หัวข้อ: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 22-11-2006, 08:39 22 พฤศจิกายน 2549 08:09 น.
คมช.ออกสมุดปกขาวชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุต้องยึดอำนาจรัฐบาล"ทักษิณ" ระบุมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อประโยชน์พรรคพวกเครือญาติ ผู้นำขาดจริยธรรมการเมือง โกงภาษีขายสัมปทานดาวเทียม แทรกแซงองค์กรอิสระ บ่อนทำลายความสามัคคีของคนในชาติ ผู้สื่อข่าวรายงาน จากสำนักงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งได้ออกเอกสารข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเข้าปฏิรูปการปกครองในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 (สมุดปกขาว) ที่จะแจกจ่ายให้กับประชาชนได้รับข้อเท็จจริงต่างๆ ในการทำปฏิวัติรัฐประหารของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) จำนวน 35 หน้า มีสาระสำคัญสรุปถึงเหตุการณ์สำคัญที่เป็นชนวนอันนำไปสู่การปฏิรูปว่า โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่พึ่งถูกยึดอำนาจไปถูกเพ่งเล็งจากสังคมอย่างหนัก และถูกกล่าวหาด้วยความเคลือบแคลงสงสัยว่า พยามยามผูกขาดอำนาจ ทำลายระบบการตรวจสอบถ่วงดุลโดยการแทรกแซงครอบงำองค์กรอิสระตาม รธน. และการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งสำคับในองค์กรอิสระ ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนคุกคามและแทรกแซงสื่อมวลชน รวมทั้งมีการดำเนินการที่ส่อไปในทางทุจริต-ฉ้อราชบังหลวง และมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างกว้างขวาง เป็นที่ค้างคาใจประชาชนในกรณีที่สำคัญดังนี้ 1.การทุจริตผลประโยชน์ทับซ้อน อาทิ การแปรค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือเป็นภาษีสรรพสามิต การแปลงธุรกิจดาวเทียมให้เป็นธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ และกรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ท ลิงค์ การพยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ไม่โปร่งใส และ กรณีการครอบงำกิจการโทรทัศน์เสรี 2.การใช้อำนาจในทางมิชอบ อาทิ การแต่งตั้งเครือญาติ คนใกล้ชิดดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูง การใช้วิธีการงบประมาณที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพื่อผลประโยชน์ในการสร้างคะแนนนิยมต่อรัฐบาล การใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเจรจากับต่างประเทศเพื่อเอื้อต่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง (กรณีการปล่อยเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย) การใช้อำนาจทางกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ กรมสรรพากรในการตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้ที่ไม่เห็นด้วยรัฐบาล 3.การละเมิดจริยธรรม คุณธรรมของผู้นำประเทศ อาทิ การขายสัมปทานดาวเทียม และ สถานีโทรทัศน์ให้กับต่างชาติ การซื้อขายหุ้นของบุคคลในครอบครัวโดยไม่เสียภาษี 4.การแทรกแซงระบบการตรวจสอบทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ อาทิ การครอบงำวุฒิสภาที่มีอำนาจในการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญต่าง ๆ และการตรวจสอบการดำเนินการของฝ่ายบริหาร การแทรกแซงการแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) 5.ข้อผิดพลาดเชิงนโยบายที่นำสู่การละเมิดสิทธิเสรีภาพ อาทิ กรณีค่าตัดตอน หรือ การทำวิสามัญฆาตกรรมในคดียาเสพติด โดยมีผู้ถูกสังหารเป็นอันมาก การบริหารจัดการในเชิงนโยบายที่ผิดพลาด และไม่ชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งแม้จะใช้เวลายาวนาน แต่ก็ไม่ทุเลาเบาบางลง 6.