ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ต้อง ยุติ และ ปิด "มูลนิธิไทยคม" ก่อนอื่นใด!

อ๊าวทำไมต้องปิด เรื่องเป็นมาอย่างไรหนอ?


เรื่องมีอยู่ว่า

ดาวเทียม เป็นของคนไทย อาแม๊วไม่ได้ซื้อซักหน่อย! (เชื่อลูกหินเถอะ)
เช่นกันกับ สนามบิน นั่นแหละ อาแม๊วก็ไม่ได้ซื้อ! (เชื่อลูกหินเถอะ)

มูลนิธิไทยคม    ตั้งขึ้นมาเพื่อ เป็นอีแอบ สวมรอย ให้ประชาชนไทย "หลงย้ำคิดตรึงจิต"
ว่า อาแม๊ว เป็นผู้ซื้อดาวเทียมไทยคม และเป็นเจ้าของ

ไทยคม คือชื่อพระราชทานที่พ่อตั้งไว้ ให้ดาวเทียมก่อนแล้ว

แต่ มูลนิธิไทยคม ถูกอ้างเพื่อเอาใจพ่อ ว่า จะทำเพื่อการศึกษา

เชื่อว่ามีคนไทยยัง โย่วๆ ร้องว่าม่ายจริ๊งม่ายจริงอยู่
 ..ก็.. เบื่อ..ขี้เกียจเล่า กลับไปค้นหาความรู้ ดูเอาเอง

ที่แท้จริง มูลนิธิไทยคม ถูกตั้งมาด้วยแผนการตลาด ให้ ประชาชนไทย หันเห ความสนใจของผู้เป็นเจ้าของ
ว่าเป็นของ อาแม๊ว นั่นเอง  .. ซึ่งแน่นอน . อาแม๊ว เป็นผู้ริเริ่ม จัดซื้อ จัดจ้าง เอง แต่เงิน เป็นของพ่อหน่ะฮะ


ปัจจุบัน มูลนิธิไทยคม ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับพ่อ และ นักเรียนที่พระราชวังไกลกังวลเลย
มีแต่ชื่อนำหน้าว่า เป็น มูลนิธิ ที่สนับสนุนโดยอาแม๊ว  ( ทั้งๆที่เงินสนับสนุนเป็นเงิน ชาติน่านแหละ)
อัฐยายขนมยาย รู้จักไหมฮะ

คนมาอ่าน มาเห็น ก็เข้าใจว่า มูลนิธิไทยคม กับ ดาวเทียมไทยคม เหมือนๆกัน
พลอยทำให้ คนไทยทั้งชาติ หลงภูมิใจ ว่า อาแม๊ว เป็นเจ้าของ ดาวเทียมไทยคม

ไปค้นหาข้อมูลดูสิฮะ ... ว่า คนชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้จ่ายเงินซื้อดาวเทียมไทยคม หรือไม่?

และมูลนิธิ กำมะลอ ที่อยู่หน้าตึก เนี่ยควรทุบได้แล้วฮะ


*** กระทู้ พูดเรื่อง ยุบมูลนิธิทิ้ง ไม่ได้คุยเรื่อง ทวงคืนดาวเทียม นะจ๊ะ ***
กรุณาเขย่ากระทู้ติดตาม..ก่อนอ่าน....อย่าเผลอแถ นอกเรื่อง  :slime_agreed:  

หนูลูกหินลองไปเล่าแถวราชดำเนินซิคะ จะได้มีคนมาร้อง ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไม่จริง  :slime_smile2:

เฮ้ยอย่ามั่วน่า ดาวเทียมเป็นของไทยได้ไงต้องเป็นของสิงคโปร์สิ ไม่งั้นจะไปยึดจากไทยคืนไทย
ทำหอกอะไรบ้าแล้ว ไปว่า ผบทบ ประธาน คมช บ๊องส์หรือไง หาเรื่องหรือเปล่า เค้าอุตส่าห์ให้รักชาติ
แล้วมูลนิธินั่นก็มีกฎหมายมูลนิธิค้ำคออยู่จะไปทำประโยชน์อะไรก็เรื่องของเค้า คงไม่มาทำการค้าหา
กำไรหรอก จะปิดไปทำไม ใครจะสนับสนุนไม่เห็นต้องสนใจ ทำประโยชน์ได้ก็พอ คนอะไรจะทุบมูลนิธิ

