หัวข้อ: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: นายชด(หนุ่ม) ที่ 28-04-2006, 16:45 เช้าวันนี้ อรอนงค์ ลุกไม่ไหวจริงๆ อาจเป็นเพราะเธอคงจะยังไม่สร่างความเมาจากปาร์ตี้เลี้ยงรับของเพื่อนๆ ที่จบมาก่อนเธอจากบอสตัน
เด็กสาวนอนบิดกายอย่างสบายบนเตียงนอน โดยไม่อยากลุกไปไหน พร้อมนึกถึงวันเก่าๆ เธอเติบโตที่เมืองหลวงของประเทศไทยนี่แหละ ที่เขาเรียกกันว่า "กรุงเทพฯ" พ่อของเธอจริงๆแล้วเป็นคนต่างจังหวัด แต่มารับราชการในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ก่อนเธอจะเกิดซะอีก เธอเกิดมาก็พบว่า พ่อเป็นข้าราชการใหญ่คนหนึ่ง ส่วนแม่ก็เป็นนักธุรกิจทางอัญมณีที่มีชื่อ ทราบแต่เพียงว่า พ่อ เป็นคนต่างจังหวัด ทางภาคใต้ของประเทศไทย .......ชุมพร แต่แม่น่ะ สาวกรุง นุ่งสแล๊ก สมัยยังเด็ก จำได้ว่าเคยไปเที่ยวบ้านย่าที่ชุมพร สามสี่ครั้งเมื่อเธอปิดเทอม ย่าพูดอะไรกะเธอหลายคำ แต่เธอฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะย่าพูดภาษาถิ่น ที่เคยไม่เคยได้ยินแม้กระทั่งพ่อของเธอ ทั้งที่เป็นคนชุมพร คนใต้ เด็กสาวทราบอย่างเดียวว่า ย่า ตามใจมากๆ และยิ้มเก่ง ยิ้มทีก็เห็นปากย่าแดงๆ เหมือนย่าไปกินเลือดใครมาในหนังผีเลย แต่ ย่าก็ไม่น่ากลัวแบบนั้น อาจเป็นเพราะ รอยยิ้ม และแววตาที่ย่ามองเธอ มันทำให้เธออบอุ่นอย่างประหลาด ทั้งที่ ฟังย่าพูดไม่รู้เรื่องเอาซะเลยจริงๆ เธอชอบบรรยากาศที่นี่ แม้จะไม่เหมือนบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพฯก็ตาม เพื่อนทีนี่ แรกๆก็คุยกันไม่รู้เรื่อง แต่แล้วเพื่อนเธอก็สามารถพูดภาษาคนกรุงได้ ตัวเธอซะอีกกลับไม่สนใจภาษาของเพื่อนเลย เด็กสาวต้องย้ายไปตั้งรกรากใหม่ เพราะพ่อลาออกจากราชการเพื่อไปช่วยแม่ ทำธุรกิจที่อเมริกา ตั้งแต่ ยังเรียนไม่จบป.2เสียด้วยซ้ำ จากนั้นเป็นต้นมา ความทรงจำเกี่ยวกับย่าที่มีรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น ที่เคยทำขนมอร่อยๆแปลกๆให้กิน ก็จางหายไปทีละน้อย จนเหลือเพียงเสมือนภาพถ่ายเก่าๆในห้วงความทรงจำของเธอ พร้อมๆกับ หลายๆอย่างเกี่ยวกับเมือง ไทยและ ความเป็นคนไทย!!!! จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว จู่ๆแม่และพ่อก็บอกว่า เรากลับเมืองไทยกันเถอะ โดยเธอไม่ทราบว่าทำไมเป็นแบบนั้น รู้แต่ว่า พ่อบอกว่า พ่อมีเงินมากพอที่จะกลับมาเมืองไทย มาทำธุรกิจที่เมืองไทย และ มาตายที่เมืองไทย เธอจึงต้องย้ายไปอยู่กะเพื่อนของพ่อชั่วคราว จนเรียนจบ และบินตามกลับมา หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: นายชด(หนุ่ม) ที่ 28-04-2006, 16:46 ที่ชุมพร..........บ้านย่า ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากความทรงจำเดิมๆมากทีเดียว เมืองเจริญขึ้น มากเมื่อเทียบกับความทรงจำที่เคยเห็นว่ามีแต่ถนนดินแฉะๆ แต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยถนนคอนกรีต
ที่ไม่เปลี่ยนไป หรือเปลี่ยนไปบ้างก็คือ เรือนไม้หลังโตที่ย่าอยู่ ที่จริงแล้วมันไม่โตสักนิด มันก็เท่าๆกับเรือนไม้บ้านคนทั่วไป แต่ทำไมในความทรงจำที่หลงเหลือของเธอจึงเป็นบ้านที่ใหญ่มากก็ไม่รู้ "เอ๋ย ลูกเอ๋ย ตื่นแล้วลงมากินข้าวลูก" เสียงแม่เรียกดังฟังชัด แม่เป็นคนตรงต่อเวลาเอามากๆ ความเป็นนักธุรกิจหญิงและเวิร์กกิ้งวูแม่น ของแม่ ทำให้กิจการต่างๆของครอบครัวมั่นคงได้ ก็คงเป็นเพราะแม่นี่เอง ส่วนพ่อนั้น นอกจากช่วยคิดวางแผนแล้ว พ่อจะเป็นที่รักมากๆของคนในบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร พ่อจะใจเย็นมากๆ และค่อยๆพูด จนบางครั้ง เธออดแซวพ่อว่าเป็นบาทหลวงไม่ได้ อรอนงค์ หรือ เอ๋ย สาวไทยโตนอก ที่เกือบลืมความเป็นไทยไปแล้ว รีบทำธุระส่วนตัวและลงมาร่วมโต๊ะอาหาร เมื่อมาถึง ทุกคนในบ้านก็รอเธออยู่แล้ว ตั้งแต่น้า ป้า อา พี่ๆน้องๆที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อแม่ และ ย่า ย่าแก่ไปมากแล้วจริงๆ ท่านดูผอมลงและหลังค่อม ปีนี้ท่านอายุ 85 แล้ว นับว่าท่านเป็นคนไทยอายุยืนจริงๆ ตาก็ยังมองเห็น แข้งขาก็ยังดี มีแต่ความเหี่ยวย่นเท่านั้นที่มันบ่งบอกว่า ท่านชรามาก อาหารบนโต๊ะ เป็นอาหารไทยหลายอย่าง มากมาย หลายชนิดเธอไม่รู้จักเลย เพราะ ไม่เคยกิน แม้เธอจะรู้จักอาหารไทยมากมายที่ร้านอาหารเมืองนอกก็ตาม สะดุดตาไปกับจานผัก ไม่ใช่สิ ตะกร้าใส่ผักจึงจะถูกต้องมากกว่า และถ้วยน้ำพริกกะปิ เธอเคยกินที่เมืองนอก มันเหม็น แต่เพื่อนก็บอกให้กิน แต่เธอเหม็น เหม็นมากๆ เธอเลยไม่ชอบ แม่เคยทำให้พ่อกินบ่อยๆ เหมือนกัน แต่เธอทนกลื่นกะปิไม่ได้ พ่อบอกว่า มันไม่"เคย" แล้วก็ยิ้ม แต่แปลก มาวันนี้ แทนที่กลิ่นจะเหม็น ทำไมมันรู้สึกว่าหอมๆล่ะ หรือว่าจมูกเธอมีปัญหา พี่แจง ลูกคุณป้า เลื่อนถ้วยน้ำพริกให้มาตรงหน้า ใกล้ๆ แล้วบอกว่า "ย่า ลงทุนย่าง และตำเองเลยนะ ลองดูสิ" เด็กสาวลองตักมาดม มันหอม หอมมากๆ จนเธออดชิมไม่ได้ โอ รสชาติ มันอร่อยอะไรเช่นนี้ มื้อเช้านี้...เธอ กินข้าวไปสองจานโต เจริญอาหารเอามากๆ แต่ก็เปลืองน้ำไปไม่น้อย เพราะอาหารเกือบทุกอย่างมันเผ็ดสำหรับเธอ แต่คนอื่นบอกว่าไม่เผ็ดแล้วนะ...พูดได้ไง?