การบ่อนทำลายความสามัคคีของคนในชาติ และการเผชิญหน้าที่เสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรง อาทิ การปิดกั้นข้อมูลข่าวสารของกลุ่มที่จะตรวจสอบรัฐบาล หรือ ตัวนายกรัฐมนตรี และเปิดเฉพาะข้อมูลที่คัดสรรแล้ว ทำให้ประชาชนไม่สามารถรับทราบความจริงทั้งหมด การจัดตั้งกลุ่มคนสนับสนุนเพื่อตอบโต้และมุ่งหวังให้เกิดการเผชิญหน้าที่เสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงกับกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลโดยสันติ นอกจากนี้ มีความพยายามในการหาทางออกเพื่อให้มีการแก้ไขในระบบ อาทิเช่น การชุมนุมประท้วงโดยสันติวิธีและปราศจากอาวุธ การให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อหาทางออก โดยบุคคลหลายฝ่ายที่ได้รับการยอมรับจากสังคม บทบาทของศาลในการผ่าทางตันทางการเมือง (ตุลาการภิวัฒน์) เนื่องจากการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ผล (คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2549 ที่ให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.2549 เป็นโมฆะ รวมทั้งคำพิพากษาของศาลอาญา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2549 ที่ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งมีความผิดเนื่องจากการใช้อำนาจโดยมิชอบในการจัดการเลือกตั้ง วันที่ 2 เม.ย.2549 และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชแก่คณะผู้พิพากษา ศาลปกครองสูงสุด และ คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาบางส่วน เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2549 ผู้สื่อข่าวรายงาน สมุดปกขาวดังกล่าว ยังได้กล่าวถึงสภาพทางการเมืองก่อนวันที่ 19 ก.ย.2549 ด้วยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาเปรียบเสมือนภาพสะท้อนของการบรรลุถึง "รูปแบบ" ของการปกครองแบบประชาธิปไตยเมื่อประชาชนได้รับโอกาสในการเลือกตั้ง การได้รับเสียงสนับสนุนการเลือกตั้งจำนวนมากให้เข้ามาเป็นรัฐบาลในรอบที่ 2 เมื่อมองอย่างผิวเผินดูเหมือนเป็นการแสดงให้เห็นความพึ่งพอใจของประชาชนต่อความสำเร็จในการบริหารประเทศในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังการบริหารประเทศในรอบแรกมาจนถึงห้วงเดือน ก.ย.2549 เริ่มมีเสียงจากประชาชนที่แสดงถึงความสงสัยและไม่พอใจในการบริหารประเทศของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเล่นพรรค เล่นพวก และแสวงประโยชน์ ให้กับพวกพ้องและบริวารอย่างที่ไม่มีสิ้นสุด การแต่งตั้งเพื่อนและเครือญาติให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในระบบราชการในขณะที่องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญถูกทำให้อ่อนแอเกินกว่าจะป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางได้ จะเห็นได้จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ องค์กรหลักอีกหลายองค์กร ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ไม่มีพื้นที่เหลือให้สำหรับกลไกการตรวจสอบโดยรัฐสภาอย่างมีประสิทธิภาพตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผลการสำรวจประชามติของสำนักต่าง ๆ แสดงถึงการเสื่อมความนิยมในรัฐบาลมาเป็นลำดับ จากการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการ และสื่อมวลชน ความไม่พอใจที่สะสมเพิ่มพูนจนกลายเป็นการรณรงค์ต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผยทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด จนนำไปสู่การยุบสภา เมื่อเดือน ก.