คติธรรมเซนคติธรรม ๑ : ความเป็นจริงต่าง ๆ ของชีวิต ส่วนใหญ่มองเห็นได้อย่าง
แท้จริงจากสิ่งต่าง ๆ และการกระทำต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
คติธรรม ๒ : ทุกสิ่งทุกอย่างดำรงอยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติของ
มันเอง การรับรู้ส่วนตัวของเราในเรื่องเกี่ยวกับค่า ความถูกต้อง ความ
งาม ขนาด และคุณค่า ล้วนแต่อยู่ในหัวของเรา ไม่ได้อยู่ข้างนอกเลย
คติธรรม ๓ : ทุกสิ่งทุกอย่างดำรงอยู่โดยสัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆ
คติธรรม ๔ : ตัวตนและสิ่งอื่น ๆ ที่เหลือไว้ในจักรวาลไม่ได้แบ่งแยกกัน
อย่างแท้จริง แต่ทำหน้าที่เป็นองค์รวม
คติธรรม ๕ : มนุษย์เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิ
ผลที่สุดด้วยการร่วมมือกับธรรมชาติ แทนที่จะพยายามเอาชนะมัน
คติธรรม ๖ : ไม่มีอัตตาในความหมายของจิตวิญาณส่วนตัวหรือบุคคลิก
ภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลงอันคงอยู่ต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งข่มร่างกาย
เอาไว้เป็นการเป็นการชั่วคราว
คติธรรม ๗ : ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากความรู้เฉพาะ
ด้าน จากการเป็นสมาชิกของคณะกลุ่มบุคคล จากลัทธิหรือหลักความเชื่อ
มันมาจากญาณหยั่งรู้ก่อนจิตสำนึกแห่งการดำรงอยู่ทั้งปวงทั้งปวงของตน
จากรหัสของตนเอง
คติธรรม ๘ : รูปแบบต่าง ๆ เกิดจากความว่าง เมื่อผู้ใดว่างจากสมมุติฐาน
และการวินิจฉัยที่สั่งสมมาหลายปี ผู้นั้นจะเข้าไกล้ธรรมชาติดั้งเดิมของตน
ย่อมเข้าใจแนวคิดดั้งเดิม และสามารถแสดงปกิกิริยาตอบโต้ได้อย่างใหม่สด
คติธรรม ๙ : การทำตนเป็นผู้สังเกตุการณ์ในขณะที่เป็นผู้มีส่วนร่วมพร้อม
กันด้วยนั้น จักทำให้การกระทำของผู้นั้นเสื่อมเสียไป
คติธรรม ๑o : ความมั่นคงและความไม่เปลี่ยนแปลงนั้นถักทอขึ้นด้วยจิตใจ
ที่ถูกครอบงำโดยอัตตาและหาได้ดำรงอยู่ในธรรมชาติไม่ การยอมรับความ
ไม่มั่นคง และผูกพันตนเองกับสิ่งที่ไม่รู้จะก่อให้เกิดศรัทธาต่อจักรวาล
คติธรรม ๑๑ : คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ก็แต่ในขณะปัจจุบันเท่านั้น
คติธรรม ๑๒ : กระบวนการแห่งการใช้ชีวิตและถ้อยคำต่าง ๆ เกี่ยวกับมัน
ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และไม่ควรได้รับการปฏิบัติต่ออย่างมีคุณค่าเท่าเทียมกัน
คติธรรม ๑๓ : เมื่อเราเข้าใจถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างทฤษฏีต่าง ๆ
เกี่ยวกับชีวิตและสิ่งที่เรารู้สึกได้จากญาณหยั่งรู้ว่าเป็นความจริง โดยไม่
ต้องใช้คำพูดและไม่ได้อาศัยการวินิจฉัย ก็ไม่มีอะไรที่ต้องทำอีกแล้วนอก
จากหัวเราะ
คติธรรม ๑๔ : ศิลปะเซนมีคุณสมบัติในลักษณาการดังนี้ มันสามารถหลอม
รวมเอาความชื่นชมต่องานทัศนศิลป์ ความรู้เกี่ยวกับชีวิต และประสบการณ์
และญาณหยั่งรู้ส่วนตัวให้เข้ากันเป็นเหตุการณ์ที่สร้างสรรค์หนึ่งเดียวกัน
คติธรรม ๑๕ : เราแต่ละคนจะพัฒนาไปสู่ความเป็นเอกปัจเจกชน ผู้ติดต่อโดย
จำเพาะเจาะจงกับโลกที่ดำรงอยู่สำหรับคนคนนั้น