ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?ColumnId=34386&NewsType=2&Template=1


สุสานคนชั่ว

คุณลัดดา เขียนจดหมายมาถึงผม ระบายความในใจเกี่ยวกับการคดโกงคอร์รัปชันในบ้านเมืองของเรา เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสน   ใจอย่างยิ่ง จึงขอนำมาลงให้อ่านโดยทั่วกัน ณ โอกาสนี้
 
เรียนคุณอนุภพที่รักและเคารพ
 
ดิฉันเป็นแฟนคอลัมน์ของคุณมาตลอด ไม่เคยเขียนจดหมายอะไรมาถึงคุณ แต่มาถึงเวลานี้ ดิฉัน เหลืออดจริง ๆ จึงขอเล่าความเหลืออดของดิฉันผ่านมาทาง คอลัมน์ “เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น” ถ้าคุณคิดว่า เป็นประโยชน์ จะนำลงให้ท่านผู้อ่านได้อ่านด้วย ดิฉันไม่ว่าอะไร
 
ดิฉันเฝ้าติดตาม ปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิ มาตั้งแต่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
 
ดิฉัน จำได้ว่า ตอนที่นายทักษิณจะเร่งเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมินั้นได้มีผู้รู้และคอลัม นิสต์ทั้งหลายซึ่งรวมถึงคุณอนุภพด้วย เตือนว่า ถ้าไม่พร้อมจริง อย่าเพิ่งเปิดจะดีกว่า แต่นายทักษิณ ไม่เคยเชื่อ เร่งเปิดจนสำเร็จด้วยความต้องการ ซึ่ง    เรา ๆ ทุกคนทราบดีว่า ทำไมนายทักษิณจึงเร่งเปิดนักเร่งเปิดหนา แต่ไม่อยากจะพูดให้มันมากความแต่อย่างใด
 
และมาถึงวันนี้ ก็เป็นที่ชัดเจนว่า สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ได้เป็นหน้าเป็นตา ในการรับแขกเมืองของประเทศเหมือนดังที่ใครต่อใครได้ตั้งความหวังเอาไว้
 
ที่มิได้เป็นหน้าเป็นตาเพราะ ฝีมือการคดโกงคอร์รัปชันของนักการเมือง ข้าราชการ และ นักธุรกิจบางคน ซึ่งไม่เคยระลึกแม้แต่น้อยว่า สนามบินแห่งนี้ได้รับชื่อพระราชทานซึ่งเป็นของสูง ใครโกงต้องมีอันเป็นไป
 
จับไปที่ไหน มีแต่การคดโกงคอร์รัปชัน แม้กระทั่งซื้อทรายถมดินก็ยังโกง หลายต่อหลายคนกล่าวว่า สนามบินสุวรรณภูมิเป็น กรณีศึกษาที่ดีที่สุด ที่สะท้อนให้เห็น ความชั่วความเลวทราม ของผู้ที่เกี่ยวข้องบางคน ซึ่งไม่น่าจะให้อภัยแต่อย่างใด
 
แปลกแต่จริงก็ตรงที่ ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่า ใครบ้างคือคนชั่ว คนโกง คนเลวทราม แต่บ้าน  เมืองไม่เห็นจะลงโทษอะไรกับคนเหล่านี้ได้ ถึงจะลงโทษก็ช้าเกินแกง
 
ล่าสุด สร้างความเจ็บปวดให้บังเกิดขึ้นแก่คนไทยทั้งประเทศคือ แท็กซี่รันเวย์เกิดรอยร้าวกว่า 100 จุด ในขั้นแรกได้ปิดซ่อม รันเวย์ฝั่งตะวันออก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างความโกลาหล ให้บังเกิดขึ้นแก่สายการบินต่าง ๆ เป็นอย่างมาก
 
ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก นักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกาท่านหนึ่ง มีแผนจะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อคุยเรื่องธุรกิจกับดิฉัน เกิดความไม่มั่นใจในรันเวย์ดังกล่าว ได้บอกยกเลิกการมาประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขอให้ดิฉันเดินทางไปพบกับเขาที่ประเทศมาเลเซีย เพราะเขารู้สึกว่ารันเวย์ที่นั่นปลอดภัยกว่า
 
เพื่อนอีกคนของดิฉันมีแผนจะเดินทางไปดูงานพืชสวนโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ยกเลิกการเดินทางเช่นกัน เขาพูดตรง ๆ ว่า ไม่กล้าเสี่ยงกับพื้นรันเวย์ที่อาจร้าวเมื่อใดก็ได้
 
ณ บัดนี้ ความเชื่อมั่น ในสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีเหลือหลอต่อไปอีกแล้ว
 
และคำว่า หมดความเชื่อมั่น นี่เองทำให้ชาวต่างชาติเลิกเดินทางมาไทย แม้กระทั่งคนไทยด้วยกันเองก็เลิกเดินทางด้วยเครื่องบินเช่นกัน
 
ความเสียหายอันเกิดจาก ปัญหารันเวย์ แตกและทรุด ไม่ใช่แค่ 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นค่าซ่อม แต่มันมากกว่า 3 พันล้านบาท เป็นร้อยเท่าพันเท่า
 
สมควรอย่างยิ่งที่จะลากเอา คนชั่วทั้งหลาย ที่ทำให้คนทั้งโลกหมดความเชื่อมั่นในสนามบินสุวรรณภูมิมาลงโทษให้หนัก และให้สาสมกับความเลวที่ได้กระทำไป
 