พ.2549 ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขจุดอ่อน เพื่อทำให้กลไกการค้านอำนาจ และการติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลไม่เข้มแข็งเพียงพอ นอกจากนี้การดำเนินนโยบายความมั่นคงของรัฐบาลมีความผิดพลาดอันเกิดจากความไม่เข้าใจปัญหา และการไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของสังคม ทั้งมีเจตนาใช้อำนาจรัฐ จัดการกับปัญหาที่ปลายเหตุด้วยวิธีการที่รุนแรง และจนถูกกล่าวหาว่า ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และหลักนิติธรรม โดยเฉพาะกรณีการแก้ไขปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ กรณีการปราบปรามยาเสพติดที่ส่งผลให้ความรุนแรงขยายตัว และเกิดเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นที่เสื่อมเสียต่อภาพพจน์ของประเทศ ประเด็นสำคัญอันเป็นที่คลางแคลงใจอย่างยิ่ง และส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติที่เป็นรูปธรรมคือ การกล่าวหาว่าผู้นำประเทศได้อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย และใช้อำนาจทางการบริหารแสวงประโยชน์ทุกด้านให้ตนเอง และญาติมิตร ทั้งที่ผู้นำประเทศน่าจะเป็นเสาหลักในการบริหารแบบมีธรรมาภิบาล และแก้ไขช่องว่างทางกฎหมายที่เอื้อต่อการแสวงประโยชน์โดยมิชอบ ทำให้ศรัทธาของประชาชนต่อผู้บริหารประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง --------------- *ดูฉบับเต็มในรายงานพิเศษ "สมุดปกขาว คมช. เหตุยึดอำนาจทักษิณ" http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_130538.jsp หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 22-11-2006, 08:55 ----มิทราบว่า----เหตุผลและข้อเท็จจริงของ คมช มีความเท็จ
ความจริงมากน้อยแค่ไหน พอรับไหวมั๊ยคะ------ สำหรับคนที่บอกว่า----- ---คณะ คมช บ้าอำนาจ ทำเกินไป และปฏิวัติเพราะแรงยุของพันธมิตร----- หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 22-11-2006, 10:01 ผมคิดว่า รอฉบับเต็มในรูปแบบไฟล์ pdf ของทาง คมช.โดยตรงดีกว่า เพราะบางที ข้อความใน HTML อาจจะพิมพ์ผิด หรือมีการบิดเบือน
สำคัญที่สุด คนรักทักษิณอาจจะนำข้อความในสมุดปกขาว ไปตีความทีละตัวอักษร หรือทีละประโยคเพื่อเข้าข้างตัวเอง เหมือนที่เคยรับจ้างดัดแปลงพระราชดำรัสของในหลวงลงเว็บไซต์พันทิปราชดำเนินก็เคยมาแล้ว :!: :!: :!: หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 22-11-2006, 10:04 นี่ก็อีกสื่อหนึ่ง ที่กล่าวถึง สมุดปกขาวได้อย่างชัดเจนมาก
--------------------------------------------------------------------------------------------- สมุดปกขาวยังระบุถึงการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี การมีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ขณะที่ตุลาการ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ ถ้อยคำเขียนได้สละสลวยโดยเฉพาะการอ้างถึงการที่ประชาชนให้การต้อนรับคณะปฏิรูปฯ ด้วยการไปถ่ายรูปกับรถถัง โดยสมุดปกขาวใช้ชื่อหัวข้อนี้ว่า ช่อดอกไม้ที่ปลายกระบอกปืน มีการยกตัวอย่างอธิบายให้เห็นภาพถึง 3 หน้ากระดาษเต็มๆ มีการอ้างถึงคำพูดของชาวต่างชาติบอกว่า "สนุกดี" ก่อนกดชัตเตอร์ถ่ายรูปรถถังที่ลานพระบรมรูปทรงม้าแบบไม่ยั้งมือ ยังมีคำชี้แจงอย่างสละสลวยว่า การยึดอำนาจการปกครองไม่ใช่สิ่งที่พึงปรารถนา ถ้าจะพูดว่าก่อให้เกิดความรู้สึกที่เจ็บปวดก็ไม่ผิดนัก เพราะการยึดอำนาจมิใช่กระบวนการหรือวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย ถ้าหากเราจะเน้นเฉพาะกระบวนการหรือวิถีทางอันเป็นเรื่องของรูปแบบ การยึดอำนาจจึงเป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่ปรากฏการณ์ปกติ "ข้อยกเว้นดังกล่าวมีได้หรือไม่ ชอบธรรมหรือไม่ เป็นปัญหาที่พึงถกเถียงกันในทางตำราว่าด้วยทฤษฎีประชาธิปไตย ดังที่ในหลายประเทศนักทฤษฎีประชาธิปไตยยังคงถกเถียงกันถึงเรื่องสิทธิธรรมชาติในอันที่จะล้มล้างรัฐบาลหรือการปกครองที่ไม่เป็นธรรม เช่นคราวที่โธมัส เจฟเฟอร์สัน ยกร่างคำประกาศอิสรภาพของอเมริกาใน ค.