“ขณะนี้ก็มีมูลนิธิอยู่แล้วคือมูลนิธิไทยคม จะบริจาคเงิน 1 พันล้านบาท เข้ามูลนิธิ จะได้ไปทำเรื่องแก้ปัญหาความยากจน การศึกษา เรื่องวิจัยในการแก้ปัญหาของชาติ เสริมให้ผมทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน หมดก็เติมเข้าไปอีกไม่เป็นไร อันนี้คือความตั้งใจ”

สิ่งนี้คือเจตนารมณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยปรารภไว้เมื่อครั้งได้เงิน 7.3 หมื่นล้านบาท จากการขายหุ้นชินคอร์ป เพื่อลดทอนกระแสสังคมที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนัก โดยย้ำว่าอย่างน้อยที่สุดแล้วเงินส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ในกิจการเพื่อสาธารณประโยชน์ตอบแทนสังคม

ทว่าจนถึงวันนี้ เงินพันล้านยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มี ใครรู้ว่าได้ถูกแปรสภาพไปเป็นโครงการความรู้ไฮเทคหรือยัง เมื่อการยึดอำนาจ 19 กันยายน ทำให้เส้นทางการเมืองและอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านของนักการเมืองมหาเศรษฐีรายนี้ ถูกรถถังพุ่งเข้าชนจังเบ้อเริ่ม แม้แต่ในส่วนของมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์ของครอบครัวชินวัตร ก็ได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ย้อนอดีตเมื่อครั้งยังตั้งไข่ มูลนิธิไทยคม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2536 โดยมีนายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา เป็นประธานกรรมการ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรองประธานกรรมการ ทุนจดทะเบียน 2 แสนบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษา โดยเฉพาะการสื่อสารไฮเทคผ่าน “ดาวเทียมไทยคม” เพื่อส่งตรงการศึกษาไปในพื้นที่ชนบท

ด้วยการเป็นมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์ จึงห่างไกลจากวงโคจรการตรวจสอบภายหลังการยึดอำนาจ ด้วยเงินสดกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมโฉนดที่ดินไม่เปิดเผยรายละเอียดและมูลค่าอีกจำนวนหนึ่ง

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบ เพราะเป็นมูลนิธิที่ขึ้นอยู่กับเงินบริจาคของคนใน “ตระกูลชินวัตร” ภายใต้นโยบาย “ไม่รับเงินบริจาคจากบุคคลภายนอก” ดังนั้นทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวชินวัตร ย่อมส่งผลต่อชะตาของมูลนิธิเช่นกัน

แม้ชะตาชีวิตของครอบครัวชินวัตรจะพลิกผัน แต่เจ้าหน้าที่มูลนิธิไทยคมยืนยันว่า มูลนิธิยังคงเดินหน้าโครงการให้ความช่วยเหลือ ตามวัตถุประสงค์การตั้งมูลนิธิต่อไป เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงโครงการช่วยเหลือต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่ได้ลงเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์เท่านั้น

ทว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา น.ส.สุภา แจ่มจิราวรรณ ได้เป็นผู้รับมอบอำนาจขอยื่นจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวประธาน ระเบียบการใช้จ่ายเงินมูลนิธิของประธานและกรรมการบริหารมูลนิธิ และย้ายที่ทำการมูลนิธิจากอาคารชินวัตร 3 ไปยังที่ทำการเก่าพรรคไทยรักไทย ถนนราชวิถี

ในที่สุดชื่อของ “บรรณพจน์ ดามาพงศ์” พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ก็กลับมาให้เห็นอีกครั้งในฐานะประธานบอร์ดคนใหม่ของมูลนิธิไทยคม แทนที่นายโอฬาร ไชยประวัติ ซึ่งกลายมาเป็นรองประธาน แม้จะไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการเปลี่ยนประธานบอร์ดครั้งนี้ แต่คนวงในหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพราะพี่เขยของอดีตนายกฯ รายนี้ เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ ที่สุด โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ มหาศาลของครอบครัวชินวัตร ซึ่งนายบรรณพจน์ก็เคยเข้าไปนั่งตำแหน่ง ประธานบอร์ดองค์กรของตระกูลชินวัตรมาหลายที่แล้ว

ความเปลี่ยนแปลงอีกประการหนึ่งคือ การกำหนดให้ประธานหรือรองประธานบอร์ดในกรณีทำหน้าที่แทน มีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้คราวละไม่เกิน 2 แสนบาท หรือกรรมการ 2 คน ตามรายชื่อที่คณะกรรมการกำหนด ให้มีอำนาจร่วมกันอนุมัติสั่งจ่ายเงินได้คราวละ 5 ล้านบาท หากเกินกว่านี้ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการโดยเสียงข้างมาก เว้นแต่กรณีจำเป็นเร่งด่วนให้อยู่ในดุลยพินิจของประธานกรรมการมูลนิธิ แต่ต้องรายงานให้คณะกรรมการมูลนิธิทราบในการประชุมครั้งต่อไป
ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายเงินในมูลนิธิต่อจากนี้ไปจะต้องเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ภายใต้สถานการณ์ที่ตระกูลชินวัตรกำลังโดนสอบอย่างหนักเรื่องทรัพย์สินที่เกี่ยวพันกับการเสียภาษีหุ้นชินฯ จึงจำเป็นต้องให้คนใกล้ตัวที่ไว้ใจที่สุดมากำกับด้านการเงิน

เรื่องที่ไม่ได้เป็นข่าวแต่คนกลับอยากรู้ที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือ เงิน 1 พันล้านบาท ที่อดีตนายกฯ เคยลั่นว่าจะนำเข้ามูลนิธิ
นายสมชาย ปรีชาศิลปะกุล อาจารย์ประจำภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วมูลนิธิทั่วไปจะต้องส่งรายงานบัญชีทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศลไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้ตรวจสอบการดำเนินการ เพื่อป้องกันการฟอกเงินหรือการดำเนินการที่ผิดวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอยู่แล้ว

"ผมคิดว่ามูลนิธิมักไม่ค่อยตกเป็นเป้าของการฟอกเงินหรือพักเงินเท่าไหร่ เพราะประเด็นเรื่องการลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200% ยังไม่ใช่สิ่งที่น่าจูงใจเท่าไหร่ ถ้าจะมีเรื่องในทางคอร์รัปชันก็น่าจะเป็นการผูกติดสัมปทานในโครงการช่วยเหลือกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากกว่า" นายสมชาย กล่าว
ด้าน นายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์ประจำภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า จุดนี้น่าสังเกตมากที่สุดอยู่ตรงที่มูลนิธินั้น ๆ ได้รับการบริจาคทรัพย์สินมาจากใคร มีการนำเงินนั้นไปใช้อย่างไร

สำหรับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานสอบสวนและนิติกร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า โดยปกติแล้วมูลนิธิจะต้องรายงานงลดุลบัญชีทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิในแต่ละปีไปยังสำนักงานเขต ซึ่งจะรายงานต่อไปยังกระทรวงมหาดไทยว่ามีการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิหรือไม่ ส่วนเรื่องความไม่ชอบมาพากลใด ๆ นั้น จะปล่อยให้เป็นเรื่องการจัดการภายในมูลนิธินั้น ๆ เอง โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ร้องเรียนให้ตรวจสอบมักเป็นผู้มีส่วนได้เสียในมูลนิธิมากกว่า ทว่าบางกรณีเท่านั้น สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเป็นผู้ขอตรวจสอบหากพบเรื่องมูลเหตุที่น่าสงสัย และจะส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) หรือดำเนินการเป็นคดีความต่อไป

ทว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่มีกรณีใดที่ถูกยื่นดำเนินการต่อเป็นคดีความ มีเพียงที่ถูกตรวจสอบจากดีเอสไอเท่านั้น แต่ไม่มีกรณีมูลนิธิไทยคม
หากจะมองดูทิศทางของมูลนิธิไทยคมจากวันนี้แล้วไทยคมจะยังคงเป็นมูลนิธิที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไปในนามของตระกูลชินวัตร และหาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทย เขาอาจทำงานมูลนิธิตามที่เคยปรารภไว้ก่อนหน้านี้ อย่างน้อยที่สุดก็ระยะหนึ่ง เพื่อรอความเปลี่ยนผันของสถานการณ์การเมือง
ตอบแทนสังคมอย่างไร

