ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ยินดีต้อนรับภาษีทรัพย์สิน

ขณะนี้รัฐบาลขิงแก่ (พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์) กำลังเตรียมการนำยกร่าง พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งความจริงฝ่ายราชการได้ยกร่างคอยท่ามานานปีแล้ว เข้าสู่วาระการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งจะนำมาใช้แทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน และ ภาษีบำรุงท้องถิ่น ที่ใช้มานานหลายสิบปี แต่ในปัจจุบันหลายฝ่ายเห็นว่าภาษีตัวนี้มีข้อบกพร่อง ด้อยประสิทธิภาพ มีจุดรั่วไหล และไม่เป็นธรรม
...
ภาษีทรัพย์สิน หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากมูลค่าของทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน บ้าน สถานประกอบการ โรงงาน ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้
...
ข้อเสนอให้ปรับเปลี่ยนวิธีจัดเก็บแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาษีทรัพย์สิน หมายถึงการใช้มูลค่าของทรัพย์สิน (property value) เป็นฐานในการประเมินการเสียภาษี ตัวอย่างเช่น มูลค่าบ้านและที่ดิน 1 ล้านบาท จะต้องถูกประเมินภาษี สมมุติว่า อัตราภาษีทรัพย์สินอยู่ระหว่าง 0.1% ถึง 0.3% เจ้าของทรัพย์สินรายนี้มีหน้าที่ชำระภาษีในอัตรา 1,000-3,000 บาท ซึ่งจะเป็นรายได้เข้าเทศบาล และ อบต.ในเขตพื้นที่ที่อยู่อาศัย
ย่อมาจากบทความตาม link
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01070350&day=2007/03/07&sectionid=0130

เดิมไม่เคยต้องเสียกันนะ ภาษีบ้านภาษีที่ดิน ถ้าไม่ได้เอาไปก่อให้เกิดรายได้ ถ้าเอาไปให้เช่าก็เสียภาษีโรงเรือน
หมายความว่าอยู่เองไม่ต้องเสีย แต่ต่อไป จะยังไงก็ต้องเสียภาษี ไม่มีรายได้แต่อยู่บ้านแพงๆ ก็ต้องเสีย เพราะ
รัฐบาลเก็บภาษีไม่เข้าเป้า เนื่องจากความสามารถในการบริหารประเทศต่ำถึงต่ำมาก ไปมีปัญญาหาเงินจากทางอื่น
ต้องมารีดเงินจากประชาชนทุกวิธี รวมทั้งภาษีมรดกด้วย เตรียมตัวจ่ายให้ดีๆ นะ รักชาติต้องเสียภาษี กร๊ากกกก

เดือดร้อนอะไรกับชาวบ้านเขาล่ะ...???

พวกเอ็งน่ะ....หนีเป็นประจำอยู่แล้ว !!!

ไอ้แถมันไม่มีเงินเสียภาษีครับ มันเลยต้องเร่งขายคอมใหญ่เลย

แต่ก็อย่างว่า เวลาแถขายคอม ไม่ค่อยเปิด Vat หรอกครับ เด๋วสรรพากรรู้ คิคิ

แล้วตกลง แถ  จะจ่ายหรือปล่าวละ


ไม่จ่ายก็ได้  ถ้าไม่ใช่คนไทย

อ้าวเน้นเหลือเกินเรื่องสัมมาชีพ จะไม่อธิบายซักหน่อยก็สงสาร จะแจ้งลบก็ได้นะ เห็นไม่ค่อยอยากฉลาดกัน
ภาษีนี้ไม่เกี่ยวกับสัมมาชีพเล้ย ไม่ประกอบอาชีพอะไร มีบ้านอยู่ก็เสีย ให้สังเกต พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ใช้อยู่ตอนนี้

มาตรา 8 ให้ผู้รับประเมินชำระภาษีปีละครั้งตามค่ารายปีของทรัพย์สิน คือโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่าง อื่นกับที่ดินซึ่งใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นนั้น ในอัตราร้อยละสิบสองครึ่งของค่ารายปี เพื่อประโยชน์แห่ง มาตรา นี้ "ค่ารายปี" หมายความว่า จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ
 ในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นให้เช่า ให้ถือว่าค่าเช่านั้นคือค่ารายปี แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีเหตุอันสมควรที่ทำให้ พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรที่จะให้เช่าได้ หรือเป็นกรณีที่หาค่าเช่าไม่ได้เนื่องจาก เจ้าของทรัพย์สินดำเนินกิจการเองหรือด้วยเหตุประการอื่นให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจประเมินค่ารายปีได้ โดย คำนึงถึงลักษณะของทรัพย์สิน ขนาด พื้นที่ทำเลที่ตั้ง และบริการสาธารณะที่ทรัพย์สินนั้นได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา 9 ทรัพย์สินดังต่อไปนี้ ท่านให้ยกเว้นจากบทบัญญัติแห่งภาคนี้
 (1) พระราชวังอันเป็นส่วนของแผ่นดิน
 (2) ทรัพย์สินของรัฐบาลที่ใช้ในกิจการของรัฐบาลหรือสาธารณะและทรัพย์สินของการรถไฟแห่ง ประเทศไทยที่ใช้ในกิจการการรถไฟโดยตรง
 (3) ทรัพย์สินของโรงพยาบาลสาธารณะและโรงเรียนสาธารณะ ซึ่งกระทำกิจการอันมิใช่เพื่อเป็นผลกำไร ส่วนบุคคล และใช้เฉพาะในการรักษาพยาบาลและในการศึกษา
 (4) ทรัพย์สินซึ่งเป็นศาสนสมบัติอันใช้เฉพาะในศาสนกิจอย่างเดียว หรือเป็นที่อยู่ของสงฆ์
 (5) โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ซึ่งปิดไว้ตลอดปีและเจ้าของมิได้อยู่เองหรือให้ผู้อื่นอยู่ นอกจากคน เฝ้า ในโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ หรือในที่ดินซึ่งใช้ต่อเนื่องกัน
 (6) โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างของการเคหะแห่งชาติที่ผู้เช่าซื้ออาศัยอยู่เองโดยมิได้ใช้เป็นที่เก็บสินค้า หรือประกอบการอุตสาหกรรมหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้

