ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

พิจารณาเอาก็ล่ะกันนะคะว่า---เรื่องนี้ควรมีจุดยืนอย่างไร


ขึ้นชื่อว่า----หวย  ก็คือการพนัน  แน่นอน  และ
การพนัน  ก็คือสิ่งอกุศล  ตรงนี้ต้องมีจุดยืนให้
มั่นคง---


---หม่อมอุ๋ย  ไม่ควรออกมาขอโทษ  หรือยังไงรัฐบาล
ชุดนี้  ไม่ควรใช้วิธีการยืดหยุ่นประนีประนอมรอมชอม

บางเรื่องเป็นเรื่องที่ผิดแน่นอน  ไม่ควรรอมชอมเป็นอย่างยิ่ง
อย่างเช่นเรื่อง  หวยบนดินนี่ล่ะ


--ผิดก็คือผิด  จะบอกว่าถูกได้ไง  เปรียบเสมือนว่า----



---สมมุตินะ  ขอเป็นเรื่องสมมุติสักนิดนะคะว่า---

ถ้าคุณไปมีภรรยาน้อยหรือกิ๊ก  แล้วภรรยาเห็นโทนโท่
ชัดเจนแล้วว่า  มีเมียน้อยแน่  ภรรยาจะมาบอกว่า---


--พี่คะ----ค่อยๆเลิกก็ได้นะคะพี่----

คิดอย่างนี้ได้ไง----

ก็ตลกดีสำหรับเมืองไทย ไอ้ที่เลือกตั้งเข้ามาก็โหดอำมหิตบ้าอำนาจ ไอ้ที่ยึดอำนาจเข้ามากลับหน่อมแน้ม


----  ประโยคนี้โดนใจนะคะ  ทุกวันนี้ดูข่าวแล้วก็ขัดใจเช่นกัน   ทำไมน้อช่างหาความพอดีในผู้นำได้ยากเหลือเกิน

:slime_bigsmile:


แต่ผมเห็นว่า เฉพาะกิจ ก็ อย่าปรับเปลี่ยนอะไรให้มัน หักดิบขนาดนั้น เพราะการปกครองคนหมู่มาก มันก็ต้อง ทำใจบ้าง  ที่จะต้องอลุ่มอร่วย กับบางสิ่ง

การสั่งทำนู้น ห้ามทำนี่ บางทีมันก็ดาบสองคมครับ

 :slime_doubt: :slime_doubt:


ขอมองมุมต่างกับบทความนี้นะคะ

มีสิ่งที่น่าจะควรพิจารณาว่า  ถ้าใช้
คำว่า  หวยบนดินต้องเดินสายกลาง

ระมัดระวังให้ดี  จะกลายเป็นกลางตกขอบ

ถ้ากลางจริงต้องเลือกข้าง  และเลือกข้างที่ถูกมิใช่อะไรก็ได้
  ไม่ชัดทั้งที่ถูกและที่ผิด  อย่างนี้
น่าจะเรียกว่า----กลางตกขอบนะคะ



--------------------------------------------------------------------





“หวยบนดิน” ต้องเดินสายกลาง
 
โดย เกียรติก้อง ทองเรือง (แทน) 21 พฤศจิกายน 2549 17:41 น.
 
 
       โดย เกียรติก้อง ทองเรือง (แทน)
      
       ทำท่ากลายเป็นเรื่อง (ใหญ่)กันอีกแล้วครับ
      
       ก็จะอะไรเสียอีกละถ้าไม่ใช่เรื่องร้อนๆอย่าง “หวยบนดิน” ที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังของ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กำลังจะทำเรื่องผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย โดยเตรียมการผลักดันร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 เข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
      
       เพื่อให้ทันการขายงวดวันที่ 30 ธันวาคม งวดส่งท้ายปีพอดี
      
       แม้ว่าเวลานี้บรรดาคอหวยทั้งหลายจะต้องหงุดหงิดใจกันบ้าง และอาจต้องหันไปใช้บริการของเจ้ามือหวยใต้ดินไปพลางๆ ก่อนจำนวน 2 งวดคือในงวดวันที่ 1 ธันวาคมกับงวดวันที่ 16 ธันวาคม 2549
      
