หัวข้อ: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 02-02-2007, 08:06 (http://www.matichon.co.th/newsphoto/khaosod/for31020250p2.jpg) (http://www.matichon.co.th/newsphoto/khaosod/for31020250p1.jpg)
คอข่าวต่างประเทศต้องผ่านหูชื่อบุรุษมาดขรึมคนนี้มาบ้างล่ะน่า... เค้าก็คือนายพอล โวลโฟวิตซ์ นักการเมืองหัวรุนแรงแดนมะกัน ซึ่งวันนี้ใหญ่โตเป็น "ประธานธนาคารโลก" แต่ระหว่างทั่นพอลไปเยือนมัสยิดในเมืองอีดีร์น ประเทศตุรกี ก็ต้องหน้าแตกเสียฟอร์มสุดๆ เพราะยามเข้ามัสยิดนั้นต้องถอดรองเท้า ทำให้ผู้คนที่ร่วมคณะไปด้วยต้องต๊กตะลึง อั้นอาการฮาแทบไม่ไหว มีอย่างที่ไหนเป็นถึงผู้นำธนาคารโลกแต่กลับใส่ถุงเท้าเก่าเหียกขาดเป็นรูโบ๋ จนหัวแม่เท้าทั้งสองข้างโผล่มาทักทายประชาชี! แหม่...แบบนี้ถ้าจับมาเป็น "ประธานธนาคารคนจน" น่าจะเหมาะกว่าเยอะ...อิอิ! http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03for31020250&day=2007/02/02§ionid=0306 หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: room5 ที่ 02-02-2007, 11:45 :slime_sentimental:
หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: TheBluECaT ที่ 02-02-2007, 13:12 ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก Warren Buffet วอร์เรน บัพเฟตต์
แปลโดย Wilai Trakulsin There was a one hour interview on CNBC with Warren Buffet, the second richest man who has donated $31 billion to charity. มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000 ล้านดอลล่าร์ Here are some very interesting aspects of his life: ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา: 1) He bought his first share at age 11 and he now regrets that he started too late! เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป! 2) He bought a small farm at age 14 with savings from delivering newspapers. เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์ 3) He still lives in the same small 3 bedroom house in mid-town Omaha that he bought after he got married 50 years ago. He says that he has everything he needs in that house. His house does not have a wall or a fence. เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม 4) He drives his own car everywhere and does not have a driver or security people around him. เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน 5) He never travels by private jet, although he owns the world's largest private jet company. เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก 6) His company, Berkshire Hathaway, owns 63 companies. He writes only one letter each year to the CEOs of these companies, giving them goals for the year. He never holds meetings or calls them on a regular basis. บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ 7) He has given his CEO's only two rules. Rule number 1: do not lose any of your share holder's money. Rule number 2: Do not forget rule number 1. เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1 8) He does not socialize with the high society crowd. His pastime after he gets home is to make himself some pop corn and watch television. เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์ 9) Bill Gates, the world's richest man met him for the first time only 5 years ago. Bill Gates did not think he had anything in common with Warren Buffet. So he had scheduled his meeting only for half hour. But when Gates met him, the meeting lasted for ten hours and Bill Gates became a devotee of Warren