(http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5151863/P5151863-0.jpg)

นี่ไงหลักฐานว่า ไอ้ลูกหินมั่ว ดาวเทียมใช่ของไทยซะที่ไหนตอนนี้ มองเห็นแววตานักศึกษาผู้รักชาติมั้ยนั่น
เค้ากำลังทวงคืนกันอยู่ เชื่อมั่งสิ ว่ามันเป็นของสิงคโปร์ เห้อ

แล้วชอบแถ คิดว่ามันเป็นของใครหล่ะ  :slime_bigsmile:

ขอสนับสนุนให้รัฐบาลทวงสมบัติชาติคืนมาให้ได้ครับ

รัฐบาลขิงแก่สู้ๆ  :slime_sentimental:

พักนี้คุณลูกหิน เล่นแีรง วุ้ย

ปกติ ไม่ค่อยเห็น คุณลูกหิน พูดแรงระดับนี้กะใครนา  (หรือว่าไม่เห็นเองก็ไม่รู้)

แถเอ้ย ภูมิใจได้เลย ว่ะ เกิดมาชาตินี้ ทำให้ลูกหินว่าได้ถึงขนาดนนี้

ถือว่าชาตินี้เกิดมาไดทำหน้าที่สมชาติควาย  แถ หล่ะ
555+

คุณชอบแถ2 'ร้อนรน' เชื่อตามคคห.นี้โดยไม่ไตร่ตรอง ไม่ต้องนำไปสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมด้วยซ้ำไป   กลัวหลานลูกหิน'แฉ'เรื่องลับเฉพาะของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก เรื่องใหม่หรือไง.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ยิ่งนาน ยิ่งเข้าใจได้ว่าคุณชอบแถ2 ไม่ใช่ 'รากหญ้า' ชาวบ้านที่เป็นคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ธรรมดาเสียแล้ว.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ลำดับชั้น 'เด็กในบริษัท' หรือ 'เด็กในบ้าน' หรือ 'ทนายหน้าหอ.....'

รัฐบาลแม้ว > สิ้นแผ่นดิน
รัฐบาลแอ้ด > สิ้นความหวัง


...รอวันออกไปฆ่ากัน
หวังว่าคงได้ฆ่าฝ่ายไอ้แม้สัก 2-3 คน ก่อนโดนฆ่านะ
...เหอ ๆๆๆ ( หัวเราะแบบเศร้า ๆ )

มูลนิธินี้ มีบัญชี ตรวจสอบได้ไหมครับ  :slime_bigsmile:

ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยยยยยย ขอบคุณที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ฝนที่ตกทางโน๊นนนน หนาวถึงคนทางนี้   :slime_bigsmile:

http://www.dlf.ac.th/dltv/information/information-detail.php?information_id=2&lang=th

มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม

นี่ค่ะ ของจริง ช่วยการศึกษาของเด็กจริง  ช่วยกันส่งเสริมด้วยนะคะ  :slime_worship:

นี่ดาวเทียม

นี่ก็ดาวเทียม

นี่ก็ดาวเทียม

นี่ก็ดาวเทียม

เป็นมูลนิธิกำมะลอที่ชื่อดีที่สุดในบรรดากำมะลอทั่วประเทศ :slime_sentimental:

ทีกระทู้นี้ดันตัดรูปไม่เป็นแฮะ :slime_shy:

การนำชื่อพระราชทานไปทำประโยชน์เพื่อตัวเองมันทุเรศมากครับ

คุณลูกหินครับ ผมไปทำธุระที่แถวๆสถานีดาวเทียมไทยคมออกบ่อย ว่างๆ ผมจะแวะไปให้คุณลูกหินเป็นไกด์ จะได้หรือไม่ครับ  :slime_bigsmile:

อ้อ สถานีตรงนนทบุรีนะครับ  :slime_smile: