หัวข้อ: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 23-02-2007, 14:31 (http://www.kimrichter.com/Blog/uploaded_images/Jail-bars-lo-788877.gif) เสรีใดไหนเล่าในชีวิต เท่าเสรีทางความคิดและวิถี แม้นลูกกรงจะเหนี่ยวรั้งขังเสรี แต่ความคิดที่มีจักแล่นไกล เสรีแห่งหัวใจใครจักกั้น เสรีฝันชื่นชมสมดังใฝ่ เสรีภาพจักเนืองนองครรลองใจ เสรีไทยคือวิถี เสรีชน -------------------------------------- ลานเทวา เกริ่นหัวกระทู้ไว้ก่อนนะ แล้วจะมาต่ออีก :slime_worship: หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 23-02-2007, 21:41 (http://www.parliament.go.th/files/about/image/pic-c032.jpg) เสื่อมสังคมจมใจทรามน่าหยามหมิ่น เมืองมลทินทุรชนยลใดหา สารพัดสร้างทำ ร ะ ยำมา ไร้ปัญญาไร้ธรรมอันอำไพ ทุรชาติทุรชนชั่วฉลฉ้อ ตามเติมต่อแต่ความเลวความเหลวไหล จะคิดการสมานฉันท์กันอย่างไร ความจริงใจนั้นหรือมีที่จะทำ ต่างแก่งแย่งเป็นใหญ่ใช้อำนาจ เข้าพิฆาตราวีบี้ถลำ ใครพ่ายแพ้ต่ำตกพกระกำ อย่าได้นำหน้าเสนอพบเจอใคร ต่างซ่อนดาบซ่อนมีดลอบกรีดเฉือน ซ่อนระเบิดหลังเรือนเป็นคลังใหญ่ บริวารงานคล่องลำพองใจ ระเบิดไปเผาไปเดี๋ยวได้ดี จะเกียร์ว่างเกียร์ต่ำทำไปเถิด ความประเสริฐใช่รู้อยู่เมืองผี ชั่วไปเถอะเดี๋ยวถูกใจก็ได้ดี ยิ่งอัปรีย์ยิ่ง จั ญ ไ ร ยิ่งเจริญ ลานเทวา หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 23-02-2007, 21:44 (http://www.khwai.com/images/articles/2003030209013959_1.jpeg) เอาหมูเอาหมามาตั้งแต่ง เทวดาใจแกว่งคนหวั่นไหว เรื่องบ้านเมืองเปลืองตัวเปลืองหัวใจ เรื่องของใครกันหนอขอไปที ธุรกิจการเมืองแลเฟื่องนัก เงินมันหนักเกินใจจะไหวหนี อุดมการณ์เขียนขายสบายดี นโยบายมากมีเลือกเอาไป ตาสาตาสี อีกทั้งยายมายายมีเข้าใจไหม บ้านนอกคอกนาอย่าปากใด เงียบเข้าไว้เถอะนะแล้วจะดี พวกไอ้นายท่านจะมาหาช่วยเหลือ เอาพริกเกลือเงินตรามาให้นี่ ถึงเวลาเลือกตั้งดังอีกที่ ทั้งหน้าผีหน้าหมาต่างมาเยือน มาถึงเรือนเยือนถึงถิ่น เสียงโฆษณาลั่นยินหาใดเหมือน คำหาเสียงเลือกตั้งดังสะเทือน ทุกหัวเรือนร้านช่องเสียงก้องดัง ต่างขนคนมาประชันขันแข่ง อีกขนเงินมาแบ่งดั่งใจหวัง ฤดูสัตว์เริงร่าแลน่าชัง บ้านเมืองพังเพราะเฮี้ยตัวเก่ามันเข้ามา ลานเทวา หัวข้อ: เสียเวลา เสียมวย เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 24-02-2007, 02:32 (http://www.phutta.com/blog/wp-content/uploads/2006/09/5933750low.jpg) เวลาอันน้อยนิด หรืออาจคิดพลิกดินไปปลิ้นฟ้า ประกาศิตมิเข้มขลังในวาจา จักถอยค่าเสื่อมคุณที่หนุนนำ แรงกว่านี้มีอีกมั้ย จงโถมใส่ในกระแสใช่แลขำ ความถูกต้องที่มีจงชี้นำ อย่ามัวทำเชื่องช้าให้คาใจ มัวเงื้อง่าท่าทางวางท่าอวด จะพาลชวดเสียงคนดูรู้บ้างไหม ลูกเด็ดขาดออกบ้างมัวง้างไย ลุยเข้าไปให้สนั่นลั่นเวที อย่าให้เสียชื่อมวยดีศักดิ์ศรีค่าย มันน่าอายยามขึ้นต่อยมัวถอยหนี ไหนไหนมาปฏิวัติกันทั้งที ก็จงตีให้แตกดับย่อยยับไป ลานเทวา http://news.sanook.com/story_picture/m/22880_002.jpg (http://news.sanook.com/story_picture/m/22880_002.jpg) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 25-02-2007, 18:45 :slime_sleeping: ลิ่วล้อ (http://www.bangkokbiznews.com/2006/07/31/images/picweb_copy295.jpg) ลิ่วล้อเล่นหน้าม่านระรานทั่ว กุนซือชั่วแลช่องชี้วางที่หมาย ขี้ข้าอวดจองหองลำพองกาย ยกจ้าวนายเหนือฟ้าท้าแผ่นดิน จึงอ้ายอีอวดอ้างทำวางท่า ชั่วยะถาโถมซื้อยื้อด้วยสิน ทรัพย์โสมมถมทางอวดอ้างกิน ทรามชีวินต่ำช้าทุนสามานย์ อยากจะออกกันนักนะทีวี ออกมาอวดความอัปรีย์สร้างสื่อสาร ออกมาอวดตนตัวชั่วประจาน ออกมาอวดสันดานอันต่ำช้า เถอะ ! ไอ้ลิ่วล้อ เอ็งจะเติมจะต่อกระไรหา ไอ้นายชั่วเอ็งสิ้นแล้วในแนวพา ยังเสือกมาทำผยองลำพองตน ลานเทวา แด่บรรดาลิ่วล้อบริวารสันดานชั่วขั้วเก่า หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-02-2007, 16:22 พวกลิ่วล้อลูกหาบล้วนหยาบช้า
เสนอหน้าท้าทายหมายทำป่วน รับเศษเดนแดกหน่อยคอยก่อกวน ไม่สมควรเป็นคนพวกส้นตีน หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 26-02-2007, 23:39 ทั้งจาบจ้วงมุ่งหมายทำลายฟ้า แต่สิ้นไร้พสุธาจะอาศัย มีทรัพย์สินแต่สูญสิ้นแผ่นดินไทย อีกเท่าไรจะสำนึกรู้สึกตัว หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 27-02-2007, 02:24 เงื้อง่าราคาแพง เขาคลางแคลงว่ามักใหญ่
นินทาอึงมี่ไป ว่าทำไมไม่ฟาดฟัน มีดาบอยู่ในมือ แล้วจะถือทำไมนั่น รู้เห็นไม่เท่าทัน เกรงดาบนั้นมาบั่นคอ สวัสดีทุกๆท่านค่ะ หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 27-02-2007, 09:35 (http://www.prachatai.com/05web/upload/HilightNews/thumbnail/1121-5959.jpg) :slime_sleeping: ไหว้ครูซะสวยงามตามแบบแผน แลงามแสนงามว่ากับท่าสวย เหมือนจะเก่งสมอ้างทางครูมวย แลร่ำรวยท่าทางที่วางวาด เสียงระฆังดังนานแล้วแจวอยู่นั่น ไอ้นายทั่นลีลาน่าอนาถ เก่งแต่รำเหมือนนางเที่ยววางมาด ชกลมพลาดหลายหนบนเวที มุมสีเขียวเหี่ยวเฉาเน่าสนิท มุมสีแดงแรงฤทธิ์ไปเหลือที่ เม็ดเงินเขาอัดถึงจึงเดินดี เข้าไล่ตีสีเขียวจนเหี่ยวไป หมดอาวุธแล้วหรือไรในทางสู้ สิ้นปัญญาจะกอบกู้แล้วใช่ไหม จากมวยเด่นเป็นมวยดับค่าลับไกล เชียร์ยังไงก็ไม่เห็นว่าเป็นมวย --------------------------------------------- ลานเทวา(http://blog2hit.com/_blogAdminPanel/upload/thumnail/01-10-06-12-48-31-s.jpg) :slime_worship: หัวข้อ: เน่าสนิท ศิษย์สี่เสา เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 28-02-2007, 21:50 (http://movie.sanook.com/story_picture/m/08827_001.jpg) สี่เอยสี่เสา รังคนแก่คนเฒ่าผู้สร้างสรรค์ ส่งมวยแก่มวยเก่าเข้าประชัน พัลวันหมัดแลกแถกกันไป เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง ใครจะเสี่ยงขึ้นตอบต่อยรอบใหม่ ค่ายสี่เสาหรือเมาหมัดไทยรักไทย ดูกันไปจนครบยกค่อยตกลง คนถือหางวางทรัพย์ขับเชียร์กู่ ส่วนคนสู้ต้องทำใจมิให้หลง ยืนแลกหมัดซัดวางอย่างทระนง หวังดำรงค์เสียงชื่อระบือไกล แต่เหมือนมวยคนละรุ่นลุ้นไม่ขึ้น คนเชียร์มึนกับทางมวยห่วยเหลวไหล เอาแต่ย่างเอาแต่วนเหมือนจนใจ ทำอะไรไม่เห็นว่าเป็นมวย ลานเทวา (http://www.thailand-huahin.com/photos/pg/pg37/P2.JPG) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 02-03-2007, 00:48 (http://www.kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK2/pictures/s2-163-2.jpg) อยู่ไหนเล่าความคิด แลไร้ทิศไร้ทางที่สร้างสรรค์ ผ่านล่วงความขมขื่นของคืนวัน หาใดยันแนวทางสร้างลิขิต ยังแต่คอยผลัดวันประกันพรุ่ง เรื่องยุ่งยุ่งที่พันผูกในถูกผิด จบไม่ลงหรือไรในชีวิต ทางและทิศอนาถแท้แก้ไม่ลง เรือจะล่มจมแล้ว ฝันจะแห้วสิ่งงามในความหลง ชั่วยังคงเที่ยงธรรมใจดำรงค์ ใครจะปลงปลดวางสร้างความชอบ เทวดาหน้าไหน จะสร้างไทยด้วยธรรมป็นคำตอบ ดีหรือเห็นเป็นดีที่รายรอบ ยังแต่ชั่วโกยกอบในแผ่นดิน สิ้นแล้วหรือไรชาติ แสนอนาถในหนที่หม่นหมิ่น คนดีช่างแร้นแค้นหนอแผ่นดิน แลจะสิ้นลับอนาถแล้วชาติไทย - ลานเทวา (http://www.thaiveterans.mod.go.th/mas_page/monument/chai/image/monument01.jpg) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-03-2007, 01:01 ฤา...สิ้นแล้วลาลับอับแสงสูรย์
หมดสิ้นแล้วสิ่งจำรูญเคยเจิดจ้า ยามค่ำคืนหรีดหริ่งคล้ายร่ำลา เกิดชาติหน้าขอเกิดใหม่เป็นไทยเทอญฯ หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 07-03-2007, 01:15 สื่อเสรี หรือสื่ออัปรีย์ (http://www.aparchive.com/aparchive/graphics/logos/itv_193.gif) ไยเป็นสื่อดื้อด้านสันดานชั่ว กัดไปทั่วยามสิ้นทางจะสร้างสรรค์ เขาไม่ขุนบุญหมดสลดพลัน ยังจะดันดานดื้ออย่างถือดี ไอทีวีไอ้ที่โวยอย่างโหยหวน เห็นแล้วชวนสมเพชดั่งเศษผี สื่อจอมปลอมย้อมเล่ห์สื่อเสรี เห็นเห็บเหลือบมากมีที่รนราน ยังไม่รู้กฏกรรมรู้สำนึก ยังไม่ตรองไม่ตรึกให้สงสาร ยังทระนงหลงโวโง่ดักดาน ดิ้นประจานตัวตนคนเช่นไร เคยเป็นทาสรับใช้ใครคนนั้น เขาสุขสันต์ยิ้มหรูอยู่ตรงไหน ทาสซื่อสัตย์ยามนี้สิ้นที่ไป จะหาใครอุ้มชูเลี้ยงดูเล่า เคยเห่าหอนเสียงดังครั้งนายขุน พอยามบุญสิ้นลับแลอับเฉา คนเคยอิงก็ทิ้งไปไม่เห็นเงา สื่อหัวเน่าจึงคว้างบนทางจร (http://www.ldinet.org/autopage/images/ThuMarch2005-15-11-28-LogoITV_s.jpg) ---------------------------- ลานเทวา หัวข้อ: สื่อส้นตีนอะไรวะ เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 09-03-2007, 20:14 (http://img243.imageshack.us/img243/4341/untitledakkkmx9.png) หาความจริงใดกล่าวจากข่าวสื่อ จะยึดถือใดแท้สุดแลหา ยังแต่พวกคุยอ้างสร้างราคา คอยแหกตาชาวบ้านเพียงผ่านวัน อุดมการณ์อุดมกินสิ้นศรีศักดิ์ เห็นประจักในธาตุแท้แลน่าขัน สื่อหาแดกแปลกปลอมย้อมจำนรร สารพันตอแหลแถกันไป ดำเป็นขาวขาวเป็นดำยำยำก่อ ชั่วเป็นดีอัปรีย์ส่อความสาไถย เลวเป็นงามทรามกลับเด่นเล่นกันไป ชั่วหนอใจคนสื่อสารงานมวลชน สุดเสื่อมทรามยามนี้วิถีสื่อ อำนาจชั่วเข้ายื้อซื้อทุกหน เก่งขายข่าวขายตัวชั่วเหลือทน วัฏฏะวนทรามเลวห่าเหวใจ สื่อเสรีหรืออัปรีย์ที่หมายสื่อ นี่นะหรือความเป็นกลางแลข้างไหน สื่อยำยำตำบอนย้อนอะไร สื่อหัวใจต่ำตนของคนทราม - โต้ง ภูตะนาว ฯ (http://www.freephotopost.com/uploads/92984bf4b9.jpg) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 09-03-2007, 20:20 :slime_sleeping: ดอกปรัชญางดงามอยู่ท่ามกลางความสับสน ความกดดันทางจิตใจเป็นปุ๋ยให้กับรากฐานแห่งแนวคิด ฉันเก็บก้อนหินและเศษดินมาบริโภคต่างอุดมการณ์ งานของความโง่งมงายมิเคยกลับกลายจากความยึดมั่น ตรงนั้นยังมีความโสมมของจิตใจผู้มืดบอดตลอดกาล เขาบริโภคทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรารถนาเป็นตัวชี้นำ ดอกปรัชญาหลากสีสรรค์นั้นถูกปั้นแต่งตามความพึงพอใจ กลายเป็นดอกไม้ไร้ค่าในสวนฝันอันเพ้อเจ้อ ฉันมิได้หมายสื่ออะไรมากมายในจินตนาการอันเลวร้าย หากคุณค่าและความหมายในสรรพสิ่งยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของฉัน ฉันโง่งมอยู่ท่ามกลางปรัชญาลวงโลก น้ำตาแห่งความโศกรินไหลมิรู้จบ ควายคือสัตว์ที่มีพระคุณต่อเรามาแต่ครั้งโบราณ นั่นคือความจริงที่พระเจ้ามิได้บอกเอาไว้ หรือพระเจ้าเกิดไม่ทันตอนที่ควายมันทำงาน โอ้หนอ ?? นรกเอ๋ย ? นี่กูพร่ามอะไรออกมาวะ -------------------------------- ลานเทวา :slime_worship: หัวข้อ: สุวิทย์ วัดหนู เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 12-03-2007, 10:04 สิบห้านาทีของวันใหม่ 12/3/2550 (http://www.thaingo.org/images2/suvit1.gif) สุวิทย์ วัดหนู หนึ่งนักสู้แห่งประชาทำหน้าที่ อุดมการณ์สานสร้างทางชีวี ณ เวทีประชาชนคนตุลา หลับเถอะพี่ ตำนานนี้จักอยู่ยงคงคุณค่า แม้นต้องหวนระลึกย้ำด้วยน้ำตา อีกแสนล้านปวงประชาจักสืบแทน ตำนานชีวิต สร้างลิขิตด้วยทุกข์ยากลำบากแสน ตำนานไพรใช่ปลิดปลงจากดงแดน เพราะหัวใจมิเคยแคลนอุดมการณ์ เส้นทางการต่อสู้ ของสุวิทย์วัดหนูที่พ้นผ่าน โลกนั้นจักจารึกย้ำเป็นตำนาน ให้ลูกหลานสร้างสู้คู่หนทาง สุวิทย์ วัดหนู ชื่อนี้อยู่ตรึงใจไม่เคยสร่าง อุดมการณ์แห่งใจไม่เคยจาง ดับเพียงร่างแต่เด่นชื่อระบือไกล ลานเทวา ด้วยความอาลัย ถึง คนจนผู้ยิ่งใหญ่ สุวิทย์ วัดหนู นักต่อสู้เพื่อสังคม (http://www.thaingo.org/images2/suvit2.gif) ..ผมไม่ใช่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ผมคือ..นักการเมือง.ภาคประชาชน . ' หัวข้อ: Re: อาลัย สุวิทย์ วัดหนู -- ขอจงไปสู่สรวงสวรรค์ เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 12-03-2007, 10:18 ได้ทราบข่าวจากช็อทนิวส์ในมือถือเมื่อสักครู่ ก็รู้สึกตกใจค่ะ ไม่นึกว่าพี่สุวิทย์จะจากไปกระทันหัน