       สรุปกันให้เข้าใจกันง่ายๆ ก็คือการเสนอแก้กฎหมายคราวนี้เพื่อเปิดทางให้มีการขาย “หวยบนดิน” ให้ถูกต้องต่อไป หลังจากกฤษฎีกาชี้ชัดออกมาแล้วว่า การขายเลขสองตัว สามตัวของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ผ่านมามันผิดกฎหมาย
      
       นั่นก็หมายความว่าคนที่สั่งให้ขายหวยดังกล่าวมีความผิดและต้องถูกดำเนินคดีด้วย ไล่เรียงกันเป็นลูกระนาดไปเลยครับ ตั้งแต่อดีตนายกฯ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการบอร์ดกองสลาก จนไปถึงผู้อำนวยการกองสลากฯ ฯลฯ เลยครับ
      
       มีสิทธิ์โดนทั้งทางแพ่งและอาญา!!
      
       นี่ยังไม่นับรวมเรื่องรายได้ที่เหลืออยู่อีกกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทต้องนำคืนคลังหลวงอีกด้วย เพราะถ้าฟังจากท่านจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรมพูดแจกแจงข้อกฎหมายให้ฟังแล้วก็ให้รู้สึก “หนาว” แทน เนื่องจาก “คุณทักษิณและพวก” จะมีความผิดนับได้คร่าวๆ ถึง 80 กระทงเลยทีเดียว
      
       แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลชุดนี้ โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะเอาอย่างไร จะเดินหน้าสมานฉันท์ ไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นปล่อยให้ผ่านเลยไปหรือไม่
      
       แต่ก็ยากอยู่ตรงที่ว่ามันเป็นความผิดตามกฎหมายและความผิดได้สำเร็จไปแล้วจะเพิกเฉยได้อย่างไร
      
       ไม่เช่นนั้นก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เข้าไปอีก
      
       คิดแค่นี้ก็ชวนปวดหัวแล้วละครับ
      
       เอาล่ะ พักเรื่องนี้เอาไว้ชั่วคราวก็ได้ แล้วมาว่ากันเฉพาะเรื่องร้อนๆ เฉพาะหน้าก่อนว่า แล้วรัฐบาลจะเอาอย่างไร ถ้าเดินหน้าขายต่อนั่นหมายความว่ากำลังทำเรื่องผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย
      
       ที่สำคัญก็คือ หวย ไม่ว่าจะเป็น “บนดิน” หรือ “ใต้ดิน” ถือเป็น “อบายมุข” เป็นการพนันอีกอย่างหนึ่ง อยู่ในหนทางประเภทเดียวกันกับอบายมุขอื่น เช่น “บ่อน-ซ่อง” ที่ไม่สมควรเข้าไปข้องแวะ
      
       เมื่อเป็นอบายมุขแล้วแต่กลับมาสนับสนุน ทำสิ่งผิดให้กลายเป็นถูก ก็จะยิ่งไปกันใหญ่ !!
      
       ครับ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ดูแล้วก็น่าหนักใจแทนรัฐบาลทั้งนั้น เพราะถ้ายึดมั่นในศีลธรรมจรรยาสุดกู่ ยึดตาม “ศีลห้า” ตามที่ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็ต้องยกเลิกหวยบนดิน
      
       เพราะอบายมุข เป็นหนทางแห่งความฉิบหาย!!(ตามพจนานุกรม)
      
       ในขณะเดียวกัน ถ้าเลิกนอกจากจะทำให้หวยใต้ดินเบิกบานขึ้นมาอีก และยังถูกพวกเอเย่นต์ ยี่ปั๊ว ที่เคยมีรายได้ต่องวดจำนวนอีกไม่น้อยก็จะด่าเปิง แล้วรัฐบาลก็จะขาดรายได้มหาศาล
      
       แม้ยอมรับว่า เงินหวยเป็น “เงินบาป” แต่รัฐบาลคุณทักษิณก็นำมาจับจ่ายใช้สอยหาเสียงกันสนุกมือ เดินทางไปทัวร์จังหวัดไหนก็ต้องหอบเอาผู้อำนวยการกองสลากฯ ในอดีตที่เป็นเพื่อนรักร่วมรุ่นไปด้วยทุกแห่งคอยรับคำบัญชาโปรยเงินตามหลังตลอดเวลา จนต้องตรวจสอบขุดคุ้ยกันอยู่ไม่ใช่หรือ
      