งง หลังอาหารเช้า เธอออกไปนั่งเล่นที่หน้ามุข ที่ที่คุณย่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนตั่ง ย่ายังคงมีรอยยิ้มที่ใบหน้าและแววตาที่อบอุ่นเหมือนเดิม ย่าพูดอะไรก็ไม่รู้ ร้อยๆ เคยหยางๆ พ่อแปลให้ว่า ย่าอยากรู้ว่า น้ำพริกน่ะ อร่อยไหม เอากะปิมาย่างไฟแล้วถึงจะเอาไปตำ กะปิก็กะปิทำเองนะ เอาเคยมาทำเองเลย. เด็กสาวเพิ่งรู้จักก็คราวนี้ว่า เคยคืออะไร และน้ำพริกกะปิที่เคยเหม็นสำหรับเธอ มันกลับน่ากินขึ้นมา มันหอมขึ้นมาก็เพราะเหตุนี้เอง .............จะมีอะไรดีไปกว่า สิ่งที่เป็นของแท้ และดั้งเดิม ได้ บางครั้ง กาลเวลาที่เปลี่ยนไป อาจเปลี่ยนบางอย่างให้ดูน่ากลัว แต่ หากเราค้นพบ ความดั้งเดิมแท้ๆแล้ว ความน่ากลัวดังกล่าวจะหมดไป จะมีแต่สิ่งดีๆที่เป็นของแท้จริงๆ เด็กสาวยิ้มให้กับตนเองและภูมิใจที่ตนเองได้ "กลับมาเป็นคนไทย" อีกครั้ง หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: เสลา ที่ 28-04-2006, 17:13 (http://www.geocities.com/spirit15th/namprik.gif) อยากกินน้ำพริกกะปิของคุณย่า ป้าเสลาจึงหาภาพมาให้ดูประกอบไปก่อน :D หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: (-O-)Koka ที่ 28-04-2006, 18:03 อ่านเพลินมากๆ
หรอยจังหู้ :lol: หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: ดอกเข็มขาว ที่ 28-04-2006, 20:39 อยากทานน้ำพริกขึ้มมาเลยคะ ยิ่งเห็นรูปที่พี่เสลานำมาลงน่าทานมากคะ
น้ำลายไหลเลย :lol: หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: Think Earth ที่ 30-04-2006, 09:33 :P :P
very warm. หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: 500 ที่ 30-04-2006, 18:31 เมื่อวานเพิ่งกิน ถ่ายรูปเอามาฝาก....ปลาทูอร่อยมาก....
หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 30-04-2006, 18:54 สงสัยน้ำพริกกะปิ ของย่า ต้องมาดวล กับ บูดู สายบุรี ของ ยาย หนู
ยาย ไม่ใช่ คนปักษ์ใต้บ้านเฮาค่ะ แต่ ยาย ทำอาหารใต้ ให้ หลานๆ รู้จัก ตั้งแต่ หลานตัวเล็กๆ เพราะ ยายต้องทำไปถวายพระ ที่วัดชลประทานฯ ของ ท่านปัญญา สำหรับเด็ก ยายจะทำ ปลาทอดขมิ้น กรอบ นอกนุ่มใน หอมอร่อย ไว้ ให้กิน เคียงกัน มีสารพัดผัก มาประกอบ แถมในสำรับ มีบูดู สายบุรี ยำ แบบ ไม่เผ็ด ของเด็ก ไว้ ด้วย.. หนูว่า รื่องราวของอาหาร ประจำ ครัวเรือน แต่ละบ้าน มีเรื่องให้เล่า สู่กันฟังมากมาย มีความหมาย ทุกๆ ครั้งที่คิดถึง มีความสุข เวลาที่รับรุ้ได้ ถึง หัวใจ ของ คนทำ ความสุข ของ การได้ร่วมกัน ชิม .. หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 30-04-2006, 