ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ปุถุชน ที่ 06-01-2007, 12:19



หัวข้อ: รัฐประหาร'อนาถา' เงินใช้ในการรัฐประหาร ก็ไม่มี ต้องเรี่ยไรกันเอง....
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 06-01-2007, 12:19
O ทำไมถึงประเมินว่าเป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง หรือว่าเป็นการจงใจเพื่อต่อต้านการทำงานของ คมช.

การมอง เรามองได้หลายมุม เหมือนกับตำรวจไปสอบหาว่ามันเกิดคดีนี้ขึ้นมา เกิดจากสาเหตุอะไร เราก็ใช้หลักการเดียวกันว่าน่าจะเป็นหลักการอะไร

O เหมือนเป็นการจงใจที่จะต่อต้านการทำงานของ คมช.หรือเปล่า

เราไม่อยากให้พูดไปชัดๆ ตรงนั้น แต่อย่างไรก็ตามก็มีกระบวนการในการทำลายทั้ง คมช. และรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ขาดความเชื่อถือ

......................................................................................................................

O ทำไมถึงป้องกันไม่ได้ ทั้งๆ ที่ทราบว่าจะมีการก่อเหตุ

โอ๊ย กทม. (หัวเราะ)

O ไม่ทราบหรือว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ กทม.

รู้เหมือนกัน แต่เราไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้

O หลังจากนี้มีการรายงานด้านการข่าวว่าจะต้องระมัดระวังพื้นที่ไหนเป็นพิเศษบ้าง

 เราอ่านเจตนาที่เขาทำอยู่ ขณะนี้กำลังต้องการทำลายปัญหาเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ต้องการทำลายเศรษฐกิจ เพื่อนำไปขยายต่อสังคมมากมาย เราคงตอบไม่ได้ว่าตรงไหนที่เขาจะทำ แต่วัตถุประสงค์ต่างๆ เขาคงวางไว้ และไปจัดวางในที่ที่มันวางง่ายๆ

O เป็นเครือข่ายใหญ่หรือไม่

คงไม่น่าห่วง

O ที่บอกว่ากลุ่มที่ทำต้องการทำลายเศรษฐกิจ สังคม จุดสุดท้ายมุ่งหวังอะไร หรือเพื่อต้องการล้มรัฐบาล

ถูกแล้ว พูดอย่างนี้

O กระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนเป็นอย่างไร

ไม่มีหรอกครับ ผมเชื่อได้ว่าทั้งกองทัพบกไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน เมื่อสักครู่นั่งคุยกัน 4-5 คน ก็นั่งหัวเราะต่อกระซิก หยอกเย้ากันอยู่ ไม่มีทางเป็นไปได้

O มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีกใช่หรือไม่

เราคงตอบแบบหลักการ คือทุกคนจะต้องช่วยกัน ผมจึงจะต้องเปิดอบรมให้กับประชาชนทั้งหมด


O  มีข่าวจะปฏิวัติซ้อนเพื่อยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ

อู๊ย...กฎหมายมันมี อะไรที่เราทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้เราก็ไม่ทำ เราเอาความเป็นธรรมในสังคม จะต้องเอาความเป็นธรรมไปว่ากัน มีกฎหมายอยู่

O การยึดทรัพย์จะเกิดขึ้นได้ต้องรอผลของ คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) ใช่หรือไม่

เราให้ คตส.เป็นตัวตัดสิน

O งบประมาณที่ได้จากรัฐบาล ล่าสุดเริ่มปฏิบัติหน้าที่หรือยัง

ยังไม่ได้เลย

 O ครม. (คณะรัฐมนตรี) ให้ 555 ล้านบาท

 500 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน

 O ให้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2549 ถึง 30 กันยายน 2550

ยังไม่ได้ให้มา 

 O หากได้มาจะช่วยให้การดูแลความสงบเรียบร้อยดีขึ้นแค่ไหน

ถ้าเงินมางานก็เดิน น้ำมันมา รถก็วิ่งได้ มันคือปัจจัยในการบริหารจัดการอยู่แล้ว
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=144451
 

 
รัฐประหาร'อนาถา' เงินใช้ในการรัฐประหาร ก็ไม่มี  ต้องเรี่ยไรกันเอง.......