       เมื่อมาถึงตรงนี้พอมองออกแล้วว่าเดินหน้าให้ขายต่อไป ก็มีปัญหาทับซ้อนด้านศีลธรรม ถูกด่าสารพัด แต่ถ้ายกเลิกหวยบนดินปัญหาก็จะตามมาไม่น้อยกว่ากันเท่าไร
      
       ดังนั้นผมเห็นว่า “การเดินสายกลาง” และ “ยอมรับความจริง” น่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ทำทุกอย่างให้พอดีพอประมาณ และโปร่งใสสามารถตรวจสอบกันได้ทุกขั้นตอน อย่าส่งเสริมหรือกระพือข่าวอันเป็นการยั่วยุเป็นอันขาด
      
       อย่างไรก็ตามมติ ครม.(ใหม่)ล่าสุดที่ได้รับทราบในตอนบ่ายขณะที่ผมกำลังปั่นต้นฉบับจวนเสร็จอยู่แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดหมายคือรัฐบาลสั่งให้เดินหน้าขายหวยบนดินต่อไป โดยจะมีการแก้กฎหมายให้สามารถเดินหน้าไปตามปกติอีกครั้งในงวดวันที่ 30 ธันวาคม งวดส่งท้ายปี
      
       แม้ว่าจะพยายามกระมิดกระเมี้ยนแก้เขินกันไปว่าจะไม่ให้มีการโฆษณายั่วยุ ประเภทที่เวลาหวยออกก็มีการถ่ายทอดสดทางทีวี วิทยุ ต่อไปจะไม่อนุญาตให้ทำอีก แถมยังจะรณรงค์ให้มีการลดละเลิกอีกด้วย
      
       นอกจากนี้ยังพูดถึงรายได้จากการขายหวย 2 ตัว 3 ตัวอีกว่า หลังหักเงินค่ารางวัลเงินที่เหลือจะต้องส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินไม่กองไว้ที่กองสลากฯ เพื่อให้ใช้ตามอำเภอใจอย่างที่ผ่านมาอีกด้วย
      
       ถ้าจะเอากันให้ถึงขั้นจริงๆ ผมขอเสนอเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเป็นไปได้บนสลากน่าจะพิมพ์ข้อความให้เห็นชัดเจนลงไปด้วยว่า “หวยเป็นการพนันอบายมุข เป็นหนทางนำไปสู่ความฉิบหาย” เพื่อเตือนสติเอาไว้ด้วย ก็น่าจะดีนะครับ
      
       ส่วนจะนำเงินรายได้อันมีมากมายมหาศาลเข้าสู่กระบวนการงบประมาณ หรือนำไปใช้พัฒนาโครงการต่างๆ ได้อีกมากมายตามแต่จะคิดกันต่อไป
      
       ขออย่างเดียวถ้าเป็นไปได้ขออย่าได้นำไปเป็นเงินกองทุนให้เด็กนักเรียนกู้ยืมเพื่อใช้ในการศึกษาโดยตรง หรืออย่านำไปบริจาคช่วยเหลือวัดวา หรือซื้อรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพระเณรเลยครับ
      
       เพราะเดี๋ยวทั้งเด็กๆ และพระสงฆ์จะสับสนว่าต้องมาเป็นหนี้บุญคุณ “เงินบาป” กันไปเปล่าๆ

 
 
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000143736

---น้องบุญโตคะ  กระทู้นี้พี่ขอขัดใจหน่อยนะ   พี่มีความคิดว่า
ประเทศเราบางครั้งขาดจุดยืน  ขาดความเด็ดขาด  การที่จะใช้
ประชาธิปไตยหน่ะ  ใช่เป็นสิ่งถูก  แต่การที่จะให้คนอยู่ในสังคม
ได้อย่างสงบสุข  บางครั้งต้องใช้ทั้ง  พระเดชและพระคุณ  จะเอา
แต่พระคุณอย่างเดียว  หาได้ไม่  เพราะความรับผิดชอบต่อสังคม
การเสียสละในการทำสิ่งที่ถูกต้องในสังคม  จิตสำนึกไม่เท่ากัน


  ถ้ารัฐบาลไม่เด็ดขาด  ไม่เข้มแข็ง  ในเรื่องที่ควรจะเข้มแข็ง
หาความสงบสุขได้ยากกค่ะน้อง