19:04 อ่านกระทู้ของพี่เชน ทำให้เก็ดถวาน้ำลายไหลเลยค่ะ อยากทานน้ำพริกกะปิ ขึ้นมาทันที แม่ของเก็ดถวาจะทอดมะเขือยาวชุบไข่ ได้อร่อยมากๆ แม่ทำน้ำพริกกะปิแบบจืดไปนิดนึง เพราะว่าที่บ้านทานเผ็ดกันไม่ค่อยได้ แต่แม่ของเก็ดถวาทำน้ำพริกเผาอร่อยมากนะคะ.. เก็ดถวาชอบกระทู้นี้มากค่ะพี่เชน... :D หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: (-O-)Koka ที่ 30-04-2006, 19:05 ขอส่งผัดสะตอกุ้งใส่กะปิเข้าท้าชิงอีกจาน
8) หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: นายชด(หนุ่ม) ที่ 01-05-2006, 08:11 ขอบพระคุณ เพื่อนๆที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้ครับ
ในความจริง ทุกอย่างในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่เคยดีๆในอดีต หลายๆอย่างอาจเปลี่ยนไปกลายเป็นตรงกันข้ามก็มีครับ อย่าง อาหารไทยเราบางอย่าง เมื่อเวลาเปลี่ยนไป รสชาติ ความปรณีตในการปรุง ก็เปลี่ยนไป เลยทำให้บางคนมองไปอีกแบบ เช่นน้ำพริกกะปิ ความหอมของกะปินั้น จะไม่หอมทันทีหากเราทำกะปิไม่ดี หรือ เราใช้กะปิที่ไม่เก็บรักษาดีๆ รวมทั้งกรรมวิธีก่อนการนำมาปรุง ผมจำได้ว่า แม่ผมนั้น ก่อนตำน้ำพริกกะปิ จะใช้ให้ผมเอาใบตองห่อกะปิและนำไปย่างไฟ คอยพลิกกลับไปกลับมา กะปิที่มีกลิ่นฉุนและคาว สำหรับบางคน จะหอมขึ้นมาทันทีเลย หากตำน้ำพริกปลาทู ก็ต้องย่างพริก ย่างหอม กะเทียม แถมต้องค่อยๆแกะเนื้อปลาไม่ให้เละ เวลาโขลกก็ต้องค่อยๆโขลกบด ละเอียดไปก็ไม่อร่อย สมัยใหม่ใช้เครื่องปั่นก็เคยเห็นครับ มันไร้อรรถรสในการปรุงอาหารไปมากเลย หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 01-05-2006, 18:12 เอ่อ
เรียนถาม คุณเก็ดฯ (เลดี้เฟริ์ส) เรียนถาม คุณลุง เชน แต่ว่า ทุกๆ บ้าน ก็มักจะมีรายการอาหารเด็ดประจำบ้าน ไม่ใช่หรือคะ หรือว่าเป้นความคุ้นลิ้น คุ้นรส ...ที่ พิเศษสำหรับเรา อย่างเช่น หนูไปบ้านไหน บ้านนั้น ก็จะ รีบมาบอกว่า อาหารบ้านตัวเอง อร่อยล้ำกว่าบ้านอื่นๆ อยู่เรื่อยไป เอ คุณเก็ดคะ มะเขือยาวชุบไข่ทอด ประกายดาวก็ทำอร่อยนา ...วิธีการมันซับซ้อนมากๆ เลยนี่นา :lol: หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 01-05-2006, 18:23 โอย.. อ่านแล้วหิวววว :mozilla_tongue:
หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: โขงหลง ที่ 02-05-2006, 20:14 :D
หัวข้อ: Re: น้ำพริกกะปิ ของ ย่า เริ่มหัวข้อโดย: Ziggy Stardust ที่ 05-05-2006, 04:02 เด่วต้องกลับไปทำกินซะแล้ว ของเก่าคุณแม่ตำแห้งใส่โหลไว้ให้จากเมืองไทยยังเหลืออยู่
|