ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

การเดินทางโดย “รถแท็กซี่” นับเป็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันของคนเรา แต่จากกระแสข่าวไม่ดีต่าง ๆ นานาที่เกิดจาก “คนขับแท็กซี่” ทั้งการ ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ กระทำอนาจาร ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ไปจนถึงฆาตกรรม ทำให้ภาพลักษณ์ของสถาบันแท็กซี่ และคนขับแท็กซี่ต้องมัวหมอง ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้โดยสารเกิดความหวาดระแวงหรือเกรงกลัว
 
ซึ่งผลของการกระทำในด้านลบนี่เอง ที่ทำให้ภาพคนขับแท็กซี่ต้องตกต่ำ หรือกลายเป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาของผู้คนในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
ความจริงแล้วเหตุการณ์เกี่ยวกับ “ภัย” ที่เกิดจากคนขับรถแท็กซี่ที่มีนั้นเกิดขึ้นมานานแสนนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การขับรถซิ่ง ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ไม่ทอนเงินผู้โดยสาร พูดจาก้าวร้าว การโกงระยะทางด้วยการขับไปในเส้นทางที่วกวนโดยไม่จำเป็น หรือแม้กระทั่งการสำเร็จความใคร่บนรถต่อหน้าผู้โดยสารที่เป็นหญิงสาว ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่เรื่องเหล่านี้ก็นับเป็นเรื่องที่พอจะปล่อยผ่านไปได้ เพราะไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นคอขาดบาดตาย ขณะเดียวกันคนขับแท็กซี่ดี ๆ ก็ยังมีอยู่เยอะแยะในสังคม
 
ทว่า ณ วันนี้ ข่าวบนหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์กลับทำให้ผู้โดยสารหลายคน ที่ต้องพึ่งพาการเดินทางโดยรถแท็กซี่เป็นประจำ ต้องเกิดความหวาดผวา โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เป็น “หญิงสาว” ซึ่งมีสิทธิตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
 
ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นและเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ก็คือ ข่าวการจับกุม นายโกวิท แซ่ลิ้ม อายุ 37 ปี “แท็กซี่หื่นกาม” ที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากสลัดคราบโชเฟอร์แท็กซี่แล้วสวมบท “วายร้าย” ด้วยการใช้มีดจี้ผู้โดยสารสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง ให้ปีนข้ามมานั่งคู่กับคนขับ จากนั้นบังคับให้สำเร็จความใคร่ทางปาก แม้เหยื่อจะยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้องให้เอาทรัพย์สินไปแทนก็ไม่เป็นผล แถมข่มขู่จะแทงให้ตายหากไม่ยอมทำตามที่สั่ง    
เหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้ายจึงจำต้องทำ จนเมื่อนายโกวิทเสร็จกิจกามไป 1 ครั้ง ก็ยังได้ล้วงเอาเงิน 300 บาท กับโทรศัพท์มือถือของเหยื่อไปด้วย ก่อนไล่ลงจากรถแล้วขับหลบหนีไป แต่ในที่สุดต่อมาตำรวจ สภ.อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ก็สามารถติดตามจับกุม แท็กซี่หื่นกามรายนี้ได้ เพราะเหยื่อสาวจดจำยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนของรถแท็กซี่คนร้ายได้
 
ภัยจากแท็กซี่หื่นกามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนไทยเท่านั้น แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ยังไม่เว้น โดยฝรั่งผู้เคราะห์ร้ายรายนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้เรียกแท็กซี่ของ นายประสิทธิ์ ปรีดากูล อายุ 28 ปี จากหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แยกราชประสงค์ ให้ไปส่งยังที่พักย่านหลักสี่
 
แต่เนื่องจากแหม่มผู้โดยสารอยู่ในสภาพเมามาย เมื่อขึ้นรถนั่งเบาะหลังทำให้เผลอหลับไปไม่รู้ตัว ระหว่างทางโชเฟอร์แท็กซี่เห็นสบโอกาส ได้จอดรถในที่เปลี่ยวแล้วขืนใจจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นจึงปล่อยเหยื่อสาวต่างชาติกลางทางแล้วขับรถหลบหนีไป ทว่าทางผู้เสียหายจำทะเบียนรถได้เช่นกัน จึงเข้าแจ้งความจนสามารถติดตามจับกุมแท็กซี่หื่นกามรายนี้ได้
 
เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงถูกคุกคามทางเพศนี้ สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เคยทำการวิจัยเรื่อง “ภัยคุกคามทางเพศในกลุ่มผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์” พบว่า เหตุการณ์ที่ผู้หญิงถูกคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศมากที่สุดเป็นอันดับแรก คือ จากคนใกล้ชิด 31.1%, คนในที่ทำงาน 23.8%, คนในสถาบัน การศึกษาหรือโรงเรียน 22.9% และคนรักหรือแฟน 18.9%
 
นอกจากนี้ยังสำรวจถึงรูปแบบการถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศที่สูงที่สุดคือ ผู้หญิงถูกมองด้วยสายตาแทะโลม 44.4%, พูดจาปฏิโลมต่อหน้าด้วยถ้อยคำลามก 26.7%, โทรศัพท์ลามก 24%, ถูกลวนลามแบบถูกเนื้อต้องตัว 20.1% และแสดงของลับ 17.7% สำหรับบุคคลที่กระทำการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ อันดับที่ 1 บุคคลแปลกหน้าไม่รู้จัก 60%, คนรักหรือแฟนที่ยังไม่ได้แต่งงาน 26.6%, เพื่อนร่วมโรงเรียน สถาบัน 14.6%, เพื่อนร่วมงาน 12.7%
 
ส่วนสถานที่ที่ผู้หญิงถูกคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ อันดับแรกคือ บนรถโดยสารประจำทางหรือแท็กซี่ 27.2% ละแวกที่พักอาศัย 24.9% ป้ายรถประจำทางหรือสถานีรถไฟ 24%
 
การสำรวจถึงความพอใจต่อการปราบปราม ด้านการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันพบว่า ผู้หญิงไม่พอใจ 60.2% พอใจ 35.8% และความเข้มงวดต่อการปราบปรามงานด้านการคุกคาม และล่วงละเมิดทางเพศของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าไม่เข้มงวด 68.9% เข้มงวด 31.1%
 
ทั้งนี้เพื่อสวัสดิภาพของท่านผู้อ่าน ทีมงานได้เสาะหาวิธีป้องกันหรือแก้ไขสถานการณ์ร้ายมาฝาก เพื่อลดอันตรายให้กับผู้โดยสารหญิง ที่จำเป็นต้องใช้รถนั่งสาธารณะเป็นพาหนะในการเดินทาง
 
สำหรับวิธีการปฏิบัติตัวในการโดยสารรถแท็กซี่ที่นำมาเสนอ ถึงแม้จะไม่ได้ผล 100% แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงให้กับท่านในระดับหนึ่ง ดีกว่าไปมือเปล่าโดยไม่รู้อะไรเลย...?
 
1. จดจำสี...ยี่ห้อ...หมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่ ที่โดยสาร 2. หากนั่งหน้าอ่านชื่อ-สกุล จากใบอนุญาตบนคอนโซลด้านหน้า 3. สุภาพสตรีควรนั่งเบาะหลังคนขับ เพราะเป็นมุมอับ คนร้ายทำอะไรไม่สะดวก  4. หากรู้จักเส้นทางให้ขับไปตามเส้นทางที่เราเป็นผู้กำหนด 
 
5. กรณีถูกแทะโลม (ไม่ว่าจะเป็นสายตาหรือคำพูด) หากมีโทรศัพท์มือถือ ให้โทรฯ ถึงญาติหรือเพื่อน โดยแกล้งหลอกว่าคุยกับตำรวจ กำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ สี...หมายเลข...นัดเจอกันที่ไหน 6. ก่อนลงจากรถควรตรวจตราสิ่งของที่นำติดตัวมาทุกครั้ง 7. หากถูกทำร้าย ให้พยายามตั้งสติแล้วหาจังหวะใช้นิ้วจิ้มตาคนร้าย ก่อนเปิดประตูหนีออกจากรถ 8. เหตุฉุกเฉินให้โทรศัพท์แจ้ง 191 หรือ จร.กลาง หมายเลข 1197
 
ข้อสุดท้ายควรมีสติอยู่กับตัว เพราะในนาทีวิกฤติไหวพริบและสติปัญญาของท่านเท่านั้นที่จะช่วยท่านได้...จงฝึกให้เคยชินจนเป็นนิสัย...แล้วท่านจะปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หรืออย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้.

ภูพาน ภูมิพงศ์ ฉู้วงศ์..รายงาน
http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?ColumnId=24516&NewsType=2&Template=2&point=2 (http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?ColumnId=24516&NewsType=2&Template=2&point=2)



(http://ads.dailynews.co.th/column/images/2006/politic/7/12/24516_1.jpg)

 :slime_o:สาวๆ เวลาขึ้นรถ TAXI กลับบ้านคนเดียว ต้องระวังตัวบ้างนะฮะ
โดยเฉพาะ พี่ See_You ..
ลูกหิน..เป็นห่วง เพราะเห็นกลับบ้านดึก เกินตีสาม 2 หนแล้ว!![/size] :slime_agreed:

ทันเหตุการณ์จริงๆ  :slime_bigsmile:  แต่...โกงอายุผู้ร้ายหรือเปล่าค่ะคุณลูกหิน

* ง่า .....

   แทงกิ้ว .. ในความเป็นห่วงเป็นใย .. กันจ้า

   ต่อไปจะเป็นเด็กดี .. ไม่ไปโต๋เต๋ที่ไหนดึกๆ แล้ว คร๊าบบ 

   ( ถ้าไม่ติดลม .. )  :slime_bigsmile:

 :slime_hmm:

หลานลูกหินครับ เล้นสุ้มเสี่ยงอีกแล้วครับ