ศ. 1776 หรือประเทศอาณานิคมหลายแห่งลุกขึ้นเรียกร้องเอกราชจากประเทศเจ้าอาณานิคมที่กดขี่ข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม คตินิยมในหลายประเทศโดยเฉพาะในทวีปเอเชียเองก็เคยกล่าวถึงกรณีที่ผู้ปกครองไม่อยู่ในสัตย์ในธรรม กระทำการย่ำยีจิตใจประชาชน จนต้องลุกฮือขึ้นแสดงปฏิกิริยาบางอย่างให้เป็นที่ประจักษ์" "แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ การยึดอำนาจการปกครองที่หากจะพอรับได้ จะต้องทำในภาวะที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่อาจใช้วิธีการอื่นเข้าจัดการ หรือในทางทฤษฎีใช้คำว่า ภาวะอันสุดแสนจะทนทาน เช่นหากปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและประชาชนจนไม่สามารถแก้ไขเยียวยาได้โดยง่าย อีกประการหนึ่งคือต้องหลีกเลี่ยงความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเท่าที่จะทำได้ มิฉะนั้นจะกลายเป็นวิกฤตการณ์ที่ร้าวฉานยิ่งใหญ่" http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=22/Nov/2549&news_id=133695&cat_id=501 หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 22-11-2006, 10:09 ผมไม่สนใจเรื่องราวที่ผ่านมาจากสมุดปกขาวมากนัก แต่ผมสนใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเหมือนพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อ่าน
ก้าวต่อไปของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ดำเนินการตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้คือ ดำเนินการให้มีนายกรัฐนตรีเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนภายในสองสัปดาห์ ส่วนคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้เปลี่ยนเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีการดำเนินการที่ผ่านมาและที่จะดำเนินการต่อไป ทั้งในส่วนของการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา อันเป็นเหตุแห่งการยึดอำนาจในครั้งนี้ และการร่วมกับทุกฝ่ายปฏิรูปการปกครองต่อไปข้างหน้า ดังนี้ การเข้ายึดอำนาจสืบเนื่องจากการทำลายหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 โดยได้ยืนยันที่จะดำเนินการที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยโดยเร็ว เข้าแทรกแซงทางการเมืองช่วงสั้น โดยใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อรักษาความสงบ ความสามัคคี และความยุติธรรมภายในประเทศ ดำเนินการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่คงสภาพต่อไป โดยมีอำนาจหน้าที่ในการเตรียมการการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม ดำเนินการให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และให้คงอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเหมือนเดิม และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คู่ขนานกันไป พร้อมทั้งให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินของรัฐและการป้องกันปราบปรามการทุจริตต่อไปอย่างอิสระ ดำเนินการให้ผู้ตรวจการรัฐสภาปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในการรับคำร้องจากประชาชนเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ผิด องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 บางองค์กร ได้แก่ ศาลปกครอง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยังคงมีสถานะดังเดิม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติยังคงมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาล มีการจัดตั้งคณะที่ปรึกษา 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และความสมานฉันท์แห่งชาติ ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 ซึ่งส่งผลให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลายสภาพเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ดำเนินการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนเพื่อบริหารประเทศ จะยกเลิกกฎอัยการศึกเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติและมีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอ ดำเนินการเพื่อแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติจนแล้วเสร็จ อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อแต่งตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวนไม่เกิน 2,000 คน จากต่างสาขาอาชีพ เพื่อคัดเลือกกันเองให้เหลือ 200 คน และ 100 คน ตามลำดับก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร โดยกระบวนการยกร่างจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน นับแต่วันเปิดประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งแรก หลังจากนั้นส่งร่างรัฐธรรมนูญให้คณะรัฐมนตรี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และองค์กรอิสระต่างๆ ให้ความเห็น และจัดให้มีการลงประชามติทั่วประเทศ ตลอดจนออกกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปภายในเวลาไม่เกินหนึ่งปี นับจากเริ่มกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ ผู้สนใจข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ตลอดจนแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง สามารถหาข้อมูลได้ที่ เวบไซต์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ www.mict.go.th/cdrc และของกระทรวงการต่างประเทศ www.mfa.go.th หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 22-11-2006, 10:17 ผมไม่สนใจเรื่องราวที่ผ่านมาจากสมุดปกขาวมากนัก แต่ผมสนใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเหมือนพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อ่าน ก้าวต่อไปของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ดำเนินการตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้คือ ดำเนินการให้มีนายกรัฐนตรีเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนภายในสองสัปดาห์ ส่วนคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้เปลี่ยนเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีการดำเนินการที่ผ่านมาและที่จะดำเนินการต่อไป ทั้งในส่วนของการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา อันเป็นเหตุแห่งการยึดอำนาจในครั้งนี้ และการร่วมกับทุกฝ่ายปฏิรูปการปกครองต่อไปข้างหน้า ดังนี้ การเข้ายึดอำนาจสืบเนื่องจากการทำลายหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 โดยได้ยืนยันที่จะดำเนินการที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยโดยเร็ว เข้าแทรกแซงทางการเมืองช่วงสั้น โดยใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อรักษาความสงบ ความสามัคคี และความยุติธรรมภายในประเทศ ดำเนินการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่คงสภาพต่อไป โดยมีอำนาจหน้าที่ในการเตรียมการการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม ดำเนินการให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และให้คงอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเหมือนเดิม และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คู่ขนานกันไป พร้อมทั้งให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินของรัฐและการป้องกันปราบปรามการทุจริตต่อไปอย่างอิสระ ดำเนินการให้ผู้ตรวจการรัฐสภาปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในการรับคำร้องจากประชาชนเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ผิด องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 บางองค์กร ได้แก่ ศาลปกครอง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยังคงมีสถานะดังเดิม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติยังคงมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาล มีการจัดตั้งคณะที่ปรึกษา 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และความสมานฉันท์แห่งชาติ ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 ซึ่งส่งผลให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลายสภาพเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ดำเนินการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนเพื่อบริหารประเทศ จะยกเลิกกฎอัยการศึกเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติและมีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอ ดำเนินการเพื่อแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติจนแล้วเสร็จ อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อแต่งตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวนไม่เกิน 2,000 คน จากต่างสาขาอาชีพ เพื่อคัดเลือกกันเองให้เหลือ 200 คน และ 100 คน ตามลำดับก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร โดยกระบวนการยกร่างจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน นับแต่วันเปิดประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งแรก หลังจากนั้นส่งร่างรัฐธรรมนูญให้คณะรัฐมนตรี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และองค์กรอิสระต่างๆ ให้ความเห็น และจัดให้มีการลงประชามติทั่วประเทศ ตลอดจนออกกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปภายในเวลาไม่เกินหนึ่งปี นับจากเริ่มกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ ผู้สนใจข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ตลอดจนแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง สามารถหาข้อมูลได้ที่ เวบไซต์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ www.mict.go.th/cdrc และของกระทรวงการต่างประเทศ www.mfa.go.th ขอบคุณมากนะคะที่นำข้อมูลที่ดีๆมาให้อ่านกัน เรื่องที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ--- ดำเนินการเพื่อแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติจนแล้วเสร็จ อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อแต่งตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวนไม่เกิน 2,000 คน จากต่างสาขาอาชีพ เพื่อคัดเลือกกันเองให้เหลือ 200 คน และ 100 คน ตามลำดับก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ก็ ติดตาม ตามดูกันต่อไป หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: pongman ที่ 22-11-2006, 10:19 เเค่นี้ ผมก็รับได้เเล้วนะ สมควรเเล้ว ไม่ได้เป็นนักวิชาการเหมือนเพื่อนๆๆบางคนเเค่มองเเล้วคิด
ไม่อยากให้คนไทยเเตกเเยก ไปมากกว่านี้ หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 22-11-2006, 10:26 ----- :slime_whistle: :slime_sentimental:
เอาล่ะสิ กลุ่มคนที่นิยมอดีตท่านนายกทักษิณ กลับคิดไปได้ต่ออีกว่า ---สมุดปกขาวผ่านออกมา ได้ไง ในเมื่อเป็นข้อกล่าวหายังไม่ได้มีการพิสูจน์ เรื่องเข้าใจได้ง่ายกลับกลายเป็นเรื่องเข้าใจได้ยากซะอีก เป็นงั้นไป---- ---------------------------------------------------------------------------------------------- ...สมุดปกขาว กับ เหตุผลการรัฐประหาร ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์.... เพราะเสียงระงมจากสังคมวงกว้าง ต่างเรียกร้อง และเร่งรัดถึงเหตุผลของการรัฐประหารที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์..... ทำให้ คมช. ต้องออกคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ เร่งประชาสัมพันธ์ผลงานออกมา ล่าสุดคมช.ได้จัดทำ สมุดปกขาว เพื่อชี้แจง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำรัฐประหารออกมา เพื่อแจกจ่ายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะสื่อต่างๆ ไม่ว่าทีวี วิทยุ โดยเฉพาะวิทยุชุมชน โดยถึงกับเน้นให้เผยแพร่เป็นภาษาท้องถิ่นของแต่ละชุมชนด้วย (ข่าวจาก FM 96.5) โพสต์ทูเดย์ คมช.