5-6 ปีที่'เผด็จการจากการเลือกตั้ง'ครองอำนาจเป็นรัฐบาลเผด็จการรัฐสภานั้น บรรดานักธุรกิจการเมืองได้สวามิภักดิ์หมดแล้ว เหลือแต่นักธุรกิจที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จึงหาเม็ดเงินที่จะใช้จ่ายในการรัฐประหารและดำเนินดูแลต่อเนื่องไม่ได้มากนัก....

แต่มีผลดีทางอ้อม ไม่ต้องเป็น"หนี้บุญคุณ" ไม่ต้องมีคนทวงบุญภายหลัง ที่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของพวกเขา คนให้เงิน.....



 O ให้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2549 ถึง 30 กันยายน 2550

ยังไม่ได้ให้มา 

 O หากได้มาจะช่วยให้การดูแลความสงบเรียบร้อยดีขึ้นแค่ไหน

ถ้าเงินมางานก็เดิน น้ำมันมา รถก็วิ่งได้ มันคือปัจจัยในการบริหารจัดการอยู่แล้ว


คนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม และ ลูกจ้างบริษัทเทียมรักเทียมจำกัด คงไม่เชื่อถือว่า พวกรัฐประหารจะ'อนาถา'อย่างนี้ไม่เหมือน "นายผู้ชาย" กระดิกนิ้วทีครั้งเดียว พวกนักธุรกิจการเมืองวิ่งโร่ อุ้มเงินมาให้ เพราะรู้ว่า รายการนี้ Give And Take ล้วน..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





หัวข้อ: Re: รัฐประหาร'อนาถา' เงินใช้ในการรัฐประหาร ก็ไม่มี ต้องเรี่ยไรกันเอง....
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 06-01-2007, 14:18
ทักษิณเกี่ยวแค่ไหน ผมคงจะชี้ลงไปตรงนั้นไม่ได้....

ผมถามตรง ๆว่าข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเหตุการณ์ระเบิด ความเคลื่อนไหวที่ติดต่อมา คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เกี่ยวข้องแค่ไหน

ผมคงชี้ลงไปตรงนั้นไม่ได้อย่างที่เรียนเมื่อกี้ว่า เราต้องเดินทางไปหาว่าผู้ที่ดำเนินการนั้นคือกลุ่มไหน คือสิ่งที่เรากำลังหาตรงนั้นมากกว่า ถ้าได้ออกมาเราจะสามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่า ทิศทางการปฏิบัติในอนาคตมันควรจะเป็นอย่างไร

หมายความว่าข้อมูลจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้โยงถึงอดีตนายกฯเลย แม้ว่ากระแสข่าวต่าง ๆ ที่ออกมาเชิงลับ ก็ดูเหมือนว่ามีความพยายามจะวาดภาพว่าท่านน่าจะเกี่ยว

สิ่งเหล่านี้มันพิสูจน์และบ่งชี้อย่างนั้นไม่ได้ แต่ทุกเหตุการณ์ทุกผล เราก็นำมาเป็นส่วนในการวิเคราะห์ ในการวิเคราะห์ทิศทางการปฏิบัติของกระบวนการนี้ค่อนข้างมาก

ท่านมองอย่างไรที่กรณีที่คุณทักษิณ ก็ร่อนจดหมายจากปักกิ่ง เพียง 1-2 วัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพยายามจะโยงว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นท่านไม่เกี่ยว และเป็นเรื่องของภาคใต้ ท่านมองเนื้อหาของจดหมายแล้วเป็นอย่างไร

มันเป็นทางออกของการชี้แจง เราต้องยอมรับว่าของจริงเป็นอย่างไร ในการชี้แจงอาจจะไปด้วยก็ได้ หรืออาจจะไปคนละทางก็ได้ เป็นเรื่องของการชี้แจง แต่ผมอยากให้มองข้อเท็จจริงมากกว่า  เวลาที่ผ่านมามันบ่งบอกเลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ประชาชนชาวไทยทุกคนผมว่าเข้าใจปัญหา รู้ปัญหา  ณ เวลานี้ยังไม่ทำอะไรออกมาเท่านั้นเอง

มีประโยคหนึ่งที่อดีตนายกฯ ทักษิณ พยายามย้ำในจดหมายคือความอาฆาตมาดร้าย ซึ่งท่านก็บอกว่าเวลาผ่านไปร้อยวันเศษ ความสมานฉันท์ก็ยังไม่เกิดขึ้นในสังคมไทย ท่านก็พุ่งเป้าที่คมช.นั่นแหละที่ไม่สามารถทำให้เกิความสมานฉันท์ได้ นี่เป็นข้อกล่าวหาที่ท่านต้องชี้แจงว่าจริงมัยที่มีความอาฆาตมาดร้ายต่ออดีตนายกฯ

ถ้าคณะ คมช.มีเจตนาอย่างนั้น ผมคิดว่าต้องมีการยึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์ตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะทุกคนทำด้วยความมีเหตุมีผลและความสมานฉันท์ ประชานหลายคนต้องการให้ผมอายัดและยึดทรัพย์ ผมบอกไม่ได้ บ้านเมืองเรามีกฏหมาย มีขื่อมีแปอยู่ ทำอะไรทำด้วยเหตุด้วยผล ฉะนั้นเหตุและผลตรงนี้ทำให้หลายสิ่งหลายอย่าง ประชาชนยังไม่พอใจ คมช.ด้วยซ้ำไป แต่เมื่อเราทำไป เมื่อมันมีเหตุที่ทางรัฐบาลที่แล้วทำมา ผลก็ออกมาจากคณะการกรรมการตรวจสอบให้เห็นว่าเป็นอย่างนี้ มันมีกระบวนการอยู่ เราให้กระบวนการมาทดแทนในการปฏิบัติ

ในจดหมายของอดีตนายกฯทักษิณ ได้พูดถึงตอนหนึ่งว่า ท่านได้โทรศัพท์มาหาคนบางคนในคมช. ผมเข้าใจว่าหมายถึงท่าน เพราะอดีตนายกฯ บอกว่า มีการพูดทางโทรศัพท์ว่าท่านเป็นฯคนมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ท่านเคยพูดสัก3-4 สัปดาห์ว่า ท่านทักษิณโทรมาหาและบอกว่า ท่านรู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร เป็นคนมีน้ำใจเป็นนักกีฬา จริง ๆ แล้ว  วันที่ท่านทักษิณ โทรมาหา ผบ.ทบ. ท่านพูดอย่างไร

ก็ให้แจ้งมาที่ผมว่าให้ทำงานให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วง ท่านเป็นนักกีฬาก็เท่านั้นเอง


ประมาณเมื่อไหร่

เป็นเดือนแล้วครับ

ท่านเชื่อไม่ว่าคุณทักษิณเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และวางมือจริง

ชั้นแรกต้องเชื่อไว้ก่อน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ท่านเชื่อน้อยลงหรือมากขึ้นว่าท่านจะว่างมือจริง ว่าท่านเป็นนักกีฬาจริง

ผมไม่ทราบนะว่าใครทำ ว่าใครเป็นคนดำเนินการ ก็ยังอยากให้มันเป็นสปิริตของนักกีฬาที่ท่านพูดถึงกลับมาสู่บ้านเราอีก


คัดลอกจาก กรุงเทพธุรกิจ หน้าสอง ฉบับวันนี้ครับ....


ขอให้สาธุชนใช้วิจารณญาณพิจารณาเอาเองครับ ประเมินเอาเองว่าอดีตนายกฯ เผด็จการจากการเลือกตั้ง เผด็จการรัฐสภา จากพฤติกรรมที่ผ่านมา เป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะหรือไม่ :?: