ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ได้อ่านคำประกาศสู้แบบนิ่มๆ ของณัฐวุฒิแล้ว ประทับใจมาก
 22 กุมภาพันธุ์ 2550
“หากวันที่ 1 มี.ค.เราออกอากาศแล้ว มีการแจ้งความจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หากคิดว่า จะดำเนินการกับพีทีวีที่ทำทุกอย่างถูกต้อง และเปิดเผยทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นเนื้อหาด้วยซ้ำแล้ว เราก็คงไม่มีปัญญาจะไปต่อต้าน หรือขัดขืน เพราะหากเราอยู่ในสังคมที่ปราศจากความเป็นธรรมและไร้ซึ่งสิทธิเสรีภาพแล้ว อิสรภาพก็ไร้ความหมาย”

แปลกันง่ายๆ เร้าใจแบบสนธิก็คือ "คุกเป็นคุก" นั่นเอง

อ่านแล้วพาลให้นึกถึงอีกวาทะเด็ดของสนธิเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548
"ผมฝากไว้นิดหนึ่งนะครับ ผมไม่ใช่วีรบุรุษ ผมเป็นคนที่กลัวมากๆ ...แต่ผม คนเรามันถึงจุดๆ หนึ่งที่มันกลัว กลัวมากจนกระทั่งมันต้องกล้า พอมันกล้าแล้วมันไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้วในชีวิต...ถ้าผมถอย เขาก็บอกผมขี้ขลาดตาขาว ถ้าผมถอยเขาก็บอกผมรับเงินนายกฯ เพราะฉะนั้นผมจะเรียนให้บรรดาพวกกระเฬวรากที่อยู่รอบๆ ตัวนายกฯ งานนี้ผมสู้ตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย ผมไม่มีอะไรจะกลัวอีกต่อไปแล้ว..."

เพื่อนๆ รู้สึกเหมือนผมไหมครับ วาทะหนึ่งให้ความซาบซึ้ง วาทะหนึ่งให้ความเร้าใจ ... ให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้ของเสรีสื่อซึ่งเป็นหลักพื้นฐานของทุกสังคม เพียงแต่ระดับการกดดันในการต่อสู้แตกต่างกันเท่านั้น

แต่เมื่อทดลองใส่แว่น "รู้ทัน" แล้วอ่านอีกครั้ง ความรู้สึกของท่านจะแตกต่างกันออกไป

แว่น "รู้ทัน" มีส่วนประกอบของการวิเคราะห์พื้นฐานเบื้องหลังของคนทั้งสองคนที่แตกต่างกัน นายณัฐวุฒินั้นถึงแม้จะมีพื้นฐานจบนิเทศน์ อาชีพหลักทำงาน PR และสอนวิชาศิลปการพูด แต่เคยเป็นผู้สมัครสส.ทรท. การต่อสู้สื่อดาวเทียมครั้งนี้จึงมีเป้าหมายหลักเป็น "สื่อพรรคการเมือง" ชัดเจน เป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของพรรคการเมือง มิใช่การต่อสู้เพื่อประชาชนสังคมไทย.. ผลการต่อสู้ก็ไม่ถึง "ตาย" ... อย่างมากก็เพียง "คุก" เท่านั้น... (ก็ต้องยกย่องว่าเขามีความกล้าในระดับหนึ่ง)

แต่สำหรับนายสนธินั้นแตกต่างกัน ทั้งชีวิตเขาทำงานสื่อ ทำธุรกิจสื่อ การต่อสู้ของเขามีความชัดเจนของ "เสรีสื่อ" ที่ชัดเจน.. ในช่วงที่เขาประกาศต่อสู้เมื่อปลายปี 2548 ไม่มีใครระบุได้ว่าผลจะเป็นเช่นใด และไม่ว่าเขาจะมีเบื้องหลังผลประโยชน์อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้ เพราะการอยู่นิ่งๆ เป็นการรักษาผลประโยชน์ที่ดีกว่า... การตัดสินใจต่อสู้แบบ "เจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย" จึงสามารถสื่อออกมาถึงการต่อสู้เพื่อ "เสรีสื่อ" ที่ชัดเจน... และปลายทางของการต่อสู้นั้นอาจ "ถึงชีวิต"

กรณีของสื่อดาวเทียมนี้ จึงควรแยกออกเป็นสองกรณีที่ชัดเจนคือ "เสรีสื่อ" หรือ "เสรีพรรคการเมือง" ซึ่งในภาวะที่บ้านเมืองยังไม่ปรกตินี้มีระบบระเบียบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าส่งเสริมด้านใด คุมด้านใด และเลือกใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันในการจัดการกับ ASTV และ PTV ครับ

พูดไปก็ไร้ความหมายครับ ต่อให้เนื้อหาดียังไงแต่ผิดกฎหมายก็คือผิด ไปทำมาให้ถูกต้องตามกฎหมายสิครับ

ไม่งั้นบ้านเมืองจะมีขื่อมีแปไว้ทำอะไรล่ะครับ

ส่วนไอ้กรณีที่ว่า คนอื่นทำผิดได้ แล้วทำไมกรูจะทำไม่ได้บ้าง อันนี้เป็นข้อแก้ตัวของเด็กที่ยังด้อยวุฒิภาวะครับ

ไม่ใช่พวกระดับหัวแถวของชาติบ้านเมืองอย่างพวกไทยรักไทย ทำอะไรน่าอายมากๆ น่าจะมีจิตสำนึกมากกว่านี้