ออก สมุดปกขาว แจง 6 เหตุรัฐประหาร อัดยับ ทักษิณ http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=132908 แหล่งข่าวจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ คมช.ได้จัดทำ สมุดปกขาว เพื่อชี้แจง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิรูปการปกครอง เมื่อวันที่ 19 กันยายน เสร็จแล้ว เอกสารดังกล่าวมีความยาว 35 หน้า จัดพิมพ์เป็นฉบับภาษาไทย 2 หมื่นเล่ม ภาษาอังกฤษ 1 พันเล่ม โดย คมช.จะนำออกแจกจ่ายในปลายเดือนนี้ คมช.ได้ระบุถึงเหตุการณ์สำคัญที่เป็นชนวนอันนำไปสู่การทำรัฐประหาร รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกล่าวหาและประชาชนมีความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องสำคัญๆ 6 ประการคือ โกง-กินเลี่ยงภาษี ใช้อำนาจในทางมิชอบ ละเมิดจริยธรรม แทรกแซงองค์กรอิสระ ทำชาติแตกแยก เอาแต่เครือญาติ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ........................................................................ ไม่ว่าจะออกเอกสารมาโจมตี กล่าวหา เพื่อยืนยันความถูกต้องในการทำรัฐประหารทุกวิถีทางเพียงใด ทั้งหมดก็ยังเป็นแค่ข้อกล่าวหา ที่พยายามสรรหาคำพูด สรรแต่งคำวิเศษพิสดารมาตอกย้ำข้อกล่าวหาเดิมๆ มิได้มีอะไรที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้นจากเดิม ณ วันนี้ ทั้งหลาย ทั้งปวง ที่พยายามดิ้นรนทำไป ก็ยังเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ อยู่นั่นเอง http://pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4898858/P4898858.html หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 22-11-2006, 11:12 [size=1คpt]แรงบีบให้ คมช. แจงเหตุผล หรือปฎิบัติตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ในการล้มทักษิณนั้น น่าสงสารทักษิณเป็นอย่างยิ่ง
ระยะเวลาการครองอำนาจของ คมช. มีเพียงปีเดียว หรืออย่างมากยื้อออกไปได้ก็ไม่เกินหนึ่งสมัยของการเลือกตั้งคราวหน้า คนใน คมช.ก็จะเกษียณอายุราชการไปหมดแล้ว เพียงลิ่วล้อทักษิณจะรอเวลาให้ คมช.หมดอำนาจ โดยไม่ได้ทำอะไรกับข้อกล่าวหาสี่ประการสำคัญที่ล้มทักษิณ ก็เท่ากับทักษิณชนะ และสามารถกลับมาได้อย่างโอ่อ่าเปิดเผย และครองอำนาจได้อีกแน่นอน อนิจจา ลิ่วล้อทักษิณดันเป็นกระบือ โงเสียจนไปยุไปท้าเหยงๆ ให้ คมช.จัดการทักษิณ เพราะหากจัดการไม่ได้ ก็แปลว่าทักษิณบริสุทธิ์ ท้าโง่ๆ แทนที่เขาจะทำอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามสบาย ก็เลยต้องเร่งรัดจัดการให้มันเสร็จๆไป ไอ้ที่เสร็จคือทักษิณ แล้วน้ำตาลิ่วล้อจะไหลพร่างพรู ทั้งๆที่ยังคาบหญ้าคาปาก ไม่น่าโง่เลย[/size] :slime_worship: หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 23-11-2006, 01:03 ก็ถูกแล้ว มันเป็นเพียงข้อกล่าวหา หรือ คำชี้แจง ก็ได้ แล้วแต่คนอ่านจะคิด
ความหมายคือ อธิบายให้คนทั่วไป ทั้งไทย ทั้งเทศ ได้เข้าใจ หรืออาจไม่เข้าใจ เค้าก็ไม่ว่า แต่ความหมายคือตอนนี้มี รัฐบาลใหม่แล้ว...แค่นั้นเอง หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 23-11-2006, 01:13 ทุกคดีความก็เริ่มที่ "ข้อกล่าวหา" ก่อนทั้งนั้นล่ะ
ไม่เหมือนสมัยทักษิณ ( ยุคตำรวจครองเมือง ) นี่นะ วินิจฉัย แล้วก็ "ทำวิสามัญ ฯ" ก่อน จากนั้นก็ "ยัดเยียดข้อกล่าวหา ( ให้ศพ )" แล้วจึง "จัดหาพยานเท็จขึ้นประกอบคดี" สุดท้ายไปกองอยู่ที่สำนักงานอัยการ แบบ "อัยการก็ยังงง ๆ ( พวกมึง - แก๊งตำรวจจะให้กูทำอะไร ?)" แบบยาบ้า 2500 ศพ แบบตากใบ แบบติวเตอร์หมู แบบทนายสมชาย แบบ... ฯลฯ หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 23-11-2006, 01:18 "กล่าวหา" ไว้เยอะ ๆ ก็ดีครับ