Buffet. บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์ 10) Warren Buffet does not carry a cell phone, nor has a computer on his desk. วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน 11) His advice to young people: Stay away from credit cards and invest in yourself. เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง (http://partners.wishlist.com.au/images/Products/WB02/WarrenBuffettWay_L.jpg) หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 02-02-2007, 13:32 มาเทียบกับชีวิตของไอ้บัดซบคนหนึ่งดูบ้างสิคะ
อ้างถึง 1) He bought his first share at age 11 and he now regrets that he started too late! เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป! 2) He bought a small farm at age 14 with savings from delivering newspapers. เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์ 1.2. ช่วง 11 - 14 ขวบ เขามุ่งมั่นหาเงิน ด้วยการขายตั๋วผีหน้าโรงหนังของพ่อตัวเอง ด้วยการรู้เห็นเป็นใจกันในธุรกิจของครอบครัว ที่จะโก่งราคาค่าตั๋ว และได้เงินเพิ่มโดยไม่ต้องเข้าขบวนการเสียภาษีของรัฐ นับเป็นปฐมกรรมของการหัดโกงประเทศชาติ ปัจจุบัญเขาภูมิใจที่หัดโกงชาติได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงวัยแตกพาน อันส่งผลให้สามารถโกงได้มากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น อ้างถึง 3) He still lives in the same small 3 bedroom house in mid-town Omaha that he bought after he got married 50 years ago. He says that he has everything he needs in that house. His house does not have a wall or a fence. เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม 3. เขามีบ้านหลายหลัง ทั้งบ้านในความหมายของที่อยู่อาศัย และความหมายของเพศตรงกันข้าม และยังเที่ยวกว้านซื้อทรัพย์สินอีกมากมาย อีกทั้งยังพยายามหาบ้านเล็กๆอีกอย่างไม่จำกัด เพื่อสนองตัณหาของตนเอง อ้างถึง 4) He drives his own car everywhere and does not have a driver or security people around him. เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน 4. เขาขับรถไปไหนมาไหนด้วยตนเองบ้างในบางครั้ง แต่ก็ต้องด้วยมีหน่วยคุ้มกันนำหน้าและตามหลัง โดยหน่วยคุ้มกันเหล่านั้นจ้างมาด้วยเงินของประชาชน อีกทั้งยังนิยมสะสมรถยนต์ราคาแพงๆ อ้างถึง 5) He never travels by private jet, although he owns the world's largest private jet company. เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก 5. เขาอยากมีเครื่องบินส่วนตัวมาก ทั้งๆที่มีเงินซื้อ แต่เขาก็ยังโกงประเทศชาติของตนเพื่อซื้อเครื่องบินมาใช้ส่วนตัว ด้วยเงินของประชาชน เอาไว้พาเมียน้อยไปเที่ยว และให้ญาติพี่น้องนำไปช็อปปิ้งยังต่างประเทศ หรือให้ลูกชายพาแฟนดาราไปนั่งชมวิว อ้างถึง 6) His company, Berkshire Hathaway, owns 63 companies. He writes only one letter each year to the CEOs of these companies, giving them goals for the year. He never holds meetings or calls them on a regular basis. บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ 6. เขามีบริษัทในเครือมากมาย และจ้างคนไว้ควบคุมมันอย่างเข้มงวด ให้ทั้งเมีย คนใช้ คนขับรถ คนสวน เข้าไปถือหุ้น เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย อ้างถึง 7) He has given his CEO's only two rules. Rule number 1: do not lose any of your share holder's money. Rule number 2: Do not forget rule number 1. เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1 7. เขามีกฎเข้มงวดกับผู้บริหารที่เขาจ้างมา โดยกฎหลักนั้นมีสองข้อ กฎข้อ 1 ผลประโยชน์สูงสุดคือเป้าหมายของการทำธุรกิจ โกงได้โกงเลย เอาเปรียบได้เอาเลย หนีภาษีได้ทำเลย ถ้ามรึงไม่ทำกูไล่ออก กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1 อ้างถึง He does not socialize with the high society crowd. His pastime after he gets home is to make himself some pop corn and watch television. เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์ 8. เขาไม่สมาคมกับคนจน เพียงแต่หลอกมันไว้ใช้ ไอ้พวกรากหญ้ากระบือโง่ๆ มีค่าสำหรับเขาแค่ทาสที่โง่ การพักผ่อนของเขาคือผลาญเงินของประเทศ ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ อ้างว่าทำงาน แต่กลายเป็นพาเมียน้อยไปเที่ยว ส่วนโทรทัศน์นั้น เขาซื้อไว้ทั้งสถานี แล้วโกงมันซะ อ้างถึง 9) Bill Gates, the world's richest man met him for the first time only 5 years ago. Bill Gates did not think he had anything in common with Warren Buffet. So he had scheduled his meeting only for half hour. But when Gates met him, the meeting lasted for ten hours and Bill Gates became a devotee of Warren Buffet. บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์ 9. บิล เกตส์ คงนึกไม่ออกว่าจะพบเขาไปทำไม เพราะบิล เกตส์นั้น คงไม่เข้าใจคนที่ทำลายประเทศชาติของตัวเอง เพียงเพื่อความร่ำรวย อ้างถึง 10) Warren Buffet does not carry a cell phone, nor has a computer on his desk. วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน 10. ไอ้บัดซบคนนี้ ใช้มือถือที่ฝังเพชรเลี่ยมทอง ราคาแพงที่สุด และขายเองทั้งมือถือ และคอมพิวเตอร์ ด้วยการเอารัดเอาเปรียบลูกค้า หรือโกงมันซะหากลูกค้าเป็นหน่อยวราชการของประเทศของมันเอง อ้างถึง 11) His advice to young people: Stay away from credit cards and invest in yourself. เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง 11. มันแนะนำเยาวชนหนุ่มสาว และคนยากคนจนในประเทศของมันว่า ต้องเป็นหนี้ โดยเฉพาะเป็นหนี้กับบริษํทเงินกู้ของมันเอง ผ่อนมือถือของมัน แล้วเลือกมันมาล้างผลาญชาติอีกต่อไป ไอ้บัดซบตัวนี้ ไม่เคยใส่ถุงเท้าขาด แต่มันคงจะต้องใช้ถุงอะไรบางอย่างที่ขาดแน่นอน เพราะพึ่งมีลูกอ่อนๆไป หมายเหตุ หนูหมายถึงใครก็ไม่รู้ อย่าคิดมากค่ะ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: A-NOY ที่ 02-02-2007, 13:51 คุณพรรณชมพูครับ ผมชอบข้อ 11จัง คนที่คุณพูดถึงนี่มันต้องโคตรบัดซบซะจริงๆนะ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 02-02-2007, 14:25 คุณพรรณชมพูตอบได้เยี่ยมมากครับ
หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: ~เด็กบอร์ด~ ที่ 02-02-2007, 14:33 คุณพรรณชมพู ตอบได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ ชอบทุกข้อเลย :slime_fighto:
หัวข้อ: Re: คนใหญ่โตแต่พอเพียงที่อื่นก็มี เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 02-02-2007, 15:08 ไอ้แค่ภาพถ่ายถุงเท้าขาดเนี่ยมันก็บอกอะไรได้ไม่มากหรอกนะ จริงๆ แล้วหมอนี่เป็นยิว มีความทะเยอทะยานใช้ได้เลย
พ่อก็เป็นนักคณิตศาสตร์อพยพจากโปแลนด์ ตอนแรกก็ยังเรียนเลขเหมือนพ่อแต่ดันเก่งเลยอยากเรียนและฝักไฝ่เรื่อง ระหว่างประเทศ ส่วนตัวก็เป็นพวกนีโอคอนเซอร์เวทีฟแถมยังฝักไฝ่อิสราเอลและสนับสนุนให้บุกอิรักในปี 2003 ทำงาน ให้กับบุช มีเมียมีลูกสามก็ยังหย่ามาติดหญิงในที่ทำงานโดยที่ตัวเองก็อายุตั้ง 61 เหมือนๆ พวกจริยธรรมแถวๆ ประเทศนี้เลย (More to the point, she works at the World Bank, where staff are muttering mutinously at the ethical implications of their next president conducting a romantic relationship with an employee.) http://www.timesonline.co.uk/article/0,,2088-1533085,00.html อย่าเชื่ออะไรมากแค่ภาพที่เห็น เค้าอาจจะสร้างมาให้ดูดีเหมือนๆ ที่ประเทศด้อยพัฒนาแถวนี้ชอบทำกันก็ได้ โดยลอกต้น แบบอย่างโง่ๆ มาจากประเทศใหญ่ๆ แม้จะทำได้ไม่เนียนเท่า แต่ก็หลอกคนแถวนี้ได้สบายหมู |