คุณประโยชน์ที่พี่สุวิทย์ เพียรทำมาเพื่อมวลชนหลายสิบปีที่ผ่านมา ขอจงดลบันดาลให้ดวงวิญาณพี่สุวิทย์ พี่ชายที่น่ารักน้องๆ ngo เพื่อนของชาวพันธมิตร และพ่อพระของพี่น้องชาวสลัมชุมชนแออัดทั้งหลาย จงไปสู่สรวงสวรรค์ นะคะ :slime_worship: หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 12-03-2007, 11:13 สิ่งที่ สุวิทย์ วัดหนู ทำผ่านมาเป็นสิ่งเป็นสิ่งพิสูจน์อุดมการณ์ของเขาได้อย่างดี
แสดงความเสียใจต่อการจากไปด้วยครับ :slime_worship: ... 30 ปี..สุวิทย์ วัดหนู .บนเส้นทางสายประชาชน http://www.thaingo.org/HeadnewsKan/suvit31046.htm 28/02/49 "เอาประเทศไทยของเราคืนมา" การปราศรัยที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดย สุวิทย์ วัดหนู (http://www.managerradio.com/Radio/DetailRadio.asp?program_no=1002&mmsID=1002%2F1002-1235.wma+&program_id=3068) 19/02/49 รวมพลังคนใต้ยิกทักษิณ กู้ชาติ กู้ประชาธิปไตย โดย สุวิทย์ วัดหนู (http://www.managerradio.com/Radio/DetailRadio.asp?program_no=1002&mmsID=1002%2F1002-1139.wma&program_id=2901) หัวข้อ: ฮยู่ไหนวะ ยุติธรรม...... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 14-03-2007, 12:51 (http://cdbaby.name/u/n/unjust.jpg) แลเหลื่อมล้ำดำขาวในราวเรื่อง จะปลดเปลื้องอย่างไรในยะถา ชั่วได้ดีดีกลับชั่วมั่วกันมา ชาวประชาจะพึ่งใดในทางทิศ ความเป็นธรรมต่ำตกยกกันหน่อย อย่าได้ปล่อยให้เลวย้ำทำลิขิต ยุติธรรมที่อ้างสร้างกันนิด ทุกชีวิตให้เทียมเท่านะเจ้านาย อย่าเลือกรักมักชอบสร้างขอบเขต แต่ละเหตุพินิจผลใช่ยลหาย นี่คนรักนั่นคนชังซังกะตาย ชาติวุ่นวายเพราะแปลกแยกจนแตกกัน อย่าเหลื่อมล้ำต่ำสูงจูงชีวิต จะวิปริตในทางมิสร้างสรรค์ ความเป็นคนท่านเราเทียมเท่าทัน จงแบ่งปันยุติธรรมเพื่อนำพา เป็นผู้นำทำสร้างในทางชอบ ชั่วดีตอบให้ประจักษ์บุญรักษา หากคิดชั่วมั่วทำต่ำปัญญา ก็สิ้นค่าสิ้นคนสิ้นผลบุญ เป็นนายกอย่าซื่อบื้อทำดื้อด้าน จะเสียการเสียกลสิ้นคนหนุน พาลให้คนเสื่อมศรัทธาเสื่อมค่าคุณ แลหมดทุนหมดท่าราคาคน ลานเทวา ไอ้ห่า ! กับคนยากคนจนที่เค้าลำบาก พวกมึงไม่คิดจะเหลียวแลกันบ้างเลยรึไงวะ !!! ที่พวกมึงนั่งเสวยสุขเสวยตำแหน่งกันในแต่ละวันนั้นมันสุขบนความทุกข์ใคร โคตรพ่อ โคตรแม่มึงไม่จนบ้าง ก็ให้มันรู้ไป !!!! (http://kingofpeace.org/images/judge-with-gavel.jpg) หัวข้อ: ปอเนาะ เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 19-03-2007, 21:00 (http://www.sarakadee.com/feature/2003/09/images/pondok_01.jpg) "อัชฮะดุอันลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ วะ อัชฮะดุอันนะ มุฮัมมะดัรเราะซุลุลลอฮ" ปอเอยปอเนาะ สิ้นรอยยิ้มเสียงหัวเราะแล้วยามนี้ สถานที่ปลูกฝังคุณความดี กลับชุ่มธรณีด้วยโลหิตสีแดง สีแดงคือสีเลือด ที่ฉาบทาแดนเดือดทุกหัวระแหง หัวใจระโหยโรยแรง เพราะมารแฝงก่อกรรมทำร้าย หยาดน้ำตาชุ่มโชกโศกเศร้า สุขหนเก่าลับร้างจางหาย สันติสุขลาลับกลับกลาย ความตายคลุมครอบรอบทิศ ปอเอยปอเนาะ รอยยิ้มสิ้นเพราะความวิปริต ความปั่นป่วนรวนรุกทุกชีวิต สันติสุขแม้เพียงนิดหรือหามี - ลานเทวา (http://www.muslimcampus.com/pic/p_060922233746s.gif) หัวข้อ: หนีโว๊ยยย ตัวใครตัวมัน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 20-03-2007, 20:40 แลทางลมทางฝนสับสนนัก พายุหนักถั่งโถมโหมกระหน่ำ นาวาล่องวนว่ายตามสายกรรม ทั้งผู้นำผู้ตามในยามนี้ ไทยเอยไทยรักไทย เจ้านายใหญ่บัดซบเร้นหลบหนี ปล่อยลูกน้องลอยคว้างกลางนที เพราะลูกพี่ไร้แผ่นดินจะย่ำแล้ว เย็นเอยเย็นสายลม โชยพัดพรมจันทร์ส่องหล้ามาแผ่วแผ่ว บัดนี้ท่อน้ำเลี้ยงจะเกลี้ยงแนว อ้ายเกลอแก้วจะขายตัวมั่วที่ใด เรือลำนี้ต้องพลีแล้วไอ้แก้วเอ๋ย คนที่เคยเออออ ก็ยากไถ หน้าเลือกตั้งหวังเงินเล่าเอาจากใคร เขาหนีไปหมดแล้วไอ้แก้วเอ๋ย ลานเทวา หัวข้อ: ล่อเป้า เข้านาง บทอัศจรรย์ เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 21-03-2007, 22:35 (http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/three/3t_01.jpg) พรรณรายพรายพร่างกลางผืนนภ สวยสงบงดงามเหมือนความฝัน พริ้มละมัยใสละออพ้อจำนรร นางสวรรค์หรือไรตรึงใจนัก ทิพย์สไบแพรบางปิดร่างน้อย ตาชม้อยสื่อสายใจเป็นใยถัก สีเลือดฝาดเรื่อปรางช่างน่ารัก พริ้มนวลพักตร์ออดอ้อนให้อ่อนใจ แทบทิ้งเหล้าเข้าคลอพะนอนุช เกินยื้อยุดในแรงร้อนเพราะอ่อนไหว นวลแฉล้มแจ่มโฉมโลมฤทัย ยิ้มยวนในมารยาแลท่าทาง ตาต่อตาสื่อสบพบความหมาย กายต่อกายสื่อใจมิไกลห่าง แพรผืนน้อยคล้อยต่ำที่อำพราง งามเรือนร่างอวดโฉมเนื้อโนมพรรณ ประชิดโฉมโลมเร้าเคล้าคลึงเนื้อ แดงระเรื่อยามลิ้นพรอดสู่ยอดถัน สุดหาถ้อยร้อยคำมารำพัน เล้าโลมรันเสน่หาภาษากาย คะนองฟ้าห่าฝนพรำน้ำล้นบ่า ถ่อเรือคาคับคลองสองฝั่งฝาย น้ำเหนือหนุนเอ่อล้นปรี่เร่งฝีพาย สุดลำสายกระแสเชี่ยวเปลี่ยวลำเรือ ราบโค้งคุ้งทุ่งหญ้าปลายนาขวัญ ถ่อค้ำยันไหลลำแฝงด้วยแรงเหลือ ลืมสิ้นญาติวงศ์วานแลว่านเครือ ลืมสิ้นเชื้อพี่น้องยามล่องคา สิ้นแรงลมที่พรมพร่างกระจ่างนภ เรือสยบคาตลิ่งหลังพิงฝา สายน้ำหลากเจิ่งนองเต็มท้องนา เจ้าขวัญตายังหลับพริ้มเหมือนอิ่มใจ ลานเทวา หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 23-03-2007, 11:48 (http://www.morninggarden.com/wiki/images/thumb/5/51/Fin-kit1.jpg/200px-Fin-kit1.jpg) รำพันพจน์บทพร่ำลำนำเพ้อ หวังเพียงเธอผ่านมาพบประสบสาส์น ความรู้สึกแห่งอักษรเพลงกลอนกานท์ ที่จดจารมอบไว้แทนใจรัก จารึกถ้อยริมทะเลคลื่นเห่กล่อม หน้ากระท่อมที่พักกายชายอกหัก เขียนด้วยความเปลี่ยวเปล่าเหงาใจนัก ทำใจพักความเศร้าเคล้าคลื่นลม ยอดสนเอนระเนนไหวในกระแส ความผันแปรเวียนวนทุกข์แลสุขสม รักเอยรักไยหักคว้างกลางระทม ตรึงใจตรมจนบอบช้ำน้ำตาริน เสียงคลื่นซบกลบฝั่งดังสะท้อน เสียงใจย้อนย้ำครวญหวนถวิล ฟังแว่วว่ายังห่วงหาอยู่อาจิณ รักไม่สิ้นจากรักที่ปักใจ ลำนำเพ้อละเมอพร่ำรำพันพจน์ เป็นถ้อยบทแทนน้ำตาใช่สาไถย หวังเพียงเธอผ่านมาสบก่อนลบไป ก็สุขในถ้อยคำของน้ำตา ลานเทวา หัวข้อ: กระต่ายหมายจันทร์ส่องหล้า กับเต่าฤษีบ้านสี่เสา เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 23-03-2007, 11:59 (http://www.manager.co.th/imageupload/images/549000013845002.JPEG) ต่างแข่งขันดันดื้อถืออำนาจ พยาบาทช่วงชิงชัยไร้เหตุผล หวังชนะทุกเรื่องราวเหนือชาวชน มิแลยลความถูกต้องในคลองธรรม เจ้าวายร้ายกระต่ายป่าท้าไปทั่ว ส่วนเต่าชั่วก้มหัวงุดมุดลงต่ำ คิดวางแผนเอาชนะแบบ ร ะ ยำ สร้างก่อกรรมวิปริตจนผิดทาง เอาทิฐิเป็นที่ตั้งหวังชนะ เอามานะที่แฝงเป็นแรงขวาง เอาเล่ห์กล ร ะ ยำ มาอำพราง ตามล่าล้างร่ำไปในทางทิศ อีกเสือสิงห์กระทิงแรดแปดจำพวก ต่างสะดวกเข้าถือหางพรางเบือนบิด เจ้าเทวาป่าเขาเน่าในฤทธิ์ แม้เพียงนิดในอำนาจมิอาจมี ป่าจึงป่วนรวนถึงเมืองให้เคืองจิต เรื่องน้อยนิดกลับรุกทรามลามวิถี วุ่นวายเพราะกระต่ายเขลากับเต่าอัปรีย์ มันชิงดีชิงเด่นเล่นการเมือง - ลานเทวา (http://www.naewna.com/cgi-bin/8-10-2006/32.gif) หัวข้อ: พวกชั่วที่มั่วมา เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 26-03-2007, 13:03 :slime_sleeping: :slime_sleeping: ผะผิวแผ่วแว่วไหวในคืนค่ำ ดาว ร ะ ยำ ระยิบชั่วสลัวแสง ลมสามานย์รานเร้าเข้าสำแดง ชั่วตะแบงความดื้อด้านประจานใจ คล้อยเดือนต่ำเมฆดำเคลื่อนในเรือนนภ โจรมาหลบสร้างเรื่องในเมืองใหญ่ โหมกระแสเลว ร ะ ยำ ทำกันไป คนจั ญ ไ ร ยิ้มรับสดับฟัง เสียงความชั่วนำทางอ้างความชอบ ล้ำเขตขอบความจริงในสิ่งหวัง ร่ำเรียกหาประชาธิปไตยให้เสียงดัง แลน่าชังการแสดงแสลงดี เสรีใดไหนเล่าที่เจ้าเพรียก ความสำเนียกแลเลวร้ายน่าหน่ายหนี เอาหน้าใครมาทายท้าหาเสรี โธ่ ! อัปรีย์จั ญ ไ ร ในกระทำ ผะผิวแผ่วแว่วไหวในกระแส ชั่วผันแปรเป็นดีตีกระหน่ำ เข้าสืบสานทางหนคน ร ะ ยำ มาชี้นำคนเขลาให้เมามัว ปางนั้นยาม มุนีฤษีหลับ โจรยิ้มรับในช่องยิ้มย่องหัว ทหารเอกขี่ม้าหน้าหมองมัว ขยับตัวแสนลำบากเพราะมากความ แล้วไอ้ตู่ไอ้ไข่จั ญ ไ ร เด็ก ไม่ยอมเล็กเที่ยวออกเบ่งไม่เกรงขาม ไล่แหย่รังมดแดงด้วยแรงทราม โห่ประณามด้วยใจชั่วไปทั่วทิศ บัดนั้นปุโรหิตผมขาว ต้องนอนหนาวกับอาเพศวิปริต กูไม่เกี่ยวก็เหนี่ยวอ้างว่าสร้างคิด ดึงให้ผิดร่ำไปนะไอ้เวร ลานเทวา (http://img385.imageshack.us/img385/7421/550000003757324lx8.jpg) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-03-2007, 16:22 คนวันเสาร์เห่าหอนคอยหลอนหลอก
พวกห่าหอกออกลายหมายระส่ำ พิราบขาวชาวกลุ่มสุมละยำ คนชี้นำทำลายไทยใช้เงินตรา จ้างพวกสัตว์จัดตั้งหวังล่อเป้า รุมหอนเห่าเจ้าไข่ดำออกนำหน้า คนชั่วสุดตุ๊ดตู่จากรูมา ล้วนหยาบช้าสามานย์ประจานตน หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 03-04-2007, 12:54 :slime_surrender: :slime_surrender: :slime_surrender: :slime_surrender: ไปไม่รอดตลอดฝั่งสิ้นหวังแล้ว จอดไม่แจวเลยลับไปกับฝัน ที่เคยวาดที่เคยวางล้มกลางครัน อะไรกันต่อไปในทางทิศ จะร่ำร้องมองใครเข้าใจเล่า เอ็งมันเน่าจนเมืองวิปริต ทำอะไรเลื่อนลอยด้อยความคิด แม้เพียงนิดผลงานไม่ผ่านตา ที่เขามาขับไล่นั้นใช่แล้ว เต่าทั้งแถวแลอับอายเขาตายห่า กี่ถ้อยพร่ำเพ้อไปไร้ราคา ยังจะมากลับกลอกออกทีวี หมดเวลาเอ็งแล้วไอ้แห้วเอ๋ย ออกไปเลยไวไวก่อนไล่หนี ไม่เห็นทำห่าอะไรในครึ่งปี เอาแต่แต่งตัวดีไปวันวัน - ลานเทวา หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 10-04-2007, 20:23 :slime_worship: :slime_worship: แผ่วสายลม พรมผ่าน ณ ลานเดือด สายน้ำเหือด กระแส กาลแปรผัน ร้อนใจแรง กว่าร้อน แสงตะวัน นิจนิรันดร์ แห่งใจ ไร้ความดี กระแสกาม ลามร้อน สะท้อนเหตุ สิ้นขอบเขต คุณงาม ตามวิถี เหือดน้ำใจ สิ้นเชื้อ เอื้ออารีย์ ปฐพี ลามชั่ว ไปทั่วแล้ว เมื่อไร้ธรรม อำไพ ใจมนุษย์ เหมือนสิ้นสุด สายลม ที่พรมแผ่ว จะหาชื่น ใดชวน มาหวนแนว ทางเพริดแพร้ว จักพลันหมอง ในกองทุกข์ เพราะความดี นั้นหลุดล่วง ชีพทั้งปวง จึงไร้ชอบ มาปลอบปลุก ยังแต่ความ เลวร้าย ที่รายรุก กาลกลียุค ทุรชน ล้นแผ่นดิน - ลานเทวา หัวข้อ: พระคุณเจ้า เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 26-04-2007, 14:23 (http://202.44.204.76/buddhism/TheWheel.gif) หรือเพราะศาสนาไม่ประจำชาติ ท่านจึงมิอาจแจ้งประจักษ์ในมรรคผล หรือนี่ทางอันควรแจ้งแห่งใจตน จึงรี้พลเข้ามาอย่างท้าทาย มาเพื่อเรียกร้องหรือต่อสู้ มาเพื่อกอบกู้อะไรหาย มาเพื่อล้างศรัทธาให้มะลาย หรือว่ามาวุ่นวายตามกระแส นิมนต์เถอะ พระคุณเจ้า อย่าโง่เง่าตามคนก่อการตอแหล สิ่งใดมันเศร้าหมองควรตรองแล กลับไปแปรใจจิตสถิตธรรม ความพึงใจมิพึงใจใช่ของแท้ สิ่งควรแก้ใช่กฏหมายอุปถัมภ์ กลับไปแลแก้ใจให้ไกลกรรม มิตกต่ำจะดีกว่านะท่านนะ ------------------------------- ลานเทวา (http://pics.manager.co.th/Images/550000005246001.JPEG) หัวข้อ: Re: พระคุณเจ้า เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 26-04-2007, 18:28 (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/emo34.gif) พระคุณเจ้าจัดริ้ว........ขบวนรุก ขบวนแห่สีหมากสุก.........ส่งสู้ ส่งไสคชล้ำยุค...............ขยับยาตร ขยับจีบจีวรกู้..................กระชุ่นแก้รัฐธรรม- นูญนอ๚ะ *(นาคบริพัตธ์)* ..ม็อบสีหมากสุก! :slime_worship: (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 03-05-2007, 18:50 :slime_sleeping: :slime_sleeping: :slime_sleeping: :slime_shy: :slime_shy: กลียุคกลีกาลหรือผ่านพ้น ยังแต่วนความเลวร้ายให้หน่ายหนี ทุกวงการทุกระบบยากพบดี แลกาลีโสมมทับถมทิศ วิปริตบ้านเมืองให้เคืองขุ่น ทั้งตนบุญตนกรรมทำลิขิต กระแสทรามลามรุกทุกชีวิต จะคาดคิดใดหวังประทังใจ ทั้งการบ้านการเมืองล้วนเรื่องร้าย จะคิดหมายใดสร้างหนทางใหม่ ยังแต่ความเลวทรามหางามใด เรียกร้องไปเรียกร้องมาไร้ค่านัก ปลดปล่อยเถอะปลดปล่อย ชาวชนคอยหนทางใหม่ใครตระหนัก เสียเวลาเสียกาลมานานนัก ความดีซักเสี้ยวใจไม่เห็นมี ขอจงคืนอำนาจสู่ประชา จะมัวเสียเวลากระไรนี่ ให้โอกาสกี่หนทนกี่ที พลาดเองนี่ไอ้นายไปตายซะ ------------------------ ลานเทวา :slime_worship: หัวข้อ: แด่พวกพ้อง...............และตัวกูเอง.... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 03-05-2007, 18:55 (http://www.aksorn.com/IMAGES/Lib/Soc/036.jpg) ปฐพีไป่สิ้น..................คนทราม แลอยู่แทบทุกนาม..............ร่ายเร้น เลวทรามส่ำสัตว์ตาม.............เสพส่ง.....ดันดึง ดุจห่าปอบครอบเค้น.................คลั่งเคล้า.....กินโกง ฯ มันคลุ้มคลั่งร่ายเร้า.....................ในสภา มันหยิ่งเหนือปวงประชา....................ค่ำเช้า เหลิงซึ่งอำนาจพา.........................โกยกอบ....โกงกิน ไปสิ้นเชื้อชั่วเฝ้า............................แดกสิ้น....ทำ ลาย ฯ แด่พวกพ้องรวมทั้ง..............ตัวกู อำนาจยลชอบดู...................แน่แท้ ประโยชน์แด่ญาติตู.....................โกยกอบ ใดว่าผิดต้องแก้...........................เพื่อเข้า.....ทางกู ฯ มึงมันจนจึ่งแล้..................คอยฟัง เอาเศษโยนประทัง....................รากหญ้า มึงมันค้านกูจัง.............................จึ่งต้อง.......คุ กคาม ใครตามกูตายช้า...........................บอกให้.....เอาบุญ ฯ ----------------------ลานเทวา------------------------- (http://phetchaburi.ect.go.th/images/1111.jpg) :slime_shy: :slime_shy: หัวข้อ: กำสรวล สุวรรณภูมิ เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 06-05-2007, 22:24 (http://www.suvarnbhumi.com/picture_library/suvarnabhumi_01.jpg) ครั้งสุวรรณภูมิบูมสุดสุด ทุกอย่างผุดเชื่อมโยงด้วยโครงสร้าง คือความภาคภูมิใจไทยทั้งบาง ด้วยรูปร่างหรูหรากว่าที่ใด แค่แรกเริ่มก็คาวกลิ่นฉาวโฉ่ เสียงคุยโวเล่าแจ้งแถลงไข เสียงขานรับกับเสียงค้านบานตะไท หนองกว้างใหญ่ถูกถมด้วยตมเลน งานก่อสร้างรุดหน้ากว่าที่คิด งานประดิษฐ์เฟื่องฟูดูโดดเด่น งานติดตั้งทั่วไปไม่ชัดเจน เหมือของเล่นเร่งให้ทันวันเวลา ท่ามกลางเสียงสอบถามความฉ้อฉล คือวังวนคอรัปชั่นกันถ้วนหน้า เค้กก้อนใหญ่แบ่งปันกินกันมา เสียงก่นด่าไล่หลังยังหน้าบาน ไม่ทันไรก็ชำรุดทรุดไปทั่ว ร้าวและรั่วแตกหักล้วนหลักฐาน นักกินเมืองชั่วช้าและสามานย์ สร้างตำนานมหากาพย์งาบเปอร์เซ็นต์ นี่หรือคือความภูมิใจไทยทั้งชาติ ล้วนผิดพลาดครั้งใหญ่ใครก็เห็น พวกโคตรโกงแก้ต่างอ้างประเด็น แล้วก็เป็นสุสานสินนักกินเมือง สุวรรณภูมิตูมตามความยิ่งใหญ่ คนทั่วไปได้รู้ชื่อแสนลือเลื่อง อลังการงานจรุงโรจน์รุ่งเรือง งามประเทืองก่อนแท้แลเกรียงไกร มาวันนี้มีข่าวฉาวโฉ่หึ่ง ที่เคยทึ่งจึงหมดค่าด่ากันใหญ่ แท็กซี่เวย์เรรวนป่วนทั่วไป รันเวย์ใช้ไม่เต็มร้อยคอยจะพัง สุวรรณภูมิความภูมิใจไม่เหลือหลอ พวกเหลือขอฉ้อฉลคนโอหัง พวกขี้ฉ้อคอรัปชั่นโกงกันจัง คนไทยหวังทั้งประเทศเกิดเหตุอาย สุวรรณภูมิบูมใหญ่ในปีก่อน ทั่วนาครต้อนรับกับความหมาย ต่างประเทศเขตไทยใช้มากมาย สุขสบายสายการบินร่วมยินดี ล่วงเลยไปไม่นานพาลขื่นขม คำชื่นชมจมหายคล้ายบัดสี สนามบินภินท์พังดังอีกที ทุกวันนี้มีปัญหาค้างคาใจ สุวรรณภูมิฟูมฟายมิสายดอก ถึงข่าวออกบอกว่าพังยังสู้ไหว คนเกี่ยวข้องต้องร่วมด้วยช่วยกันไป เพื่อแก้ไขให้ดีมีหน้าตา ------------------------------------------------------------------ ๖ พ.ค. ๒๕๕๐ (http://www.toyota.th.com/content/newsevent/suvanp001.jpg) :slime_shy: :slime_shy: :slime_shy: :slime_shy: หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: pen ที่ 02-06-2007, 12:37 คมคายในอารมณ์กวีเช่นเคยครับโต้ง
เป็นเกีรยติและยินดีทีมีสหายตะนาวศรีเช่นโต้ง ..ภูมิใจอย่างยิ่ง.. เรือนปากกา บ้านแม่ริม pen หัวข้อ: ตีปี๊ป ตีปี๊ป ประชามติ........ เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 21-07-2007, 23:24 (http://www.learningthai.com/newspaper/thairath027.jpg) พลังเงียบไร้คำถามในความเงียบ เย็นยะเยียบซื่งชอบธรรมที่นำสรรค์ รณรงค์ในทางอย่างไรกัน แลเงียบงันในท่าดั่งค่าไร้ ผ่านไม่ผ่านงานนี้มีกระอัก ความชอบธรรมต่ำศักดิ์เกินสร้างใหม่ หนึ่งปีพ้นล่วงผ่านบานตะไท ส่งแรงใจหนุนชอบประกอบการ หากมิล่วงในกรรมซ้ำอนาถ คงพินาศวุ่นวนเกินพ้นผ่าน ความชอบธรรมในมือคืออันตธาน ได้แหลกรานแน่แล้วแม้วกลับมา เป็นห่วงนักท่านเอย สิ่งที่เคยแปรปรวนจักรวนหา ไปตีปี๊บบอกกล่าวชาวประชา ขื่นชักช้ามิทันการจะผ่านรับ เอาใจคนสักหน่อยอย่าปล่อยว่าง แจ้งกระจ่างโฆษณาพาสดับ โหมแรงสื่อกว้างไกลให้ซึมซับ คงผ่านครับหากเป็นมวยมาช่วยกัน --------------------------- ลานเทวา(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/41/41/images/political/kid_may_11.jpg) ขอบคุณ ท่านเจ้าเรือนปากกา แม่ริม โห กว่าผมจะเข้ามาได้ครับพี่น้อง หัวข้อ: จะรานแล้ว .โอ้แก้วมณีรุ้ง (หมัดตรง ถึง หลวงหนุ่ย ไมโคร ) เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 21-07-2007, 23:32 (http://www.komchadluek.net/2007/04/05/images/6794889low.jpg) อสูรสัตว์กรายกร้ำขย้ำหมาย พรตลี้ตายยอมสยบคบอสูร เถรป่าร่ำระกำใจไหวอาดูร จะเกื้อกูลธรรมไว้อย่างไรกัน เหล่าแถนเมืองผีฟ้าชะตาขาด ถูกพิฆาตเข่นฆ่าจนอาสัญ ที่หลงเหลือต่างลี้เอาชีวัน ชุลมุนวุ่นหวั่นในเภทภัย ทุรยุคข้นแค้นแม้แดนสรวง สิ่งทั้งปวงแลอนาถน่าหวาดไหว ผีเป็นเทพเปรตเป็นพระคละกันไป ลุกดั้งไฟลามแผ่นดินมิสิ้นร้อน อธรรมหาญประกาศกล้าท้ายท้ารบ เทพสยบในมรรคาอย่างล้าอ่อน อริยะผู้เพียรเขียนดินดอน เข้าเถื่อนถ้ำจากจรตามมรรคา มารหยิบยื่นคำภีร์วิถีชั่ว ชนก็มั่วเหลิงไปในตัณหา งมงายหลงรวบรัดด้วยศรัทธา อวิชชาปลุกเสกเป็นเลขมนต์ จะรานแล้ว....โอ้แก้วมณีรุ้ง จักจรุงธรรมใดให้มรรคผล เจ้าเถรเถื่อนรำร่ายเล่นขายกล โง่เขลาคนแห่หุ้มรุมบูชา ----------------------------------------- ลานเทวา หัวข้อ: คือคนเช่นดั่งเจ้า..... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 21-07-2007, 23:35 (http://www.moac-info.net/modules/webboard/attachfile/45_334_farmer.jpg) ในข่มข้ามบ่พ้นข้ามแรงตรำ เหนื่อยรินเหงือเพื่อก้อนคำประทังอยู่ กัดเคี้ยวในฝันฝากแทนหมากพลู ประหนึ่งรู้แต่สร้างบนทางมา รู้แต่เกิดมิรู้สิ้นยามตาย อยู่แต่ท้องทุ่งวัวควายนั่นแหละหนา เพราะโครตเหง้าเราหรือคือชาวนา แต่ปู่ย่าเดิมดั้งตั้งชีวิต จักคือคนเช่นกับเจ้านั่นละหนอ เพียงกำเนิดเกิดก่อในที่ผิด บ่แม่นนั่งกินเมืองอย่างเรืองฤทธิ์ ยังแรงคิดแรงฝากเพียงตรากตรำ ในข่มข้ามบ่พ้นข้ามโรยแรงล้า สืบชะตาหัวอกแลตกต่ำ ถ้วนชีวิตพ้นผ่านการกระทำ บ่เห็นคำอิ่มเอื้อเป็นเชื้อบุญ ลานเทวา (http://www.9dern.com/pic2/buff01.jpg) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 22-07-2007, 01:07 คอหยักหยัก สักว่าคน อยากค้นอยู่
มีใบหู คั่นระหว่าง กลางสมอง จิตสำนึก ระลึกอยู่ โปรดไตร่ตรอง อยากสนอง เพียงเสนอ ใช่เพ้อครวญ อันกงกรรม กงเกวียน ยังเวียนจบ ยังไม่ครบ จบสิ้น ยังไห้หวน จะโทษใคร ไหนเล่า ได้ทบทวน เพราะทุกคน มีส่วน ล้วนเวรกรรม หัวข้อ: หมายเหตุ....ปากมูล เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 22-07-2007, 16:43 (http://www.sarakadee.com/feature/2000/06/images/munriver-18.jpg) ปากมูล เคยค้ำเคยคูณ หนอโชคกูเอย เชี่ยวน้ำหลากไหล ไหวลมผ่านเผย เบิ่งแลกระไรเลย ท้องอยากปากมูล ปากเอ๋ยปากมูล บ่ค้ำบ่คูน หนอโชคกูเอย น้ำล้นไหลหลาก วิถีพรากใดเอ่ย เว่าไปใดเปรย หรือเคยเหลียวแลปากมูล ----------------------------------- เมื่อสายน้ำถูกปิดกั้น ชีวิตย่อมแปรผันมิแตกต่าง ต่างคนคิดผิดหนคนละทาง ทางที่ควรจึงห่างเพราะต่างยล ใช่ได้คืบจะเอาศอกดอกนายท่าน เงินที่หว่านเป็นทุนฤาหนุนหน แต่ที่แหลกสลายวายชุมชน คือผู้คนจากถิ่นร้างสู่ทางใด ไปสู่ถิ่นที่ใหม่ไม่เคยคุ้น ไปขายแรงเนืองหนุนในเมืองใหญ่ งานประมงท้องถิ่นสิ้นแล้วไร พื้นบ้านใครใครเล่าปลงทิ้งลงคอ ใช่ดื้อเพ่งดุจด้านสันดานถ่*** แต่มันน้อยในสิ่งหวังพ่ายพังหนอ สิบปีสู้ด้วยหวังตั้งตารอ การเกิดก่ออันยั่งยืนคืนชุมชน ตราบวันนี้ยังไม่พบสบที่หมาย ฝันสลายลับจางในทางหน กี่ผู้นำผู้แก้แลเหมือนกล เล่นเวียนวนพบหน้าแล้วลาเลือน ---------------------------------- ลานเทวา หัวข้อ: แด่ม๊อบถ่***...... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 22-07-2007, 17:49 (http://pics.manager.co.th/Images/550000007772601.JPEG) พวกเอ็งมันแค่มาอาศัย.......แผ่นดินนี้เกิด ความสำนึกอันประเสริฐ........กระไรหา เทิดทรราชเลวเชื้อ......เหนือบิดา เพราะเงินตรา.......คนจั***เขาใช้ซื้อ ------------------------------------------ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/121/121/images/33/103.jpg) ทุรชนผยองเย้ย ธานี สานส่อความอัปรีย์ ทั่วแล้ว ประกาศเถื่อนราวี ตามแต่ ใจนา สบชั่วประดั่งแพร้ว เสื่อมสิ้น สันดาน ฯ ทรามคนยลชั่วช้า มโน คุยบ่งอย่างใหญ่โต เห่าห้าว อุบาทว์สื่อทางโว ขากข่ม ในเลว แลดั่งนรกสร้าง ป่วนบ้าน เมืองคน ฯ บัดซบใจต่ำแท้ เทียวคน เงินส่งจ้างนำยล ชั่วช้า สงบจึ่งร้อนรน โถมถั่ง ปรวนแปร ตามสั่งจากเหลี่ยมหน้า ต่ำส้น ตีนแฮ ฯ ----------------------------------- ส . ผาติสุวัณณ หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 25-07-2007, 15:13 (http://www.siamsewana.org/ssnarticles/articles_upload/democracy.jpg) เลือกกี่ครั้งหวังกี่หนที่วนว่าย ชั่วหรือหายลับลาสภานี่ กี่หนฉีกกี่หนร่างที่อ้างดี รัฐธรรมนูญนี้ท่านได้แต่ใดมา กี่ชีวิตวีรชนที่รนแลก กี่คอกแหกเร้นหลบกลบบางหนา กี่คนดีที่เพ้อเสนอพา กี่ชั่วช้าที่เป็นไปในทางทิศ กี่เลือกตั้งตั้งเลือกกระเสือกกระสน กี่ดิ้นรนในอำนาจวาดลิขิต กี่เงินทุนเข้าแฝงแสดงฤทธิ์ กี่ความคิดโสมมถมสภา กี่อำนาจที่ใช้ไร้ความชอบ กี่ใจมอบพลีเอื้อเพื่อแลกหา กี่อ้างโอ่นโยบายขายประชา กี่แหกตาชาวชนบนแผ่นดิน กี่โสมมในแรงแสดงค่า กี่เวลาที่ซ่อนรับในทรัพย์สิน กี่เรื่องราวฉ้อฉลคนโกงกิน กี่เลือกตั้งจึงจะสิ้นในเลวทราม --------------------------------- ลานเทวา แด่ การเมืองไทย ด้วยความรัก และหวังเหวิด ครับผม หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-07-2007, 11:05 เรื่องชุมนุมกลุ่มล.ก.ป.ทักษณ์
ช่างจงรักภักดีไม่มีสิ้น เขารักพ่อขอทรัพย์รับจนชิน ตวัดลิ้นแผล็บแผล็บแฉลบเลีย คอย"แหกตา"ประชาชนวนหาเรื่อง หวังป่วนเมืองประจานไทยให้เสื่อมเสีย บรรพบุรุษสั่งสอนจนอ่อนเพลีย พวกอ่าเอี้ยไม่ฟังช่างชั่วทราม หัวข้อ: วีระ บุรุษ......ส้นตีน..... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 31-07-2007, 16:56 (http://tnews.teenee.com/politic/img2/52497.jpg) วีรบุรุษใหนเล่าที่เจ้ายก ไยเราแลต่ำตกในยะถา วีรกรรมใดสร้างบนทางมา ป่วนพาราหอนเห่าช่างเขลานัก วีรบุรุษอันใดแค่ไข่แม้ว ติดคุกแล้วก็สมควรอยากกวนหนัก วีรบุรุษอะไรคนไม่รัก แลแล้วชักทุเรศแค่เศษคน ส้น ตีนเถอะ !!! วีรบุรุษ แลไม่ต่างอมนุษย์พวกหน้าขน สร้างแต่ความยำยำนำชาวชน ไปทุรนทุรายหมายค่าตัว วีรบุรุษใดเล่าที่เจ้าเพรียก ความสำเนียกในจิตไยผิดชั่ว ยังจะหลงเรียกอ้างอย่างเมามัว เลวไปทั่วแล้วคนยลแต่ทราม ---------------------------- ลานเทวา :slime_v: :slime_v: :slime_v: หัวข้อ: ขอไว้อาลัยให้กับ อุดมการณ์ ของคนบางคน.....ครับ...... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 04-08-2007, 01:28 "เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" (http://www.ffc.or.th/webboard/images/webboard01/webboard_00118_01.jpg) เคยศรัทธาตุลาคมอันคมกล้า บัดแรงล้าสิ้นแล้วในแนวสรรค์ ตุลาคมคมใดใช้ประชัน ผสมพันธ์จนกลายกลับสดับใด ฟ้าสีทองผ่องอำไพเจ้าไม่แจ้ง เพราะมืดแฝงในจิตคิดไฉน อำนาจเงินรวนเร้าเข้ากุมใจ คมตุลาจึงล้าไกลในแรงคม เพราะสิ้นคมลับเลือนเหมือนสิ้นคิด สำนึกจึงวิปริตเหลือใจข่ม คมเงินตรากล้าแกร่งแทงใจจม พาสิ้นคมสิ้นกล้าไร้ค่ายล ลืมสิ้นแล้วแนวทางเคยสร้างก่อ สันดานส่อในทางกระจ่างหน อุดมการณ์สิ้นไร้ในกมล นี่หรือคนตุลาของฟ้าดิน จากเคยกอบเคยกู้เคยสู้สร้าง บัดนี้จางบทเรียนเปลี่ยนไปสิ้น ตุลาคมคมล้าตุลาชิน จะหายินใดยล '' คนตุลา '' แลว่าหนอนละอาจมจักชมชื่น ผินกฝืนไม่ล่องท่องเวหา สำนึกในคนเราเท่าแลมา สูงต่ำพาแลผ่านการกระทำ กว่าสามสิบปีลับลามีค่าไหน อุดมการณ์หายไปจนใจต่ำ กลืนน้ำลายที่ไหลย้อยกลืนถ้อยคำ ลืมบทจำเคยจดลืมบทเรียน --------------------------------------- ลานเทวา แด่ คนตุลากลายพันธุ์ บางคนนะครับ หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 04-08-2007, 01:29 (http://picdb.thaimisc.com/sigh/127-2.gif) เปลี่ยนโจรเป็นวีรบุรุษ เอาสิบแปดมงกุฏมาสรรเสริญ ปูทางยิ่งใหญ่ให้ทรชนเดิน ประชาชนคือส่วนเกินของแผ่นดิน แลเหมือนสุนัขจะจนตรอก หอนเห่ากลับกลอกไปทั่วถิ่น ประจานฟ้องทั่วโลกให้ยลยิน สาบานลิ้นพลิกฟ้าหาใดดี ข้าจึงลงจากภูตะนาว ฯ มาลุยกับเรื่องราวอันบัดสี สารพัดสารพันวันนี้ แลล้วนกาลีจั*** อุดมการณ์เก่าก่อนดั่งก้อนขี้ แลมิต่างกระหรี่เลยรู้ไหม ลืมสิ้นกลิ่นป่ากลิ่นไพร เพราะเงินใครฟาดหัวชั่วช้า ครั้งหนึ่งเคยจับปืนขี้เมี่ยง เลาะเลี่ยงตามดอยตามป่า อุดมด้วยไฟศรัทธา บัดนี้มาเป็นปอบเปรตเสียแล้ว พี่เอ๋ยน้องเอ๋ยบัดนี้ จิตสำนึกเคยมีกลับแผ่ว เพราะเงินทองบังบดหมดแนว พายแจวตามหลังนายทุน ทุนนิยมสามานย์ผลาญจิต ซ้ายขวาจึงเบือนบิดไปขุ่นขุ่น สิ้นลับไปแล้วใบบุญ เคยเนืองเคยหนุนนำพา แลเถอะวิญญาณสหาย ที่ตายอ้างว้างกลางป่า บัดนี้สหายเก่าเขามา เสพสมพันธุ์ชั่วช้ามิละอาย สาบแช่งเถอะวิญญาณหนุ่มสาว ให้ร้อนร้าวจนถึงฉิบหาย ไอ้คนที่มันกลับกลาย หลงสายหลงพันธุ์การเมือง ตั้งสัจต่อหน้าอนุสรณ์สถาน ข้าจะจองผลาญมันไปทุกเรื่อง จนกว่าแผ่นดินนี้จะประเทือง สาปด้วยเคืองไปทุกดวงวิญญาณ ---------------------------------- ลานเทวา (http://www.lonelyplanet.com/journeys/cognac/graffix/candle.gif) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 05-08-2007, 16:31 ร้อนเหมือนอักษรติดไฟเลยค่ะ หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 06-12-2007, 16:11 (http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK3/pictures/l3-280b.jpg) เหน็บหนาวห้วงพิสวาทอนาถหนาว จักล่วงคราวพ้นคราเพลาไหน หนาวระทมห่มทั่วแล้วหัวใจ สิหาใดแนบกรุ่นมาอุ่นอิง หนาวน้ำตาอาวรณ์ร้าวรอนจิต หนาวชีวิตไร้สุขในทุกสิ่ง หนาวเหน็บในห้วงกาลผ่านประวิง หนาวความจริงโศกแสนแผ่นดินนี้ หนาวบ้านเมืองเคืองตาคราเลือกตั้ง หนาวพลังชั่วฉลบนวิถี หนาวน้ำคำผู้แทนว่าแสนดี หนาวชีวีไหวผ่านกาลโสมม หนาวแผ่นดินสิ้นหนคนดีแท้ หนาวกระแสนายเงินบ้าสิมาข่ม หนาวทางทิศคิดไปกระไรชม หนาวอาจมยามเหลียวดูพวกผู้แทน หนาวไหมแม่ยามนี้ หาคนดีฝังฝากหายากแสน หนาวแผ่นดินสิ้นคนดีที่ขาดแคลน หนาวใจแทนยามเห็นโจรโผนเข้ามา หนาวในบาทในบทสลดจิต หนาวทางทิศแห่งไทยกระไรหา หนาวการเมืองเรื่องโสมมจมระอา หนาวสภาเพราะแลนเหลือบเขมือบกิน หนาวคืนวันหวั่นชีวีไหมพี่น้อง หนาวโจรจ้องจะงับในทรัพย์สิน มันจะมาอีกคราวหนาวแผ่นดิน มันจะมาโกงกินกันอีกแล้ว ----------------------------- ลานเทวา(http://www.cablephet.com/board/images/board/3_1140107989.jpg) หัวข้อ: โดยสายตานายเงิน ... ผู้เป็นเจ้า ...... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 06-12-2007, 16:15 (http://images.google.co.th/url?q=http://i19.servimg.com/u/f19/11/37/54/40/zcapyr10.jpg&usg=AFQjCNGEjhGRZa39xhuwSdtsEjlD3j1wIg) เมื่อสิ้นคนดีลับหาย ย่อมคนชั่วเลวร้ายเสนอหน้า บนสวรรค์ไม่มีเทพเทวดา แลถ้วนพสุธาล้วนแต่มาร เขาจึงแลคนจนเช่นคนโง่ ติดอยู่ในบ่วงโซ่แห่งอาหาร วัฏฏจักรกลืนกินชินสันดาน มิทันการณ์ทันกลกฎมพี เขาจึงแลคนจนมิพ้นทาส จึงผูกขาดทุนกระแสแปรวิถี เป็นนายเงินครองค่าประดามี คอยบงการชีวีความเป็นไป โดยสายตาผู้เป็นเจ้า เงินจักซื้อคนเขลาเพื่อเป็นใหญ่ เงินจักซื้อคนเล่นเป็นบันได เงินจักใช้คูณค้ำซึ่งอำนาจ เขาจึงเห็นคนจนเช่นคนโง่ ติดอยู่ในบ่วงโซ่น่าอนาถ สุดแต่เขาจักลิขิตแลคิดวาด สิทธิ์เสียงดั่งทาสเข้าซื้อขาย มอมเมามายานิยม โดยชื่นชมกระแสเงินร่าย คนจนสู้ทำกินแทบดิ้นตาย เขาสบายทำนาบนหลังคน ---------------------------- ลานเทวา หัวข้อ: พลัง ประชาชน ที่แท้จริง ...... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 06-12-2007, 16:18 (http://www.komchadluek.net/news/2006/03-06/images/-17069.jpg) ใช่พลังชวนเชื่อเพื่ออำนาจ ใช่พลังแห่งทาสผู้สัตย์ซื่อ ใช่พลังยำยำที่ร่ำลือ เพราะพลังประชาคือพลังไทย ใช่พลังทโมนโจรปล้นชาติ ใช่พลังอุบาทว์จมูกใหญ่ ใช่พลังอัปรีย์นอมินี่ใคร หากคุณคือพลังไทยบริสุทธิ์ ใช่พลังวัวควายที่หมายซื้อ ใช่พลังชั่วยื้อรั้งใจยุด ใช่พลังสันดานอันคร้านขุด ใช่พลังอมนุษย์โกงแผ่นดิน หากเราคือพลังผู้สร้างชาติ จงร่วมล้างพลังอุบาทว์ให้หมดสิ้น อย่าให้เค้านำไปใช้หากิน เพื่ออวดอ้างสร้างมลทินประเทศไทย ------------------------------- ลานเทวา หัวข้อ: ดั่งว่า ... เขาศรัทธาประชาธิปไตย ..... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 06-12-2007, 16:21 (http://www.thailandstrategy.com/images/images_up/ba.jpg) กี่ความหม่นหมองในกองทุกข์ พบแต่คำปลอบปลุกอันล่วงหาย ผ่านกี่ผู้อาสามาจางคลาย เพียงสุดท้ายทิ้งไปอย่างไม่แล กี่ความเป็นจริงในชีวิต หวังใครคิดหวนหามาแยแส กี่ความทุกข์ร้าวทนล้นดวงแด หาใครแก้จริงจังหรือหวังมี ดูความเป็นไปในราวรอบ รึพานพบคำตอบในวิถี จะประทังหวังใดในชีวี ประเทศนี้ส่วนมากคนยากจน นั่นจึงตกเป็นเครื่องมือ ให้เขาถือมาอ้างเพื่อสร้างหน เอาความเป็นอยู่ของผู้คน มาเล่นกลอันชอบประกอบการ เป็นพวกหากินบนความหวัง โดยเบื้องหลังคือประชาผู้น่าสงสาร แค่ส่วนเสี้ยวเศษเอื้อมาเจือจาร พยุงความดักดานแห่งชีวิน จะกี่กาลผ่านกลพ้นล่วง แลกี่คำหลอกลวงหรือสิ้น ความโกหกพกมาอยู่อาจิณ การโกงกินยังโอ่อ่าจนน่าชัง ดั่งว่าเขาศรัทธาประชาธิปไตย จึงมาบอกใครใครให้เลือกตั้ง เพียงเพื่อเสียงประชามาประทัง ในสิ่งหวังอันมิใช่ประชาธิปไตย ผลประโยชน์จากอำนาจ นั้นคือที่หมายมาตรกว่าสิ่งไหน เขาจึงยอมทุ่มทุนหนุนลงไป หวังเพียงผลกำไรแลถอนทุน กี่ครั้งหนวนผ่านกาลสมัย แลหาใครมาเปลื้องความเคืองขุ่น แลหาใครพอใด้พึ่งใบบุญ แลหาใครเจือจุนหรือหวังมี ---------------------------- ลานเทวา หัวข้อ: Coming Soon ......... เริ่มหัวข้อโดย: คนภูตะนาว ฯ ที่ 06-12-2007, 16:30 (http://www.praphansarn.com/new/forum/uploads/phutanow/2007-12-03_221253_สำเนา_ของ_02122078.jpg) ....Coming Soon ....... ของขวัญปีใหม่นี้ อย่าลืมเหมาไปแจกกันนะครับ เริ่มออกวางตั้งแต่ปีใหม่ เป็นต้นไปครับผม หัวข้อ: กล่อม มัฆวาน ฯ ..... !!! เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 10-07-2008, 08:14 (http://picdb.thaimisc.com/sigh/145-4.jpg) อุษณกรจะจรจาก พลัดพรากอ้อมอุ่นอรุณสมัย ฝ่าแรงเชี่ยวเปลี่ยวหนบนทางไกล ร้อยสายธารน้ำใจสดุดี สุรบถเบื้องจะจารึก เยี่ยงสำนึกปัญวาสุธาสี กำเนิดหนึ่งพึงสบบรรจบมี คุณความดีวาดไว้ในชีวัน มัฆวาน ฯ จารึกกาลย้ำเตือน ณ เรือนฝัน โดยศรัทธาดำรินิจนิรันดร์ โหมแรงกล้าประจัญประกาศชัย ชัยชนะแห่งประชา กำเนิดหนมรรคาอันยิ่งใหญ่ อำนาจแห่งเสรีประชาธิปไตย คืออำนาจจากหัวใจชาวประชา อุษณกรลับจรจาก งามบุหลันตรึงฟากเรืองเวหา มัฆวานรังสรรค์รวมกันมา หมื่นแสนชาวประชาประกาศชัย ....................... โดยคำ ลานเทวา (http://picdb.thaimisc.com/sigh/145-5.jpg) หัวข้อ: ขอบคุณความ ระ ยำ แห่ง มหาอำนาจ เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 14-07-2008, 01:39 (http://img67.imageshack.us/img67/9903/t18xs4.jpg) (http://img61.imageshack.us/img61/1636/p6zv7.jpg) บทอัศจรรย์แห่งพระเจ้า หรือบริบทอันขลาดเขลาแห่งยะถา โสมมนี้เจ้าได้แต่ใดมา ไยก่อเป็นศรัทธาอันมืดมิด อีกซีกฟากโลกยังโศกเศร้า แต่อีกฟากกลับมัวเมาวิปริต มหาอำนาจยังทระนงหลงความคิด เข้าปล้นพร่าชีวิตโลกที่สาม ความยิ่งใหญ่เสกสร้างอย่างโสมม เป็นภาพลวงนิยมบังโหดห่าม อารยะสาไถยในนิยาม โลกงดงามเพียงใคร่ให้ราคา หรือใครเล่าสดุดีความยำยำ กระทืบย่ำห้วงฝันแลตัณหา อหังการจริตอิสรา ดื่มน้ำตาความรักจักรวาล มันมาพร้อมกับปืนเถื่อน ความตายจึงกลาดเกลื่อนสันนิษฐาน ระงมเสียงอันคุ้นชินเหล่าวิญญาณ สุขสำราญเช่นไรเล่ามนุษย์ ขอบคุณ มหาอำนาจ ที่ยัดเยียดความอุบาทว์ไม่สิ้นสุด หมดยุคล่าอาณานิคมจมเสื่อมทรุด ความขัดแย้งพรายผุดทุกแห่งไป ....................... โดยคำ ลานเทวา (http://www.essential-architecture.com/ARCHITECT/arch-eiffel.jpg) (http://image.dek-d.com/9/620693/11414651.jpg) หัวข้อ: ลี้ภัย .... ! เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 11-08-2008, 22:09 (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/329/17329/images/Apil/10-04-08-18-01-44.jpg) เริ่มแต่เหตุและผลปรากฏ เป็นบริบทแห่งยะถา ชีวิตนี้เจ้าได้แต่ใดมา ถามจักรวาลมายา...บอกไม่รู้ คำตอบอันเป็นไป เลว ร ะ ยำ จั ญ ไ ร ย่อมเห็นอยู่ รึจะใคร่ถามซึ้งมึงและกู ความจริงดูบ่งเห็นกันเช่นไร จากแต่เดิมเริ่มแต่เรื่อง ปรากฏการณ์บ้านเมืองนั้นแบบไหน ความคิดความเห็นอันเป็นไป ถูกต้องชอบธรรมใดบ่งแสดง มันเสื่อมทราม ทุนนิยมนิยามการแสวง มึงก็รู้กูก็เห็นประเด็นแดง หรือจะให้ฟ้าแจงความหลุดพ้น ผู้คนไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่เงินมันยอกย้อนเสียปี้ป่น เบือนบี้คนนั้นแทบไม่เป็นคน สารพัดสาละวนความขัดแย้ง บ้านเมืองจวนจะลุกเป็นไฟ เพราะพลพรรค จั ญ ไ ร ใครเติมแต่ง กี่เรื่องราวหนาวร้อนสะท้อนแทง ใครเล่าแกล้งมึน ระ ยำ ทำไม่รู้ พอสิ้นท่า ไร้ราคาเบือดปดให้อดสู ก็พร่ำเพรียกยุติธรรมมาตำรู บอกโลกให้เอ็นดูทรามสามานย์ มึงทำร้ายบ้านเมืองไม่สิ้นสุด ยุติธรรมอมนุษย์หรือสงสาร ความต่ำช้าอันเบือนบดปรากฏการณ์ หรือลี้ภัยประจานกฏแห่งกรรม จึงขอประนาม ไอ้คนทราม จั ญ ไ ร คนใจต่ำ ผู้กอบโกยโกงกินปลิ้นกระทำ ขอให้กรรมส่งผลอย่าพ้นภัย ........................ โดยคำ ลานเทวา (http://tnews.teenee.com/politic/imr9/455489.jpg) หัวข้อ: Re: ถ้อยเสรี บนวิถีดอกไม้ ใต้แสงเดือน เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 18-08-2008, 12:23 (http://img392.imageshack.us/img392/564/1152ys4.jpg) สวัสดี ความสับสน...! จากเราผู้ว่ายวนอุปสรรค ที่สวยสดงดงามคือความรัก ใคร่ทึกทักจริงแท้เอาแต่ใจ สวัสดี ความงี่เง่า...! วันวันเฝ้ามารยาทำสาไถย คอยป้ำป้ำเป๋อเป๋อละเมอไป สู่ดวงดาวดวงใดยังมิรู้ สวัสดี ความบัดซบ...! อันบ้านเมืองพานประสบอย่างอดสู แลนั่นนี่ขุ่นเคืองเรื่องมึงกู เทวดาเฝ้าดูทุเรศจัง สวัสดี ความยิ่งใหญ่ สูงเพียงไรจึงจะงามสมความหวัง เห็นปีนป่ายยื้อยุดสุดกำลัง เพื่อไปดีเด่นดังประเดี๋ยวเดียว สวัสดี ความโง่เขลา....! ซ่อนเป็นเงาเร้นใจใครแลเหลียว ทำเป็นลึกตรึกเห็นเช่นนั้นเชียว แท้ฟันเคียวคมบิ่นสิ้นปัญญา สวัสดี นายสมัคร....! จริยธรรมเอ็งรู้จักบ้างไหมหว่า ความละอายหายหดหมดราคา ยังจะมาทนอยู่มิรู้ความ สวัสดี ยุติธรรม.... ! ถูกกระหน่ำจมดินอย่างหมิ่นหยาม บริสุทธิ์อันด่างพร้อยคอยประนาม ให้โลกทรามสับสนเพราะคนเลว ....................... โดยคำ ลานเทวา (http://chachoengsao.doae.go.th/ratchasan/images/baby.jpg) |