ดิฉันอยากเห็นประเทศไทยสร้าง “สุ สานคนชั่ว” ขึ้นมา จะแบ่งเป็นความชั่วประเภทต่าง ๆ หรือกลุ่มนักธุรกิจก็ได้ไม่ว่ากัน
 
ใน “สุสานคนชั่ว” จะนำเอาชื่อคนชั่วทั้งหลายมารวมตัวกันไว้ ตระกูลและโคตรเง่ามีใครบ้าง แจงไว้ให้หมด มีการเปิดให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชม เพื่อสาปแช่ง หรือจะ ถุยน้ำลาย เป็นการประณามก็จัดกระโถนไว้ให้เป็นที่เป็นทาง
 
ตระกูลไหนโกงแล้วโกงเล่า ไม่เคยละอายแก่บาป ต้องไล่ออกไปนอกประเทศ และ ยึดสัญชาติไทยคืนมาเสีย คนชั่วทั้งหลายต้องให้ไปอยู่รวมกันกับคนชั่วด้วยกัน อย่าให้มาปะปนกับคนดี ๆ เป็นอันขาด จะฉุดให้คนดีเป็นคนชั่วไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
 
ใครโกง ใครชั่ว ต้องลงโทษให้จริง ๆ จัง ๆ อย่าทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่ใช่ปาก บอกว่าเลวจริง แต่พอมีใครที่เป็นลูกคนดังมาให้ปากคำ ดันเดินลงมาต้อนรับอย่างไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี

ดิฉันขอบ่นดัง ๆ ผ่านมาทางคอลัมน์ของคุณ ถ้ามีถ้อยคำอะไรที่รุนแรงไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยค่ะ

ด้วยความเคารพ
ลัดดา


ผมลงจดหมายของคุณลัดดา ครบทุก คำพูด เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณลัดดาเกลียดคนชั่วจริง ๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณลัดดาไม่ชอบ หน้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จริง ๆ จึงเรียก  พ.ต.ท.ทักษิณว่า นายทักษิณ

นี่คืออีกความคิดเห็นของผู้อ่าน ถ้าไม่ลงให้ถือว่าผมมิได้ทำหน้าที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ขอให้เป็นดุลพินิจของแต่ละท่านก็แล้วกัน.

อนุภพ

นึกถึงเพลง "ถ้า..ไทย..รัก..ไทย" ร้องโดยคุณ บี๋ คณาคำ อภิรดี

ชอบเพลงนี้มากมายเลย  ไปฟังดูน่ะค่ะ


http://files.thaiday.com/download/song/32.mp3

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/2b/DF-ST-90-04660.JPEG/300px-DF-ST-90-04660.JPEG)

จะมาดูการยิงระเบิด M79 ซะหน่อย กระทู้เราก็โดน mod ใจโหด ลบไปเรียบร้อย ทั้งที่เป็นข่าวแปะ
มาต่อกระทู้นี้ก็ได้เผื่อ mod แกจะบ้าอำนาจลบไปด้วยกันเลย ไอ้ที่ว่า M79 เนี่ยมันทันสมัยมากเลย
ในสงครามเวียดนาม ยิงมั่วๆ ได้ตั้ง 400 เมตร ให้พอจะตรงเป้าก็ได้ตั้ง 150 เมตร เครื่องยิงก็พัฒนา
มาอันเล็กๆ แปะกะปืน M16 ก็ได้ น้ำหนักก็แค่ 1.36 กิโล ตามข่าวว่าคนยิงนั่งท้ายปิคอัพยิงจากที่สูง
เค้าว่าคือโทลล์เวย์ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว อย่างกะหนังแอคชั่น รถวิ่งแล้วมือระเบิดยิงจากท้ายปิคอัพ
จินตนาการท่ายิงไม่ออกเลยไม่รู้จะเท่แค่ไหน แถมยิงสองลูก สองร้อยกว่าเมตร ยังไม่สะเปะสะปะ
อีกสุดยอด ไม่คิดว่าเมืองไทยจะมีคนเก่งๆ ขนาดนี้

รู้สึกว่าชอบแถ จะชื่นชมดีอกดีใจ กับความวุ่นวายความเดือดร้อนของบ้านเมืองจังเลยนะจ๊ะ

เก็บอาการไว้บ้างก็ได้ ยังไงๆเจ้านายก็ยังไม่ได้กลับมาหรอก และอาจไม่มีวันได้กลับมาตบรางวัลให้ด้วย

ปล. เตือนด้วยความหวังดีเพราะกลัวฝันค้างอ่ะ

ตัวในรูปหน่ะ คือ M-203 ที่พัฒนามาจาก M-79

แล้ว นน.หนะ ต้องเอามาให้ครบ เด่ะ

Weight:
Launcher: 3 pounds (1.36 kilograms)
Rifle (M16A2): 8.79 pounds (3.99 kg)
Total (including 30 rounds): 11.79 pounds (5.35 kg)

แค่ Launcher อย่างเดียวหน่ะ ไม่ได้่โว้ยไอ้โง่

ลืมน้ำหนัก ระเบิด กะ คนยิง ด้วยหรือเปล่าจ๊ะ  :slime_bigsmile:

ให้ข้อมูลอะไรก็ให้ถูกต้องและครบถ้วนหน่อย

อย่าเอาสันดาน PT มาใช้บ่อยนัก มันทุเรศ