มาตรา 10 โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ซึ่งเจ้าของอยู่เอง หรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษา และซึ่งมิได้ ใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรม ท่านให้งดเว้นจากบทบัญญัติแห่งภาคนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นไป

เห็นตรงมาตรา 10 มั้ยล่ะ ถ้าคนแก่กินเงินบำนาญไม่ได้มีรายได้มากมาย แต่ใช้รายได้ทั้งชีวิตผ่อนบ้านจนหมดเป็นของตัวเอง
เพื่อไว้อยู่ไม่ได้ไว้ให้ใครเช่า กฎหมายเดิมไม่ต้องเสียภาษีเพราะถือว่าไม่มีรายได้จากทรัพย์สินนี้ แต่กฎหมายใหม่ต้องเสียภาษี
เพราะมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองก็คิดหมด ลองคิดดูเองแล้วกันใครเดือดร้อน

อ้าว ก็เท่าเทียมกันดีแล้วไง มาบ่นหาหอกอะไร

เพ้อเจ้ออะไรครับ ถ้าคุณรู้ความจริงเกี่ยวกับประเทศนี้ และรู้ประวัติศาสตร์พอสมควร คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ที่จะเก็บภาษีมรดก หรือภาษีทรัพย์สิน แบบเมืองนอก หรือปฎิรูปที่ดินแบบจริงจัง

เป็นเพราะ......

เอาเป็นว่าผมละไว้ในฐานะที่คนที่รู้จริงๆจะเข้าใจดีกว่า เพราะผมรู้ว่าต้องมีคนทราบความนัยแน่นอน :slime_worship:

อิชั้นยอมรับในความเก่งกาจของรัฐบาลขิงแก่กงๆเลยว่า เก่งในทางสร้างความchipหายให้กับประเทศชาติได้เนียนจริงๆ....มีเรื่องไหนบ้างที่ขิงเน่าทำงานแล้วwork!?!  ติ๊กต๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   :slime_doubt:

ทำไมจะเป็นไม่ได้ล่ะ ไม่มีอะไรเหนือบ่ากว่าแรงรัฐบาลวีรบุรุษชุดนี้หรอก ก็ออกกฎหมายยกเว้นเฉพาะบุคคลไว้ซัก
ห้าหกพันข้อสิ กลัวอะไรกัน ไหนๆ ความเท่าเทียมก็ไม่มีจริงอยู่แล้วในประเทศที่วีรบุรุษเป็นใหญ่แห่งนี้

คำว่า เพ้อเจ้อ นี่เหมาะสมดีแล้วครับท่าน

เดิมไม่เคยต้องเสียกันนะ ภาษีบ้านภาษีที่ดิน ถ้าไม่ได้เอาไปก่อให้เกิดรายได้ ถ้าเอาไปให้เช่าก็เสียภาษีโรงเรือน
หมายความว่าอยู่เองไม่ต้องเสีย แต่ต่อไป จะยังไงก็ต้องเสียภาษี ไม่มีรายได้แต่อยู่บ้านแพงๆ ก็ต้องเสีย
เพราะรัฐบาลเก็บภาษีไม่เข้าเป้า เนื่องจากความสามารถในการบริหารประเทศต่ำถึงต่ำมาก ไปมีปัญญาหาเงินจากทางอื่น  ต้องมารีดเงินจากประชาชนทุกวิธี รวมทั้งภาษีมรดกด้วย
เตรียมตัวจ่ายให้ดีๆ นะ รักชาติต้องเสียภาษี กร๊ากกกก

----------------------------

ไอ้ตรงที่เป็นตัวสีแดง - ขยาย - ขีดเส้นใต้
"มันเอามาจากไหน ??"

ไอ้ที่ออกกฏหมายยกเว้นน่ะ ไอ้แม้วมันทำและทำแบบหน้าด้านๆเลย พอมันได้เป็นนายกฯมันก็ออกกม.แปรสัญญาสัมปทานมือถือที่มันก้มกราบขอเขามาเป็นไม่เสียค่าสัมปทานทำให้รัฐเสียหายเป็นแสนล้านทำไมพวกลิ่วล้ออย่างเอ็ง(ชอบแถ2 )ไม่โวยวายมั่งวะ