เพราะบางที บางข้อ อาจจะหา "หลักฐาน" สาวไปถึงตัวมันไม่ได้ เผื่อเหลือ เผื่อขาด เอาไว้ เหมือนที่ผม ตั้งกระทู้ ทีเล่น ทีจริง เปรียบเทียบ ทักสิน กับ อัล คาโปน ไว้ http://forum.serithai.net/index.php?topic=10046.msg142157;topicseen#msg142157 ว่า บางที มันอาจจะต้อง "เข้าคุก" ด้วยคดี ขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง ที่ตัวมันเองคาดไม่ถึง ก็เป็นได้ หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: ล้างโคตรทักษิณ ที่ 23-11-2006, 01:27 ทุกคดีความก็เริ่มที่ "ข้อกล่าวหา" ก่อนทั้งนั้นล่ะ ไม่เหมือนสมัยทักษิณ ( ยุคตำรวจครองเมือง ) นี่นะ วินิจฉัย แล้วก็ "ทำวิสามัญ ฯ" ก่อน จากนั้นก็ "ยัดเยียดข้อกล่าวหา ( ให้ศพ )" แล้วจึง "จัดหาพยานเท็จขึ้นประกอบคดี" สุดท้ายไปกองอยู่ที่สำนักงานอัยการ แบบ "อัยการก็ยังงง ๆ ( พวกมึง - แก๊งตำรวจจะให้กูทำอะไร ?)" แบบยาบ้า 2500 ศพ แบบตากใบ แบบติวเตอร์หมู แบบทนายสมชาย แบบ... ฯลฯ ลืม คดีคาร์บ๊องค์ อีกอัน หาใครก็ไม่รู้มานอนยันว่าระเบิดของจริงชุ่ยๆ จัดฉากได้สุดโหล เพื่อจะหาเรื่องทหารฝ่ายตรงข้าม ที่ไหนได้ เจอทหารของจริงบ้องหูสวนเข้าให้ กลับประเทศไม่ได้จนทุกวันนี้ :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: คมช.เปิดสมุดปกขาว แจงข้อเท็จจริงล้ม'ทักษิณ' เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 23-11-2006, 08:58 ผมว่าตรงนี้เข้าท่า
ถ้าแจงรายละอียดเพิ่มเติม ว่ากันเป็นรายๆ มีเฮแน่ ฯลฯ การทุจริต/ผลประโยชน์ทับซ้อน -การแปลงค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือให้เป็นภาษีสรรพาสามิต -การแปลงธุรกิจดาวเทียมให้เป็นธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน -การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิและกรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX -โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า Airport Link -การพยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ไม่โปร่งใส -กรณีการครอบงำกิจการโทรทัศน์เสรี การใช้อำนาจในทางมิชอบ -การแต่งตั้งเครือญาติ/คนใกล้ชิดดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูง -การใช้วิธีการงบประมาณที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพื่อผลประโยชน์ในการสร้างคะแนนนิยมต่อรัฐบาล -การใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเจรจากับต่างประเทศเพื่อเอื้อต่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง (กรณีการปล่อยเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย) -การใช้อำนาจทางกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสรรพากร ในการตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล การละเมิดจริยธรรม/คุณธรรมของผู้นำประเทศ -การขายสัมปทานดาวเทียมและสถานีโทรทัศน์ให้แก่ต่างชาติ -การซื้อขายหุ้นของบุคคลในครอบครัวโดยไม่เสียภาษี การแทรกแซงระบบการตรวจสอบทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ -การครอบงำวุฒิสภาซึ่งมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญต่างๆ และการตรวจสอบการดำเนินการของฝ่ายบริหาร -การแทรกแซงการแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ข้อผิดพลาดเชิงนโยบายที่นำสู่การละเมิดสิทธิเสรีภาพ -กรณีฆ่าตัดตอนหรือทำวิสามัญฆาตกรรมในคดียาเสพติด โดยมีผู้ถูกสังหารเป็นอันมาก -การบริหารจัดการในเชิงนโยบายที่ผิดพลาดและไม่ชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งแม้จะใช้เวลายาวนาน แต่ก็ไม่ทุเลาเบาบางลง การบ่อนทำลายความสามัคคีของคนในชาติและการเผชิญหน้าที่เสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรง -การปิดกั้นข้อมูลข่าวสารของกลุ่มที่จะตรวจสอบรัฐบาลหรือตัวนายกรัฐมนตรีเอง และเปิดเฉพาะข้อมูลที่คัดสรรแล้ว ทำให้ประชาชนไม่สามารถรับทราบความจริงทั้งหมด -การจัดตั้งกลุ่มคนสนับสนุนเพื่อตอบโต้และมุ่งหวังให้เกิดการเผชิญหน้าที่เสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงกับกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลโดยสันติ ฯลฯ |