สงสัยจะเห็นเรื่องการทำความผิดเป็นเรื่องธรรมดาๆไปแล้ว มิน่าชาติบ้านเมืองถึงได้วุ่นวายจนทุกวันนี้

เพราะขนาดพวกนักกินเมืองเอง ยังไม่เคยรักษากฎหมายเลย ความศักดิ์สิทธิ์มันจะอยุ่ที่ไหนกันล่ะ เฮ้อ

ถ้ามันแน่จริงก็กวาดจับ คนพวกนี้ เข้าคุกสิว้ะ

อย่าได้เอาไว้ คนพวกนี้มันสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทย

ทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ บ้านเมือง

ต้องจับ พวกมันให้สิ้น เอามนัเข้าคุกไปเลย 5555555555555555555555

 :slime_cool: มีสมองคิดได้แค่นี้เองหรือ? เก่งแต่ปากล่ะสิ

ชอบแถคนใหม่น่ารัก กว่าชอบแถคนเก่าอีก   :slime_bigsmile:ว่าแต่ว่าคนเดียวกันรึเปล่าชักสงสัย  เลียนแบบซะเกือบเหมือนเลย

ใช่ครับ ทำเอาผมอ่านแล้วอึ้งไปพักนึงทุกทีเลย

เกิดนึกอยากใช้บริการของศาลปกครองขึ้นมาเชียว...คงเห็นคนอื่นเขาใช้ได้

..............ITV เดี้ยงหน้าแตกมาทีแล้ว......ม่ายเข็ด !!!

ถ้ามันทำตัวเป็นสื่อจริงๆ ก็อาจยังพอให้ แต่นี่ออกจากขั้วรายำมาจัดรายการ มันดูจะทุเรศเกินไป  ในข้างส่วนสนธินั้น มันเป็นสื่อชัดเจน สามารถด่าได้ทุกขั้ว ตั้งกะ รัฐบาลเก่าทักษิณ, ฝ่ายค้าน, ปชป., ชาติไทย, คมช., รัฐบาลใหม่ ด่าการเมืองได้หมด  แล้วถามหน่อยว่าไอ้น้ำหน้าอย่าง อดีตโฆษกพรรค และทีมตอบโต้ที่มาทำ ผีทีวี เนี่ย มันมีหรือจะกล้าด่าพรรคที่คุ้มกะลาหัวมัน นอกจากเอาความเป็นสื่อมาบังหน้า  ...สงสัยอีกอย่างเอาเงินที่ไหนมาทำว่ะ

  ยอมรับครับ ว่าพวกนี้กล้าแอ่นอกท้าทายให้จับกุม ยั่วยวนกวนตรีณ คมช.และรัฐบาล

  จุดประสงค์และเป้าหมาย ดูแล้วอยากให้รัฐจับตนเข้าคุกเสียเหลือเกิน จะได้ปลุกปั่น ประชาชนให้ลุกฮือได้ง่าย หรือสามารถสร้างเงื่อนไขใด ๆ ก็ตามให้ประชาชนลุกฮือและก่อความวุ่นวาย


   นับเป็นการใช้หมากชั่นต่ำเดินเกมชั้นสูง คุ้มค่าไม่น้อย

   ไม่ให้เปิด ก็จะมีปัญหา ต้องหาเหตุผลทางกฎหมายมาอธิบายวุ่นวาย แล้วพวกมันจะรับฟังหรือเปล่า นี่ซิ(ดูมันกวนตรีน ก็รู้แล้ว ว่าถ้าอ้างกฎหมายมันแม้จะถูกต้องแต่มันก็ตั้งท่าไม่ยอมรับ อีกนั่นแหละ)

   ผมเห็นด้วยและเห็นว่า ควรจะตรวจสอบเรื่องที่มาของเงินทุนในการจัดตั้ง และตรวจสอบภาษีเงินได้ของบรรดาผู้ก่อการ (แต่ละคนยาจกหุ้มทองทั้งนั้น ยังกับสามล้อถูกหวย มันเอาตังมาจากไหน)


  และ ประการสำคัญที่ผมมอง ถ้าปล่อยให้พวกนี้ออกทีวีได้เมื่อไร อันตรายครับ เพราะแต่ละตัวนั้น เป็น "นักหมิ่นประมาทและจาบจ้วงเบื้องสูงมืออาชีพ"


  พวกมันจาบจ้วงเบื้องสูงแน่ ๆ เพื่อให้ตนเองถูกจับ และก่อให้เกิดกระแสเหมือน 6 ตุลา นำมาซึ่งการปั่นป่วนจลาจล(Chaos) และนองเลือดคนไทยด้วยกันเอง อันตรายมาก ๆ ครับ

(ไอ้ไข่แม้วดำ มันรู้ครับ ว่าจาบจ้วงเบื้องสูง โทษเบาหวิว บรรลุผลดีเลิศ คุ้ม ครับ คุ้ม)

น้ำหน้าไม่กี่ตัวพวกนั้นจะเอาเงินที่ไหนมาเยอะแยะ แล้วกล้าถึงขั้นท้าทายกฏหมายถึงเพียงนี้ ถ้าไม่มี back ที่รายำและเงินหนา ...แต่อยากจะรู้นักว่าไอ้ชาวรากหญ้าฐานเสียงของมันจะมีปัญญาซื้อจานดาวเทียมหรือ นอกเสียจากมันจะแจกเอื้ออาทร คราวนี้ละก็หลอกควายได้ถนัดปากเลย