก 5.68 ในเดือนมกราคม เหลือ 5.66 ในการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ แต่ถือว่าลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับความสุขช่วงเดือนกันยายน 2549 ที่เคยสูงระดับ 6.30 คะแนนความสุขของคนไทยที่ 5.66 หมายความว่า คนไทยมีความสุขมวลรวมค่อนข้างน้อยในช่วงเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และที่น่าเป็นห่วงคือ ความสุขของชาวต่างชาติที่มาอาศัยในเมืองไทยก็ลดลงเช่นกัน คือลดลงจาก 6.91 ในเดือนมกราคม มาอยู่ที่ 6.57 นายนพดล กล่าว ผลสำรวจพบว่าประชาชนคนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.8 ระบุปัญหาสำคัญที่ทำให้ความสุขลดลงคือ ความขัดแย้งและความไม่ชัดเจนทางการเมือง รองลงมา ร้อยละ 74.6 ระบุปัญหาสภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศและภัยแล้ง ร้อยละ 68.1 ระบุปัญหาเศรษฐกิจ ร้อยละ 63.3 ระบุปัญหาการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และร้อยละ 59.7 ตอบว่าเพราะปัญหาความไม่ชัดเจนของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ที่ส่วนใหญ่เกรงว่าปัญหาไอทีวีจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่สร้างความวุ่นวายในสังคม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ยังคงทำให้คนไทยมีความสุขอยู่ได้ อันดับแรกคือ วัฒนธรรมประเพณี ความเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย เช่น ความจงรักภักดี ความมีไมตรีจิต เกื้อกูลมีน้ำใจต่อกัน งานบุญงานบวช ความเป็นอิสระ การรักความสันโดษ ความปลาบปลื้มต่อโครงการพระราชดำริต่างๆ การใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครัว และบรรยากาศภายในชุมชน ส่วนสาเหตุที่ความสุขมวลรวมของชาวต่างชาติลดลง มาจากสาเหตุเดียวกันกับคนไทย คือ ความไม่ชัดเจนทางการเมือง ความขัดแย้งภายในประเทศ ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ขณะที่ชาวต่างชาติบอกว่าปัจจัยที่ทำให้มีความสุขเมื่อพักอาศัยในประเทศไทย คือ ลักษณะของคนไทย วัฒนธรรมประเพณีไทย อาหารไทย แหล่งท่องเที่ยว และสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ผลวิจัยพบด้วยว่า ประชาชนที่ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเดือนมกราคม คือจากร้อยละ 32.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 39.0 และประชาชนที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงมีจำนวนคนที่มีความสุขระดับมาก มากกว่าเกือบ 4 เท่าของคนที่ใช้ชีวิตแบบไม่พอเพียงคือร้อยละ 54.4 ต่อร้อยละ 14.9 อย่างไรก็ตาม มีคะแนนความสุขของประชาชนต่ำกว่า 5 ซึ่งหมายถึงประชาชนเป็นทุกข์ หลายเรื่อง อาทิ สภาพแวดล้อม ดินน้ำอากาศและภัยแล้ง ได้คะแนนความสุขต่ำที่สุดเพียง 3.25 ระบบการค้าเสรีเพราะประสบปัญหาเศรษฐกิจและภาวะการว่างงาน 3.28 หลักธรรมาภิบาล การเมือง รัฐบาลและองค์กรอิสระ เพราะปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นยังไม่คลี่คลาย 4.43 นายนพดล กล่าวว่า ปัจจุบันความสุขของประชาชนลดน้อยลง เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกันยายน 2549 ที่ประชาชนมีความสุขในเกณฑ์ค่อนข้างดี ดังนั้น รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ควรเพิ่มความเข้มในการจัดระเบียบสังคมใหม่ ขจัดต้นตอปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ออกกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มทุนและกลุ่มอิทธิพลใด ๆ รวมทั้งประกาศให้ชัดเจนว่าทิศทางการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร จะคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งเมื่อใด. http://www.innnews.co.th/Breaknews.php?nid=25431 ดูจากคนมาชุมนุมแค่เวทีเดียว ชักเยอะ (http://img257.imageshack.us/img257/3804/dsc00148zk8.jpg) หัวข้อ: Re: ดัชนีความสุขดิ่งเหว ในยุค จริยธรรม คุณธรรม สุภาพบุรุษ วีรบุรุษ เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 11-03-2007, 21:24 ยังอยู่ดีเคี้ยวอร่อยนี่ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยเข้าวัดเข้าวาปลงอนิจจังก็สบายใจหายห่วง
ห่วงแต่พวกบัวใต้ตมมีแต่จะเป็นเหยื่อของฝูงเต่าปูปลาวันๆก็แถกแถไปรายวัน เตือนด้วยความรักนะ เด็กโง่ |