ต้องเลิกหวยค่ะ  ไม่ว่าบนดินหรือใต้ดินหรือสลากกินแบ่ง

ข้ออ้างว่า เลิกหวยบนดินแล้วใต้ดินจะกลับมา รับฟังไม่ได้ค่ะ  เป็นการเหยียดหยามตำรวจอย่างไม่น่าอภัย ตำรวจมีหน้าที่ปราบหวยค่ะ ถ้าปราบไม่ได้ ไล่ออกไปทุกเขตที่มีหวยใต้ดิน รับรองไม่นานหวยต้องหมดค่ะ   แต่ถ้ากลัวตำรวจหมดโรงพัก  ให้เตรียมพร้อมโดยการฝึกทหารบกทหารเรือทหารอากาศ ให้มาทำงานโรงพักแทนค่ะ เพราะถ้าตำรวจทำงานแค่ปราบหวยไม่ได้ ให้ทหารลองทำก็คงเท่ห์ไม่หยอก

ยอมรับมาเสียดีกว่าค่ะ ที่ไม่กล้าเลิกหวยตอนนี้ เพราะกลัวคนขายหวยถูกปลุกปั่นให้เป็นคลื่นใต้น้ำใช่ไหม  รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าขบวนการชั่วที่อยากให้ทรราชย์กลับมา มันกำลังรอปลุกปั่นคนขายหวยอยู่  พวกมันเสียประโยชน์ จึงคิดจะมาดึงคนขายหวยที่เสียประโยชน์ไปเป็นพวก  ยอมรับความจริงดีกว่าค่ะ

 :slime_worship:

--- :slime_smile: :slime_smile:


---ค่ะ  ชัดเจนค่ะน้องพรรณชมพู   ใครจะคิดอย่างไรพี่ไม่ทราบ
แต่พี่คิดเหมือนน้องพรรณชมพูนะว่า---มิว่า หวยบนดิน  ใต้ดิน
ควรเลิกให้หมด  ก็อบายมุขดีๆๆนี่ล่ะ


--ของเน่าจะมาบอกว่า  มันหอมได้ไง---

--เพียงแต่ตำรวจเอาจริงเอาจังเรื่องปราบหวยสินี่ล่ะสิ่งสำคัญ

มิใช่ตำรวจกลัวเสียผลประโยชน์  กลัวไม่ได้รับส่วย  เสียสละ
เพื่อความถูกต้องของแผ่นดินหน่อยสิคะ  จะหารายได้เพิ่ม
ก็ควรหาทางออกจากด้านอื่น  ที่สุจริต  มิใช่รายได้จาก
เจ้ามือหวยใต้ดิน

คงเป็นเพราะ การเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
มั๊งครับ เลยไม่อยาก หักด้ามพร้าด้วยเข่า เลยประนีประนอมกัน
เท่าที่ทำได้ เลยดูเหมือนหน่อมแน้ม ทำไมไม่มองกว่า ตรงนี้
เป็นกริยาสุภาพ สุขุม แทน

วรรคท้ายผมไม่เคยได้ยินนะ
ส่วนอื่นเห็นด้วยครับ
ฝากอีกนิด ผมว่าถ้าแน่วแน่วแก้ไขในสิ่งผิดจริง
เลิกให้หมดครับ
เหล้า เบียร์ บุหรี่ สนามม้า ฯลฯ
กล้าไหมๆ
ทุกวันนี้ถ้าตายไประหว่างคนเสพ กับผู้ผลิต(รัฐบาลซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า)
ใครรับโทษอาญาสวรรค์มากกว่ากันครับ
ใครตกนรกขุมที่สาหัสกว่ากัน :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship:

จะเปลี่ยนจากของที่มันผิดให้มันถูก โดยการแก้กฏหมายแล้วก็ทำเหมือนเดิม...เสร็จแล้วก็บอกว่านี่ไงฉันทำถูกแล้ว
ผมว่ามันยังงัยๆอยู่นา มันจะเป็นการแก้ปัญหาแบบมักง่ายกันไปหน่อยหรือเปล่า?  :slime_doubt:

