ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

กลุ่มผู้เลี้ยงโคนม กว่า 1,000 คน ชุมนุมหน้าทำเนียบเรียกร้องรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคานมตกต่ำหลังทนแบกรับภาระไม่ไหว ขณะที่ส่งตัวแทนเข้าเจรจาในเวลา09.00 น.

พ.ต.ท.กฤษฏางค์ จิตตรีพล รองผู้กำกับการสืบสวน สน.ดุสิต เปิดเผยว่าขณะนี้บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก มีกลุ่มผู้เลี้ยงโคนมแห่งประเททศไทย กว่า1,000 คนรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอเข้าพบ นายกรัฐมนตรี พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลราคาหัวอาหารโคนมที่มีราคาสูงขึ้น แต่ราคาน้ำนมที่ผลิตออกจำหน่าย กลับมีราคาที่ตกต่ำ สร้างความเดือดร้อน ให้กับกลุ่มผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ จึงรวมตัวกันมาเพื่อเรียกร้องขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวขณะที่ทางรัฐบาล ได้ส่งตัวแทนมาเจรจา และ ได้นัดหมายกับตัวแทนผู้ชุมนุม จำนวน 16 คนเข้าเจรจาถึงปัญหาดังกล่าวในเวลา09.00น.

อย่างไรก็ตามในส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้น ทาง สน. ดุสิต ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นายเข้าดูแลความสงบและรักษาความปลอดภัย ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นได้ชุมนุมกันบริเวณทางเท้าหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยความสงบ
http://www.innnews.co.th/Breaknews.php?nid=20382

ค่อยๆ มีปัญหากันทีละสาขาอาชีพ ไอ้ที่ไปจ้างให้ทำนายแย่ๆ ในเดือนมีนา เมษา อาจเป็นจริงได้นะ

ฮ่าๆๆๆ...เทศกาลม๊อบรายวันเริ่มแล้วฤา!?!

ผลพวงจากFTAส่วนหนึ่งล่ะ

ใครเป็นคนเซ็น FTA ล่ะครับ

ม็อบนี้ สาวๆในเสรีไทยไม่ไปหรอกค่ะ พวกเราไม่ตกต่ำ  :slime_bigsmile:

หึหึหึ อ้าวด่าพวกเดียวกันเองซะแล้ว ผลงานบักเหลี่ยมไม่ใช่เหรอ บักชอบแถก 5555 :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

ใครที่จ้างให้ทำนายคะ

FTA ไทย - ออสเตรเลีย เรอะครับ...

อ้าว...  แล้วรัฐบาลไหน เซ็นไว้  แล้วใครได้ประโยชน์ล่ะครับ   :slime_doubt:

ไม่รู้ว่าใครเซ็นไว้อ้ะ
แต่คนไทย ( หัวใจสิงคโปร์ ) บางส่วน "เกือบ" ได้ประโยชน์นะ
..."เกือบขาย" ช่องสัญญาณดาวเทียม "ได้แล้ว" เชียว

FTA ใครทำไว้เอ่ย นำเข้านมผงจาก ต่างประเทศซะตรึมเลย

ชอบแถ กับ จ๊ะ หน้าแตกอีกแล้ว 555

เป็นมาตั้งหลายปีแล้ว
โดยเฉพาะตอนที่มีโครงการนมโรงเรียน พอมีโครงการนี้ เกษตรกรก็เลี้ยงโคเยอะขึ้น
ตอนเปิดภาคเรียนนี่ก็ดีอยู่หรอก พอปิดภาคเรียนทีไรได้มีออกมาประท้วงเทนมทิ้งทุกปี
แล้วยิ่งมาเจอ FTA เข้าไปอีก เลยกลายเป็นเดือดร้อนทั้งปี
ที่ออกมาตอนนี้ก็ถือว่ายื้อมาสุดๆแล้วครับ น่าเห็นใจเกษตรกร
และน่า :slime_hitted: พวกหน้าเหลี่ยม

ฮ่าๆๆ...ท่าทางอายุอานามของลุงปุถุชนน่าจะเป็นวัยทองแหง๋มเลยที่เลอะเลือนหาว่า 'ชอบแถ2' เป็น 'จารย์จ๊ะ'  เอางี้....มีอาหารสมองมาหั้ยลุงปุถุชนแบบโดนๆเลยครับกรณีเหยื่อพิษเศรษฐกิจฝีมือรัฐบาลขิงแก่เค้าหล่ะ  ตามนี้ครับลุง!!


นักธุรกิจเครียดหนี้สิน! ก่อเหตุสลดฆ่ายกครัว 5 ศพ 
 
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2550 12:46 น.
 
 
 
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
 
คฤหาสน์หลังที่เกิดเหตุ

 
คฤหาสน์ และรถยนต์ของครอบครับผู้เสียชีวิต

 
 
 
  นักธุรกิจเครียดปัญหาหนี้สิน เขียนจดหมายขอโทษ พ่อแม่ ตัดสินใจยุติปัญหาชีวิต ฆ่าลูก เมีย และยิงตัวตาย 5 ศพ นอนเฝ้าสมบัติในบ้านหรู
       
       
       วันนี้ (6 ก.พ.) เวลา 06.00 น. พ.ต.ท.ปริญญา วงศ์กล้า พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 127 ซอยพัฒนาการ 40 ถนนพัฒนาการ แขวงเขตสวนหลวง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น., พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5, พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.น.5, พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน ผกก.สน.คลองตัน พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช
       
       ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรูซึ่งปลูกติดกันจำนวน 2 หลัง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ โดยบ้านหลังใหญ่เป็นบ้านทรงยุโรปแบบโบราณ ภายในบ้านมีรถหรูยี่ห้อต่างๆ จอดอยู่ประมาณ 10 คัน ส่วนหลังที่ 2 เป็นบ้านแบบสมัยใหม่ 3 ชั้น และเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ
       
       จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุ ที่บริเวณห้องนอนชั้น 2 พบศพผู้เสียชีวิต 1 ศพ ทราบชื่อ น.ส.ณัฐนิช สุรวุฒิพงษ์ อายุ 18 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ ส่วนที่ห้องนอนชั้น 3 ซึ่งมี 2 ห้องนอน ห้องแรกพบศพผู้เสียชีวิต 3 ศพ ประกอบด้วย นายบุญชัย นางเพ็ญพิมล และ ด.ช.พานิช อายุ 5 ปี ส่วนอีกห้องพบศพ น.ส.นัฐมล สุรวุฒิพงษ์ อายุ 15 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ โดยทุกศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณศีรษะรวม 2 นัดเหมือนกัน
       
       นอกจากนั้น ที่เกิดเหตุภายในห้องนอนนายบุญชัย เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ระหว่างศพนายบุญชัย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุและ ด.ช.พาณิช ลูกชายคนสุดท้อง นอกจากนี้ยังพบจดหมายบันทึกลาตายจำนวน 2 แผ่น โดยแผ่นแรกซึ่งนายบุญชัย ผู้ตายเขียนเองได้กล่าวขอโทษพ่อแม่ที่สร้างปัญหาให้ตลอดเวลา อีกทั้งได้ตัดสินใจผิดพลาดมาตลอด และขอโทษที่ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ จึงขอพาครอบครัวไปด้วย ส่วนฉบับที่ 2 เป็นบันทึกข้อความว่ามีมาเฟียแขกชื่อชัย มาตามทวงหนี้นายบุญชัยผู้ตาย
       
       จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ตายไปกู้เงินแบงก์มาเพื่อขยายธุรกิจโรงงานแต่ธุรกิจมีปัญหา และเป็นหนี้สินจำนวนมาก รวมทั้งถูกตามทวงหนี้จากหนี้นอกระบบ ทำให้เครียดและตัดสินใจฆ่าลูก เมีย ก่อนที่จะยิงตัวตายตาม ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน
       
       อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามนายปุน จันหอม ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้านหลังเกิดเหตุ โดยนายปุน เล่าว่า ตนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมา 8 ปี โดยก่อนหน้านี้เป็นคนขับรถแต่สายตาไม่ดี เจ้าของบ้านจึงเปลี่ยนงานให้มาเป็น รปภ. สมัยก่อนบ้านที่เกิดเหตุเป็นโรงงานทำน้ำหอมส่งออกนอก ชื่อบริษัท แพ็ก เซิร์ฟ รวมทั้งทำน้ำหอมส่งให้บริษัทในไทยยี่ห้อ แอกซ์ จนกระทั่งทางเจ้าของบ้านได้ไปซื้อที่ดินย่านร่มเกล้าเพื่อขยายกิจการทำโรงงาน และได้ดัดแปลงโรงงานเดิมเป็นบ้าน โดยปลูกบ้านหลังทรงยุโรปก่อน และให้พ่อแม่อยู่อาศัย ซึ่งครอบครัวนี้มีลูก 6 คน นายบุญชัยผู้ตายเป็นคนโต จนกระทั่ง 2 ปีได้ปลูกบ้านหลังใหม่ และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาครอบครัวผู้ตายได้ย้ายเข้ามาอยู่
       
       นายปุน กล่าวอีกว่า จากการสอบถามแม่บ้านพบว่า เมื่อช่วงเช้าแม่บ้านได้ขึ้นไปเพื่อปลุกลูกชายคนเล็กมาอาบน้ำ โดยได้เรียกอยู่เป็นเวลานานแต่ไม่มีใครเปิดประตู จึงได้เปิดประตูเข้าไป พบว่านายบุญชัย ภรรยา และลูกคนเล็กนอนเสียชีวิต จากนั้นจึงวิ่งไปเพื่อเปิดประตูห้องนอนลูกชายคนกลาง และคนโตก็พบว่าทั้ง 2 ลูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน

ถ้าจะหาว่าปัญหามาจากรัฐบาลทักษิณ ก็ควรจะกรรมใดใครก่อก็ให้คนนั้นแก้สิคร้าบ ดันทะลึ่งมายึดอำนาจแล้วจะโทษว่า
รัฐบาลที่แล้วทำมันจะเข้าท่าเหรอ ถ้ารัฐบาลที่แล้วยังบริหารงานอยู่ป่านนี้คนกลุ่มนี้ happy ending ไปแล้ว ไม่ต้องมา
เย้วๆ กับรัฐบาลที่แก้ปัญหาไม่เป็นอย่างนี้หรอก FTA มันมีได้มีเสีย ต้องคนบริหารงานเป็นถึงจะใช้ประโยชน์ได้คุ้ม

 ถ้าจะหาว่าปัญหามาจากรัฐบาลทักษิณ ก็ควรจะกรรมใดใครก่อก็ให้คนนั้นแก้สิคร้าบ ดันทะลึ่งมายึดอำนาจ

ข้ออ้างใหม่ในการนำ'ออกญาจักรีแม้ว'เข้าราชอาณาจักรไทย.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคราะห์ร้ายหรือว่าปล้นอำนาจจากปชช.กันแน่ครับ!?! อย่าลืมเป็นอันขาดว่าปชช.เป็นผู้ตัดสินใจที่จะให้คุณทักษิณเป็นผู้บริหารและรับผิดชอบ ไม่ใช่พวกเถื่อนๆที่ปชช.เค้าไม่ได้เลือก...แต่ชอบเสนอหน้าเข้ามามีอำนาจแบบนี้ครับ

ก็นมในประเทศดันแพงกว่านมออสเตรเลียนี่