อีกหน่อยก็ใช้ตรรกะเดียวกันนี้ อนุญาติให้รัฐขายยาบ้าซะเองเลยเป็นไง? ส่งขายประเทศเพื่อนบ้านด้วยเลย ผมรับรองว่าได้เงินเยอะกว่าหวยไต้ดินอย่างเทียบไม่ได้
เสร็จแล้วก็เปิดซ่องเสรีมันซะเลย แล้วก็ทำเซ็กส์ทัวร์ เม็ดเงินจากธุรกิจผิดกฏหมายจะได้เข้ามาสู่รัฐแบบเต็มๆ ไหนๆก็ห้ามไม่ให้คนทำผิดกฏหมายไม่ได้แล้วนี่  :slime_mad:
ถ้าคิดจะแก้ไอ้หวยบนดินด้วยวิธีนี้จริงๆ ผมว่าผมก็เป็นรองนายกได้... ผมเอาเงินเดือนน้อกกว่ารองนายกคนปัจจุบัน 10% ด้วยก็ได้ ตัดราคากันไปเลย  :slime_bigsmile:
 
ผมมีความเห็นว่าควรจะยกเลิกไปทั้งหมดแต่คงจะยกเลิกแบบหักดิบคงไม่ได้  ขอเสนอให้เว้นระยะการออกสลากให้ห่างไปเรื่อยๆก่อน.. จากเดิม เดือนละสองครั้ง ก็ลดลงเหลือเดือนละครั้ง แล้วก็ค่อยๆลดลงเหลือสองเดือนครั้ง ทำไปเรื่อยๆ
อีกไม่นานเราคงสามารถยกเลิกหวยแบบเด็ดขาดได้

ส่วนสุรากับบุหรี่นั้นถ้าถามใจผมผมก็อยากให้เลิกด้วยแต่มันติดปัญหาที่ว่าถึงแม้เราไม่ผลิตต่างประเทศเขาก็ผลิดเข้ามาขายเราอยู่ดี และเราก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้นำเข้าบุหรี่และสุราจากต่างประเทศเสียด้วย ขืนไปห้ามเราก็จะโดนต่างชาติเล่นเรื่องกีดกันทางการค้าและอื่นๆ อีก..  เราทำได้อย่างมากก็แค่ตั้งกำแพงภาษี  :slime_surrender:  เพราะงั้นรัฐจึงต้องผลิตมาแย่งลูกค้าและลดจำนวนเงินที่ไหลออกนอกประเทศครับ..  มันจำเป็น :slime_shy:

แถมเพลงประกอบกระทู้.. ฟังไปด้วยอ่านกระทู้นี้ไปด้วยจะได้อารมณ์มาก ...

http://www.carabao.net/MusicStation/musicPlay.asp?id=49

เมื่อเรื่องที่ผิด กลายเป็นเรื่องธรรมดา มันก็เป็นปัญหาแบบนี้แหละครับ

ต่อไปก็ให้นักศึกษาขายตัวได้ตามใจชอบ หรือไม่ก็ทำเป็นสหกรณ์นักศึกษาขายบริการ

ให้ควบคุมได้ เพราะยังไงก็มีขายกันอยู่แล้ว

ที่ทุกคนพูดถูกนะครับ ผมก็เห็นด้วยในทางทฤษฎี

แต่เราเป็นแบบนี้มาแต่แรกไงครับ ประชาชนในชาติ ก็มีลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว มีความเป็นไทย มีน้ำใจ ชอบให้อภัย และ เสพอบายมุขจนชิน

หากคิดว่าการหักดิบ แล้ว ไม่เกินความวุ่นวาย ผมว่าก็คงเป็นความคิดที่มองอะไรด้านเดียวเกินไป

หากคิดว่าจะปรับเปลี่ยนคนไทยได้ขนาดนั้น มันต้องใช้ การบังคับปกครองอย่างเดียวแล้วหล่ะครับ

รอให้ นโยบายพรรคการเมืองออกนโยบายแบบชัดเจนดีกว่าไหมครับ

ส่วนหากจะอยากปรับแก้อะไรก็ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปและ ใช้สื่อที่สำคัญที่สุด คือ ฟรีทีวี ทำให้ ประชาชน เข้าใจในหลักการปฏิบัติ และ เจตนาที่ดีของรัฐบาล เพื่อสื่อสารกับประชาชน แรงต่อต้านจะน้อยลง การทำงานก็สะดวกขึ้น

มาปราบทักษิณ ก็ ปราบให้สำเร็จก่อนดีกว่าไหมครับ ถ้าปราบไม่ได้ก็ไม่รู้จะปฏิวัติ ไปทำไม ผมคงไม่เห็นด้วย

อย่าเพ้อฝันกันนักเลยครับ อยู่ในโลกแห่งความจริงกันบ้าง

โลกในอุดมคติมันไม่มีหรอก